ผู้เขียน หัวข้อ: ความประเสริฐ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์  (อ่าน 1305 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ความประเสริฐ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์

ท่านอิบนุอับบาส ได้รายงานว่า

قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : مَا مِنْ أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فِيهِنَّ أَحَبُّ إِلَى اللَّهِ مِنْ هَذِهِ الأَيَّامِ الْعَشْرِ. فَقَالُوا يَا رَسُولَ اللَّهِ وَلاَ الْجِهَادُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : وَلاَ الْجِهَادُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ إِلاَّ رَجُلٌ خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فَلَمْ يَرْجِعْ مِنْ ذَلِكَ بِشَىْءٍ

“ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ไม่มีบรรดาวันใดที่การปฏิบัติความดีงามในวันเหล่านั้นจะเป็นที่รักยิ่งยังอัลลอฮฺมากไปกว่า 10 วัน(ของเดือนซุลฮิจญะฮ์)นี้ บรรดาศ่อฮาบะฮ์ถามว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ การญิฮาดในวิถีทางของอัลลอฮฺไม่(เป็นที่รักยังพระองค์)ยิ่งกว่าหรือ? ท่านร่อซูลุลลอฮฺตอบว่า การญิฮาดในวิถีทางของอัลลอฮฺก็ยังไม่เป็นที่รักยิ่ง(กว่าการทำอิบาดะฮ์ใน 10 วันเหล่านั้น) นอกจากชายคนหนึ่งที่ออกไปรบโดยตัวของเขาและทรัพย์สินของเขา แล้วเขาก็ไม่นำสิ่งใดจากสิ่งดังกล่าวกลับมาเลย(หมายความว่าเขาได้ตายมรณะสักขีและสละทรัพย์สินในการญิฮาดเพื่ออัลลอฮฺโดยไม่กลับมายังครอบครัวของพวกเขาอีกเลย)” รายงานโดยอัลบุคอรีย์, หะดีษเลขที่ 926. และรายงานโดยอัตติรมีซีย์, หะดีษเลขที่ 757, สุนัตอัตติรมีซีย์, เล่ม 3, หน้า 130. ถ้อยคำหะดีษเป็นของอัตติรมีซีย์.

หะดีษบทนี้บ่งชี้ว่า การทำความดีงามในช่วงเวลา 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นั้นเป็นที่รักยิ่งไปยังอัลลอฮฺตะอาลา และท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงส่งเสริมให้กระทำความดีงามในช่วง 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์ ซึ่งการกระทำความดีงามนั้นย่อมครอบคลุมถึงการถือศีลอดด้วยและสมควรส่งเสริมให้กระทำเหมือนกับอิบาดะฮ์อื่นๆ ด้วย เช่น การซิกรุลลอฮ์ การอ่านอัลกุรอาน การศ่อะวาตต่อท่านนะบีย์ การเตาบะฮ์ การบริจาคทาน และการละหมาดสุนัตต่างๆ เป็นต้น

ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์ได้กล่าวว่า

وَاسْتُدِلَّ بِهِ عَلَى فَضْلِ صِيَامِ عَشْرِ ذِي الْحِجَّةِ لانْدِرَاجِ الصَّوْمِ فِي الْعَمَلِ

“หะดีษนี้ถูกนำมาอ้างอิงหลักฐานยืนยันถึงความประเสริฐของการถือศีลอด 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์ เนื่องจากการถือศีลอดได้ครอบคลุมอยู่ในการกระทำความดีงาม” ฟัตหุลบารีย์, เล่ม 2, หน้า 460.

ท่านอิหม่ามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวว่า

فَلَيْسَ فِيْ صَوْمِ هَذِهِ التِّسْعَةِ كَرَاهَةٌ بَلْ هِيَ مُسْتَحَبَّةٌ اِسْتِحْبَابَاً شَدِيْداً لاَسِيَّمَا التَّاسِعُ مِنْهَا وَهُوَ يَوْمُ عَرَفَة وَقَدْ سَبَقَتِ الأَحَادِيْثُ فِيْ فَضْلِهِ وَثَبَتَ فِيْ صَحِيْحِ الْبُخَارِىِّ أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ مَا مِنْ أَيَّامٍ الْعَمَلُ الصَّالِحُ فِيْهَا أَفْضَلُ مِنْهُ فِيْ هَذِهِ يَعْنِى الْعَشْرَ الأَوَائِلَ مِنْ ذِى الْحِجَّةِ

“การถือศีลอดในเก้าวัน(แรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์)นี้ไม่เป็นมักโระฮ์แต่ประการใด ยิ่งกว่านั้น ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 9 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ ซึ่งเป็นวันอะร่อฟะฮ์ซึ่งมีหะดีษก่อนหน้านี้ที่ได้ระบุถึงความประเสริฐของการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์ และได้มียืนยันไว้ในศ่อฮิห์อัลบุคอรีย์ว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า “ไม่มีบรรดาวันใดที่การปฏิบัติความดีงามในวันเหล่านั้นจะเป็นที่รักยิ่งยังอัลลอฮฺมากไปกว่า 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์นี้” ชัรหฺศ่อฮีหฺมุสลิม, เล่ม 8, หน้า 77.

คณะกรรมการถาวรของซาอุดี้อาระเบียได้ฟัตวาว่า

وَإِنْ صُمْتَ الأَيَّامَ التِّسْعَةَ مِنْ أَوَّلِ ذِي الْحِجَّةِ فَحَسَنٌ؛ لأَنَّهَا أَيَّامٌ شَرِيْفَةٌ يُسْتَحَبُّ صَوْمُهَا

“หากท่านถือศีลอดในช่วง 9 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม เพราะบรรดาวันเหล่านั้นเป็นวันที่มีเกียรติซึ่งส่งเสริมให้ทำการถือศีลอด” ฟัตวาลัจญฺนะฮ์ อัดดาอิมะฮ์ เล่ม 10, หน้า 393.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์หรือวันที่ 9 ของเดือนซุลหิจญะฮ์นั้น เป็นซุนนะฮ์ที่ไม่สมควรละเลยสำหรับผู้ที่ไม่มีความสะดวกในการถือศีลอดในวันที่ 1-8 ซุลหิจญะฮ์

เพราะท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

صِيَامُ يَوْمِ عَرَفَةَ أَحْتَسِبُ عَلَى اللَّهِ أَنْ يُكَفِّرَ السَّنَةَ الَّتِي قَبْلَهُ وَالسَّنَةَ الَّتِي بَعْدَهُ

"การ ถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น ข้าพเจ้าหวังว่า อัลเลาะฮ์ จะทรงลบล้างความผิดในปีที่ก่อนวันอะรอฟะฮ์และในปีหลังจากวันอะร่อฟะฮ์" รายงานโดยมุสลิม.

ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวเช่นกันว่า

مَا مِنْ يَوْمٍ أَكْثَرَ مِنْ أَنْ يُعْتِقَ اللَّهُ فِيهِ عَبْدًا مِنْ النَّارِ مِنْ يَوْمِ عَرَفَةَ

“ไม่มีวันใดที่อัลเลาะฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จากไฟนรก ที่จะมากไปกว่าวันอะร่อฟะฮ์” รายงานโดยมุสลิม (1976)

ส่วนการการลบล้างความผิดนักปราชญ์ได้มีความเห็นที่แตกต่างกัน

ท่าน อิมามอัลญุวัยนีย์กล่าวว่า “บาปที่จะได้รับการลบล้างนั้น คือบรรดาบาปเล็ก” แต่ท่าน อิมามอิบนุ อัลมุนซิร , อิมามรอมลี , และเจ้าของหนังสือ อัซซะคออิร กล่าวว่า “การลบล้างบาปนั้น รวมถึงบาปใหญ่ด้วย เนื่องจากหะดิษนั้นมีความหมายที่ครอบคลุม(อาม) และความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์นั้นกว้างขวาง” ดู หนังสือ มุฆนีย์ อัลมั๊วะตาจญฺ เล่ม 2 หน้า 196 , ดู หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์ อัลมั๊วะหฺตาจญ์, เล่ม 3, หน้า 454.

ท่าน อิมามอันนะวาวีย์ กล่าวว่า “บรรดาบาปของผู้ถือศีลอดในวันอะร่อฟะฮ์นั้น จะถูกลบล้างใน 2 ปี บรรดานักปราชญ์กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของบาปนั้นคือ บรรดาบาปเล็ก และถ้าหากว่าไม่มีบาปเล็ก หวังว่าบรรดาบาปใหญ่จะได้รับการผ่อนปรน และหากเขาไม่มีบาปเล็กและบาปใหญ่ เขาจะได้รับการยกหลายระดับขั้นให้สูงขึ้น” คัดสรุป จาก ชัรหฺ มุสลิม, เล่ม 4, หน้า 308. สุนัตให้ถือศีลอดก่อนวันอะร่อฟะฮ์

ท่าน อัลหาฟิซฺ อิบนุหะญัร อัลฮัยตะมีย์ กล่าวว่า “สุนัตให้ทำการถือศีลอดในวันที่ 8 ของซุลฮิจญะฮ์ ดังนั้นวันที่ 8 สมควรทำการถืออดในแง่ของการเผื่อป้องกันไว้ให้กับวันอะร่อฟะฮ์ (เพราะว่าบางครั้งความจริงวันที่ 8 อาจจะเป็นวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮ์ก็ได้) และในแง่ทีว่าวันที่ 8 นั้นก็ครอบคลุมอยู่ในการถือศีลอด 10 วันของซุลฮิจญะฮ์(อยู่แล้วถือศีลอดย่อมได้ภาคผลใน 10 วันของซุลฮิจญะฮ์) ซึ่งเฉกเช่นเดียวกันกับการถือศีลอดวันอะร่อฟะฮ์(วันที่ 9)ที่ถูกส่งเสริมให้ถือศีลอดเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของ 10 วันของเดือนซุลฮิจญะฮ์และ(วันที่ 9) ก็ยังเป็นวันอะรอฟะฮ์” ดู หะวาชีย์ อัชชัรวานีย์ วะ อิบนุ กอซิม อัลอับบาดีย์ อะลา ตั๊วะฟะฮ์ อัลมั๊วะหฺตาจญ์, เล่ม 3, หน้า 455.

วัลลอฮุอะลาวะอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged