salam
นี้ครับหลักฐาน ที่บังal-ashary เขาทุ่มเทและค้นหามาให้ดู
ท่านอิมามอัลบาญูรีย์ กล่าวเช่นกันว่า "ทุก ๆ สัตว์ที่ชาวอาหรับนับว่าเป็นสิ่งที่ดี หมายถึงจาก(รสนิยม)ชาวอาหรับที่มีฐานะร่ำรวยและ(อยู่ในเขต)ที่อุดมสมบูรณ์ (ไม่ใช่คนยากจนแร้นแค้นกินทุกอย่างที่ขวางหน้า) เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยธรรมชาติที่ดี(ไม่ชอบกินของแปลก ๆ) ดังนั้น สิ่งดังกล่าวย่อมฮะล้าล นอกจากสัตว์ที่มีหลักฐานของศาสนามาห้ามมัน ฉะนั้นจึงไม่สามารถกลับไปยึดรสนิยมที่นับว่าดีของชาวอาหรับได้ และทุก ๆ สัตว์ที่ชาวอาหรับ(ที่มีคุณลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น)นับว่ามันสกปรก ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ฮะรอม นอกจากสัตว์ที่มีตัวบทมาระบุว่าฮะล้าล ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่ฮะรอม" ฮาชียะฮ์อัลบาญูรีย์ 2/571 - 575
ดังนั้น สรุปจากหลักการดังกล่าว
1. เต่า มุสลิมรับประทานไม่ได้ เพราะอาหรับถือว่าสกปรกและเป็นอันตราย
2. ตะพาบน้ำ มุสลิมรับประทานไม่ได้ เพราะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อาหรับถือว่าสกปรก
3. ตะกวด(เหี้ย) มุสลิมรับประทานไม่ได้ เพราะอยู่ในหลักการของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อาหรับถือว่าสกปรก
4. ตักแตน มุสลิมรับประทานได้ เพราะมีหลักฐานจากซุนนะฮ์อนุญาตให้รับประทานได้อย่างชัดเจน
5. กบ มุสลิมห้ามรับประทาน เพราะเป็นสัตว์สองแผ่นดินหรือครึ่งบกครึ่งน้ำ และมีฮะดิษห้ามฆ่า สิ่งที่ห้ามฆ่าก็ห้ามรับประทาน รายงานจากท่านอิบนุอุมัร ว่า "พวกท่านอย่าฆ่ากบ เพราะเสียงร้องของมันคือการตัสบีห์" หนังสือมุฆนิลมั๊วะห์ตาจญ์ 6/151-152 , หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมั๊วะห์ตาจญ์ 4/339 - 340 ตีพิมพ์ที่อัษษะกอฟะฮ์อัดดีนียะฮ์
หวังว่า คงเข้าใจนะครับ
สะกิดหนึ่งครับ สติปัญญานั้นอัลเลาะให้มคิดและใคร่ครวญในการพิจารณาสิ่งต่างๆที่พระองค์พูดและในสิ่งถูกสร้างมาทุกอย่าง ไม่ใช่ว่า เมื่อไม่มีคำบอกกล่าวในอัลกรุอ่านมาระบุแล้ว สัตว์ทุกๆอย่างที่พระองค์สร้างนั้นมันกลายเป็นว่ารัปประทานได้หมด นี้ยังไม่นับสิ่งอื่นเข้ามาร่วมด้วยเลย ฉนั้นสติปัญญานั้น ไนการค้นคว้าและหาความจิงแล้วก็พิจรณาพร้อมกับผู้ที่รู้จริงไม่ได้บังอาจสอนนะครับ ในชีอะเองก็มีข้ห้ามข้อใช้และให้ตามผู้ณุในยุคก่อนๆ
นี่แหละเหตุผลหนึ่งที่ผมเปลี่ยนใจหลักการเดิมมาสู่แนวทางอะลิสซุนนะในทัศนะความรู้ของท่านอีม่าม ชาฟีอีและอุลามะในมัสหับของท่านครับ เพราะ ท่านเป็นคนละเอียดมากครับในทุกๆเรื่อง