ผู้เขียน หัวข้อ: ซัยยิดินา  (อ่าน 1351 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
ซัยยิดินา
« เมื่อ: ก.พ. 02, 2009, 10:50 AM »
0

 salam  การถือตามสำนวนและถ้อยคำที่มีรายงานมาจากท่านนบี  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)  ในเรื่องการซอละหวาตนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  (الأفضل)  และมีน้ำหนักมากที่สุด  (اَلأرْجَحُ)  ตามความเห็นของท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์  (ร.ฮ.)  และเหล่านักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์  และเมื่อการเติมคำว่า  “ซัยยิดินา”  ในการซอละหวาตโดยเฉพาะในการละหมาด  (ช่วงหลังตะฮียาต)  มีความเห็นขัดแย้งระหว่างนักวิชาการ  ก็ให้หลีกห่างข้อขัดแย้งไปกระทำสิ่งที่ไม่มีการขัดแย้ง
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ซัยยิดินา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 02, 2009, 11:08 AM »
0
เคยมีการเสวนาเรื่องนี้มาแล้ว
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ซัยยิดินา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 02, 2009, 11:14 AM »
0
ถ้าจะให้เลี่ยงกระทำในสิ่งที่ขัดแย้งกัน ไปทำในสิ่งที่ไม่ขัดแย้งกัน ถ้าถือตามนี้ นั่นก็หมายความว่า อีกหลายร้อยพันประการที่บรรดาอุละมาอ์เขาขัดแย้งกันนั้น เราก็ควรละทิ้งเสียดีกว่าใช่ไหมครับ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง สิ่งที่บรรดาอุละมาอ์เห็นพ้องกัน หรือมีมติร่วมกันนั้น มันน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เห็นต่าง หรือขัดแย้งกัน

          เอาแค่ประเด็นอาบน้ำละหมาด มันก็มากพอแล้วครับ ซึ่งอุละมาอ์แต่ละท่านต่างก็ทำการวินิจฉัยตามหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยตัวบท อันเป็นกฎที่ทราบกันดีในวงวิชาการฟิกฮฺ ซึ่งต่างคนต่างก็วินิจฉัยตามหลักฐานจากอัลกุรฺอาน สุนนะฮ์ อิจมาอฺ กิยาส และอื่นๆ ด้วยกันทั้งสิ้น

          ดังนั้น ผลที่ออกมา แม้มันจะต่างกัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดพิศดารอะไร หรือมิอาจยอมรับอะไรได้เลย หากแต่เป็นสิ่งที่ดีเสียด้วยซ้ำ เพราะระดับความสามารถในการปฏิบัติบทบัญญัติของแต่ละคนไม่เท่าและไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะหากบทบัญญัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด แน่นอน สำหรับบุคคลที่มีความสามารถก็ย่อมสามารถปฏิบัติได้โดยไม่มีปัญหา แต่ในขณะเดียวกัน บางคนก็อาจจะพลาดโอกาสนั้นไป เพราะหากปฏิบัติตามนั้น อาจจะสร้างความลำบาก หรือเดือดร้อนแก่เขาได้

        ดังนั้น ความหลากหลายของผลแห่งการวินิจฉัยนั้น ถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นประการหนึ่งของบทบัญญัติ หรือกฎหมายอิสลาม ที่ผู้คนทุกระดับ ทุกสภาพกาณ์ ทุกยุคทุกสมัย สามารถเข้าถึงและปฏิบัติตามได้อย่างไม่สร้างความเดือดร้อนให้

        เมื่อมองในอีกมุมหนึ่งว่า หากอัลลอฮฺทรงต้องการให้หลักปฏิบัติในเรื่องต่างๆ ของอิสลามเป็นไปในลักษณะหนึ่งเดียวเท่านั้น แน่นอน พระองค์ต้องทรงทำให้พระบัญญัติทั้งปวงของพระองค์ในอัลกุรอาน และสุนนะฮ์ของท่านนบีย์ ศ็อลฯ มีความชัดเจนและไม่สามารถตีความเป็นอื่นได้โดยทั้งหมด แต่การณ์แท้ย่อมมิปรากฏเช่นนั้นเลย

           อยากรู้ก็ศึกษาให้ลึกเถอะครับ หรือหากไม่มีเวลา ก็หัดฟังหลายๆ ความคิดเห็นของอุละมาอ์ และบุคคลต่างทัศนะ มันไม่ใช่เรื่องคดขาอบาดตายหรอกครับ หากคิดว่า ศึกษาไป มีแต่เรื่องขัดแย้ง ปวดหัว ท่านก็เลือกสักหนึ่งมัฑฮับ หรือหนึ่งผู้รู้ที่ท่านเชื่อถือ เพื่อเป็นแนวในการเข้าใจ และปฏิบัติตามกิตาบุลลอฮฺ และสุนนะฮ์ของท่าน โดยที่ท่านจะต้องไม่ไปโจมตีทัศนะอื่นที่เห็นต่าง แค่นี้ ท่านก็ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้วละครับ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 02, 2009, 12:04 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ซัยยิดินา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 02, 2009, 11:32 AM »
0
 salam  it is sound good.
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ซัยยิดินา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.พ. 02, 2009, 12:20 PM »
0
ผมจำคำหนึ่งของ อ.ภาควิชากฎหมายของวิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี ท่านกล่าวเมื่อตอนเสวนาทางวิชาการเรื่องอาหารหะลาล-หะรอม ที่ห้อง 500 มอ.ปัตตานี เมื่อวันพุธสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมี นศ.คนหนึ่งถามประเด็นหนึ่ง แล้วขอหลักฐานจากสุนนะฮ์ด้วย

          ท่านอาจารย์ก็กล่าวว่า "นี่จะเอาแต่สุนนะฮ์ๆ อย่างเดียว ต้องเอามัฑฮับด้วยนะ ไอพวกที่เอาแต่สุนนะฮ์ (หะดีษ) อย่างเดียว โดยที่ไม่ระบุ (มองข้าม) มัฑฮับ ระวังน่า เดียวจะกินตัวเอง ไม่ได้ เราจะพูดทางฟิกฮฺ เราต้องบอกด้วยว่า มัฑฮับไหน เพราะเราจะได้บอกถูกว่า ประเด็นที่ว่าอุละมาอ์เขากล่าวอย่างไร มีทัศนะอย่างไร ไม่ใช่รังแต่จะเอาสุนนะฮ์ๆ อย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเอามัฑฮับด้วย" (สรุปจากที่ฟัง)

             คืนนั้น ที่ได้ฟังคำพูดของ อ.ท่านนี้กล่าว บอกตรงๆ ว่าผมตะลึงและงง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า สถาบันที่ผมเรียนอยู่นี้ ค่อนข้างจะไปทางวะฮาบีย์ แต่ผมรู้มาหลังๆ นี้ว่า แม้สถาบันนี้ จะเชื่อกันว่าเป็นวะฮาบีย์ แต่ก็เป็นวะฮาบีย์ที่เอามัฑฮับ โดยเฉพาะมัฑฮับชาฟิอีย์ แม้บางอย่างมันอาจจะดูขัดกับสิ่งที่เราเคยรับรู้มา แต่ก็อยู่ในระดับที่สามารถยอมรับกันได้ ไม่มีปัญหา อัลหัมดุลิลลาฮฺ ครับ ที่การให้เกียรติกันในเรื่องความต่างทางวิชาการศาสนา ยังมีปรากฏใหเห็นกันอยู่ในสถาบันที่เชื่อกันว่าเป็นวะฮาบีย์ เรื่องคิลาฟิยะฮ์ขอจงผ่อนปรนกันเถิด หากต่างฝ่ายต่างมีหลักฐานกัน และจงอย่าลืมว่า บางหลักเกณฑ์ หรือกฎในการนำมาประกอบการวินิจฉัยนั้น ก็ยังมีความแตกต่างกันอีก ดังนั้น ผลของการวินิจฉัยที่ออกมาต่าง ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก หากวางอยู่บนหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งก็เหลือแต่เพียงการยอมรับซึ่งกันและกันในความแตกต่างนั้น เพราะปัญหาหลักที่เราเข้ากันไม่ได้ ผมว่ามันอยู่ตรงนี้นี่เอง ไม่ใช่อยู๋ที่หลักการ - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม