ผู้เขียน หัวข้อ: - ฮิญาบของเรา -  (อ่าน 1374 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
- ฮิญาบของเรา -
« เมื่อ: ก.พ. 11, 2013, 01:09 PM »
+1



-1-
ในบรรดาข้อแตกต่างระหว่างชายหญิงอันมีสารพัดสารพันข้อ นอกเหนือจากการได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นแม่คนแล้ว ก็มีฮิญาบนี่แหละที่ตัวเองคิดว่า มุสลิมะฮฺควรภาคภูมิใจให้สุดซึ้ง และเข้าใจได้อย่างกระหยิ่มหน่อยๆ ถ้าเกิดจะมีมุสลิมีนสักคนบอกว่า อิจฉา เพราะนอกจากมุสลิมะฮ์แล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรู้สึกขณะที่ได้คลุมฮิญาบเดินไปบนท้องถนนอันเกลื่อนไปด้วยเครื่องแต่งกายที่หดสั้นทั้งขนาดและจำนวนนั้น มันเจ๋แค่ไหน การได้ไว้เคราของมุสลิมีนก็คงคล้ายๆ กัน แต่แน่ล่ะว่าไม่ใช่คนไว้เคราทั้งหมดจะเป็นมุสลิม ในขณะที่คนคลุมฮิญาบร้อยละร้อยเป็นมุสลิมะฮฺแบบฟันฉับได้ แถมฮิญาบยังเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเห็นชัดกว่าการไว้เคราอีกหลายเท่าแน่ะ

เราแตกต่าง เราถูกจ้องมอง เรารับรู้เครื่องหมายเควชั่นมาร์คบนใบหน้าและหัวคิ้วยับย่นของบางคนที่พบเห็น แต่มันรู้สึกดีอธิบายไม่ถูกเมื่อได้คิดว่า เหนือสายตาของผู้คนและความผิดแผกแตกต่างระหว่างเรากับพวกเขาขึ้นไป มีสายตาของผู้๑ จับจ้องอยู่ ผู้ที่ออกแบบเครื่องแต่งกายนี้มาให้เรา เราสนทนากับพระองค์ว่า นี่ไงคะ ข้าพระองค์ได้แสดงการภักดีต่อพระองค์ผ่านการแต่งกายตามที่พระองค์สั่งใช้แล้ว และด้วยสำนึกแบบนี้ เราก็จะพยายามมุ่งไปสู่การบรรลุถึงความหมายอันครบถ้วนของฮิญาบ นั่นคือ ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่คือ ทั้งหมดของเครื่องแต่งใจ แต่งกิริยา แต่งการแสดงออก เราล้วนพยายามคลุมฮิญาบให้มิดชิดในทั้งหมดของความหมายนั้น

ในนัยนี้ฮิญาบจึงไม่ใช่แค่ผ้าผืน๑ หรือเพียงเครื่องแต่งกายของมุสลิมะฮฺเท่าๆกับที่การต่อต้านหิญาบที่ระบาดอยู่ในหลายสังคมก็ไม่ใช่การต่อต้านเครื่องแต่งกายของมุสลิม แต่คือ การต่อต้านความเชื่อ ความศรัทธา และวิถีชีวิตแห่งการภักดีของผู้ศรัทธา นั่นคือ เหตุผลว่าทำไมมุสลิมถึงยอมไม่ได้และไม่มีวันได้เมื่อมีการประกาศสงครามกับฮิญาบไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ข้ออ้างใด

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: - ฮิญาบของเรา -
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 11, 2013, 09:13 PM »
0
-2-

