ใคร ฆ่าท่านฮุเซน(ร.ฏ.) ?
กูฟะฮฺอิรักเป็นแหล่งของชีอะฮฺชัยคฺ บากิร ชารีฟ อัลกุรอชีย์ (อุลามาอฺชีอะฮฺ) กล่าวว่า
ان الكوفة كانت مهداً للشيعة ، وموطناً من مواطن العلويين ، وقد أعلنت اخلاصها لأهل البيت في كثير من المواطن
" แท้จริงกูฟะฮฺนั้น เป็นที่พักพิงของชีอะฮฺ และเป็นสถานที่ลูกหลานท่านอลีอยู่อาศัยอยู่ พวกชีอะฮ์เหล่านั้นประกาศตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจต่ออะฮฺลิลบัยตฺตามสถานที่ต่าง ๆมากมาย " (ดู ฮะยาตุลฮุเซน เล่ม 3 หน้า 12) เขากล่าวอีกว่า " การว่านเมล็ดพืชแห่งการเป็นชีอะฮฺ ได้งอกเงยขึ้นในกูฟะฮฺอิรัก ตั้งแต่สมัยของท่านอุมัร " ฮะยาตุลฮุเซน เล่ม3 หน้า12
มุฮัมมัดตัยญานีย์ กล่าวว่า
ودخل أبو هريرة الى الكوفة الى
عقر دار الشيعة دار علي بن أبي طالب
" อบูฮุรอยเราะฮฺ ได้เข้าไปยังกูฟะฮฺอิรัก
ท่ามกลางที่อยู่ของชีอะฮฺ ซึ่งเป็นที่พำนักของท่านอลี" ดู หนังสืออะอฺริฟ อัลฮักกฺ หน้า 161
ดังนั้น กูฟะฮฺก็คือแหล่งของชีอะฮฺ ไม่ว่าพวกเขาจะมีหลายเผ่าสักทีก็ตาม เนื่องจากว่า ชีอะฮฺไม่ใช่เป็นแค่เผ่าพันธุ์ใด เผ่าพันธุ์หนึ่ง
ดังนั้น คำว่าชีอะฮฺ ความหมายเดิม แปลว่ากลุ่มชนหนึ่ง พวกหนึ่ง เช่นอิมามญะฟัรอัศศอดิกกล่าวว่า?
ينادي مناد من السماء أول النهار ألا إن علياً صلوات الله عليه وشيعته هم الفائزون، قال: وينادي مناد آخر النهار ألا إن عثمان
وشيعته هم الفائزون
?จะมีผู้ป่าวประกาศจากฟากฟ้า ในยามช่วงแรกของกลางวันว่า พึงทราบเถิด แท้จริง ชีอะฮฺอะลี(อ.)และชีอะฮฺของเขาคือผู้ได้รับชัยชนะ ท่านญะฟัรอัศศอดิกกล่าวอีกว่า ? จะมีผู้ป่าวประกาศ(จากฟากฟ้า) ในช่วงท้ายของกลางวันว่า ? พึงทราบเถิด แท้จริงอุษมานและชีอะฮฺของเขา คือผู้ได้รับชัยชนะ ? ดู อัล-กาฟีย์ ฟิลฟุรั๊วะ เล่ม 8 หน้า 209
จากคำกล่าวของท่านญะฟัรอัศศอดิก เราจะพบว่า พรรคพวกของท่านอุษมาน ก็ยังเรียกว่า ชีอะฮฺ ดังนั้นประเด็นมันอยู่ที่ว่า ชีอะฮฺอลีนั้นคือใคร ? ซึ่งเราจะไม่รู้ได้นอกจาก บรรดาอิมามเรียกพวกเขาว่า ชีอะฮฺ เอง
ส่วนคำกล่าวของท่านที่ว่า ชีอะฮฺนั้นคือแนวคิด ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะเมื่อเราศึกษาเกี่ยวกับชีอะฮฺตั้งสมัยของท่านอลี ปรากฏว่า การเปลี่ยนแปลงแนวคิดของพวกชีอะฮฺ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การวิวัฒนาการอะกีดะฮฺของชีอะฮฺ จนถึงอิมาม ท่านที่ 11 คือท่านอิมามฮะซัน อัลอัสกะรีย์ นั้น ชีอะฮฺมีการวิวัฒนาการแนวคิดออกเป็นหลายกลุ่ม จนกระทั้งกรณีของอิมามมะฮฺดี คนที่12 (ตามที่ชีอะฮฺกล่าวอ้าง) ก็ทำให้ชีอะฮฺขัดแย้งกันเป็นสิบพวก อันเนื่องจากอิมามที่ 11 ไม่มีบุตร ดังนั้นเราจึงไม่สามารถแยกแยะชีอะฮฺในกรณีของการสังหารท่านฮุเซนได้ นอกจากคำกล่าวของบรรดาอิมามเท่านั้น ที่กล่าวว่า ใครคือชีอะฮฺของท่าน
หากเราพิจารณา ยุคสมัยซะลัฟ ไม่มีกลุ่มใด ที่มีชื่อ ชีอะฮฺอิมาม 12 แม้กระทั้งว่า อิมามอบูฮานิฟะฮฺ อิมามมาลิก อิมามชาฟิอี หรือว่าอิมามอะฮฺมัดอิบนิฮัมบัล ก็ยังไม่รู้จักชีอะฮฺ อิมาม 12 พวกเขาเพียงรู้จักเพียงคำว่า ชีอะฮฺเท่านั้นเอง แม้กระทั้งอิมามญะฟัร อัศศอดิกเองก็ยังไม่เคย เรียกว่า ชีอะฮฺอิษนาอะชะรียะฮฺ (ชีอะฮฺอิมาม 12 ) และท่านอิมามฮุเซนถูกสังหาร โดยน้ำมือของพวกซิยาดและชีอะฮฺกูฟะฮฺ บรรดาอิมามเองเขาเรียก ชาวกูฟะฮฺว่าชีอะฮฺ
กูฟะฮฺเป็นสถานที่ชอบมีการ ทรยศ หักหลังชัยคฺ ญะวาด มุฮัดดิซีย์ กล่าวว่า " ตามประวัติศาสตร์นั้น ชาวกูฟะฮฺเป็นพวกที่เลื่องลือในเรื่องของการทรยศและบิดพิ้วสัญญา...ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์อิสลามก็ไม่ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี ในการทำสัญญาและให้คำมั่นต่อชาวกูฟะฮฺอิรัก" เมาซูอะฮฺ อาชูรออฺ หน้า 59
ชัยคฺ ญะวาด กล่าวเช่นกันว่า " ลักษณะจุดเด่นต่าง ๆทางด้านจิตใจและอุปนิสัยของพวกกูฟะฮฺนั้น สามารถชี้ให้เห็นดังต่อไปนี้ คือ มีพฤติกรรมกลับกลอก มีเหล่ห์เหลี่ยม ตลบตะแลง ชอบก่อกบฏต่อผู้ปกครอง ชอบเอาตัวรอด อุปนิสัยเลว มีความละโมบ ความอยาก ชอบเชื่อข่าวลือ จิตใจโลเล นอกจากนั้น พวกเขายังประกอบไปด้วยหลายเผ่าพันธ์ สาเหตุต่าง ๆเหล่านี้ ทำให้อิมามอลี(อ.)ต้องทนทุกข์จากพฤติกรรมของพวกเขา และท่านอิมามฮุเซน(อ.) ก็เคยประสพกับการทรยศของพวกเขามาแล้ว มุสลิมบินอุกัยลฺต้องถูกสังหารอย่างอธรรมท่ามกลางพวกเขา และอิมามฮุเซน(อ.)ก็ถูกสังหาร โดยที่ท่านหัวโหยในกัรบะลาอฺ โดยน้ำมือของทหารกูฟะฮฺอิรัก "
เช่นท่านอิมามมูซา อัลกาซิม กล่าวว่า
لو
ميزت شيعتي لم أجدهم إلا واصفة، ولو امتحنتهم لما وجدتهم إلا مرتدين، ولو تمحصتهم لما خلص من الأف واحد، ولو غربلتهم غربلة لم يبقى منهم إلا ما كان لي، إنهم طالما اتكؤوا على الأرائك، فقالوا :
نحن شيعة علي"หากแม้นว่า
ฉันได้แยกแยะชีอะฮฺของฉันแล้ว ฉันจะไม่พบกับพวกเขา นอกจากเพียงแต่ลักษณะ และหากฉันได้ทดสอบพวกเขา แน่นอน ฉันจะไม่พบพวกเขา นอกจากพวกตกศาสนา และหากฉันได้เจระไนพวกเขา แน่นอนว่าจะไม่บริสุทธิ์สักหนึ่งคนจากหนึ่งพันคน และหากฉันได้คัดสรรพวกเขา ก็จะเป็นการคัดสรรที่ไม่หลงเหลือจากพวกเขาเลย นอกจากสิ่งเป็นที่มีให้ฉัน แท้จริง พวกเขานั้น ตราบใดที่พวกเขายังนั้งพิงเก้าอี้พำนักอยู่ พวกเขาก็ยังกล่าวว่า
เราคือชีอะฮฺอะลี ? ดู อัรเราเฏาะฮฺ มินัล กาฟี เล่ม 8 หน้า 228 และหนังสือเมาซูอะฮฺ อาชูรออฺ หน้า59
ชัยคฺ ฮุเซน กูรอนีย์ กล่าวว่า " อะไรหรือ คือจุดเด่น และข้อพิเศษอันสำคัญ ของการศรัทธาของชาวกูฟะฮฺ ? ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ชอบเพิกเฉยต่อการช่วยเหลืออัลอิสลาม
2. รักทรัพย์สมบัติ
3. กลับกลอกในหลายสถานการณ์ ดู หนังสือ ฟีริฮาบ กัรบะลาอฺ หน้า53
ชัยคฺ ญะวาด มุฮัดดะซีย์ กล่าวว่า
ولم يكن عدد
شيعة أهل البيت قليلاً في الكوفة ، الا أن ولاءهم كان يتسم بالعاطفة والخطب الحماسية والمشاعرالفياضة تجاه عترة الرسول صلى الله عليه وسلم أكثر من تمسكهم بالخط العقائدي والعملي لآل علي ، والنزول الى ساحة المواجهة والتضحية
"
ชีอะฮฺของอะฮฺลิลบัยตฺ มีไม่น้อยเลยในกูฟะฮฺ แต่ทว่า การภักดีของพวกเขานั้น เพียงแค่แสดงออกถึง ความรู้สึกสงสาร มีวาทะที่ห้าวหาญ มีความรู้สึกที่เอื้อเฟื้อต่ออะฮฺลิลบัยตฺ มากกว่า การที่พวกเขาจะยึดมั่นด้วยหลักศรัทธาและปฏิบัติเพื่อวงศ์วานของ อลี และร่วมสมรภูมิประจัญบานและสละชีพ" เมาซูอะฮฺ อาชูรออฺ หน้า60
ชีอะฮฺทรยศต่ออะฮฺลิลบัยตฺเมื่อเรากลับไปดูเรื่องราวของท่านอลี(อ.) เราจะพบว่า ท่านอลี(อ.)ร้องทุกข์ต่อชีอะฮฺของท่าน(คือพวกกูฟะฮฺ)ว่า
ولقد أصبحت الأمم تخاف ظلم رعاتها وأصبحت أخاف ظلم
رعيتي . استنفرتكم للجهاد فلم تنفروا ، وأسمعتكم فلم تسمعوا ، ودعوتكم سراً جهراً فلم تستجيبوا ، ونصحت لكم فلم تقبلول ، أشهود كغياب ، وعبيد كأرباب ؟ أتلو عليكم الحكم فتنفرون منه ، وأعظكم بالموعظة البالغة فتتفرقون عنها ، وأحثكم على جهاد أهل البغي فما آتي على آخر القول حتى أراكم متفرقين أيادي سبا ، ترجعون الى مجالسكم ، وتتخادعون عن مواعظكم ، أقومكم غدوة ، وترجعون الى عشية كظهر الحية ، عجز المقوم ، وأعضل المقوم ، أيها الشاهدة أبدانهم ، الغائبة عقولهم ، المختلفة أهواؤهم ، المبتلى بهم أمراؤهم . صاحبكم يطيع الله وأنتم تعصونه ، ? لوددت والله أن معاوية صارفني بكم صرف الدينار بالدرهم فأخذ مني عشرة منكم وأعطاني رجلاً منهم ، ياأهل الكوفة منيت بكم بثلاث واثنتين : صم ذوو أسماع ، وبكم ذوو كلام ، وعمي ذوو أبصار ، لا أحرار صدق عند اللقاء ، ولا اخوان ثقة عند البلاء ، تربت أيديكم ياأشباه الابل غاب عنها رعاتها ، كلما جمعت من جانب تفرقت من جانب آخر
"ขอสาบาน บรรดาประชาชาติทั้งหลาย ต่างหวาดกลัวความอธรรมของบรรดาผู้ปกครองของพวกเขา แต่ฉันกลับกลัว
ความอธรรมของประชาชนของฉัน ฉันยุยงให้พวกท่านออกสู้รบ แต่พวกท่านไม่ยอมออกสู้รบ ฉันได้บอกให้พวกท่านได้ยิน แต่พวกท่านทำไม่ได้ยิน ฉันได้เรียกร้องพวกท่านในทั้งที่ลับและเปิดเผย พวกท่านก็ไม่สนอง ฉันตักเตือนพวกท่าน แต่พวกท่านก็ไม่น้อมรับ หรือว่าพวกท่านอยู่ แต่ทำตัวเหมือนหายหน้า พวกท่านเป็นทาสแต่ทำตัวเหมือนเป็นนาย ? ฉันอ่านคำสอนต่อพวกท่านฟัง แต่พวกท่านก็หน่ายหนี ฉันตักเตือนพวกท่านด้วยคำสอนที่ลึกซึ้ง แต่พวกท่านเตลิดจากมัน และฉันยุยุงให้พวกท่านต่อสู้กับพวกกบฏ ฉันไม่ทันพูดจบ ก็เห็นพวกท่านแยกย้ายกลับไปที่พำนักของพวกท่านเสียแล้ว พวกท่านก็หลอกลวงกันเองจากข้อเตือนใจของพวกท่าน เข้มแข็งที่สุดของพวกท่านก็คือตอนเช้า พอตกเย็นพวกท่านกลับเหมือนหลังงู ที่คดเคี้ยว ยากที่จะทำให้ตรง โอ้ผู้ที่ร่างกายของพวกเขาคงอยู่ แต่พวกเขาไร้สมอง อารมณ์แปรปวน บรรดาผู้ปกครองของพวกเขาที่ได้รับการทดสอบด้วยกับพวกเขา มิตรสหายของพวกท่านนั้นภักดีต่ออัลเลาะฮฺ โดยที่พวกท่านกลับฝ่าฝืนพระองค์ ขอสาบาน หากฉันปรารถนา ให้มุอาวิยะฮฺทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับฉัน ด้วยพวกท่าน โดยสนนราคาหนึ่งเหรียญทองต่อหนึ่งเหรียญเงินแล้วไซร้ ฉันก็จะให้เขาเอาพวกท่าน 10 คนจากฉัน และให้เขามอบคนของเขาหนึ่งคนให้แก่ฉัน โอ้ ชาวกูฟะฮฺทั้งหลาย ฉันได้รับการทดสอบจากพวกท่าน สองหรือสามประการ คือพวกท่านหนวกโดยที่หูได้ยิน พวกท่านใบ้โดยที่พูดได้ และพวกท่านบอดโดยที่มีตามองเห็น ไม่มีอิสระชนที่เชื่อถือยามที่พบกัน ไม่มีคำว่าพี่น้องของความไว้เนื้อเชื่อใจยามได้รับการทดสอบ มาเถิดพวกท่าน โอ้ ผู้ที่เหมือนอูฐที่ไม่มีคนดูแล ทุกครั้งที่มันรวมฝูงได้ด้านหนึ่ง ก็จะแตกฝูงอีกด้านหนึ่ง " นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ เล่ม 1 หน้า 187 ? 189
จากคำกล่าวของท่านอลีนี้ ผมอยากถามว่า ท่านอลีพูดกับใครที่กูฟะฮฺ ? พูดกับพวกค่อวาริจญฺก็ไม่ใช่ พูดกับพรรคพวกของมุอาวิยะฮฺก็ไม่ใช่ นอกจากพูดกับชาวกูฟะฮฺที่เป็นชีอะฮฺของท่านอลี แต่เป็นที่น่าเสียใจว่า ชีอะฮฺท่านอลีลักษณะนี้
ท่านลองพิจารณาคำกล่าวของท่านอลีให้ดีว่า ?บรรดาประชาชาติทั้งหลาย ต่างหวาดกลัวความอธรรมของบรรดาผู้ปกครองของพวกเขา แต่ฉันกลับกลัวความอธรรมของประชาชนของฉัน ? ผมอยากถามท่านว่า ประชาชนของท่านอลีนั้น คือใคร ? คือชีอะฮฺที่ท่านอลีปกครองอยู่ใช่ไหม ? เพราะท่านอลีกล่าวว่า ?ประชาชนของฉัน? และประชาชนของท่านอลี ที่ท่านกำลังสนทนาด้วยนั้น คือพวกกูฟะฮฺ ไม่ใช่พวกของมุอาวิยะฮฺ ไม่ใช่พวกค่อวาริจญฺ
เราจะสังเกตได้ว่า พวกชีอะฮฺกูฟะฮฺนี้ชอบทรยศหักหลัง ดังนั้นการทรยศหักหลัง ย่อมจะเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากจะเป็นผู้ที่สวามิภักดิ์เสียก่อน ฉะนั้นพวกชีอะฮฺกูฟะฮฺได้ให้การสวามิภักดิ์ ต่อท่านอลี แล้วพวกเขาก็ทรยศหักหลัง ซึ่งเช่นกันกับกรณีท่านซัยยิดินาฮุเซน
ผู้รู้ของชีอะฮ์ ด๊อกเตอร์ อะฮฺมัด รอซิม อันนะฟีส ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์หนึ่งแก่เรา ในเรื่องของการที่ชีอะฮฺได้ทอดทิ้งและสร้างความเดือดร้อนแก่ท่านอลี (อ.) เขากล่าวว่า "สำหรับมาตรฐานของทัพทหารนั้น นัสรฺบินมุซฺาฮิม รายงานว่า ซุบัยฮะฮฺ ลัยละตุลฮะดีร(หัวหน้าทัพคนหนึ่งของท่านอะลี) ได้มองดูกองทัพของมุอาวิยะฮฺอยู่ ในขณะที่ทูตของท่านอิมามอะลีย์(อ.)ได้มาหา(เพื่อรายงานคำสั่งของท่านอะลี) เขากล่าวว่า" ท่านจงเข้ามาหาฉันซิ " แล้วเขาก็กล่าวแก่ทูตของท่านอะลีว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่สมควรสำหรับท่าน ที่จะล้มเลิกจุดยืนของฉัน ในการที่ฉันหวังชัยชนะ(ต่อพวกชาม) ดังนั้นท่านอย่าเร่งรัดฉันเลย ยะซีดบินฮานีอฺ(ทูตท่านอลี) ก็กลับไปหาท่านอลี(อ.) แล้วรายงานข่าวดังกล่าว ดังนั้นเหตุการณ์ดูเหมือนว่าต้องสิ้นสุดที่เรา จนกระทั้งความวุ่นวายยุติลง บรรดาเสียงร้องได้ดังขึ้นจากทางด้าน อัลอัชตัร โดยมีสัญญานบ่งบอกว่าจะได้รับชัยชนะแก่ชาวอิรักและความพ่ายแพ้ที่มีต่อพวกชาม ดังนั้นชาวกูฟะฮฺ ได้กล่าวกับท่านอะลีว่า " ขอสาบาน เราไม่เห็นว่าท่านออกคำสั่งแก่เขา นอกจากการสู้รบ" ท่านอลีจึงกล่าวว่า " พวกท่านไม่เห็นดอกหรือว่า ฉันได้ส่งทูตของฉันไปบอกเขาแล้ว ? ฉันเคยบอกต่อหน้าของพวกท่านอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ ? หรือว่าพวกท่านไม่ได้ยิน ? พวกเขาจึงกล่าวว่า "ท่านจงส่งคนไปยังเขา(ซุบัยหะฮ์) เพื่อให้เขามาหาท่าน และหากไม่เป็นเช่นนั้น ขอสาบาน เราจะปลีกตัวออกจากท่าน " ดังนั้นท่านอลี จึงกล่าวแก่ยะซีด(ทูตของท่าน)ว่า โอ้ ยะซีดเอ๋ย เจ้าจงกล่าวแก่เขาเถิดว่า ท่านจงมุ่งหน้าไป เพราะฟิตนะฮฺได้เกิดขึ้นแล้ว " ยะซีดจึงไปหาเขา(อัชตัร)และบอกรายงาน ดังนั้น อัลอัชตัร ได้กล่าวว่า "เขาได้ชูอัลกุรอ่านหรือ? ยะซีดกล่าวว่า " ครับ" อัลอัชตัร กล่าวว่า ขอสาบาน ท่านไม่เห็นยังชัยชนะดอกหรือ ? ท่านไม่เห็นดอกหรือ ? กับสิ่งที่พวกได้รับ ท่านไม่เห็นดอกหรือ ? ว่าอัลเลาะฮฺกำลังทำอะไรกับเรา ? สมควรที่เราจะละทิ้งตรงนี้และจากมันไปไหม ? ยะซีดกล่าวแก่อัลอัชตัรว่า ท่านปรารถนาที่จะมีชัยที่นี่กระนั้นหรือ ? ทั้งที่ อะมีรุลมุมินีน กำลังอยู่สถานที่ ที่จะถูกส่งตัวไปยังศัตรู เขากล่าวว่า "ฉันไม่ปรารถนาเช่นนั้น" ยะซีด กล่าวว่า ?ท่านจงเข้าใจน่ะว่า พวกเขาได้กล่าวและสาบานกับท่านอลีว่า ? ขอยืนยัน ท่านจะต้องถูกส่งไปยัง อัชตัร ดังนั้น จะให้เขามาหาท่านหรือว่าจะให้เราฆ่าท่าน ความดาบของเรา ที่ได้เคยสังหารอุษมาน...ท่านอะลีกล่าวอีกตอนหนึ่งว่า พึงทราบเถิด เมื่อวันวานฉันคือ หัวหน้าแห่งศรัทธาชน แต่วันนี้ฉันกลับกลายเป็นผู้ถูกออกคำสั่ง และวันวานฉันเป็นผู้สั่งห้าม แต่วันนี้ฉันกลับเป็นผู้ถูกสั่งห้าม ? ดู หนังสือ อะลา คุฏอ อัลฮุเซน หน้า 34-35
อัชชะรีฟ อัรริฏอ กล่าวรายงานจากท่าน อะมีรุลมุมินีน อลีอิบนิอบีฏอลิบ ว่า ท่านอลีกล่าวว่า ? โอ้ ชาวอิรักทั้งหลาย แท้จริงพวกท่านก็เหมือนกับหญิงท้องแก่ เมื่อถึงกำหนดก็คลอด สามีก็ตายจาก เป็นหม้ายระยะเวลานาน ญาติห่าง ๆมารับมรดก ขอสาบาน ฉันมิได้มาหาพวกท่านเพราะสมัครใจ แต่ฉันมาหาพวกท่านเพราะอยากกระตุ้น ขอยืนยัน มีข่าวถึงฉันว่า พวกท่านกล่าวว่า อะลีโกหก ขอพวกท่านจงวิบัต ..."นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ เล่ม หนึ่ง หน้า 118-119
ด้วยเหตุนี้ท่านอลีจึงกล่าวว่า ? ขออัลเลาะฮฺทรงสาปแช่งพวกท่าน ขอสาบาน แท้จริงพวกท่าน ทำให้หัวใจของฉันเต็มไปด้วยน้ำหนอง (เจ็บปวด) พวกท่านทำให้หัวอกฉันบรรจุไปด้วยความขุ่นเคือง ...และพวกท่านทำลายความเห็นของฉันด้วยการฝ่าฝืนและทอดทิ้ง ? นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ เล่ม 1 หน้า 70
เช่นเดียวกับท่าน อิมามฮะซัน(อ.) ท่านชัยคฺชีอะฮฺ อิดรีส อัลฮุซัยนีย์ ได้กล่าวประวัติ หลังจากที่ท่านถูกลอบแทงได้รับบาดเจ็บ ท่านฮาซันได้กล่าวกับพวกชีอะฮฺอิรักว่า
ياأهل العراق انه سخى بنفسي عنكم ثلاث :
قتلكم أبي ، وطعنكم اياي ، وانتهابكم متاعي
ความว่า ? โอ้ชาวอิรัก แท้จริง ด้วยกับตัวฉันนั้น สามประการที่ได้รับการเผื่อแผ่จากพวกท่าน
พวกท่านฆ่าบิดาของฉัน พวกท่านแทงฉัน และพวกท่านแย่งชิงสัมภาระของฉัน ? หนังสือ ละก๊อด ชัยยะอะนี อัลฮุเซน หน้า 283