
ต่อครับ
เสร็จสิ้นจากการละหมาด 3 คนเดินลงจากมัสญิด หยิบเอาโบรชัวร์โฆษณาร้านอาหารที่ได้รับแจกตอนเดินข้ามถนน ก่อนถึงมัสญิดมาดู ตัดสินใจเลือกร้านอาหารชื่อ มิสเตอร์ เคบับ พิซซ่า แอนด์พาสต้า ผมนั้นกะไว้ว่าน่าจะลองสั่งพิซซ่ามาชิ้นหนึ่งแล้วแบ่งกันกิน ดูชื่อแมนชั่นแล้วว่าอยู่ใกล้ ๆ นี้เอง จึงเดินไปที่แมนชั่น เดินเข้าไปหาบันไดไม่เจอ ร้านอยู่ชั้น 2 แต่ต้องขึ้นลิฟต์ ขึ้นไปแล้วเจอเด็กหนุ่มชาวปากีสถานเอาโบรชัวร์ของอีกภัตตาคารหนึ่งมาแจก และเชิญชวนให้เข้าไปรับประทานในภัตตาคารของเขา ผมบอกว่า ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกร้านนี้ ส่วนร้านเธอ อินชาอัลลอฮฺ พรุ่งนี้จะมาอุดหนุน ปรากฏว่า ร้านที่ผมเลือก กับร้านของเด็กหนุ่มคนนั้น อยู่ตรงข้ามกัน
เข้าไปในร้านอาหาร ที่เคาน์เตอร์น่าจะเป็นเจ้าของร้าน หน้าตาอาหรับ แต่ไม่รู้ชาติไหน ส่วนพนักงานบริการหน้าตาเอเชียทั้ง 2 คน ถามได้ความว่า เป็นชาวอินโดนีเซีย
ผมสั่งข้าวหมกแกะ (Mutton Biryani) ลูกสาวสั่งข้าวหมกไก่ (Chicken Biryani) ส่วนภรรยาไม่สั่งอาหาร เพราะคิดว่าน่าจะแบ่งกันกินได้ จานคงจะใหญ่ สั่งชาร้อนมากินคนละแก้ว และของหวาน ผมถามหา “หัลวาซูญี” พนักงานบริการไม่พูดว่าอะร แต่ไปหยิบของหวานในตู้เย็นมาให้เลือก ก็เลือกเอาไว้ 2 ถ้วย
เอาจานมาแบ่งข้าวกิน 3 คน 2 จาน อิ่มเกินปกติเล็กน้อย แต่ต้องกินให้หมด เสียดาย ข้าวหมกแกะ 75 ดอลลาร์ฮ่องกง = 300 บาท ข้าวหมกไก่ 65 ดอลลาร์ฮ่องกง 260 บาท ว่าไปแล้วถ้าเทียบกับร้านอาหารที่ซอยนานาก็ราคาไม่ต่างกันซักเท่าไหร่
ส่วนของหวานก็รสชาติดี ไม่หวานมาก พอคิดเงิน รวมทั้งหมด 310 ดอลลาร์ฮ่องกง เซอร์วิสชาร์จ 10 % 31 ดอลลาร์ รวม 341 ดอลลาร์ (1,364 บาท) สูงกว่ามาตรฐานคนไทย แต่ถ้าเทียบกับภัตตาคารที่ซอยนานา ถือว่า ไม่แพง
ตอนคิดงิน เขาเอาชามินต์มาแถมให้ 1 กา ตามสไตล์ร้านอาหารอาหรับ อร่อยดีครับ
เสร็จจากร้านอาหาร 3 คนออกเดินไปตามถนนเพื่อไปยังห้องพัก พร้อมกับดูแสงสีไปด้วย ลูกสาวบอกว่า ฮ่องกงนี่ใช้ไฟกันเปลืองมาก ผมก็เห็นด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่า ใช้ไฟจากที่ไหน จีนแผ่นดินใหญ่หรือเปล่า มีโรงไฟฟ้าปรมาณูหรือเปล่า เพราะค่าไฟที่ผลิตด้วยโรงไฟฟ้าปรมาณูนั้นจะราคาถูก
คืนนั้นหลับสบายยันเวลาละหมาดศุบหิเลย ถ้าไม่ตั้งเวลาไว้ อาจหลับเตลิดก็ได้
เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเที่ยวกันต่อครับ