بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
การละหมาดร่อวาติบก่อนหรือหลังละหมาดฟัรดูนั้น มีเคล็ดลับเพื่อเสริมให้สมบูรณ์กับสิ่งที่ได้กระทำบกพร่องในละหมาดฟัรดู เช่น ละหมาดไม่มีสมาธิหรือทิ้งการใคร่ครวญการอ่าน
ซึ่งละหมาดร่อวาติบ(ที่มุอักกะดะฮ์นบีเน้นทำเป็นประจำ)นั้น คือ สองรอกะอัตก่อนละหมาดซุบฮิ , สองรอกะอัตก่อนละหมาดซุฮริ , สองรอกะอัตหลังละหมาดซุฮริ , สองรอกะอัตหลังละหมาดมัฆริบ , สองรอกะอัตหลังละหมาดอีชาอฺ เพราะมีหะดิษของบุคอรีและมุสลิมได้รายงานจากท่านอิบนุอุมัร เขากล่าวว่า "ฉันได้ละหมาดพร้อมกับท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สองรอกะอัตก่อนซุฮริ , สองรอกะอัตหลังซุฮริ , สองรอกะอัตหลังมัฆริบ , สองรอกะอัตหลังอีชาอฺ , และสองรอกะอัตหลังละหมาดญุมุอะฮ์" ในบางส่วนรายงานจากท่านอิบนุอุมัร กล่าวว่า น้องสาวของฉันคือฮัฟเซาะฮ์เล่าแก่ฉันว่า "แท้จริงท่านนบีได้ทำละหมาดเร็ว ๆ สองรอกะอัตหลังจากแสงอรุณขึ้นแล้ว"
ส่วนละหมาดรอวาติบที่ไม่มุออักกะดะฮ์ (นบีไม่เน้นทำเป็นประจำ) คือ
บางทัศนะกล่าวว่าละหมาดรอวาติบนั้น คือสี่รอกะอัตก่อนซุฮริ เพราะทำตามท่านนบี ซึ่งได้รายงานโดยมุสลิม
และบางทัศนะบอกว่า ละหมาดสี่รอกะอัตหลังซุฮริด้วย เพราะมีหะดิษรายรายงานว่า "ผู้ใดรักษาละหมาดสี่รอกะอัตก่อนซุฮริและสี่รอกะอัตหลังซุฮริ อัลเลาะฮ์จะทรงห้ามเขาจากไฟนรก" รายงานโดยติรมีซีย์และท่านกล่าวว่าซอฮิห์
และบางทัศนะกล่าวว่า สี่รอกะอัตก่อนอัสริ เพราะมีหะดิษของท่านอิบนุอุมัรความว่า "แท้จริงท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ขออัลเลาะฮ์ได้โปรดเมตตาแก่ผู้ที่ได้ละหมาดก่อนอัสริสี่รอกะอัต" รายงานโดยท่านอิบนุคุซัยมะฮ์และท่านอิบนุฮิบบาน ซึ่งทั้งสองกล่าวว่าเป็นหะดิษซอฮิห์....
และบางทัศนะกล่าวว่าละหมาดที่ท่านนบีไม่เน้นกระทำบ่อยครั้งคือละหมาดเร็ว ๆ สองรอกะอัตก่อนมัฆริบ เพราะมีหะดิษบุคอรีรายงานว่า "ท่านนบีกล่าวว่า พวกท่านจงละหมาดก่อนละหมาดมัฆริบ" และบุคอรีและมุสลิมได้รายงานจากหะดิษท่านอะนัสความว่า "เหล่าซอฮาบะฮ์ผู้อาวุโสได้รีบไปยังเสา (ในมัสยิด) เพื่อทำละหมาดสองรอกะอัตเมื่ออะซานมัฆริบเสร็จแล้ว" ในรายงานหนึ่งจากมุสลิมบันทึกว่า "จนกระทั่งคนจรที่เข้าไปในมัสยิดคิดว่าได้ละหมาด (มัฆริบ) ไปแล้ว เนื่องจากมีผู้ละหมาดสองรอกะอัตนี้มาก" ...
ในหนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ(ของอิมามนะวาวีย์) กล่าวว่า สุนัตให้ละหมาดสองรอกะอัตก่อนอีชาอฺ เพราะมีหะดิษที่ว่า "ระหว่างสองอะซานนั้นมีการละหมาด" (รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม)
และหลังละหมาดญุมุอะฮ์ก็ให้ละหมาดสุนัตสี่รอกะอัต ซึ่งสองรอกะอัตนั้นเป็นสุนัตมุอักกะดะฮ์และอีกสองรอกะอัตไม่เป็นสุนัตมุอักกะดะฮ์ เพราะเหมือนกับละหมาดซุฮริ เนื่องจากมุสลิมรายงานว่า "เมื่อคนใดจากพวกท่านได้ทำละหมาดญุมุอะฮ์ ดังนั้นเขาจงละหมาดหลังจากนั้นสี่รอกะอัต"
และให้ละหมาดสุนัตเหมือนกับในเวลาซุฮริ คือ สองรอกะอัตที่มุอักกะดะฮ์และสองรอกะอัตที่ไม่มุอักกะดะฮ์ เพราะมีหะดิษติรมีซีย์รายงานว่า "แท้จริงท่านอิบนุมัสอูดได้ละหมาดก่อนญุมุอะฮ์สี่รอกะอัตและหลังญุมุอะฮ์สี่รอกะอัต" ซึ่งปรากฏชัดว่าการกระทำของท่านอิบนุมัสอูดนั้นได้รับคำสอนมาจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" (ดู หนังสือ มุฆนีอัลมั๊วะห์ตาจญ์ 1/413 - 414)
ไม่มีการละหมาดสุนัตหลังซุบฮิแล้วนะครับ เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ห้ามละหมาด
เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
لاَ تَحَرَّوْا بِصَلاَتِكُمْ طُلُوعَ الشَّمْسِ وَلاَ غُرُوبَهَا فَإِنَّهَا تَطْلُعُ بِقَرْنَىْ شَيْطَانٍ
"พวกท่านอย่ากำหนดการละหมาดขงพวกท่านในช่วงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก เพราะดวงอาทิตย์กำลังขึ้น(ระหว่าง)สองเขาของชัยฏอน" รายงานโดย มุสลิม
แต่ถ้าหากลืมละหมาดสุนัตก่อนซุบฮิ , หรือเข้ามาในมัสยิดไม่ทันละหมาดสุนัตก่อนซุบฮิโดยพวกเขาได้กำลังทำละหมาดญะมาอะฮ์กันแล้ว ก็อนุญาตให้กอฏอละหมาดสุนัตซุบฮิหลังละหมาดซุบฮิแล้วได้ครับ (มุฆนีอัลมั๊วะตาจญ์ 1/421) และถึงหากแม้นว่าจะละหมาดในช่วงเวลาต้องห้ามก็ตาม แต่ยกเว้นกรณีของละหมาดที่มีสาเหตุ (คือละหมาดสุนัตก่อนซุบฮินั้นมีสาเหตุเพราะเหตุเข้าเวลาซุบฮิ) แต่มีเงื่อนไขว่าอย่าทำเป็นกิจวัตร (มุฆนิลมั๊วะตาจญ์ 1/221
والله أعلى وأعلم