เมื่อลองพิจารณาหลายประเทศ /องค์กรที่ (ยัง) ต่อต้านการแต่งกายที่ว่าด้วยฮิญาบ จริงๆ แล้วมันไม่มีวิธีคิดบนพื้นฐานของเหตุผลที่ประเทืองปัญญาใดๆมาอธิบายการต่อต้านฮิญาบได้อยู่แล้ว ข้ออ้างประเภทที่นักเรียนใส่ฮิญาบแล้วขัดกับศีลธรรมอันดี พยาบาลใส่ฮิญาบแล้วไม่ทะมัดทะแมง ครูใส่ฮิญาบแล้วบังกระดานและอะไรอีกสารพัดจะสรรหามานั้นมันไร้สาระแค่ไหน ไม่ต้องนับข้ออ้างสำคัญของตะวันตกว่าฮิญาบละเมิดสิทธิมนุษยชนอันนำมาซึ่งกฏหมายห้ามคลุมฮิญาบซึ่งยิ่งกว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนคือ ที่สุดแล้ว มันไม่มีเหตุผลอะไรเบื้องหลังกาต่อต้านฮิญาบนอกจากฮิญาบคือ สัญลักษณ์ของสัจธรรม และพวกเขารังเกียจสัจธรรม..แค่นั้นเอง

จึงเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่าทำไมแม่ชีคลุมศีรษะได้ แต่มุสลิมะฮฺคลุมฮิญาบไม่ได้ไม่ใช่เพราะตัวผ้าบนหัวหรอกที่ถูกต่อต้าน แต่เพราะอุดมการณ์เบื้องหลังผ้าต่างหาก ทว่าอย่าได้กลัวไป ถึงอย่างไรสัจธรรมก็ต้องถูกพิทักษ์รักษาไว้ ไม่มีใครทำลายได้ ใครก็ตามในหมู่พวกเราที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งการพิทักษ์สัจธรรมนี้ ก็ขอให้รู้ว่าที่เรากำลังรักษาคือ ตัวเราเอง รักษาตัวเองให้เป็นผู้รอดพ้นด้วยการยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อมั่นแม้ต้องรับมือกับการต่อต้านหนักหนาแค่ไหนหรือรูปแบบใด ถ้าเราถอย สัจธรรมจะยังคงอยู่ อัลลอฮฺจะพิทักษ์มันไว้ แต่เราเองต่างหากที่จะแย่ เพราะไม่มีใครพิทักษ์เรา ตราบที่เราไม่พิทักษ์สัจธรรม

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: - ฮิญาบของเรา -
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 12, 2013, 04:38 PM »
0
-3-

สำหรับพี่น้องมุสลิมะฮฺที่กำลังทำร้ายฮิญาบของตัวเอง ไม่ว่าด้วยการปฏิเสธมันหรือเอามันไปดัดแปลงเข้ากับเครื่องแต่งกายอื่นๆ จนกลายสภาพเป็นเพียงผ้าผืน๑ ที่ไม่ใช่ฮิญาบตามความหมายเต็มของมันอีกต่อไป อยากให้ท่านลองพิจารณาอีกทีให้ถี่ถ้วน เพราะมันมีวิธีคิดเยอะแยะตาแป๊ะที่จะช่วยให้เราตระหนักในความไม่เมคเซ้นส์ของสิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่ เหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการรังแกฮิญาบคงหนีไม่พ้นเรื่องความสวยความงาม แฟชั่นและอะไรเทือกๆนั่น คือ เรามองว่า ฮิญาบที่ถูกต้องตามหลักการจริงๆนั้นมันไม่สวย ไม่ทันสมัย จำเป็นต้องเอาไปสมานฉันท์กับแฟชั่นที่เราเห็นว่ามันสวยและอินเทรนด์สักหน่อยเพื่อการไม่เป็นตัวประหลาดเกินไป แต่มันเป็นวิธีการคิดที่ใช่แล้วหรือจ๊ะ ?

