ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย ตอนที่ 30 อัรฺรูม  (อ่าน 4591 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัรฺรูม อายะฮฺที่ 46 - 49


คำอ่าน
46. วะมินอายาติฮี อัย..ยุรฺสิลัรฺริยาหุ มุบัชชิรอติว..วะลิยุซีเกาะกุม..มิรฺเราะหฺมะติฮี วะลิตัจญริยัลฟุลกุบิอัมริฮี วะลิตับตะฆู มิน..ฟัฎลิฮี วะละอัลละกุมตัชกุรูน
47. วะละก็อด อัรฺสัลนามิน..ก็อบลิกะรุสุลัน อิลาก็อวมิฮี ฟะญา...อูฮุม..บิลบัยยินาติ ฟัน..ตะก็อมนามินัลละซีนะอัจญเราะมู วะกานะหักก็อนอะลัยนา นัศรุลมุอ์มินีน
48. อัลลอฮุลละซี ยุรฺสิลุรฺริยาหะ ฟะตุสีรุ สะหาบัน..ฟะยับสุฏุฮู ฟิสสะมา...อิ กัยฟะยะชา..อุ วะยัจญอะลุฮูกิสะฟัน..ฟะตะร็อลวัดเกาะ ยัครุญุมินคิลาลิฮฺ  ฟะอิซา..อะศอบะบิฮี มัย..ยะชา...อุมินอิบาดิฮี..อิซาฮุมยัสตับชิรูน
49. วะอิน..กานูมิน..ก็อบลิ อัย..ยุนัซซะละอะลัยฮิม..มิน..ก็อบลิฮี ละมุบลิสีน


คำแปล R1.
46. And among his signs is this, that He sends the winds as glad tidings, giving you a taste of his mercy (i.e. rain), and that the ships may sail at his command, and that you may seek of his bounty, in order that you may be thankful.
47. And indeed we did send Messengers before you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) to their own peoples. They came to them with clear proofs, then, we took vengeance on those who committed crimes (disbelief, setting partners in worship with Allah, sins, etc.), and (as for) the believers it was incumbent upon us to help (them).
48. Allah is He who sends the winds, so they raise clouds, and spread them along the sky as He wills, and then break them into fragments, until you see rain drops come forth from their midst! Then when He has made them fall on whom of his slaves as He will, lo! They rejoice!
49. And verily before that (rain), just before it was sent down upon them, they were in despair!


คำแปล R2.
46. และบางสัญลักษณ์ของพระองค์ คือการที่ทรงส่งลมให้พัด เพื่อเป็นสัญญาณที่ดี(ว่าจะมีฝนตกลงมา) และเพื่อทรงทำให้พวกเจ้าลิ้มรสความจากเมตตาของพระองค์ และเพื่อเรือจะได้วิ่งโดยพระบัญชาของพระองค์กับเพื่อพวกเจ้าจะได้เสาะแสวงจากความโปรดปรานของพระองค์ ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้กตัญญู
47. ขอยืนยัน แท้จริงเราได้ส่งศาสนทูตในยุคก่อนหน้าเจ้ามายังพวกเหล่านั้น แล้วศาสนทูตดังกล่าวก(นำหลักฐานอันแจ้งชัดมาปรากฏแก่พวกเขา ดัวนั้นเราจึงลงโทษบรรดาผู้ประพฤติผิดทั้งมวล(ที่ไม่เชื่อฟังศาสนทูต) และเป็นหน้าที่ของเราที่จะช่วยเหลือมวลผู้ศรัทธา
48. อัลเลาะฮฺทรงส่งลมให้พัดมา แล้วมันก็จะกระจายก้อนเมฆ แล้วพระองค์ทรงแผ่ขยายมันออกไปในฟากฟ้าตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงบันดาลให้มันเป็นกลุ่มก้อน แล้วเจ้าก็เห็นน้ำฝนหลั่งไหลออกมาจากซอกของมัน ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงให้มันประสบแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากมวลข้าทาสของพระองค์ พลันพวกเขาก็แสดงความปีติยินดี
49. และถึงแม้พวกเขา ก่อนหน้าที่ฝนจะถูกทำให้ตกลงมานั้น จะมีแต่ความท้อแท้ (เพราะฝนขาดแคลนมาเป็นเวลาช้านาน)ก็ตาม


คำแปล R3.
46. และหนึ่งในสัญญาณทั้งหลายของพระองค์ก็คือพระองค์ได้ทรงส่งลมมาแจ้งข่าวดี และเพื่อที่สูเจ้าจะได้รับความเมตตาของพระองค์และเพื่อให้เรือแล่นไปโดยคำบัญชาของพระองค์ และเพื่อสูเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อสูเจ้าจะได้กตัญญูต่อพระองค์
47. และก่อนหน้าสูเจ้า เราได้ส่งบรรดารอซูลมายังหมู่ชนของพวกเขาพร้อมกับสัญญาณอันชัดแจ้ง และเราได้ลงโทษผู้ทำผิดอย่างสาสม และมันเป็นหน้าที่ของเราที่จะช่วยเหลือบรรดาผู้ศรัทธา
48. อัลลอฮฺคือผู้ทรงส่งลมที่ยกเมฆให้ลอยขึ้น แล้วพระองค์ได้ทรงกระจายมันในท้องฟ้าตามที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงทำให้มันเป็นกลุ่มก้อน แล้วหลังจากนั้นสูเจ้าก็ได้เห็นฝนตกลงมาจากเมฆ เมื่อพระองค์ทรงทำให้ฝนนี้ตกถึงบ่าวคนใดของพระองค์ที่พระองค์ทรงประสงค์ พวกเขาก็เต็มไปด้วยความยินดี
49. ทั้งนี้ก่อนหน้าที่มันจะตกลงมา พวกเขาหมดหวังทุกอย่างแล้ว


คำแปล R4.
46. และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ พระองค์ทรงส่งลมเป็นการแจ้งข่าวดีทั้งหลาย และเพื่อพระองค์จะทรงให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสความเมตตาของพระองค์ และเพื่อเรือเดินทะเลจะได้แล่นไปโดยพระบัญชาของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาจากความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบคุณ
47. และโดยแน่นอน เราได้ส่งบรรดารอซูลก่อนหน้าเจ้าไปยังหมู่ชนของพวกเขา และเขาเหล่านั้นได้นำหลักฐานต่าง ๆ มาให้ พวกเขาแล้ว ดังนั้น เราได้ตอบแทนบรรดาผู้กระทำความผิดอย่างสาสม และหน้าที่ของเราคือการช่วยเหลือบรรดาผู้ศรัทธา
48. อัลลอฮฺทรงเป็นผู้ส่งลมทั้งหลาย แล้วมันได้รวมตัวกันขึ้นเป็นเมฆ แล้วพระองค์ทรงให้มันแผ่กระจายไปตามท้องฟ้า เท่าที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงทำให้มันเป็นกลุ่มก้อน แล้วเจ้าจะเห็นฝนตกลงมาจากท่ามกลางมัน เมื่อมันได้ตกลงมายังผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากปวงบ่าวของพระองค์ เมื่อนั้นพวกเขาก็ดีใจ
49. และทั้ง ๆ ที่พวกเขา ก่อนที่ฝนจะตกลงมาแก่พวกเขา พวกเขาก็เป็นผู้หมดหวัง


