ผู้เขียน หัวข้อ: mawlid in Malaysia  (อ่าน 2113 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ isma-il

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 232
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
mawlid in Malaysia
« เมื่อ: มี.ค. 28, 2007, 07:33 PM »
0

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
mawlid in Malaysia
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มี.ค. 31, 2007, 09:25 AM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

การอ่านบัรซันญีย์  คือการอ่านบทกวีสรรเสริญ การยกย่องและให้เกียตริท่านนบี(ซ.ล.)  มีการกล่าวถึงบรรดาบุคลิกของท่านนบีที่มีทรงเกียตริ  และมีการบอกเล่าชีวประวัติของท่านนบี(ซ.ล.)  ซึ่งทั้งหมดนี้  ย่อมเป็นสิ่งที่ศาสนาส่งเสริมให้กระทำทั้งสิ้น

และสิ่งที่มาผลักดันให้ปฏิบัติสิ่งที่ศาสนาส่งเสริมนั้น  แน่นอนว่า  สิ่งนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ได้รับการส่งเสริมด้วย   ด้วยเหตุนี้  อัลเลาะฮ์ทรงตรัสเกี่ยวกับการประทานความเมตตาของพระองค์และการซ่อลาวาตของบรรดามะลาอิกะฮ์ ว่า

إن الله وملائكته يصلون على النبى يا أيها الذ ين أمنوا صلوا عليه وسلموا تسليما                                             

"แท้จริงอัลเลาะฮ์และมะลาอิกะฮ์ของพระองค์ทรงประสาทพรแก่นบี  โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย  พวกเจ้าจงประสาทพร(ซ่อลาวาต)แก่ท่านนบีและจงขอความศานติ(ต่อท่านนบี)อย่างแท้จริง"  อัลอะหฺซาบ 56

 ท่านอิบนุกะษีร  ได้กล่าวไว้ในตัฟซีรของท่านว่า " จุดมุ่งหมายของอายะฮ์นี้ คือ  อัลเลาะฮ์(ซ.บ.)ทรงตรัสบอกแก่บรรดาปวงบ่าวของพระองค์ทั้งหลาย  ถึงฐานันดรความเป็นบ่าวและความเป็นนบี ณ ที่อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ในบรรดากลุ่มชนที่อยู่เบื้องสูง  ด้วยการที่ท่านนบี(ซ.ล.)ได้รับการยกย่องสรรญเสริญ ณ ที่บรรดามะลาอิกะฮ์ผู้ใกล้ชิด  และแท้จริงบรรดามะลาอิกะฮ์ก็ได้ทำการซอลาวาตต่อท่านนบี(ซ.ล.)  หลักจากนั้น  อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาใช้ให้บรรดาผู้อยู่เบื้องล่าง  ทำการซ่อละวาตประสาทรพรและขอความศานติแด่ท่านนบี(ซ.ล.)  เพื่อที่จะให้การยกย่องสรรเสริญต่อท่านนบี(ซ.ล.)นั้น ได้ร่วมกันจากบรรดาผู้อยู่เบื้องบนและเบื้องล่างพร้อมกันทั้งหมด"  ดู  ตัฟซีร อิบนุ กะษีร เล่ม 3 หน้า 507

 การยกย่องสรรเสริญท่านนบี(ซ.ล.)นั้น  เป็นสิ่งที่ศาสนาสิ่งเสริมให้กระทำ   บรรดาซอฮาบะฮ์ได้ทำการสรรเสริญต่อหน้าท่านนบี(ซ.ล.) และท่านก็ทำการขอดุอาอ์แก่ผู้ทำการสรรเสริญและขอให้เขาได้รับผลบุญ

 รายงานจาก  ท่านอัลอัสวัด บิน ซะรีอฺ  เขากล่าว่า 

قلت : يا رسول الله مدحت الله بمدحة ، ومحدتك بمدحة، قال رسول الله صلى الله عليه وسلم : هات وابدأ بمدحة الله                               

"ฉันกล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ ฉันได้ทำการสรรเสริญอัลเลาะฮ์หนึ่งการสรรเสริญ  และฉันก็ได้ทำการสรรเสริญท่านด้วยหนึ่งการสรรเสริญ , ท่านร่อซูลุลเลาะฮฺ(ซ.ล.)กล่าวว่า  ท่านจงมาซิ  แล้วก็ท่านจงเริ่มด้วยการสรรเสริญอัลเลาะฮ์(ซ.บ.)" หะดิษนี้ซอฮิหฺ  รายงานโดยอิมามอะหฺมัด ไว้ในมุสนัด เล่ม 4 หน้า 24 , ท่านอิบนุอบีชัยบะฮ์  ใน  อัลมุซันนัฟ  เล่ม 6 หน้า 180 , ท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์  ไว้ใน มั๊วะญัมอัลกะบีร  เล่ม 1 หน้า 8 , ท่านหัมซะฮ์ บิน ยูซุฟ อัลซะฮ์มีย์  ได้กล่าวรายงานไว้ใน  ตารีค ญุรญาน หน้า 413  หะดิษที่ 723 

 บรรดาซอฮาบะฮ์ได้ทำการสรรเสริญท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)  โดยท่านอะหฺมัด ได้นำเสนอรายงานไว้ใน มุสนัด เล่ม 3 หน้า 451 

ท่านบุคคอรีย์  รายงานจาก  ฮัยษัม บิน อบีสินาน  ว่า  เขาได้ยินอบูหุรอยเราะฮ์   กล่าวว่า  ท่านนบี(ซ.ล.)  กล่าว  ว่า  "แท้จริง  พี่น้องคนหนึ่งของพวกท่านจะไม่พูดจาหยาบคาย  - ดังกล่าวหมายถึง ท่านอิบนุร่อวาหะฮ์  -   ซึ่งเขาได้กล่าว(บทกวีสรรเสริญนบี) ว่า

وفينا رسول الله يتلو كتابه

إدا انشق معروف من الفجر ساطع

أرانا الهدى بد العمى فقلوبنا

به موقنات أن ما قال واقع

يبيت يجافى جنبه عن فراشه

أدا استثقلت بالكافرين المضاجع

"ในพวกเรามีร่อซูลุลเลาะฮ์ ผู้อ่านคัมภีร์ของพระองค์

เมื่อความดีจากรุ่งอรุณได้ขึ้นเจิดจรัส

เขาจึงได้ให้เราเห็นทางนำหลังมืดบอด ดังนั้นบรรดาหัวใจของเรา

มีความมั่นใจด้วยนำ  ว่าแท้จริงสิ่งที่เขากล่าวเกิดขึ้นจริง

ค่ำคืนสีข้างของเขาห่างจากที่นอน

ในเมื่อการห่างจากที่นอนเป็นสิ่งที่หนักอึ้งกับบรรดาพวกปฏิเสธ"  ดู  ฟัตหุลบารีย์  เล่ม 10 หน้า 546  หะดิษที่ 6151 

 ดังนั้น  บทกวีจริงอนุญาตให้ทำการยกย่องสรรเสริญต่อท่านนบี(ซ.ล.) และบทกวีก็มีหิกมะฮ์วิทยปัญญา  ท่านนบี(ซ.ล.)กล่าวว่า

 ‏ ‏إن من الشعر حكمة                                                                                         

"แท้จริง  จากบทกวีนั้น  มันมีฮิกมะฮ์"  รายงานโดย  อัลบุคอรีย์    ดู  ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 10  หน้า 546  หะดิษที่ 6145   

 ท่านอิมามอัลบุคอรีย์ได้รายงานไว้ในซอฮิหฺของท่าน  ซึ่ง  รายงานจาก สะละมะฮ์ บิน อัลอักวะอฺ  เขากล่าว่วา  เราได้ออกเดินทางพร้อมกับท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)ไปยังหมู่บ้านคอยบัร  โดยเราเดินทางในยามค่ำคืน  ดังนั้น  มีชายคนหนึ่งในกลุ่มได้กล่าวกับ  อามิร บิน อัลอักวะอฺ ว่า  ท่านไม่ทำให้เราได้ยินจากบรรดาช่วงเวลาอันเล็กน้อยของท่านหรือ?  สะละมะฮ์บินอักวะอฺกล่าวว่า  อามิรนั้น เป็นนักกวี  แล้วเขาก็ลงมาจูงอูฐแล้วขับทำนอง(เป็นบทกวี)ให้ผู้คนฟังว่า

‏اللهم لولا أنت ما اهتدينا

‏ولا تصدقنا ولا صلينا

‏فاغفر فداء لك ما اقتفينا

‏وثبت الأقدام إن لاقينا

‏وألقين سكينة علينا

‏إنا إذا صيح بنا أتينا

‏وبالصياح ‏ ‏عولوا ‏ ‏علينا

โอ้ อัลเลาะฮ์  หากไม่มีพระองค์ พวกเราย่อมไม่ได้รับทางนำ

เราย่อมไม่ทำการบริจาคทานและเราไม่ได้ทำละหมาด

พระองค์โปรดจงอภัยแก่เรา โปรดจงไถ่ทอนเราจากการลงโทษด้วยเถิด ตราบใดที่เราเจริญรอยตาม

และโปรดจงให้มั่นคงกับบรรดาเท้าเมื่อเราได้เผชิญ

และทำให้บรรดาเท้ามีความมั่นคงแก่เรา

เมื่อเสียงตะโกนเรียกมาถึงเรา  เราก็มา

และด้วยเสียโกนเรียก พวกเขาต้องการพึ่งพาเรา" 

ดังนั้น  ท่านนบี(ซ.ล.) จึงกล่าวว่า   ผู้จูงอูฐนี้เป็นใคร?  พวกเขาตอบว่า  เขาคือ  อามิร บิน อัลอักวะอฺ   แล้วท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.)กล่าวว่า  ขออัลเลาะฮ์ทรงเมตตากับเขา..."    ดู  ฟัตหุลบารีย์ เล่ม 10  หน้า 546  หะดิษที่ 6148

ดังนั้น  ในบทกวีที่กล่าวมานี้  เป็นหลักฐานชี้ถึง  การอนุญาตให้ขอดุอาอฺเป็นบทกวีได้เช่นกัน และหนังสือบัรซันญีย์ ก็คือหนังบทกวีที่เป็นบทดุอาอ์และบทขอพรต่อท่านนบี(ซ.ล.)

والله أعلى وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged