[69.40] แท้จริงอัลกรุอานนั้นคือคำกล่าวของร่อซู้ลผู้ทรงเกียรติ
เห็นยกต้นนี้มา ว่า
อัลกรุอาน ก็เหมือนเป็นคำกล่าวของ ท่านรอซูล
ดังนั้น คำกล่าวท่านรอซูล ไม่น่าเชื่อถือตรงไหน ?
เมื่อคุณปฎิเสธ ฮะดีส ที่เป็นคำกล่าวของ ท่านรอซูล
แต่คุณกับ กล่าวว่า คำกล่าวของท่านรอซูล นั้นเป็นดังอัลกรุอาน
เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณปฎิเสธคำกล่าวรอซูล ก็เหมือนปฎิเสธอัลกรุอาน หรือเปล่า ?
ด้วยความเคารพ...
salam
พี่น้องต้องใจเย็นก่อนนะครับ ค่อยๆอ่านและพิจารณากุรอานอย่างเป็นกลางครับ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจว่า รอซูลแปลว่าอะไร และนบีแปลว่าอะไรรอซูลแปลว่าผู้ส่งสาร นบีแปลว่าศาสดา นั่นคือ มูฮัมมัดในขณะที่กำลังพูด วะฮีย์ ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบนั้นเป็นรอซูล เพราะกำลังส่งสารของพระเจ้า แต่ในเวลาอื่นเช่นในชีวิตประจำวันนั้นเป็นนบี นั่นคือเป็นศาสดา
1. คำว่านบีและรอซูลนั้นมีความหมายไม่เหมือนกัน เราก็ลองมาพิจารณาการใช้สองคำที่ต่างกันในที่ๆต่างกันในกุรอาน เช่น หลายที่เราจะเจอว่า “จงเชื่อฟังอัลลอฮ์และรอซูล” ในกุรอาน ผมถามว่าเคยเจอคำว่า “จงเชื่อฟังอัลลอฮ์และนบี” สักครั้งในกุรอานหรือไม่ โดยพิจารณาจากตัวบทคำในภาษาอาหรับ (ไม่มี)
หลังจากนั้นลองพิจารณา
[66.1] โอ้นบีเอ๋ย ทำไมเจ้าจึงห้ามสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงอนุมัติแก่เจ้า เพื่อแสวงหาความพึงพอใจบรรดาภริยาของเจ้าเล่า? และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตา
ทำไมในอายะห์นี้อัลลอฮใช้คำว่านบี? ทำให้เห็นชัดได้ว่า การที่อัลลอฮว่าตักเตือนนบีในอายะห์นี้ไม่ได้ขัดแยัง เพราะอัลลอฮสั่งให้เชื่อฟังอัลลอฮและรอซูล
2. การเชื่อฟังอัลลฮและรอซูลเป็นอย่างเดียวกัน เพราะ เรารู้ว่าอัลลอฮกล่าวอะไรได้จากการรับสารจากผู้ส่งสาร (รอซูล) (อัลลอฮไม่ได้พูดกับเราโดยตรง) และ
รอซูลพูดได้เฉพาะคำพูดวะหีย์จากอัลลอฮเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอัลลฮจะตัดเส้นชีพให้ขาดไปก่อนแล้ว ดังในอายะห์ต่อไปนี้ (แต่ 66:1 ไม่ใช่ในฐานะรอซูล คือใช้คำว่า นบี จึงไม่ขัดแย้ง)
[69.40] แท้จริงอัลกรุอานนั้นคือคำกล่าวของร่อซู้ลผู้ทรงเกียรติ
[69.41] และมิใช่คำกล่าวของนักกวี ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าศรัทธา
[69.42] และไม่ใช่คำกล่าวของนักพยากรณ์ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าใคร่ครวญ
[69.43] เป็นการประทานมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
[69.44] และหากเขา (ร่อซู้ล) เสกสรรกล่าวคำเท็จบางคำแก่เราแล้ว
[69.45] เราก็จะจับเขาด้วยความมั่นคง
[69.46] แล้วเราก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไปจากเขา3. ดังนั้นเรารู้ว่าอัลลฮพูดอะไรเฉพาะจากที่รอซูลได้ส่งมา (นั่นคือส่งสารเป็นกุรอานมาให้เราจนถึงทุกวันนี้)
และรอซูลจะพูดสารวะฮีย์นั่นคือกุรอานเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งเดียวกัน ดังในอายะห์นี้
[4.80] ผู้ใดเชื่อฟังร่อซู้ล แน่นอนเขาก็เชื่อฟังอัลลอฮ์แล้ว และผู้ใดผินหลังให้ เราก็หาได้ส่งเจ้าไปในฐานะเป็นผุ้ควบคุมพวกเขาไม่
4. อัลลอฮรักษาการลำลึกของสารของพระองค์ ดังใน อายะห์นี้ [15.9] แท้จริงเราได้ให้ข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) ลงมา และแท้จริงเราเป็นผุ้รักษามันอย่างแน่นอน
แล้วหะดิษนั้นถูกรักษาด้วยหรือไม่? ทำไมนบีไม่ได้มีการสั่งเห็นเก็บหะดิษด้วยตนเองและรับรองมันเหมือนกับกุรอาน? ในทางตรงข้ามเราพบหะดิษรายงานโดยคนอื่นซื่งหลายคนมารวบรวมเลือกหลายนบีตายไปหลาย(ร้อย)ปี เช่น บุคคอรีบันทึกหะดิษเมื่อใหร่ ผู้เชี่ยวชาญคงทราบดี
นอกจากนี้ถ้าหะดิษอื่นนอกจากกุรอานเป็นสิ่งที่จำเป็นนักหนาดังที่บรรพบุรุสได้สอนมาแล้วทำไมอัลลอฮกล่าวในกุรอานกับหะดิษเช่น ดังในอายะห์ต่อไปนี้ (คุณจะไม่ยอมรับอายะห์เหล่านั้นหรือ)
(ลองพิจารณาคำแปลเทียบกำตัวบทเนื้อความกุรอานที่เป็นภาษาอาหรับคำต่อคำ ว่าคำว่า หะดิษ ถูกกล่าวว่าอย่างไรในกุรอาน)
[77.50] ดังนั้น
(คำบอกเล่า/หะดิษ) อันใดเล่าหลังจากอัลกุรอานที่พวกเขาจะศรัทธากัน (คำบอกเล่า คือ หะดิษในภาษาอาหรับต้นฉบับ)
[7.185] และพวกเขามิได้มองดูในอำนาจทั้งหลายแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงบังเกิดขึ้นดอกหรือ ? และแท้จริงอาจเป็นไปได้ว่า กำหนดเวลาแห่งความตายของพวกเขานั้นได้ใกล้มาแล้ว แล้วก็
(ถ้อยคำ/หะดิษ)ใดเล่าที่พวกเขาจะศรัทธากันหลังจากอัลกุรอาน (ถ้อยคำ คือ หะดิษในภาษาอาหรับต้นฉบับ)
[31.6] และในหมู่มนุษย์มีผู้ซื้อเอา
(เรื่องไร้สาระ/หะดิษ) เพื่อทำให้เขาหลงไปจากทางของอัลลอฮ์ โดยปราศจากความรู้ และถือเอามันเป็นเรื่องขบขัน ชนเหล่านี้พวกเขาจะได้รับการลงโทษอันอัปยศ (เรื่องไร้สาระ คือ หะดิษในภาษาอาหรับต้นฉบับ)
5. หน้าที่ของรอซูลคืออะไร ในกุรอานกล่าวไว้ในหลายที่ว่าหน้าที่ของรอซูลคือเพื่อส่งสาร(กุรอาน)เท่านั้น5:92,16:81-82,29:18,64:12,24:54.(คุณจะปฏิเสธอายะห์เหล่านี้แล้วบอกว่า ไม่ใช่ มีมากกว่านั้นหรือ)
ดังนั้นเราจะเชื่อรอซูลได้อย่างไร นั่นคือเราจะเชื่อในสิ่งเดียวที่พระเจ้าได้อณุญาติให้เขาส่งมา นั่นคือในฐานะผู้ส่งสารเดียวที่เขาได้กล่าวมาเท่านั้น นั่นคือ กุรอาน[69.40] แท้จริงอัลกรุอานนั้นคือคำกล่าวของร่อซู้ลผู้ทรงเกียรตินอกจากนี้ลองดูว่าเขาจะเตือนเราให้ทำตามด้วยอะไร ดังอายะห์ต่อไปนี้
[6.19] จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าในการเป็นพยาน จงกล่าวเถิดว่าอัลลอฮ์นั้นคือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และ
อัลกุรอานนี้ก็ได้ถูกประทานลงมาแก่ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้ใช้อัลกุรอานนี้ ตักเตือนพวกท่าน และผู้ที่อัลกุรอานนี้ไปถึง พวกท่านจะยืนยันโดยแน่นอนกระนั้นหรือว่า มีบรรดาที่เคารพสักการะอื่นร่วมกับอัลลอฮ์? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ฉันจะไม่ยืนยัน จงกล่าวเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ที่ควรแก่การเคารพสักการะแต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น และแท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคี (แก่อัลลอฮ์)
[50.45] เรารู้ดียิ่งถึงสิ่งที่พวกเขากล่าว และเจ้ามิได้เป็นผู้ทรงมีอำนาจเหนือพวกเขา ดังนั้นเจ้าจง
ตักเตือนด้วยอัลกุรอานนี้แก่ผู้กลัวต่อสัญญาร้ายของข้า
6. พระเจ้ากล่าวในกุรอานว่ากุรอานนี้ครบถ้วน พอเพียงแล้ว เราจะปฏิเสธอายะห์เหล่านี้หรือ: http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=1201.msg12037#msg12037ดังนั้นเราจะไม่ใช้คำสาบานที่อัลลอฮ์ ทรงรับรองใน 3:18 นี้เหรอครับผมขอย้ำว่านี่เป็นเพีบงความคิดเห็นของคนที่มีความรู้จำกัดเช่นผม ผมอาจถูกหรือผิดก็ได้ ผมเพียงต้องการให้พี่น้อง;ที่เชื่อในพระเจ้าที่ผมรักและห่วงใยมาลองพิจารณาดูครับขอพระเจ้าทรงนำทางครับ