คำแปล R5.
๔๖. และบางสัญลักษณ์ของพระองค์คือการที่พระองค์ทรงส่งลมซึ่งแจ้งข่าวดีแก่มวลมนุษย์ทั้งหลายโดยมันได้พัดพาเมฆให้แตกกระจายและทำให้เกิดความมืดครึ้มเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าจะมีฝน แล้วทำให้เกิดเป็นน้ำฝนตกลงมาอำนวยความชุ่มชื้นแก่หน้าแผ่นดิน และเพื่อพระองค์จักให้พวกเจ้าลิ้มรสจากความเมตตาของพระองค์และเพื่อเรือในท้องทะเลจะได้วิ่งโดยความมุ่งหมายของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจักได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจักได้ขอบคุณในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงประทานความสุขความโปรดปรานแก่ชาวมักกะห์ทั้งมวล
๔๗. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ส่งบรรดาศาสนทูตมาก่อนหน้าเจ้าเป็นจำนวนมากมาย เพื่อนำบทบัญญัติของเราประกาศแก่ชุมชนของพวกเขาในแต่ละยุค และพวกศาสนทูตต่าง ๆ สัญลักษณ์อันชัดแจ้งมาสู่พวกนั้น แต่ก็มีส่วนมากที่ไม่รับศรัทธาตามคำประกาศของศาสนทูต แล้วเราก็จัดการลงโทษบรรดาผู้ทำบาปทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และเป็นสิทธิ์ของเราที่จะช่วยเหลือบรรดาผู้มีศรัทธาทั้งหลายให้ปลอดภัยจากการลงโทษที่ประสบแก่พวกเนรคุณทั้งมวล
๔๘. อัลเลาะห์ทรงส่งลมแล้วมันก็พัดขับเมฆให้กระจัดกระจายแล้วพระองค์ก็โปรยมันในฟากฟ้าตามที่พระองค์ทรงประสงค์และทรงบันดาลมันให้เป็นกลุ่มก้อนมองดูมืดครึ้มปกคลุมทั่วฟ้า แล้วเจ้าก็เห็นน้ำฝนออกมาจากซอกของมันดังนั้น เมื่อทรงดลให้มันได้ประสบแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์จากมวลข้าทาสของพระองค์ พลันพวกเขาก็แสดงความยินดีต่อการได้รับน้ำฝนนั้น
๔๙. และแม้นพวกเขาผู้ได้รับน้ำฝนดังกล่าวจะเป็นผู้เคยสิ้นหวังเพราะความแห้งแล้งและขาดแคลน ก่อนหน้าที่จะให้มันถูกหลั่งแก่พวกเขาก็ตาม



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
สูเราะฮฺอัรฺรูม อายะฮฺที่ 50 - 51



คำอ่าน
50. ฟัน..ซุรฺอิลา..อาษาริ เราะหฺมะติลลาฮิ กัยฟะยุหฺยิลอัรฺเฎาะ บะอฺดะเมาติฮา อิน..นะซาลิกะ ละมุหฺยิลเมาตา วะฮะวะอะลากุลลิชัยอิน..เกาะดีรฺ
51. วะละอิน อัรฺสัลนารีหัน..ฟะเราะเอาฮุ มุศฟัรฺร็อลละซ็อลลูมิม..บะอฺดิฮี ยักฟุรูน


คำแปล R1.
50. Look then at the effects (results) of Allah's mercy, how He revives the earth after its death. Verily! That (Allah) who revived the earth after its death shall indeed raise the dead (on the Day of Resurrection), and He is able to do all things.
51. And if we send a wind [which would spoil the green growth (tilt) brought up by the previous rain], and they see (their tilt) turn yellow, behold, they then after their being glad, would become unthankful (to their Lord Allah as) disbelievers.


คำแปล R2.
50. ดังนั้นเจ้าจงพินืจเถิดถึงร่องรอยแห่งความเมตตาของอัลเลาะฮฺ พระองค์ทรงชุบชีวิตแผ่นดินไว้อย่างไรบ้าง ภายหลังที่มันได้ตาย (แห้งแล้ง)ไปแล้ว แท้จริง นั้น(ก็เป็นเช่นเดียวกับที่พระองค์)ทรงชุบชีวิตคนตายแล้ว(นั่นเอง) และพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
51. ขอยืนยัน แท้จริงหากเราได้ส่งลมให้พัดมา(ทำลายพืชผลของพวกเขา)แล้วพวกเขาก็ได้เห็นมัน (เหี่ยวแห้งอับเฉาจน)เป็นสีเหลือง แน่นอนพวกเขาก็ยังคงไร้ศรัทธา ภายหลังจากนั้นอยู่นั่นเอง


คำแปล R3.
50. ดังนั้นจงดูร่องรอยแห่งความเมตตาของอัลลอฮฺว่าพระองค์ทรงทำให้แผ่นดินที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตได้อย่างไร ในทำนองนั้นแหลบะที่พระองค์จะทำให้สิ่งที่ตายแล้ว กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และพระองค์ทรงมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง
51. และถ้าเราได้ส่งลมมาแล้วพวกเขาได้เห็นพืชผลของเขาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเพราะลมนั้น พวกเขาก็ยิ่งปฏิเสธ


คำแปล R4.
50. ดังนั้น เจ้าจงพิจารณาดูร่องรอยแห่งความเมตตาของอัลลอฮฺว่า พระองค์ทรงให้แผ่นดินมีชีวิตชีวาหลังจากความแห้งแล้งของมันอย่างไร แท้จริงในการนั้น แน่นอน พระองค์ย่อมเป็นผู้ทรงให้มีชีวิตแก่คนที่ตายไปแล้ว และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
51. และหากเราได้ส่งลมไป แล้วพวกเขาได้เห็นมัน (พืชผล) เป็นสีเหลือง แน่นอนพวกเขาจะกลายเป็นผู้เนรคุณหลังจากนั้น


คำแปล R5.
๕๐. ดังนั้น โอ้มุฮำมัด เจ้าจงพินิจถึงร่องรอยแห่งเมตตาธรรมของอัลเลาะห์เถิดว่าพระองค์ทรงให้ชีวิตให้ความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดินอย่างไร ภายหลังจากที่มันได้แห้งแล้งจนพืชทุกชนิดอับเฉาตายไปแล้ว แท้จริงการที่ทรงทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ประดุจมีชีวิตนั้นย่อมเป็นไปในทำนองเดียวกันกับที่พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ชีวิตแก่ผู้ที่ตายไปแล้ว ไม่แตกต่างกัน และพระองค์ทรงไว้ซึ่งอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะบันดาลให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์
๕๑. ขอสาบาน มาดแม้นเราได้ส่งลมให้พัดกระหน่ำทำอันตรายแก่พืชพันธุ์ต่าง ๆ แล้วพวกเขาก็มองเห็นมันเหี่ยวแห้งอับเฉาเป็นสีเหลืองทั่วไปหมด แน่นอนที่สุดพวกเขาก็คงเนรคุณต่อพระองค์ ภายหลังจากมันได้แห้งแล้งเป็นสีเหลืองดังกล่าวแล้วนั้น พวกเขาคัดค้านความโปรดปรานของอัลเลาะห์ที่ทรงประทานมากับฝนไม่ยอมเชื่อถือในพระองค์

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 21, 2011, 06:45 AM โดย Bangmud »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัรฺรูม อายะฮฺที่ 52 - 53


คำอ่าน
52. ฟะอิน..นะกะ ลาตุสมิอุลเมาตา วะลาตุสมิอุศศุม..มัดดุอา...อะ อิซาวัลเลสมุดบิรีน
53. วะมาอัน..ตะบิฮาดิลอุมยิ อัน..เฎาะลาละติฮิม อิน..ตุสมิอุ อิลลามัย..ยุอ์มินุ บิอายาตินา ฟะฮุม..มุสลิมูน


คำแปล R1.
52. So verily, you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) cannot make the dead to hear (i.e. the disbelievers, etc.), nor can you make the deaf to hear the call, when they show their backs, turning away.
53. And you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) cannot guide the blind from their straying; You can make to hear only those who believe in our Ayat (proofs, evidences, verses, lessons, signs, revelations, etc.), and have submitted to Allah in Islam (as Muslims).


คำแปล R2.
52. แท้จริงเจ้านั้น ย่อมไม่อาจทำให้คนตายได้ยินได้ และเจ้าไม่อาจทำให้คนหูหนวกได้ยินเสียงเรียกได้เมื่อพวกเขาได้กลับหลังหัน(ไม่ยอมสนใจ)
53. และเจ้ามิอาจชี้นำคนตาบอดให้พ้นจากการหลงทางได้ เจ้าไม่สามารถทำให้ผู้ใดได้ยินหรอกนอกจากเฉพาะผู้มีศรัทธาในบรรดาโองการของเราเท่านั้น เพราะพวกเขาล้วนเป็นผู้สวามิภักดิ์


คำแปล R3.
52. (โอ้ นบี) เจ้าไม่สามารถทำให้คนตายได้ยินเจ้า และเจ้าไม่สามารถทำให้คนหูหนวกได้ยินการเชิญชวนของเจ้าได้ เมื่อพวกเขาเป็นผู้หันหลังเดินจากไป
53. และเจ้าไม่สามารถทำให้คนตาบอดออกมาจากการหลงทางและนำพวกเขามาสู่ทางที่ถูกต้องได้ เจ้าไม่สามารถทำให้ผู้ใดได้ยินเจ้า นอกจากผู้ศรัทธาในอายะฮฺทั้งหลายของเรา และพวกเขานอบน้อมยอมตน


คำแปล R4.
52. ดังนั้น แท้จริงเจ้าจะไม่ทำให้คนตายได้ยิน และเจ้าจะไม่ทำให้คนหูหนวกได้ยินการเรียกร้องได้ เมื่อพวกเขาเป็นผู้ผินหลังกลับ
53. และเจ้าก็มิใช่ผู้ชี้นำทางแก่คนตาบอดหลังจากการหลงทางของพวกเขา เจ้ามิได้ทำให้ผู้ใดได้ยิน นอกจากผู้ศรัทธาต่อสัญญาณทั้งหลายของเรา โดยที่พวกเขาเป็นผู้นอบน้อมยอมจำนน


คำแปล R5.
๕๒. แท้ที่จริง โอ้มุฮำมัด เจ้านั้นย่อมไม่สามารถทำให้คนตายได้ยินได้ และเจ้าก็ไม่สามารถทำให้คนหูหนวกได้ยินการเรียกร้องของเจ้า เมื่อพวกเขาเป็นผู้หันหลังให้ไม่ยอมรับฟังใด ๆ ทั้งสิ้น
๕๓. และเจ้าหาใช่ผู้สามารถและมีอำนาจที่จะชี้นำคนตาบอดให้หันเหออกไปจากความหลงผิดของพวกเขาได้ เจ้าไม่อาจทำให้ได้ยินได้นอกจากแก่บุคคลที่ศรัทธาในโองการต่าง ๆ ของเราเท่านั้น ที่สามารถทำให้พวกเขาได้ยิน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นผู้ยอมจำนนต่อพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง และโดยความบริสุทธิ์ใจไม่เคลือบแคลงและแอบแฝงมายาใด ๆ ไว้ในจิตใจของเขาเลย



ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

สูเราะฮฺอัรฺรูม อายะฮฺที่ 54 - 56


คำอ่าน
54. อัลลอฮุลละซีเคาะละเกาะกุม..มิน..เฎาะอฺฟิน..ษุม..มะญะอะละมิม..บะอฺดิ เฎาะอฺฟิน..กูวะตัน..ษุม..มะญะอะละมิม..บะอฺดิ กูวะติน..เฎาะอฺเฟา..วะชัยบะฮฺ ยัคลุกุมายะชา...อ์ วะฮุวัลอะลีมุลเกาะดีรฺ
55. วะเยามะตะกูมุสสาอะตุ ยุกสิมุลมุจญริมูนะ มาละบิษูห็อนเราะสาอะฮฺ กะซาลิกะ กานูยุอ์ฟะกูน
56. วะกอลัลละซีนะ อูตุลอิลมะ วัลอีมานะ ละก็อดละบิษตุม ฟีกิตาบิลลาฮิ อิลาเยามิลบะอฺษิ ฟะฮาซาเยามุลบะอฺษิ วะลากิน..นะกุมกุน..ตุมลาตะอฺละมูน


คำแปล R1.
54. Allah is He who created you in (a state of) weakness, then gave you strength after weakness, then after strength gave (you) weakness and grey hair. He creates what He wills. And it is He who is the All-Knowing, the All-Powerful (i.e. able to do all things).
55. And on the Day that the Hour will be established, the Mujrimun (criminals, disbelievers, polytheists, sinners, etc.) will swear that they stayed not but an hour, thus were they ever deluded [away from the truth (i.e. they used to tell lies and take false oaths, and turn away from the truth) in this life of the world)].
56. And those who have been bestowed with knowledge and faith will say: "Indeed you have stayed according to the decree of Allah, until the Day of Resurrection, so this is the Day of Resurrection, but you knew not."


คำแปล R2.
54. อัลเลาะฮฺทรงบันดาลพวกเจ้าโดยเริ่มจากความอ่อนแอ หลังจากนั้นพระองค์ทรงบันดาลความแข็งแรงภายหลังความอ่อนแอ แล้วก็ทรงบันดาลความอ่อนแอและความหงอก ภายหลังจากความแข็งแรง พระองค์ทรงบันดาลสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่ง ทรงเดชานุภาพยิ่ง
55. และในวันที่กาลปาวสานโลกนี้อุบัติขึ้น เหล่าคนบาปทั้งหลายก็จะพากันสาบานว่า พวกเขามิได้อยู่อาศัย(ในโลกและสุสานเป็นเวลานานเลย) ยกเว้นสักเพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น เช่นนั้น พวกเขาถูกผันแปร(ออกจากศรัทธา)
56. และบรรดาผู้มีความรู้และศรัทธากล่าวว่า ขอสาบาน แท้จริงพวกท่านจะอยู่ตามปรากฏในบันทึกของอัลเลาะฮฺเรื่อยมาตราบถึงวันแห่งการฟื้นขึ้น ที่จริง วันนี้แหละคือวันแห่งการฟื้นขึ้น แต่ทว่าพวกท่านนั้นไม่รู้


คำแปล R3.
54. อัลลอฮฺคือผู้ทรงสร้างสูเจ้ามาจากสภาพของความอ่อนแอ หลังจากนั้นพระองค์ก็ได้ทำให้สูเจ้าเข้มแข็งหลังจากความอ่อนแอ และทรงทำให้อ่อนแอและแก่ลงหลังจากความเข้มแข็ง พระองค์ทรงสร้างอะไรก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ พระองค์ทรงรอบรู้ทุกสิ่งและทรงอานุภาพ
55. และเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ บรรดาผู้ทำผิดก็จะสาบานว่าพวกเขาได้อยู่เพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น ในทำนองนั้นแหละที่พวกเขาได้ถูกหลอกลวงในชีวิตโลกนี้
56. แต่บรรดาผู้ได้รับความรู้และความศรัทธาจะกล่าวว่า “ตามคัมภีร์ของอัลลอฮฺ พวกท่านได้อยู่จนกระทั่งถึงวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ดังนั้น นี่คือวันแห่งการฟื้นคืนชีพ แต่พวกท่านไม่รู้”


คำแปล R4.
54. อัลลอฮฺทรงเป็นผู้สร้างพวกเจ้าในสภาพอ่อนแอ แล้วหลังจากความอ่อนแอพระองค์ก็ทรงทำให้มีความแข็งแรงแล้วหลังจากความแข็งแรงทรงทำให้อ่อนแอและชราภาพ พระองค์ทรงสร้างสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้ อานุภาพ
55. และเมื่อวันอวสานเกิดขึ้น ผู้กระทำผิดทั้งหลายจะสาบานว่า พวกเขามิได้พำนักอยู่ (ในโลกดุนยา) นอกจากเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้นเช่นนั้นแหละ พวกเขาถูกให้หันออก (จากความจริงสู่ความเท็จ)
56. และบรรดาผู้มีความรู้และศรัทธากล่าว (ตอบโต้พวกเขา) ว่า “โดยแน่นอน พวกท่านได้พำนักอยู่ตามกำหนดของอัลลอฮฺจนกระทั่งวันฟื้นคืนชีพ ดังนั้นนี่คือวันฟื้นคืนชีพแต่พวกท่านไม่ยอมเชื่อ”


คำแปล R5.
๕๔. อัลเลาะห์คือผู้ทรงบันดาลพวกเจ้าให้มีชีวิตจากน้ำอสุจิอันมีแต่ความอ่อนแอและเป็นที่รังเกียจของคนทั่วไปต่อมาพระองค์ทรงบันดาลความแข็งแรงด้วยวัยหนุ่มแก่พวกเจ้าภายหลังจากความอ่อนแอ หลังจากนั้นก็ทรงบันดาลความอ่อนแอให้เกิดแก่พวกเจ้าอีกหลังจากความแข็งแรง โดยให้พวกเจ้าบรรลุสู่วัยชราและบันดาลความหงอกของเส้นขนเพราะความชราแก่พวกเจ้า พระองค์ทรงบันดาลสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่ง ทรงอานุภาพยิ่ง
๕๕. และในวันที่ปรภพอุบัติ บรรดาทรชนผู้เนรคุณทั้งหลายจะสาบานว่าพวกเขามิได้พำนักอยู่ในสุสานนอกจากชั่วโมงเดียวเท่านั้น เช่นนั้นแหละที่พวกเขาผิน ออกจากสัจธรรม ไม่รับศรัทธาในการอุบัติขึ้นของวันปรภพ
๕๖. และบรรดาผู้ได้รับความรู้และศรัทธาจากอัลเลาะห์กล่าวว่า ที่จริงพวกเจ้าพำนักในสุสานตามบันทึกของอัลเลาะห์ไปจนถึงวันที่ทุกคนฟื้นขึ้นจากสุสาน แท้จริงนี้เป็นวันแห่งการฟื้นขึ้นที่พวกเจ้าทั้งหลายเคยปฏิเสธและคัดค้านเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ในสากลโลก และแต่ทว่าพวกเจ้าไม่รู้มาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อใด


ออฟไลน์ alkiyamah

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 34
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะลัยกุม

ท่าน Bangmud ค่ะ

อยากได้ e-file ของอัลกุรอานแต่ละซูเราะฮฺ ที่ท่านนำเสนอในเว็บไซด์นี้ค่ะ

เพราะว่ามีคำแปลจากหลายแหล่งอ้างอิง

ไม่ทราบว่า ท่านพอจะส่งเป็นไฟล์ให้ได้บ้างหรือเปล่าค่ะ

ปล. ถ้ารบกวนมากเกินไป ต้องขอมาอัฟมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 
สูเราะฮฺอัรฺรูม อายะฮฺที่ 57 - 60


คำอ่าน
57. ฟะเยามะอิซิล ลายัน..ฟะอุลละซีนะเซาะละมู มะอฺซิเราตุฮุม วะลาฮุมยุสตะอฺตะบูน
58. วะละก็อด เฎาะร็อบนาลิน..นาสิ ฟีฮาซัลกุรฺอานิ มิน..กุลลิมะษัล วะละอิน..ญิอ์ตะฮุม บิอายะติล ละยะกูลัน..นัลละซีนะกะฟะรู..อิน อัน..ตุมอิลลามุบฏิลูน
59. กะซาลิกะยัฏบะอุลลอฮุ อะลากุลูบิลละซีนะ ลายะอฺละมูน
60. ฟัศบิรฺ อิน..นะวะอฺดัลลอฮิหักกฺ วะลายัสตะคิฟฟัน..นะกัลป์ละซีนะ ลายูกินูน


คำแปล R1.
57. So on that day no excuse of theirs will avail those who did wrong (by associating partners in worship with Allah, and by denying the Day of Resurrection), nor will they be allowed (then) to return to seek Allah's pleasure (by having Islamic faith with righteous deeds and by giving up polytheism, sins and crimes with repentance).
58. And indeed we have set forth for mankind, in this Qur'an every kind of parable. But if you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) bring to them any sign or proof, (as an evidence for the truth of your prophethood), the disbelievers are sure to say (to the believers): "You follow nothing but falsehood, and magic."
59. Thus does Allah seal up the hearts of those who know not [the proofs and evidence of the Oneness of Allah i.e. those who try not to understand true facts that which you (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) have brought to them].
60. So be patient (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam). Verily, the Promise of Allah is true, and let not those who have no certainty of faith, discourage you from conveying Allah's message (which you are obliged to convey).


คำแปล R2.
57. แท้จริงในวันนั้น ข้อแก้ตัวของพวกฉ้อฉลจะไม่อำนวยคุณแก่พวกเขาได้เลย และพวกเขาไม่มีโอกาสประพฤติตัวเพื่อความโปรดปรานของพระองค์อีกต่อไป
58. ขอยืนยันแท้จริง เราได้ยกอุทาหรณ์ทุกอย่างไว้ในอัลกุรอานนี้แก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ขอยืนยันหากแม้นเจ้าได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาแสดงต่อพวกเขา แน่นอน พวกที่ไร้สาระก็จะพากันพูดว่า “พวกท่านไม่ใช่ผู้ใดเลย นอกจากเป็นเพียงบรรดาผู้ไร้สาระเท่านั้นเอง
59. เช่นนั้น อัลเลาะฮฺทรงประทับ(ความมืดบอด)ไว้บนหัวใจของบรรดาผู้ไม่รู้(ทั้งหลาย)
60. ดังนั้น เจ้าจงอดทนเถิด แท้จริงสัญญาแห่งอัลเลาะฮฺย่อมเป็นจริงเสมอ และเจ้าจงอย่าให้บรรดาพวกที่ไม่เชื่อมั่น เป็นเหตุให้เจ้าเศร้าตรมเป็นอันขาด


คำแปล R3.
57. ดังนั้น ในวันนั้น การแก้ตัวของผู้กระทำความผิดจะไม่ก่อประโยชน์อะไรแก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่ถูกขอให้แสวงหาการให้อภัย
58. เราได้ให้ข้อโต้แย้งทุกอย่างไว้ในกุรฺอานนี้ เพื่อทำให้มนุษย์เข้าใจ แต่ไม่ว่าสัญญาณอะไรที่เจ้านำมา บรรดาผู้ปฏิเสธจะกล่าวว่า “พวกท่านกำลังทำตามความเท็จ”
59. ด้วยเหตุนั้นแหละ อัลลอฮฺจึงทรงผนึกหัวใจของคนที่ไม่มีความรู้
60. ดังนั้น (โอ้ นบี) จงอดทน แน่นอนสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริง และจงอย่าให้บรรดาผู้ที่ไม่เชื่อมั่นในความศรัทธาเห็นว่าเจ้าอ่อนแอ


คำแปล R4.
57. ในวันนั้นการแก้ตัวของพวกเขาจะไม่อำนวยประโยชน์แก่บรรดาผู้อธรรม และพวกเขาจะไม่ถูกขอร้องให้กลับเนื้อกลับตัว
58. และโดยแน่นอนในอัลกุรอานนี้เราได้ยกอุทาหรณ์ไว้ทุกอย่างสำหรับมนุษย์ และหากว่าเจ้านำมาให้พวกเขาสัญญาณหนึ่ง แน่นอน บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะกล่าวว่า “พวกท่านมิใช่ใครอื่น นอกจากเป็นผู้หลอกลวง”
59. เช่นนั้นแหละ อัลลอฮฺทรงประทับตราบนหัวใจของบรรดาผู้ไม่ยอมรับรู้
60. จงอดทน (ต่อไปเถิดมุฮัมมัด) แท้จริงสัญญาของอัลลอฮฺนั้นเป็นจริงเสมอและอย่าให้บรรดาผู้ไม่มีความเชื่อมั่นทำให้เจ้ากังวลใจ


คำแปล R5.
๕๗. แท้จริงในวันนั้นบรรดาข้อแก้ตัวของผู้อธรรมทั้งหลายย่อมไม่ยังประโยชน์แก่พวกเขาอย่างเด็ดขาดและพวกเขามิได้ถูกให้ขอกลับตัวเข้าหาอัลเลาะห์ด้วยการสารภาพความผิดที่ล่วงพ้นไปแล้ว เนื่องเพราะวันนั้นไม่มีข้อบังคับใด ๆ ตามศาสนบัญญัติเหลืออยู่อีก นอกจากการพิจารณาความประพฤติของแต่ละคนเท่านั้น
๕๘. ขอสาบาน แท้จริงเราได้ยกอุทาหรณ์ทุกอย่างแก่มนุษย์ทั้งหลายไว้ในอัลกุรอาน เพื่อเตือนให้ตระหนักถึงเอกภาพของอัลเลาะห์และมาดแม้นเจ้านำสัญลักษณ์อันเป็นปาฏิหาริย์หนึ่งมาสู่พวกเขา แน่นอนบรรดาผู้เนรคุณทั้งหลายก็จะพากันกล่าวกับนบีมุฮำมัดและสหายทั้งหลายว่าพวกเจ้านั้นมิใช่อื่นใดเลยนอกจากเป็นพวกโมฆะอันหาแก่นสารความจริงไม่ได้
๕๙. เช่นนั้นแหละ อัลเลาะห์ได้ประทับบนหัวใจของบรรดาผู้ไม่รู้ทั้งหลายให้มืดบอด ไม่สัมผัสกับความจริงแท้ใด ๆ ทั้งสิ้น
๖๐. ดังนั้นโอ้มุฮำมัดเจ้าจงอดทนเพราะแท้จริงสัญญาแห่งอัลเลาะห์ย่อมเป็นจริงเสมอ และอย่าให้บรรดาผู้ไม่เชื่อมั่นในเรื่องฟื้นขึ้นจากสุสานทำให้เจ้าเบาความต่อความอดทนเป็นอันขาด

----------------------------------------------------------


(صدق الله العظيم)ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ
จบสูเราะฮฺที่ 30 อัรฺรูม
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

 

GoogleTagged