ผู้เขียน หัวข้อ: อุลามาที่โลกยอมรับ ออกดะวะฮ 3วัน,4เดือน,1ปี หรือไม่ ??  (อ่าน 2154 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ jabirahmad

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

ช่วยตอบคำถามผมที ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 19, 2013, 10:41 AM โดย jabirahmad »

ออฟไลน์ noi

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 18
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ไม่มี

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

ขึ้นกับว่า "อุละมาอ์ที่โลกยอมรับ" หมายถึงใคร

ผมไมรู้หรอกนะว่า ใครเป็นผู้ริเริ่มหลักสูตร ญะมาอะฮฺตับลีฆที่มีรูปแบบชัดเจนเหมือนเช่นที่ปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่ผมว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง สามารถดึงเอามุสลิมเดิมที่หลงกลับมาสู่แนวทางของอัลอิสลามเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากแนวทางนี้ไม่ถูกกับจริตของ "อุละมาอุ์" บางคน เขาจึงต่อต้าน ซึ่งผมไม่เห็นด้วย ถ้าเห็นว่า หลักสูตรนี้ผิด ไม่สมบูรณ์ ก็ให้คำแนะนำตักเตือน ช่วยกันแก้ไขให้สมบูรณ์มากขึ้น
และผมเชื่อว่า คนที่เขาคิดหลักสูตร (หมายถึงวิธีการ) นี้ ซึ่งต้องเป็น "อุละมาอุ์" เหมือนกัน ก็คงจะได้ออกดะอฺวะฮฺ 3 วัน 4 เดือน และ 1 ปีมาแล้ว

ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม บอกว่า มุสลิมจะแบ่งออกเป็น 73 กลุ่ม มีกลุ่มเดียวที่เข้าสวรรค์ ทุกกลุ่มต่างก็อ้างว่า กลุ่มของตนเองเท่านั้น ที่ตามกิตาบและสุนนะฮฺ เป็นกลุ่มที่ 73 ที่เหลือผิด ต้องลงนรก  ลองมองมุมกลับดูบ้างว่า กลุ่มของตนอาจอยู่ในลำดับที่ 1 -72 ก็ได้

วัลลอฮุอะอฺลัม
วัสสลาม

ออฟไลน์ solo2513

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 7
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
:salam:

ขึ้นกับว่า "อุละมาอ์ที่โลกยอมรับ" หมายถึงใคร

ผมไมรู้หรอกนะว่า ใครเป็นผู้ริเริ่มหลักสูตร ญะมาอะฮฺตับลีฆที่มีรูปแบบชัดเจนเหมือนเช่นที่ปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่ผมว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง สามารถดึงเอามุสลิมเดิมที่หลงกลับมาสู่แนวทางของอัลอิสลามเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากแนวทางนี้ไม่ถูกกับจริตของ "อุละมาอุ์" บางคน เขาจึงต่อต้าน ซึ่งผมไม่เห็นด้วย ถ้าเห็นว่า หลักสูตรนี้ผิด ไม่สมบูรณ์ ก็ให้คำแนะนำตักเตือน ช่วยกันแก้ไขให้สมบูรณ์มากขึ้น
และผมเชื่อว่า คนที่เขาคิดหลักสูตร (หมายถึงวิธีการ) นี้ ซึ่งต้องเป็น "อุละมาอุ์" เหมือนกัน ก็คงจะได้ออกดะอฺวะฮฺ 3 วัน 4 เดือน และ 1 ปีมาแล้ว

ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม บอกว่า มุสลิมจะแบ่งออกเป็น 73 กลุ่ม มีกลุ่มเดียวที่เข้าสวรรค์ ทุกกลุ่มต่างก็อ้างว่า กลุ่มของตนเองเท่านั้น ที่ตามกิตาบและสุนนะฮฺ เป็นกลุ่มที่ 73 ที่เหลือผิด ต้องลงนรก  ลองมองมุมกลับดูบ้างว่า กลุ่มของตนอาจอยู่ในลำดับที่ 1 -72 ก็ได้

วัลลอฮุอะอฺลัม
วัสสลาม
เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
วะอะลัยกุมมุสลามค่ะแชมัด

เห็นด้วยกับแขมัดด้วยประการทั้งปวงค่ะ...

แม้ว่าพ่อของข้าน้อยจะไม่ได้ออกดะวะห์ 4วัน 4 เดือน 1 ปี ก็ตาม
แต่ท่านก็ไม่ได้ค้านงานดะวะห์ นอกจากมีบางครั้งที่เคยตำหนิกลุ่มดะวะห์บางกลุ่มเกี่ยวกับการกระทำบางอย่าง
และไม่ได้เหมารวมว่างานดะวะห์นั้นไม่ดี...

เราหลายคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเรานั้นเวลาได้ออกเดินทางหาความรู้ ความรู้ดังกล่าวนั้นมีคนวางหลักสูตรการเรียน
เอาไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว...หากเราจะเรียนรู้เพิ่มอีกสักนิด เราก็จะรู้ว่าเราทุกคนมีครู มีผู้คอยอยู่เบื้องหลังหลักสูตร
การเรียนรู้ อยุ่เบื้องหลังตัวอักษรทุกตัวที่เราอ่าน อยู่เบื้องหลังตำราที่เรากำลังเปิดอ่าน

วิธีการให้ได้มาซึ่งความรู้ และวิธีการให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้นอาจมีการกำหนดหลักสูตรที่แตกต่างกันไปบ้าง
แต่อยากให้มุสลิมเราลองไตร่ตรองถึงเจตนาและเป้าหมายในการกระทำนั้นๆว่า มันเป็นอย่างไรมากกว่าค่ะ

เช่น หากเราอยู่ยะลา จะเดินทางไปกรุงเทพฯ แน่นอนว่ามีวิธีการเดินทางไปอยู่หลายวิธี แล้วแต่ยุคแล้วแต่สมัย
ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะไม่มีเครื่องบินที่ทำให้การเดินทางไปกรุงเทพฯย่อระยะเวลาลง แต่เดี๋ยวนี้มีเครื่องบินแล้ว
ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะมียานพาหนะอะไรที่จะนำทางเราไปกรุงเทพฯที่เร็วและประหยัดเวลากว่านี้อีก...

ซึ่งการเดินทางไปกรุงเทพฯเองนั้นนอกจากการเลือกยานพาหนะที่ใช้แล้ว เส้นทางที่จะเดินไปก็มีหลายเส้นทางให้เลือกอีก
ขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ในภาวะใด และเหมาะจะไปด้วยกับเส้นทางใด แต่เป้าหมายของเราย่อมต้องการที่จะไปกรุงเทพฯเหมือนกัน...
อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนออกเดินทางหรืออาจขาดสติไปในระหว่างเดินทาง
ก็เลยอาจพลัดหลงออกนอกเส้นทางไปบ้าง ซึ่งคนที่รู้เส้นทางและเคยไปถึงมาแล้วจึงควรบอกกล่าว
เพื่อที่จะไม่ให้เขาหลงทาง แน่นอนว่าต้องมีผู้รู้เส้นทางไปกรุงเทพฯหรือเคยไปมาแล้วบ้างแหล่ะค่ะ เพราะโลกนี้ไม่สิ้นไร้คนมีความรู้และผู้มีประสบการณ์...

ขอให้เราตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำเพื่อศาสนาอย่างจริงใจ เส้นทางที่จะไป อินชาอัลลอฮฺ อัลลอฮฺจะอำนวยความสะดวกให้
เราอาจจะได้เจอกับบรรดาผู้รู้เส้นทางและชำนาญในการเดินทางไปสู่เป้าหมาย
หากว่าอัลลอฮฺประสงค์ที่จะไม่ให้เราเป็นผู้หลงทาง...เราก็จะไม่หลงทาง...

สำหรับข้าน้อย จึงมองว่า จิตใจที่บริสุทธิ์ต่อการทำเพื่อศาสนาของอัลลอฮฺนั้นสำคัญอย่างยิ่งยวด...
เมื่อเรามีความบริสุทธิ์ใจแล้ว อย่าได้หวั่นกลัวไปว่า เราจะกลายเป็นผู้หลงทาง ในเมื่อเส้นทางที่เราเดินอยู่นั้น
มีอัลลอฮฺอยู่กับเราด้วยตลอด...และเราไม่ลืมพระองค์เลย...

ทุกเส้นทางที่เดิน ทุกลมหายใจเข้าออก เราไม่ลืมอัลลอฮฺและไม่ลืมคำสั่งของพระองค์...
กิจการงานของเราอัลลอฮฺจะอำนวยความสะดวกให้...

ปล.เส้นทางของอัลลอฮฺ หนทางของอัลลอฮฺ หากอัลลอฮฺไม่นำทางให้แล้ว ใครจะนำทางแก่เราได้...
และวิธีการที่พระองค์จะนำทางเรานั้นเป็นเช่นไร ขอให้เราไว้วางใจต่อพระองค์เถิด...
และคนใดที่จะเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จนั้น เราก็คงต้องฝากความหวังไว้กับพระองค์...
เมื่อเรานั้นบริสุทธิ์ใจและทำตามที่พระองค์สั่งใช้และละเว้นสิ่งที่สั่งห้ามแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องหวาดหวั่นเลยค่ะ...


วัสลามค่ะ
 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ADB

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 235
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
    • ตับลีฆ
 :salam:


อุลามาอฺในงานดะอฺวะอฺมีเยอะมากครับ เช่นเมาลานาตอริกยามิ้ล เมาลานาเอี๊ยะซาน เมาลานายัมชีค มุฟตีซัยนุ้ลอาบีดีน (ปากีสถาน) เมาลานาซะอั๊ด เมาลานาซุเบร เมาลานาอิบรอฮีม เมาลานาอะหมัดลาต (อินเดีย) อุลามาอฺเหล่านี้ คนที่ทำงานดะอฺวะฮฺ เป็นแสน เป็นล้านคน จาก 200 กว่าประเทศให้การยอมรับ อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ถ้านิยามคำว่าอุลามาอฺที่โลกยอมรับ หมายถึงการยอมรับผ่านสื่อต่างๆ นั้นคงไม่ปรากฏสักเท่าไหร่ เพราะในงานดะอฺวะฮฺ เน้นการดะอฺะวะฮฺที่ใกล้ชิดซุนนะห์มากที่สุด นั้นคือแบบปากต่อปาก ประตูสู่ประตู หัวใจต่อหัวใจ ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้สื่อตามความเจริญของโลก หรือใช้แต่เพียงน้อยที่สุด

ยังมีอุลามาอฺผู้รู้อีกมากที่มีคุณสมบัติ เป็นผู้รับมรดกของท่านนบี เพียงแต่มิได้ยกตัวเองขึ้นมา ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนการเป็นนักกอรีที่โลกรู้จัก ก้อต้องมีการประกวด มีการแข่งกัน ถึงจะเป็นนักกอรีที่โลกรู้จักได้ ในทางตรงกันข้าม อาจมีมุสลิมที่อ่านกุรอานได้ถูกต้อง ไพเราะ ชัดเจน อีกเป็นร้อยเป็นพันคน แต่เขาไม่ได้ขึ้นเวทีมาประกวดประขันด้วย โลกจึงไม่รู้จัก หรือรู้จักในในวงแคบ

อุลามะอฺในงานดะอฺวะฮฺ เมื่อจบการศึกษาใหม่ๆ จะพยายามออกดะอฺวะฮฺ 1 ปี เพื่อเรียนรู้ภาคปฏิบัติ ลดซีฟัตแห่งการริยะ ตะกับโบร กับความรู้ของตน และเพื่อพบเจอกับมนุษย์ที่หลากหลาย  นักเรียนที่เรียนมัรกัสมีนบุรี มัรกัสยะลา และสถาบันในสังกัดของแต่ละมัรกัสทั่วโลก สถาบันเหล่านี้จะมีการเรียนทั้งฮาฟิซกุรอาน (ท่องจำอัลกุรอาน) และเรียนแบบเราเดาะตุ้ลฮะดีษ (คือการเรียนซ่อเฮี๊ยะบุคอรี-มุสลิม สุนันซิตตะห์ทั้งหก โดยเรียนหมด ทุกบั๊ปและทุกบท) เพื่อศึกษาแนวทาง ทัศนะของทุกมัซฮับ ทำให้ได้รับความรู้ที่กว้างขวางและลึกซึ้ง จึงเป็นที่มาแห่งการผลิตอุลามาะอฺ ออกไปเผยแพร่ศาสนาทั่วทุกมุมโลก

ปัจจุบันการเผยแพร่ศาสนาตามสื่อต่างๆ มีมากมาย แต่กับบุคคลบางคน เขาไม่รู้และไม่ต้องการ ประหนึ่งคนหูหนวกและตาบอด ที่กำลังเดินสู่เหวลึก มีคนเอาวิทยุมาเปิด ก้อไม่ได้ยิน เพราะหูของเขาหนวก มีคนเอาทีวี เอาหนังสือมาให้ดู เขาก้อมองไม่เห็น เพราะตาของเขาบอด เหตุนี้งานดะอฺวะฮฺจึงใช้สองมือสองเท้าเป็นสื่อ ก้าวเดินไปจับมือพี่น้องเอาไว้ ไม่ให้เดินสู่เหวแห่งความหายนะ อิสลามแผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลกในยุคของซอฮาบะฮฺ ไม่ใช่ด้วยดาวเทียม หรืออินเตอร์เน็ต แต่อิสลามขยายไปทั่วโลกด้วยการเสียสละของบรรดาซอฮาบะฮฺ

