ผู้เขียน หัวข้อ: หลักฐานของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์ในการรับรองเรื่องอะกีดะฮ์  (อ่าน 3407 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

หลักฐานของอัลอะชาอิเราะฮ์ในการรับรองเรื่องอะกีดะฮ์

ท่านพึงทราบเถิดว่า  บรรดาพื้นฐานของหลักเตาฮีดและหลักอะกีดะฮ์ต่าง ๆ นั้น  ดำรงอยู่บนหลักฐานของ อัลกุรอาน , ซุนนะฮ์ที่ชัดเจน , การลงมติของปวงปราชญ์  และหลักฐานของสติปัญญาที่เที่ยงตรงและเป็นสิ่งที่มาสนับสนุนหลักการของบทบัญญัติศาสนา  และดังกล่าวนี้  ถือว่าเป็นคุณลักษณะพิเศษของศาสนาอิสลามเหนือบรรดาศาสนาอื่น ๆ  เพราะอิสลามจะไม่มีหลักการใดนอกจากสติปัญญามาสนับสนุนให้กับมันได้  ด้วยเหตุนี้  หนังสือประพันธ์ต่าง ๆ ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ในการจัดระดับขึ้นตอนของหลักฐานเพื่อโต้ตอบพวกบิดอะฮ์  พวกนอกลู่  และพวกเบี่ยงเบนนั้น  วางอยู่บนพื้นฐานที่เราได้กล่าวมาแล้ว

รายละเอียดสิ่งดังกล่าว

1.  อัลกุรอาน :  คือรากฐานของบรรดาหลักฐานทั้งหลาย  สารจากอัลเลาะฮ์ได้ถูกรับรองด้วยกับอัลกุรอาน  สามารถนำมาเป็นหลักฐานเพื่อหักล้างหลักการที่ลุ่มหลง  เป็นคำภีร์ที่อยู่เหนือคำภีร์อื่น ๆ ที่ถูกประทานจากฟากฟ้า  และเป็นคำภีร์ที่แยกแยะสัจธรรมออกจากความอธรรม  อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงบัญชาใช้ให้ผู้ที่โต้แย้งกันกลับไปยังพระองค์และร่อซูลของพระองค์ (ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)

พระองค์ทรงตรัสความว่า

فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللّهِ وَالرَّسُولِ

"ดังนั้นหากพวกเจ้าได้โต้แย้งในสิ่งหนึ่ง  พวกเจ้าก็จงหวนกลับไปยังอัลเลาะฮ์และร่อซูล" อันนิซาอฺ 59

การกลับไปหาอัลเลาะฮ์ตาอาลา คือการกลับไปหาอัลกุรอานและการกลับไปหาร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  คือการกลับไปยังบรรดาหะดิษที่ซอฮิห์อีกทั้งได้รับการยืนยันแน่นอนจากท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

2. อัซซุนนะฮ์ :  การอ้างหลักฐานด้วยกับหะดิษเกี่ยวกับเรื่องของหลักอะกีดะฮ์นั้น  ต้องมีเงื่อนไขว่า  ผู้รายงานมีความไว้เนื้อเชื่อใจได้โดยมติเอกฉันท์  หมายถึง  หะดิษต้องไม่ถูกรายงานมาด้วยสายรายงานที่มีการขัดแย้งกันเกี่ยวกับความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของเขา  ซึ่งเป็นทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ จากนักปราชญ์หะดิษและนักปราชญ์ฟิกห์  ดังนั้นจึงถือว่าไม่เพียงพอในการอ้างหลักฐานด้วยกับหะดิษที่มีสายรายงานฏออีฟ หากแม้นว่าจะได้รับการสนับสนุนก็ตาม 

ท่านอัลหาฟิซฺ อิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานีย์ กล่าวว่า "คำว่า الصوت (เสียง) จากสิ่งที่ถูกงดเว้นในการนำมาพาดพึงไปยังอัลเลาะฮ์และต้องการไปยังการตีความ(ตะวีล) เพราะว่าไม่เป็นการเพียงพอเกี่ยวกับเรื่องคำว่าเสียงนี้โดยมีหะดิษที่รายงานจากหนทางที่มีผู้รายงานถูกวิจารณ์ขัดแย้งกัน หากแม้นว่าหะดิษจะได้รับการสนับสนุนก็ตาม"  ฟัตหุลบารีย์ 1/174  หมายถึงหะดิษเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าวไม่สามารถนำมายืนยันในเรื่องของอะกีดะฮ์

ท่านอัลฮาฟิซฺ อัลบุฆดาดีย์ กล่าวไว้ในหนังสืออัลฟะกีฮ์วัลมุตะฟักกิฮ์  ความว่า "ประการที่สอง : ซีฟัตของอัลเลาะฮ์นั้น  จะไม่ถูกรับรอง  ด้วยคำกล่าวของซอฮาบะฮ์หรือตาบิอีน  นอกจาก  ด้วยกับหะดิษที่ซอฮิห์ยังไปท่านนบีโดยมีสายรายงานที่ถูกลงมติของนักหะดิษว่าเชื่อถือได้  ดังนั้น  จึงไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานด้วยกับหะดิษฏออีฟหรือหะดิษที่มีผู้รายงานที่ขัดแย้งกันในการรับรองความเชื่อถือของเขา  ซึ่งหากแม้นว่ามีสายรายงานหนึ่งรายงานมา  แล้วมีหะดิษอื่นมาสนับสนุน  ก็ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้" 

ท่านอัลบัยฮะกีย์ได้ถ่ายทอดคำพูดของท่าน อบีสุไลมาน อัลค๊อฏฏอบีย์ ว่า "แท้จริงซีฟัตของอัลเลาะฮ์จะไม่ได้ถูกรับรองนอกจากด้วยกิตาบุลลอฮ์หรือหะดิษที่มีความซอฮิห์อย่างเด็ดขาด" อัลอัสมาอ์วัสซิฟาต 335

3. อัล-อิจญ์มาอฺ : (มติของปวงปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์) ที่เกี่ยวกับประเด็นของศาสนา  ดังนั้นรากฐานที่ยืนยันว่าบรรดาซีฟัตของอัลเลาะฮ์กอดีม(มีมาแต่เดิมโดยมิมีจุดเริ่มต้น)นั้น  คือการอิจญฺมาอ์ที่เด็ดขาด(จากมติของปวงปราชญ์)  ท่านชัยคุอิสลาม อัซซุบกีย์  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ชัรหฺอะกีดะฮ์อิบนุหาญิบ  ความว่า "ท่านจงรู้เถิด  หลักการของมวลสารและคุณลักษณะที่อุบัติทั้งหมดนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่(มีการเปลี่ยนแปลง) ดังนั้น  โลกทั้งหมด(คือสิ่งที่อื่นจากอัลเลาะฮ์นั้น) คือสิ่งที่ใหม่(คือบังเกิดใหม่และมีการเปลี่ยนแปลง)  และบนหลักการนี้  ก็คือมติ(อิจญ์มาอฺ)แห่งปวงปราชญ์มุสลิมีน  และทุก ๆ ศาสนา  และผู้ใดที่ขัดแย้งกับสิ่งดังกล่าวนี้  ถือว่าเขาเป็นกาเฟร  เนื่องจากเขาขัดแย้งกับมติที่มีความเด็ดขาด"  ดู หนังสือ อิตฮาฟ อัซซาดะฮ์ อัลมุตตะกีน 2/132)

4.  สติปัญญา ศ กล่าวคือ  อัลเลาะฮ์ตาอาลา  ทรงส่งเสริมให้ปวงบ่าวใช้สติปัญญาในการใคร่ครวญถึงอาณาจักรและสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกสร้างเพื่อนำไปสู่การรู้จักผู้สร้าง คือ อัลเลาะฮ์ตาอาลา

