สูเราะฮฺ อัรฺเราะอฺดุ อายะฮฺที่ 42 - 43คำแปล R1.42. And verily, those before them did devise plots, but all planning is Allah's. He knows what every person earns, and the disbelievers will know who gets the good end (final destination).
43. And those who disbelieve, say: "You (O Muhammad) are not a Messenger." say: "Sufficient for a witness between Me and you is Allah and those too who have knowledge of the Scripture (such as 'Abdullah bin Salam and other Jews and Christians who embraced Islam)."คำแปล R2.42. และแท้จริงบรรดา (พวกไร้ศรัทธา) ก่อนหน้า พวกเขาเคยวางแผนร้าย ทำลานศาสนทูตในยุคของพวกนั้น) แต่แท้จริงการวางแผนทั้งสิ้นนั้นเป็นของอัลเลาะฮฺเพียงผู้เดียว พระองค์ทรงรอบรู้ในสิ่งที่ทุกชีวิตขวนขวายไว้ และเหล่าผู้ไร้ศรัทธาทั้งหลายจะได้รู้ว่า อันสถานสุดท้าย (ที่ดีและเลว –สวรรค์,นรก)นั้นเป็นสิทธิของใคร
43. และบรรดาพวกไร้ศรัทธาพูดว่า “ท่านนั้นมิใช่ (ศาสนทูต) ผู้ถูกส่งตัวมาหรอก?” จงประกาศเถิด “ย่อมเป็นการเพียงพอแล้วดัวยกับอัลเลาะฮฺ และผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในคัมภีร์ของอัลเลาะฮฺ ที่พึงเป็นสักขีพยาน ระหว่างฉันและระหว่างพวกท่าน”คำแปล R3.42. แท้จริงหมู่ชนก่อนหน้าพวกเขาได้วางแผนไว้ แต่แผนการอันเด็ดขาดนั้นอยู่ในอำนาจของอัลลอฮฺทั้งหมด พระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่ทุกชีวิตขวนขวายไว้และในไม่ช้าบรรดาผู้ปฏิเสธจะรู้ว่าใครจะได้รับบั้นปลายที่ดี
43. บรรดาผู้ปฏิเสธกล่าวว่า “ท่านไม่ใช่รอซูลของอัลลอฮฺ” จงกล่าวเถิดว่า “อัลลอฮฺก็เพียงพอแล้วสำหรับการเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่านและคนที่มีความรู้ในคัมภีร์”คำแปล R4.42. และโดยแน่นอน บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้า พวกเขาได้วางแผนมาก่อนแล้ว ดังนั้นแผนการทั้งหมดเป็นของอัลลอฮ พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่ทุกชีวิตแสวงหาเอาไว้ และพวกปฏิเสธศรัทธาจะได้รู้ว่าจะได้แก่ผู้ใดบ้างที่พำนักที่ดีในบั้นปลาย
43. และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวว่า ท่านมิใช่เป็นผู้ได้รับแต่ตั้ง จงกล่าวเถิด เพียงพอแล้วที่อัลลอฮทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และผู้ที่เขามีความรู้ในคัมภีร์ (ก็เป็นพยานด้วย)คำแปล R5.๔๒. แท้จริงบรรดาชนผู้เป็นประชากรก่อนจากพวก(ประชากรของเจ้า) เหล่านั้นได้เคยหลอกลวงพระศาสนทูตของพวกเขาเองสมัยนั้น เหมือนกับประชากรของเจ้าหลอกลวงเจ้า อันการตอบแทนผลแห่งอุบายทั้งมวลย่อมเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะห์เท่านั้น กลอุบายจากพวกเหล่านั้นหาเหมือนกับของพระองค์ไม่ และจะสัมฤทธิ์ผลมิได้นอกจากเป็นไปตามพระประสงค์ของอัลเลาะห์ โอ้มุฮำมัด เจ้าจงสะกดใจต่อความเดือดร้อนจากอุบายลวงของพวกนั้น และจงนอนใจในอุบายดังกล่าวของพวกนั้นไว้เถิด เพราะพระองค์ทรงรู้ถึงคุณความดีและความชั่วช้าที่แต่ละชีวิตใฝ่หาไว้ พระองค์จึงทรงตระเตรียมผลตอบแทนในคุณความและความชั่วให้พวกนั้น การตอบแทนเช่นนี้แหละ คือการสนองผลแห่งอุบายอย่างที่พวกนั้นไม่รู้ตัวเลย แล้วในไม่ช้าเหล่ากาฟิรจะรู้ว่า สรวงสวรรค์สถานอันเป็นที่สุดประเสริฐจะเป็นของผู้ใด จะเป็นของกาฟิรเอง หรือว่าเป็นของพระศาสดามุฮำมัดกับคณะสาวก
๔๓. และบรรดาชนผู้เป็นกาฟิรแห่งนครมักกะห์กล่าวแก่เจ้าว่า เจ้ามิใช่พระศาสนทูต โอ้มุฮำมัด จงบอกแก่พวกเหล่านั้นเถิด มีอัลเลาะห์ทรงเป็นองค์พยานให้ฉันและพวกท่าน เพื่อยืนยันฐานะจริงแห่งความเป็นพระศาสนทูตของฉัน และมีศรัทธาชนยะฮูดี กับศรัทธาชนนัซรอนี ผูทรงความรู้ในพระคัมภีร์เตารอตและพระคัมภีร์อินยีลเป็นสักขีพยานก็เพียงพออยู่แล้ว ------------------------------------------------------------
ดำรัสของอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่เป็นจริงเสมอ (صدق الله العظيم)
จบสูเราะฮฺที่ 13 อัรฺเราะอฺดุ
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته