
เดินเที่ยวอยู่ที่จัตุรัส เซนาโด พักหนึ่ง ได้เวลาเที่ยง ลูกสาวได้รับการบอกกล่าวมาว่าที่มาเก๊าไม่มีร้านอาหารอิสลาม แต่มีร้านอาหารของคนอินเดีย และขายแต่อาหารหะลาล ได้จดเอาที่อยู่มาแล้ว
ขณะของเราและกลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิมอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมาเที่ยวด้วยกัน (เที่ยวรวมกันและแยกกันแต่ละวันแล้วแต่จะกำหนดโปรแกรม)จึงได้เรียกแท็กซี่ไปยังร้านดังกล่าว ร้านนี้เป็นร้านของฮินดู-อินเดีย ขายอาหารอินเดียนสไตล์ มีตราหะลาล (เขียนเอง มั้ง)อยู่หน้าร้าน มองเข้าไปข้างในมีมุสลิมกลุ่มหนึ่งนั่งรับประทานอาหารอยู่ จึงตัดสินใจเข้าไปในร้าน ดูรายการอาหารแล้ว เชื่อว่าไม่มีอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบหะรอม (วัลลอฮุอะอฺลัม) จึงสั่งอาหารมารับประทานกัน ผมสั่งข้าวมะเขือเทศ แกงแกะ ผักทอด ส่วนน้อง ๆ ที่ร่วมมาด้วยกัน สั่งผัดอะไรไม่รู้ คล้ายเส้นมี่ซั่วบ้านเรา ผัด อีกคนสั่ง ข้าวหมกกุ้ง 5 คน คิดเป็นค่าอาหารประมาณ 500 ดอลล่าร์ฮ่องกง (2,000 บาท) กินไม่หมดให้เขาห่อให้เอาติดตัวไปด้วย เสียดาย ของแพง
เสร็จแล้วขอสถานที่เขาขึ้นไปละหมาดชั้น 2 ซึ่งไม่มีแขกมารับบริการ เขาก็ตกลง ผมขึ้นไปแล้ว ตกใจ บนชั้น 2 มีรูปปั้นศิวะใหญ่กว่าตัวคนตั้งอยู่ด้วย มีถาดวางด้านหน้า มีเหรียญฮ่องกงอยู่เต็มถาด เอาโทรศัพท์จับทิศกิบละฮฺแล้วปรากฏว่า เกือบจะตรงข้ามกับรูปปั้น ก็เลยตัดสินใจละหมาด ย่อ-รวม ภาคกลางวัน
เสร็จจากอาหาร เราจับทิศไม่ถูก ไม่รู้จะขึ้นรถเมล์สายอะไร จึงเดินบ้าง พักบ้างเมื่อผ่านสวนสาธารณะ (เหนื่อย) ตามเส้นทางในแผนที่ เพื่อไปหมู่บ้านเก่าแก่ (หมู่บ้านไทปัน) ซึ่งเขาจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ไปถึง เขามีการแสดงทำอาหาร มีร้านขายของ เหมือนตลาดร้อยปีที่คลองสวน ฉะเชิงเทรา หรือที่สามชุก สุพรรณบุรี
บอกตรง ๆ ว่าผมเหนื่อยและใจคิดถึงบ้านแล้ว จึงปล่อยให้คนหนุ่มสาวเขาเดินไป ส่วนตัวเองนั่งรอหน้าตลาดของหมู่บ้าน
จากตลาด (หมู่บ้านไทปัน) เราเดินทางกลับเวเนเชี่ยน ไปถึงประมาณ 18 น. นั่งรอเวลาเดินทางไปสนามบิน นั่งรอ นอนรออยู่ ระหว่างเดินเข้าออก ได้ยินเสียงประกาศว่า เวลา 19.00 น. จะมีการแสดงแสง สี เสียง ประกอบดนตรี หน้า โรงแรม/คาสิโนเวเนเชียน ก็เลยออกไปรอดู สวยงามอย่างที่เห็นในภาพแหละครับ
ได้เวลาพอสมควร ออกเดินทางไปสนามบิน เชคอิน รอขึ้นเครื่องเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ระหว่างนี้หิวข้าวก็เอาข้าวที่เหลือจากมื้อเที่ยงมากินกัน ส่วนละหมาด เอามารวมกัน 2 เวลา ที่กรุงเทพ ฯ เพราะผมยังอยู่ในภาวะเดินทาง
วันที่จะกลับนี้เอง ลูกสาวถาม ใจความว่า
รถเมล์ฟรีที่มาเก๊านี้ มุสลิมเรานั่งได้หรือเปล่า ผมบอกตรง ๆ ว่าไม่ได้คิดเลย จนกระทั่งลูกถาม จึงมาเฉลียวใจ รายได้ของ โรงแรม/คาสิโน ทั้งหลายนั้นส่วนใหญ่มาจากเงินหะรอม คือการพนัน แม้จะมีเงินหะลาล คือค่าเช่าร้านค้าและค่าบริการที่พัก แต่ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่ที่มาพักก็มาเล่นพนัน (ไม่เชื่อถามนักการเมืองเมืองไทยหลาย ๆ คน) ดังนั้น เงินที่เขาเอามาบริการรถเมล์ฟรี จึงเป็นเงินหะรอมเสียเป็นส่วนใหญ่ จะให้บอกว่า มุสลิมใช้บริการนี้ได้ ก็คงไม่กล้าบอกเต็มปาก เพราะรถเมล์เสียเงินเขาก็มีให้นั่ง (อินชาอัลลอฮฺ จะนำคุฎบะฮฺเรื่องนี้มาให้อ่านกัน)
วันนั้นเครื่องออกจากสนามบินมาเก๊า 4 ทุ่มครึ่ง ใช้เวลาประมาณ 3+ ชั่วโมงก็มาถึงดอนเมือง เรื่องหลังจากนั้นไม่มีอะไรจะเล่าครับ
ขอบคุณอัลลอฮฺที่ได้ประทานโอกาสให้ผมและคณะได้ไปเรียนรู้ทำความรู้จักแผ่นดินอันกว้างขวางของพระองค์ และให้เดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ
วัสสลาม