
(ต่อจากคำตอบข้างบน)
โดยอาศัยอายะฮฺกุรฺอานที่ยกมา(สูเราะฮฺ อัลมุอ์มินูน อายะฮฺที่ 5-7) อิมามมาลิกลงความเห็นว่า “การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองนั้นเป็นหนึ่งใน
"แสวงหาอื่่นจากนั้น" ในทางตรงข้าม มีรายงานว่า อิมาม อะหฺมัด อิบนุ ฮัมบัล ได้ถือว่า น้ำอสุจิเป็นของเสียของร่างกายเช่นเดียวกับของเสียอื่น ๆ และอนุญาตให้นำมันออกมาจากร่างกายเช่นเดียวกับการถ่ายเลือดซึ่งเป็นที่อนุญาต อิบนุ ฮัซมฺ ก็มีทัศนะเช่นเดียวกันนี้ อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายในสำนักของฮัมบาลี ก็อนุญาตการสำเร็จความใครด้วยตนเองภายใต้เงื่อนไขเพียง 2 ประการเท่านั้น คือ ประการแรก กลัวว่าจะทำผิดประเวณีหรือทำชู้ และประการที่สอง ไม่มีทางที่จะแต่งงานได้
เรา(ดร.ยูซุฟ ก็อรฎอวีย์)มีความรู้สึกว่าจะเห็นด้วยกับความคิดของอิมามอะหฺมัด ในสถานการณ์ที่ว่าอนุญาตให้ทำได้ในกรณีที่เกิดความรู้สึกทางเพศขึ้นมา และเกรงว่าจะต้องทำสิ่งหะรอม ตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งได้ไปอยู่ต่างประเทศเพื่อศึกษาหรือทำงาน และในสังคมที่เขาไปอยู่นั้น เขาต้องเผชิญกับสิ่งเย้ายวนต่าง ๆ ที่เขาเกรงว่าไม่อาจจะระงับยับยั้งตัวเองได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาอาจจะใช้วิธีการผ่อนคลายความกดดันทางเพศได้ ถ้าหากว่าเขาสมิได้ทำมันบ่อยหรือทำจนเป็นนิสัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถจะแต่งงานได้นั้นก็ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านศาสดาจะเป้นการดีกว่า กล่าวคือท่านศาสดาแนะนำให้ถือศีลอดบ่อย ๆ เพราะการถือศีลอดจะลดพลังความรู้สึกทางเพศ จะสอนให้เขาควบคุมความต้องการและทำให้เขาเกรงกลัวอัลลอฮฺมากยิ่งขึ้น
อ้างอิงหะลาลและหะรอมในอิสลาม ดร.ยูซุฟ ก็อรฺฎอวี (เขียน) บรรจง บินกาซัน (แปล) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2547 หน้า 222 - 223 ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