ส่วนตัวแล้วมีความเชื่ออย่าง๑ ว่าความสวยนั้นเป็นเรื่องของแต่ละสายตา บางคนสวยสำหรับบางคน แต่ไม่เลยสำหรับอีกบางคน ร้ายตรงที่หลายครั้งสายตาของเราก็ถูกค่านิยมและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างยัดเยียดมาตรฐานความสวยให้ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ครั้ง๑ คนไทยเคยชอบผิวสีออกเหลืองนวล แต่เดี๋ยวนี้ต้องขาวอมชมพูเป็นชมพู่เคลือบสตอร์เบอรรี่เท่านั้นนะ ถึงจะน่าฝันถึง หรือเมื่อก่อนแฟชั่นเสื้อผ้าตัวโคร่งๆมาแรง หลายคนก็มองว่าเสื้อตัวยาวย้วยนั้นช่างแสนจะเก๋ไก๋ ครั้นเมื่อแฟชั่นพลิกกลับสู่ยุคหินและสังคมชนเผ่าที่เสื้อผ้าเพียงแค่น้อยชิ้น หลายคนที่ว่านั้นก็กลับมองว่ายิ่งเล็กยิ่งสั้นยิ่งสวย


-4-

ข้าพเจ้าเคยได้สนทนากับคนต่างศาสนิกบางคนที่สงสัยว่าผู้หญิงมุสลิมไม่อยากใส่อะไรสวยๆบ้างหรือ  โอเค มันมีวิธีการตอบที่น่าฟังว่าเราสามารถสวยได้เต็มที่ในบ้านของเรา แต่ไม่รู้สิ สำหรับตัวเองนะ รู้สึกแบบที่มุสลิมะฮฺใส่กันอยู่นี่แหละอย่างสวยเลย คือ มันสวยแบบเรียบร้อย มีค่า ชวนให้เกียรติ ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยมองเห็นเลยว่ากางเกงแล็คกิ้งที่แทบจะตรัสรู้ขนาดขาคนใส่ว่าใหญ่กี่เซนกี่มิลนั้นสวยตรงไหน จริงๆนะ พยายามมองหาความสวยของมันมาตลอดเวลาที่พบคนสวมใส่ แต่ไม่เคยหาพบไม่ว่าจะเอียงมองในองศาไหน หรือการแต่งหน้าเติมตาสีนู้นสีนี้มันดูดีตรงไหน เคยบอกกับเพื่อนด้วยซ้ำว่าถ้าแบบนี้เรียกว่าสวย พวกชนเผ่าอะบอริจินหรือพวกอินเดียแดงที่เอาสีมาแต้มหน้าก็สวยเหมือนกัน สีนวลหน้าแบบที่อัลลอฮฺให้มานี่แหละสวยเย็นตาสบายใจที่สุดแล้ว อันนี้พูดจริงๆนะ คือ อยากจะสื่อให้เห็นว่าจริงๆแล้วความสวยมันเป็นเรื่องของแต่ละสายตามอง ฉะนั้นสำหรับมุสลิมะฮ์ที่ใช้อิสลามเป็นเครื่องกำหนดทัศนคติในทุกๆเรื่องแล้ว เขาจะไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องเสียสละอะไรมากมายเลยกับการคลุมฮิญาบ เพราะมันคือเครื่องแต่งกายแบบที่ตัวเขารู้สึกว่าสวยน่าใส่และทำให้หัวใจเราผูกพันกับผู้สร้าง เราอยากสวยในนิยามของพระองค์ เมื่อคิดได้ดังนั้นทุกกระแสสังคมที่พัดเอาเด็กสาวจำนวนมากเตลิดไปนั้นก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้เลย และมันรู้สึกชะมัดกับชัยชนะครั้งนี้ บินัศริลลาฮ์



ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: - ฮิญาบของเรา -
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 12, 2013, 10:06 PM »
0
อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

โดยความคิดเห็นส่วนตัวนัั้น

หากมองอีกแง่นึง...การคลุมฮิญาบ...แม้บางครั้ง
เราจะเห็นว่าบางคนคลุมฮิญาบแบบปกปิดอะไรได้ไม่เท่าไหร่
ผ้าก็เล็กไป แต่อย่างน้อยๆ มุสลิมะฮฺท่านนั้นก็ได้คลุมฮิญาบ
แม้ว่า...จริงๆแล้วนั้น เรื่องศาสนา ท่านรอซู้ล ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจะให้เรามองสูง
ส่วนเรื่องดุนยาให้มองข้างล่าง...