พระองค์ทรงตรัสความว่า

أَوَلَمْ يَنظُرُواْ فِي مَلَكُوتِ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ

 "และพวกเขาไม่พิจารณาดอกหรือ ในอาณาจักรฟากฟ้าและแผ่นดิน" อัลอะอฺร๊อฟ 185

การกล่าวว่า "อัลอะชาอิเราะฮ์ใช้สติปัญญามาเป็นหลักฐานในการยืนยัน مُثْبِتٌ (มุษบิต) เรื่องศาสนา  ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดและไม่เข้าใจแนวทางของอัลอะชาอิเราะฮ์อย่างแท้จริง  เพราะความจริงแล้ว  อัลอะชาอิเราะฮ์นำหลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์มาเป็นตัว ยืนยัน مُثْبِتٌ (มุษบิต) เรื่องของศาสนา  โดยใช้สติปัญญามาเป็นตัวสนับสนุน شَاهِدٌ (ชาฮิด) หลักฐานอัลกุรอานและซุนนะฮ์

เช่นหลักฐานที่ยืนยันว่าอัลเลาะฮ์ทรงมี  อัลเลาะฮ์ทรงเอกกะ  เช่น

พระองค์ทรงตรัสว่า

إِنَّنِي أَنَا اللَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا أَنَا

"แท้จริงข้าคืออัลเลาะฮ์  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า" ฏอฮา 14

แต่อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาให้ปวงบ่าวทำการใช้สติปัญญาเพื่อมาพิจารณาและนำมาสนับสนุนหลักอะกีดะฮ์ที่ได้รับการยืนยันจากตัวบทว่าอัลเลาะฮ์ทรงมี  ดังนี้

أَوَلَمْ يَنظُرُواْ فِي مَلَكُوتِ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ

 "และพวกเขาไม่พิจารณาดอกหรือ ในอาณาจักรฟากฟ้าและแผ่นดิน" อัลอะอฺร๊อฟ 185

และสติปัญญาที่อัลอะชาอิเราะฮ์นำมาเป็นหลักการพิจารณาสนับสนุนตัวบทนั้น  คือสติปัญญาที่ใคร่ครวญว่า   อัลเลาะฮ์มิทรงคล้ายเหมือนกับสิ่งใด  ซึ่งหลักการใคร่ครวญของสติปัญญาเช่นนี้  อยู่บนพื้นฐานของอัลกุรอานที่ชัดเจนและเด็ดขาดที่ว่า

لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ البَصِيرُ

"ไม่มีสิ่งใดมาคล้ายเหมือนกับพระองค์  และพระองค์ทรงได้ยินยิ่งและทรงเห็นยิ่ง" อัชชูรอ 11

ดังนั้น  อัลอะชาอิเราะฮ์จะไม่ทำการพูดพิจารณาเกี่ยวกับสิทธิ์ต่าง ๆ ของอัลเลาะฮ์  มะลาอิกะฮ์ และอื่น ๆ จากสิ่งดังกล่าว  โดยยึดเพียงแค่การพิจารณาด้วยสติปัญญา  แต่ทว่าพวกเขาพูดในสิ่งดังกล่าวโดยนำสติปัญญา(ที่อยู่บนพื้นฐานข้างต้น)มาสนับสนุนความถูกต้องของสิ่งที่ได้นำมาจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ดังนั้น  สติปัญญาตามทัศนะของอัละชาอิเราะฮ์คือสิ่งที่มาสนับสนุนหลักการของศาสนามิใช่เป็นพื้นฐานยืนยันในเรื่องของศาสนา  เพราะการใคร่ครวญในแง่ของสติปัญญาที่บริสุทธิ์ปลอดภ้ยนั้น  จะไม่ออกไปจากสิ่งที่ศาสนาได้นำมาและจะไม่ค้านกัน

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 28, 2008, 05:15 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
ชัดเจนขอรับ ญะซากัลลอฮุ อะห์ซะนัลค๊อร

 

GoogleTagged