เราทุกคนทำงานดะอฺวะฮฺ ไม่ใช่เพื่อให้มนุษย์ หรือโลกรู้จักและยอมรับ แต่ทำเพื่อความพอพระทัยของอัลลอฮฺ เพื่อเจริญรอยตามแบบอย่างของนบี และซอฮาบะฮฺ เส้นทางของงานดะอฺวะฮฺตับลีฆนั้นไปไกลเกินกว่า เส้นทางของวิทยุ โทรทัศน์ หรือสื่อต่างๆ จะไปถึง วันนี้มนุษย์จะรู้จักและยอมรับ หรือไม่ ไม่เป็นไร แค่ขอให้อัลลอฮฺพอใจเราก้อพอ..


ออฟไลน์ Carrothz

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 120
  • Respect: +24
    • ดูรายละเอียด
ยอมรับคืออะไร หมายถึงไม่ค้าน หรือว่าทำตาม ถ้าทำตามอาจจะไม่เยอะ แต่ไม่คัดค้านผมว่าเยอะนะ เพราะการออกแบบกลุ่มดาวะห์ตับลีฆ เป็นหลักสูตรหนึ่งอย่างที่ว่านั่นแหละ ไม่ได้บอกว่าเป็นข้อบัญญัติทางศาสนา หรือเป็นหุกุ่มทางศาสนา

ดีเสียอีกในการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางศาสนาบ้าง ได้ลงมือปฏิบัติที่เรียนไปบ้าง ความรู้จะได้ไม่ขึ้นสนิม

ออฟไลน์ sidsid

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
งานดะวะห์ เกิดครั้งแรกที่ อินเดีย ตรงกับ พศ.2477 จากกลุ่มอุละมา เห็นว่าผู้คนในเขตจังหวัดตน ไม่สนใจศาสนา จึงคิดรวมกลุ่มกันเป็นแบบที่เห็น ไปออกเผิยแพ่ร ศาสนาตามแบบอย่างนบี ซึ่งเป็นแบบอย่างที่นบีไม่ได้ห้าม ไม่ผิดหลักศาสนา ซึ่งใช่ได้ผล ประเทศต่างๆเลยนำเอาหลักการแบบอย่าง มาใช่ในประเทศตน ซึ่งก็ได้ผลเช่นกัน ดูตัวอย่างในประเทศไทยเรา เป็นไงบ้าง ขอร้องอย่ามาเที่ยวพูด นบีไม่ได้ทำ สอนทางจานดำ นบีก็ไม่เคยทำ แต่ออกเดินไปเผิยแพ่รตามหมู่บ้าน นบีทำ อย่าเรียกตัวเองว่าซุนนะ อีกนะ ศาสนานบีบอกสมบูรณ์แล้ว อุนละมายุกถัดๆมาก็ได้ทำให้ดีขึ้น รวบรวมฮาดิสว่าอันไหนผิดถูก แล้วคนจานดำไม่ยอมรับ คิดว่าตัวเองเท่านั้นถูก อุนลมาก่อนๆไม่ถูก นบีไม่ได้ทำ แต่เขานั้นแหละทำในสิ่งทีนบีไม่ได้ทำ เข้าใจคำว่า บิดอะห์ ผิด หลงว่าบิดอะห์ทีดีไม่มี ก็สิ่งทีคุณทำอยู่ในปัจจุบันน๊ะ บิดะห์ทั้งนั้น แต่เป็นบิดะห์ทีดี และมีบิดะห์ทีหลงซึ้งเป็นการกระทำที่ค้านกรุอ่านและฮาดีส การทำซีนา การโกหก ลักทรัพทย์ เป็นบิดะอะห์หรือเปล่า เพราะนบีไม่ได้ทำ และยังไม่รู้ว่าอังกฤษกับซาอุ ร่วมมือกันตั่งแต่หลังสงครามโลกครั้งที1กับแนววะฮาบี อย่าเรียกตัวเองว่า ซุนน๊ะ พวกดะวะห์เท่านั้นเรียกว่าพวกซุนน๊ะ เรียกพวกใหม่ดีแล้ว ถ้าผิดขอมะอัพ ด้วย สลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ค. 01, 2016, 09:03 PM โดย sidsid »

 

GoogleTagged