ทว่า...อย่างไรเสีย...เขาก็ได้คลุมฮิญาบ...
เชื่อว่า...เมื่อเวลาผ่านไป อีหม่านมั่นคงหนักแน่นขึ้น
อินชาอัลลอฮฺ...เขาจะพยายามปฏิบัติให้ดียิ่งๆขึ้นไป...
เราจึงทำได้เพียง ตักเตือนกันและกัน...

ซึ่งส่วนตัวแล้ว ข้าน้อยเองก็ยังอ่อนแอนัก...
ยังต้องขัดเกลากายและใจอยู่ทุกวัน...


ไม่ว่าอย่างไร...ก็อยากให้กำลังใจมุสลิมะฮฺทุกคน
เพราะข้าน้อยเคยผ่านจุดนึงมาแล้ว
และรู้ดีว่า...ผู้หญิงเรานั้น เป็นเพศที่รักสวยรักงาม
เห็นอะไรสวยๆงามๆเป็นเหลียวหลัง อยากได้มาครอบครอง
ซ้ำยังอารมณ์อ่อนไหว ผันผวนได้ง่าย...
จึงถูกชักจูงใจได้ง่ายดายเพียงเพื่อ"ความสวย"
อะไรที่เขาว่าสวยกันก็อยากได้อยากคว้ามาสู่ตัว...

ซึ่ง...ท้ายที่สุดแล้ว...การแต่งกายของเรานั้นจะขึ้นอยู่กับ
"เหนียต"...ค่ะ...

ทุกวันก่อนออกนอกห้อง...พยายามมองกระจก
ส่องแล้วส่องอีกว่าเราแต่งตัวเซ็กซี่รึเปล่า
แล้วถ้าออกไปแบบนี้จะตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่มน้อย
หนุ่มใหญ่รึเปล่า...เราเรียบร้อยแค่ไหนน้าในสายตา
คนอื่นๆ...หากคิดแล้วคิดอีกว่าคงไม่มีใครมองมา
ด้วยสายตาที่เราไม่พึงประสงค์ ก็จะยอมเปิดประตูออกไปค่ะ

ก็ไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ผิดรึเปล่า...
เพราะปกติ...ชอบแต่งตัวตามอารมณ์ตัวเองเป็นหลักค่ะ...
และพยายามสนองรับบัญชาจากพระเจ้า...
เพราะหลักๆแล้วพระองค์ต้องการให้ผู้หญิงเรา
รู้จักรักษาสิ่งที่พึงสงวนไว้จากสายตาผู้อื่น...
หากเดินไปแล้วไม่มีใครจ้องมองด้วยสายตาที่ไม่ดี
ก็คิดว่า...น่าจะผ่านนะคะ...

แน่นอนว่าถ้าใส่สั้นล่ะก็...ไม่ใช่แค่ผู้ชายจะมองมา
ผู้หญิงก็มองค่ะ...

เมื่อก่อนตอนที่ดื้อแพ่งไม่ยอมคลุมฮิญาบ
เพราะคิดว่ามันลำบากยุ่งยาก...และไม่ชอบ...

แต่ปกติก็จะไม่ชอบให้ใครมองมาที่เรา
ด้วยสายตาที่เราไม่ชอบ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
หรือจัดการอย่างไรกับสถานการณ์และสายตาเหล่านั้น...

จนวันหนึ่ง...ได้ค้นพบวิธีการที่จะไม่ให้ใครมองมาที่เรา
ด้วยสายตาแบบนั้นได้สำเร็จ ซึ่งเป็นวิธีการที่อัลลอฮฺสั่งใช้
และเราก็รับรู้เพราะเรียนรู้มาตลอดว่าพระองค์สั่งใช้ให้กระทำ
แต่เราดื้อเอง...

