باب الفاعل
الفاعل:هو الاسم المرفوعُ المذكورُ قبلَهُ فِعلَهُ، وهو على قسمين: ظاهِر ومُضمَر.
فالظاهر نحو قولِك: قام زيدٌ، ويقوم زيدٌ، وقام الزَّيدانِ، ويقومُ الزَّيدانِ، وقامَ الزَّيدونَ، ويقوم الزَّيدون، وقام الرجالُ، ويقومُ الرجالُ، وقامَت هِندُ، وتقومُ هندُ، وقامَتِ الهِندانِ، وتقوم الهندان، وقامت الهِنداتُ ، وتقومُ الهنداتُ، وقامَت الهُنُودُ ، وتقوم الهُنُودُ، وقامَ أخوكَ، ويقوم أخوك، وقامَ غُلامي، ويقومُ غُلامي، وما أشبَهَ ذلك.
والمُضمَر اثنا عشر، نحو قولك: ضَربْتُ، وضربْنَا، وضَرَبْتَ، وضَرَبْتِ، وضربْتُمَا ، وضربْتُم، وضرَبْتُنَّ، وضَرَبَ، وضَرَبَتْ، وضَرَبَا، وضَرَبُوا، وضَرَبْنَ :salam:ครับ
باب الفاعل บทว่าด้วย การเป็นประธาน (เปิดเมาลิดกลาง

ล้อเล่นครับ
) บ่งบอกถึงผู้กระทำ
الفاعل:هو الاسم المرفوعُ المذكورُ قبلَهُ فِعلَهُ، وهو على قسمين: ظاهِر ومُضمَر.
คำนามที่เป็นประธานนั้น อักษรสุดท้ายจะต้องมีสระ ดอมมะห์ เสมอ(ด้วยกับสระ หรือ ตำแหน่ง)และจะต้องตามคำกริยา คือ คำกริยาจะถูกกล่าวมาก่อนคำนามที่เป็นประธาน ซึ่งเป็นออกเป็น 2 แบบด้วยกัน
1. แบบที่แยกตัวเอง(คำนามที่เป็นประธาน)ออกมาเป็นคำตามลำพัง
2. แบบที่(คำนามที่เป็นประธาน)ต้องติดกับคำ กริยา
فالظاهر نحو قولِك: قام زيدٌ، ويقوم زيدٌ، وقام الزَّيدانِ، ويقومُ الزَّيدانِ، وقامَ الزَّيدونَ، ويقوم الزَّيدون، وقام الرجالُ، ويقومُ الرجالُ، وقامَت هِندُ، وتقومُ هندُ، وقامَتِ الهِندانِ، وتقوم الهندان، وقامت الهِنداتُ ، وتقومُ الهنداتُ، وقامَت الهُنُودُ ، وتقوم الهُنُودُ، وقامَ أخوكَ، ويقوم أخوك، وقامَ غُلامي، ويقومُ غُلامي، وما أشبَهَ ذلك.
คำนามที่เป็นประธานแบบที่แยกตัวเองออกมาเป็นคำตามลำพัง เราสามารถ กล่าวได้ด้งนี้
1.
قام زيدٌ ซัยดุน1คนได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
ซัยดุน(คำนามประธานคนเดียว) ท้ายอักษรคำนามประธานมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
2.
يقوم زيدٌ ซัยดุน1คนกำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบัน มียานำบอกถึงบุรษที่3ชาย)
ซัยดุน(คำนามประธานคนเดียว) ท้ายอักษรคำนามประธานมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
3.
قام الزَّيدانِ ซัยดุน2คนได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
ซัยดานิ(คำนามประธาน2คน) ท้ายอักษรคำนามประธานมี เพิ่มอลีฟและนูน ซึ่งบ่งบอกถึง2คน โดยที่ อลีฟ ใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึง2 และ นูน ใช้แทน ตันวีน
4.
يقومُ الزَّيدانِ ซัยดุน2คนกำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบันมียานำบอกถึงบุรษที่3ชาย)
ซัยดานิ(คำนามประธาน2คน) ท้ายอักษรคำนามประธานมี เพิ่มอลีฟและนูน ซึ่งบ่งบอกถึง2คน โดยที่ อลีฟ ใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึง2 และ นูน ใช้แทน ตันวีน
5.
قامَ الزَّيدونَ ซัยดุนหลายๆคนได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
ซัยดูน(คำนามประธานพหูพจน์เพศชายجمع مذكر سالم)
ท้ายอักษรคำนามประธานเพิ่ม วาวและนูน ซึ่งบ่งบอกถึงเพศชายหลายๆคน โดยที่ วาว นั้นใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึงหลายๆคน และนูนใช้แทนตันวีน
6.
يقوم الزَّيدون ซัยดุนหลายๆคนกำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบันมียานำบอกถึงบุรษที่3ชายجمع مذكر سالم)
ซัยดูน(คำนามประธานหลายคนพหูพจน์เพศชาย) ท้ายอักษรคำนามประธานเพิ่ม วาวและนูน ซึ่งบ่งบอกถึงเพศชายหลายๆคน โดยที่ วาว นั้นใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึงหลายๆคน และนูนใช้แทนตันวีน
7.
قام الرجالُ ผู้ชายหลายคนได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
อัรริยาลุ (คำนามประธานพหูพจน์เปลี่ยนรูป(جمع تكسير)เพศชาย) ท้ายอักษรมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
8.
يقومُ الرجالُ ผู้ชายหลายคนกำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบันมียานำบอกถึงบุรษที่3ชาย)
อัรริยาลุ (คำนามประธานพหูพจน์เปลี่ยนรูป(جمع تكسير)เพศชาย) ท้ายอักษรมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่ ผู้ชายหลายคนกำลังยืน
9.
قامَت هِندُ ฮินดุนได้ยืน
กอม่าติ(กริยาอดีตตาต่อท้ายบ่งบอกถึงเพศหญิงในกริยาอดีต)
ฮินดุน (คำนามประธานหญิงคนเดียว) ท้ายอักษรคำนามประธานมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
10.
تقومُ هندُ ฮินดุนกำลังยืน
ต้ากูมู่(กริยาปัจจุบันมีตานำบอกถึงบุรุษที่3หญิง)
ฮินดุน(คำนามประธานหญิงคนเดียว) ท้ายอักษรคำนามประธานมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
11.
قامَتِ الهِندانِ ฮินดุน2คนได้ยืน
กอม่าติ(กริยาอดีตตาต่อท้ายบ่งบอกถึงเพศหญิงในกริยาอดีต)
ฮินดานิ(คำนามประธาน2คนหญิง) ท้ายอักษรคำนามประธานมี เพิ่มอลีฟและนูน ซึ่งบ่งบอกถึง2คน โดยที่ อลีฟ ใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึง2 และ นูน ใช้แทน ตันวีน
12.
تقوم الهندان ฮินดุน2คนกำลังยืน
ต้ากูมู่(กริยาปัจจุบันมีตานำบอกถึงบุรุษที่3หญิง)
ฮินดานิ(คำนามประธาน2คนหญิง) ท้ายอักษรคำนามประธานมี เพิ่มอลีฟและนูน ซึ่งบ่งบอกถึง2คน โดยที่ อลีฟ ใช้ในนามของดอมมะห์เมื่อกล่าวถึง2 และ นูน ใช้แทน ตันวีน
13.
قامت الهِنداتُ ฮินดุนหลายคนได้ยืน
กอม่าติ(กริยาอดีตตาต่อท้ายบ่งบอกถึงเพศหญิงในกริยาอดีต)
ฮินดาตู้ (คำนามประธานหลายคนหญิง พหูพจน์เพศหญิง(جمع مؤنث سالم)) ท้ายอักษรคำนามประธานเพิ่ม อลีฟและตา ซึ่งบ่งบอกถึงเพศหญิงหลายๆคน โดยที่อักษรตัวท้ายมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
14.
تقومُ الهنداتُ ฮินดุนหลายคนกำลังยืน
ต้ากูมู่(กริยาปัจจุบันมีตานำบอกถึงบุรุษที่3หญิง)
ฮินดาตู้ (คำนามประธานหลายคนหญิง พหูพจน์เพศหญิง(جمع مؤنث سالم)) ท้ายอักษรคำนามประธานเพิ่ม อลีฟและตา ซึ่งบ่งบอกถึงเพศหญิงหลายๆคน โดยที่อักษรตัวท้ายมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
15.
قامَت الهُنُودُ ฮินดุนหลายคนได้ยืน
กอม่าติ(กริยาอดีตต่อท้ายบ่งบอกถึงเพศหญิงในกริยาอดีต)
ฮูนูดุ(คำนามประธานพหูพจน์เปลี่ยนรูป(جمع تكسير)เพศหญิง) ท้ายอักษรมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
16.
تقوم الهُنُودُ ผู้หญิงหลายคนกำลังยืน
ต้ากูมู่(กริยาปัจจุบันมีตานำบอกถึงบุรุษที่3หญิง)
ฮูนูดุ(คำนามประธานพหูพจน์เปลี่ยนรูป(جمع تكسير)เพศหญิง) ท้ายอักษรมีสระดอมมะห์ปรากฎอยู่
17.
قامَ أخوكَ พี่ชายของท่านได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
อะคู (คำนาม(ในตำแหน่งประธาน)ที่มาจากคำนามทั้ง5 บ่งบอกถึงเพศชาย1คนและถูกทำให้เกี่ยวข้องโดยการเพิ่มคำนามตามหลังเรียก مضاف)
ก้า (คำนามที่ตามหลัง مضاف เรียกว่า مضاف اليه อยู่ในตำแหน่งกัสเราะห์) ท้ายอักษรของคำนามประธาน เป็น วาว ซึ่งใช้แทน ดอมมะห์ ในคำนามทั้ง 5
18.
يقوم أخوك พี่ชายของท่านกำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบันมียานำบอกถึงบุรษที่3ชาย)
อะคู (คำนาม(ในตำแหน่งประธาน)ที่มาจากคำนามทั้ง5 บ่งบอกถึงเพศชาย1คนและถูกทำให้เกี่ยวข้องโดยการเพิ่มคำนามตามหลังเรียก مضاف)
ก้า (คำนามที่ตามหลัง مضاف เรียกว่า مضاف اليه อยู่ในตำแหน่งกัสเราะห์) ท้ายอักษรของคำนามประธาน เป็น วาว ซึ่งใช้แทน ดอมมะห์ ในคำนามทั้ง 5
19.
قامَ غُلامي เด็กรับใช้ของฉัน(เพศชาย)ได้ยืน
กอม่า(กริยาอดีต)
ฆูลามุน (คำนามที่อยู่ตำแหน่งประธานและต้องมีสระดอมมะห์ที่อักษรท้ายแต่)เมื่อ(اءضافة) กับยา(متكلم)ผู้พูด โดยที่ก่อนยา(متكلم)ต้อง ใส่กัสเราะห์ غُلام ก่อน ยา (متكلم) เมื่อความเหมาะสมนั้น จึงทำให้ غُلام จำเป็นต้องเป็นสระกัสเราะห์ก่อนยา (متكلم) โดยให้การใส่สระดอมมะห์ที่อักษรท้ายคำ غُلام เป็นตำแหน่งที่ สระดอมมะห์อยู่แทน
20.
يقومُ غُلامي เด็กรับใช้ของฉัน(เพศชาย)กำลังยืน
ย่ากูมู่(กริยาปัจจุบันมียานำบอกถึงบุรษที่3ชาย)
ฆูลามุน (คำนามที่อยู่ตำแหน่งประธานและต้องมีสระดอมมะห์ที่อักษรท้ายแต่)เมื่อ(اءضافة) กับยา(متكلم)ผู้พูด โดยที่ก่อนยา(متكلم)ต้อง ใส่กัสเราะห์ غُلام ก่อน ยา (متكلم) เมื่อความเหมาะสมนั้น จึงทำให้ غُلام จำเป็นต้องเป็นสระกัสเราะห์ก่อนยา (متكلم) โดยให้การใส่สระดอมมะห์ที่อักษรท้ายคำ غُلام เป็นตำแหน่งที่ สระดอมมะห์อยู่แทน
وما أشبَهَ ذلك[/color]
และอื่นๆ สิ่งที่คล้ายดังที่กล่าวไว้ อีกมากมาย
2. แบบที่(คำนามที่เป็นประธาน)ต้องติดกับคำ กริยา
والمُضمَر اثنا عشر، نحو قولك: ضَربْتُ، وضربْنَا، وضَرَبْتَ، وضَرَبْتِ، وضربْتُمَا ، وضربْتُم، وضرَبْتُنَّ، وضَرَبَ، وضَرَبَتْ، وضَرَبَا، وضَرَبُوا، وضَرَبْنَคำสรรพนามที่ต้องติดกับ คำกริยาหรือ คำนาม หรือ คำฮารัฟ(คำโดด) มีอยู่ 12 คำด้วยกัน
1.
ضَربْتُ ดอ ร็อบ ตู้ ฉันได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ตู้ (ตา คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่1ผู้พูด)
2.
ضربْنَا ดอ ร็อบ นา เราได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
นา (นูนอลีฟ คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่1พหูพจน์ ผู้พูดและมีผู้อื่นอยู่ร่วมด้วย)
3.
وضَرَبْتَ ดอ ร็อบ ต้า ท่านชายได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ต้า (ตา คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่2 ชาย)
4.
ضَرَبْتِ ดอ ร็อบ ติ ท่านหญิงได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ตี้ ( คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่2หญิง)
5.
ضربْتُمَا ดอ ร็อบ ตุมา ท่านชายและหญิงทั้ง2 ได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ตุมา ( คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่2 (2คน))
6.
ضربْتُم ดอ ร็อบ ตุม ท่านชายทั้งหลายได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ตุม ( คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่2 พหูพจน์ชาย)
7.
ضرَبْتُنَّ ดอ ร็อบ ตุนน่า ท่านหญิงทั้งหลายได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
ตุนน่า (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่2พหูพจน์หญิง)
8.
ضَرَبَ ดอ ร่อ บ้า เขา ชาย ได้ตี ( สรรพนามที่ซ่อนเร้น โดยกำหนดคำว่า เขา ขึ้นมา)
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
บ้า (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่3ชาย)
9.
ضَرَبَتْ ดอ ร่อ บัต เขา หญิง ได้ตี ( สรรพนามที่ซ่อนเร้น โดยกำหนดคำว่า เขา ขึ้นมา)
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
บัต (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่3หญิง )
10.
ضَرَبَا ดอ ร่อ บา เขาทั้ง2 หญิงและชาย ได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
บา (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่3 )
11.
ضَرَبُوا ดอ ร่อ บู เขาทั้งหลายได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
บู (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่3ชาย )
12.
ضَرَبْنَ ดอ ร็อบ น่า เขาหญิงทั้งหลายได้ตี
ดอร่อบ้า (กริยาอดีต)
น่า (คำสรรพนามหน้าที่ประธาน บุรษที่3 หญิง)
วัสลามครับ