และเมื่อได้ลองคลุมฮิญาบดู...เท่านั้นแหล่ะค่ะ...
สิ่งที่ค้นหามานานก็อยู่แค่ปลายจมูกนี่เอง...
เพราะตั้งแต่คลุมมา...หัวใจก็สงบร่มเย็น
ไปไหนมาไหนก็ไม่ตกเป็นเป้าสายตาใครอย่างแต่ก่อน
และยังได้รับการให้เกียรติทั้งด้วยการกระทำ
สายตา และคำพูดอีก...

ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺค่ะ....




คุณค่าของฮิญาบหาได้อยู่ที่ไหนเลยค่ะ...

มันอยู่ตรงนี้...ตรงที่หัวใจของคนคลุม...

หากคลุมไปโดยไม่ได้มีใจรักหรือผูกพันธ์กับมัน...
มันก็ไร้ค่า ไร้ความหมาย...เป็นแค่เครื่่องประดับธรรมดา
ทั่วไป...ไม่แตกต่างกันค่ะ...

ส่วนเรื่องการดัดแปลงให้เข้ากับชุดและเครื่องประดับ
ข้าน้อยมองว่า...มันไม่น่าจะใช่เรื่องไม่ดีอะไร
ขึ้นอยู่กับว่า...มันทำให้เรากลายเป็นเป้าสายตา
จากบุรุษเพศมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเองค่ะ...
หากทำแล้ว มองแล้ว ยังไงก็ดูดี เรียบร้อย...
ไม่โป๊ ไม่ส่อไปในทางเสื่อมเสีย...ข้าน้อยมองว่า
มันไม่น่าจะเป็นไร เพราะอย่างไรเสีย
ผู้หญิงเราก็อยากทำโน่นทำนี่ให้ตัวเองดูดี...
ดูเป๊ะ...จนบางครั้งคนรอบข้างก็รู้สึกว่า...
มันสวยตรงไหน...ข้าน้อยเองยังรู้สึกเลยค่ะ...

สรุปก็คือ..."สวย" ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน...

แต่ในคำว่า"สวย" หากมีคำว่า "เหมาะสม"
และ "เรียบร้อย"ตามแบบฉบับที่มารดาแห่งศรัทธาชน
ได้ทำเอาไว้เป็นแบบอย่างร่วมอยู่ด้วย
เดินไปไหนก็ไม่น่าเกลียดค่ะ...

เสื้อผ้ามีให้เลือกมากมาย...ใครจะจับแพะชนแกะ
จับเสื้อตัวนั้นผสมกับตัวนี้เพื่อให้ได้แนวใหม่
แต่คงไว้ซึ่งคอนเซปต์เดิมของอัลอิสลาม...
มันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องน่าเกลียดนักสำหรับข้าน้อยค่ะ...

ไม่รู้คิดถูกคิดผิดเช่นไร...ยังไงก็แนะนำตักเตือนกันได้ค่ะ

พลั้งผิดเป็นครู...เรียนรู้เริ่มใหม่

ปล.ส่วนเรื่องการปฏิบัติตามหลักการอิสลาม
แล้วทำให้ดำรงชีวิตร่วมกับชาวโลกยาก
ข้าน้อยบอกได้คำเดียวว่า...เราเป็นแขกของดุนยา
ไม่แปลกถ้าเราจะแปลกในสายตาชาวโลกไปบ้าง
เราต้องยอมรับในความแปลกของเราให้ได้เสียก่อน
แล้วเราก็จะรู้ว่า...ที่คนอื่นมองเราว่าแปลกนั้นไม่แปลกเลย...

ก็เราแปลกจริงๆ...

อัลอิสลามสูงส่งเพราะมีเอกลักษณ์
และเราควรภูมิใจกับมัน...

ที่สำคัญ....ที่เรายำเกรงและเกรงกลัว
อีกทั้งยังเกรงใจอย่างที่สุดก็คือ มหาบริสุทธิ์...
เมื่อเราเกรงกลัวอัลลอฮฺแล้ว อินชาอัลลอฮฺ
อัลลอฮฺจะให้ทุกอย่างเกรงกลัวเรา...


วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged