ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนขอหลักฐานฮาดีษเรื่องบิดอะที่สามารถมาคัดง้างกับฮาดีษดังต่อไปนี้ได้หน่อยครับ  (อ่าน 7973 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ mumin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • เพศ: ชาย
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด

อัสสลามมุอลัยกุมว่าเราะมะตุ้ลลอฮ์

   รบกวนขอหลักฐานฮาดีษซอเฮียะฮ์ที่มีสถานะเทียบเท่าหรือสูงกว่าที่สามารถมาคัดง้างกับฮาดีษศอเฮียะ
ดังต่อไปนี้หน่อยครับ ขอเป็นหลักฐานฮาดีษนะครับ อุลามะฮ์ท่านนั้น ท่านนี้ หรือหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ บอกไว้ว่า
นี่ไม่เอานะครับ เพราะฮาดีษที่แข็งแรง ถ้าจะใช้คัดง้างกันได้ ก็น่าจะเป็นฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากันหรือสูงกว่าครับ



ฮาดีษที่ 1

ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า " كل بدعة ضلالة وكل ضلالة في النار "
ความว่า "ทุกๆ บิดอะฮฺ (อุตริกรรมขึ้นใหม่ในเรื่องศาสนา) คือว่าหลงผิด และทุกๆ ความหลงผิดอยู่ในไฟนรก"

ฮาดีษที่ 2

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ تَرِدُ عَلَىَّ أُمَّتِي الْحَوْضَ وَأَنَا أَذُودُ النَّاسَ عَنْهُ كَمَا يَذُودُ الرَّجُلُ إِبِلَ الرَّجُلِ عَنْ إِبِلِهِ ‏"‏ ‏.‏ قَالُوا يَا نَبِيَّ اللَّهِ أَتَعْرِفُنَا قَالَ ‏"‏ نَعَمْ لَكُمْ سِيمَا لَيْسَتْ لأَحَدٍ غَيْرِكُمْ تَرِدُونَ عَلَىَّ غُرًّا مُحَجَّلِينَ مِنْ آثَارِ الْوُضُوءِ وَلَيُصَدَّنَّ عَنِّي طَائِفَةٌ مِنْكُمْ فَلاَ يَصِلُونَ فَأَقُولُ يَا رَبِّ هَؤُلاَءِ مِنْ أَصْحَابِي فَيُجِيبُنِي مَلَكٌ فَيَقُولُ وَهَلْ تَدْرِي مَا أَحْدَثُوا بَعْدَكَ ‏"

               อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ประชาชาติของฉันจะไปพบฉันที่บ่อน้ำ (ในวันกิยามะห์) และฉันจะคอยกันคนอื่นไม่ให้เข้ามาที่บ่อน้ำนั้น เหมืนดั่งคนที่คอยกันไม่ให้อูฐของคนอื่นมาปะปนกับอูฐของเขา” พวกเขากล่าวว่า โอ้ท่านนบีของอัลลอฮ์ ท่านจะจำพวกเราได้หรือ ? ท่านตอบว่า ได้ซิ เพระพวกเจ้าจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากประชาชาติอื่นๆ  โดยพวกเจ้าจะเข้ามาหาฉันในสภาพที่มีใบหน้าและแขนขาเป็นรัศมีเปล่งประกาย จากร่องรอยของการอาบน้ำละหมาด และจะมีคนกลุ่มหนึ่งในหมู่พวกเจ้าจะถูกกันออกไปจากฉัน พวกเขาไม่สามารถเข้ามาที่ฉันได้ ดังนั้นฉันจึงกล่าวว่า โอ้องค์อภิบาลของฉัน พวกเขาเหล่านั้นคือประชาชาติของฉัน และมะลาอิกะห์จะตอบแก่ฉันโดยกล่าวว่า เจ้ารู้ไหมเขาอุตริสิ่งใดหลังจากเจ้าจากพวกเขามา

                                                                                                               จากมุสลิม/หมวดที่2/บทที่12/ฮะดีษเลขที่ 0480

ฮาดีษที่ 3

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم أَتَى الْمَقْبُرَةَ فَقَالَ ‏"‏ السَّلاَمُ عَلَيْكُمْ دَارَ قَوْمٍ مُؤْمِنِينَ وَإِنَّا إِنْ شَاءَ اللَّهُ بِكُمْ لاَحِقُونَ وَدِدْتُ أَنَّا قَدْ رَأَيْنَا إِخْوَانَنَا ‏"‏ ‏.‏ قَالُوا أَوَلَسْنَا إِخْوَانَكَ يَا رَسُولَ اللَّهِ قَالَ ‏"‏ أَنْتُمْ أَصْحَابِي وَإِخْوَانُنَا الَّذِينَ لَمْ يَأْتُوا بَعْدُ ‏"‏ ‏.‏ فَقَالُوا كَيْفَ تَعْرِفُ مَنْ لَمْ يَأْتِ بَعْدُ مِنْ أُمَّتِكَ يَا رَسُولَ اللَّهِ فَقَالَ ‏"‏ أَرَأَيْتَ لَوْ أَنَّ رَجُلاً لَهُ خَيْلٌ غُرٌّ مُحَجَّلَةٌ بَيْنَ ظَهْرَىْ خَيْلٍ دُهْمٍ بُهْمٍ أَلاَ يَعْرِفُ خَيْلَهُ ‏"‏ ‏.‏ قَالُوا بَلَى يَا رَسُولَ اللَّهِ ‏.‏ قَالَ ‏"‏ فَإِنَّهُمْ يَأْتُونَ غُرًّا مُحَجَّلِينَ مِنَ الْوُضُوءِ وَأَنَا فَرَطُهُمْ عَلَى الْحَوْضِ أَلاَ لَيُذَادَنَّ رِجَالٌ عَنْ حَوْضِي كَمَا يُذَادُ الْبَعِيرُ الضَّالُّ أُنَادِيهِمْ أَلاَ هَلُمَّ ‏.‏ فَيُقَالُ إِنَّهُمْ قَدْ بَدَّلُوا بَعْدَكَ ‏.‏ فَأَقُولُ سُحْقًا سُحْقًا ‏"

                อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ไปที่สุสานแห่งหนี่ง ท่านกล่าวว่า “อัสสลามุอลัยกุ้ม ดาร่อเกาว์มินมุอ์มีนีน ว่าอินนาอินชาอัลลอฮุบิกุ้มลาฮิกูน” ท่านกล่าวต่อไปว่า “ฉันปรารถนาว่า พวกเราจะได้พบกับพี่น้อง (ร่วมศาสนา) ของพวกเรา” เหล่าศอฮาบะห์ กล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ พวกเราไม่ได้เป็นพี่น้อง (ร่วมศาสนา) กับท่านหรือ ?  ท่านตอบว่า “พวกเจ้าเป็นสหายของฉัน  (และเป็นพี่น้องร่วมศาสนากับฉัน) และพี่น้อง (ร่วมศาสนา) ของเรานั้นยังมีบรรดาผู้ซึ่งที่ยังไม่ได้มาปรากฏ (บนโลกนี้)หลังจากนี้อีก” พวกเขาถามว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นประชาชาติของท่านทั้งที่พวกเขายังไม่ได้ปรากฏ (บนโลกนี้)  ท่านตอบว่า “ถ้าหากคนหนึ่งมีม้าที่มีลักษณะหน้าและขาเป็นสีขาวอยู่ท่ามกลางม้าสีดำ เขาจะจำม้าของเขาได้ไหม ? พวกเขาตอบว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ เขาจำม้าของเขาได้แน่นอน ท่านกล่าวอีกว่า “นั่นแหละ พวกเขาจะมา (ในวันกิยามะห์) โดยมีหน้าแขนและขาเป็นรัศมีเปล่งประกาย จาก (ร่องรอย) การอาบน้ำละหมาด และฉันจะไปคอยพวกเขาอยู่ที่บ่อน้ำ (ในวันกิยามะห์) พึงรู้เถิดว่า คนกลุ่มหนึ่งจะถูกกันไม่ให้เข้ามาที่บ่อน้ำ เหมือนดั่งอูฐ (ของผู้อื่น) ที่พลัดหลงจากเจ้าของที่ถูกกันไม่ให้เข้ามาที่แหล่งน้ำของตน (ในวันกิยามะห์นั้น) ขณะที่ฉันคอยเรียกประชาชาติของฉันว่า มาที่นี่ ก็จะมีเสียงกล่าวว่า พวกเขาทำให้เปลี่ยนไป (ทำอุตริในศาสนา) หลังจากท่านจากมา ดังนั้นฉันจึงกล่าวว่า ออกไป, ไปให้ไกลๆ”

                                                                                                                จากมุสลิม/หมวดที่2/บทที่12/ฮะดีษเลขที่ 0482


ยาซากัลลอฮูค็อยร็อน สำหรับผู้ที่ตอบให้ครับ

วิถีชีวิตของมุสลิม...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
อัสสลามมุอลัยกุมว่าเราะมะตุ้ลลอฮ์

   รบกวนขอหลักฐานฮาดีษซอเฮียะฮ์ที่มีสถานะเทียบเท่าหรือสูงกว่าที่สามารถมาคัดง้างกับฮาดีษศอเฮียะ
ดังต่อไปนี้หน่อยครับ ขอเป็นหลักฐานฮาดีษนะครับ อุลามะฮ์ท่านนั้น ท่านนี้ หรือหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ บอกไว้ว่า
นี่ไม่เอานะครับ เพราะฮาดีษที่แข็งแรง ถ้าจะใช้คัดง้างกันได้ ก็น่าจะเป็นฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากันหรือสูงกว่าครับ

وعليكم السلام ورحمة الله وبركاته

คำถามยังไม่แจ่มแจ้งนะครับ คือผมอยากทราบว่า ฮะดิษทั้ง 3 บท ที่คุณนำเสนอมานั้น อยากให้คุณเน้นหัวเรื่องมาด้วยนะครับ และคำว่า "คัดง้าง" เชิงวิชาฮะดิษ มันหมายถึงอะไรครับ ? หรือว่า อยู่ในหลักการยกเลิกฮะดิษ(นะซัก) หรืออยู่ในหลักการทอนความหมายฮะดิษ(ตัคซีซ) หรืออยู่ในหลักการจำกัดเนื้อหาของฮะดิษ (มุก๊อยยัด) คุณโปรดจำกัดความมาด้วยนะครับ

คุณบอกว่า "อุลามะฮ์ท่านนั้น ท่านนี้ หนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ บอกไว้ว่านี่ไม่เอานะครับ" ผมอยากรู้จริง ๆ ครับว่า ฮะดิษที่คุณบอกว่าซอฮิห์ ก็คุณก็อ้างมาจากหนังสือเล่มนั้น เล่มนี้ และคุณยกฮะดิษมานั้น คุณมั่นใจแค่ใหนว่าจะสามารถเข้าใจฮะดิษได้อย่างอย่างถ่องแท้ หรือว่าคุณต้องอาศัยนักปราชญ์ฮะดิษที่ทำการอธิบาย และฮะดิษที่ซอฮิห์กว่าและซอฮิห์น้อยกว่านั้น คุณเอาอะไรมาเป็นมาตรฐาน เอาความรู้ในหลักฮะดิษของคุณมาตัดสินเอง หรือว่าเอาคำตัดสินของอุลามาอ์

ดังนั้น ได้โปรดชี้แจงคำถามและวางเขื่อนไขในเชิงวิชาการด้วยครับ

والسلام

al-azhary
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ mumin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • เพศ: ชาย
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
ผมถามปัญหาศาสนาใคร ไม่เคยเจอโต๊ะครูคนไหนตำหนิคนถามเเบบคุณเลย คุณอัชฮารี
ถ้าคุณจะถามกลับมาเพื่อให้เข้าใจคำถามมากขึ้น ก็ทำได้ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรตำหนิผู้ถาม
เพราะคุณต้องเข้าใจว่าผู้ถามมีความรู้น้อยกว่าคุณจึงถาม ไม่งั้นจะมาถามทำไม?

คือผมอ่านบทความเรื่องบิดอะฮฺฮาซานะฮ์จนจบทั้ง 6 หน้า แต่ไม่เจอเลยสักบทที่กล่าวโดย
ชัดเจนโดยท่านรอซู้ล ซ.ล. ที่เป็นฮาดีษศอเฮียะ เกี่ยวกับว่าบิดอะนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภท
โดยกล่าวไว้ชัดเจน อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ทันที ไม่ต้องตีความ คือนบีบอกเลยว่ามีบิดอะฮาซานะ
กับบิดอะดอลาละฮ์ ที่มีอยู่ก็มีเพียงทัศนะของอุลามาต่างๆ เท่านั้น ที่มีทัศนะความคิดเห็นแตกต่างกันไป

ซึ่งถ้าคุณอยากจะอธิบายกับทัศนะของผู้รู้ หรืออุลามะฮ์ต่างๆ ก็อธิบายได้ แต่มันก็ต้องหลังจาก
ที่มีตัวบทหลักฐานของท่านนบีมาตั้งเป็นหลักให้อธิบายเสียก่อน แล้วค่อยใช้ทัศนะอธิบาย
ไม่ใช่ไม่มีฮาดีษที่กล่าวโดยชัดเจนเลย แต่ลากฮาดีษบทนู้นบทนี้มาซึ่งไม่กล่าวชัดเจนตรงๆ ว่าบิดอะ
มีสองประเภท หรือจะกี่ประเภทก็แล้วแต่ หรือลากทัศนะของอุลามาคนนู้น คนนี้มาเกี่ยวกับ
เรื่องนั้นเรื่องนี้ ซึ่งผมอ่านแล้ว มันเหมือนชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบาย อ่านแล้วไม่มีความมั่นใจเลย
ว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนและเเข็งแรงจากท่านนบีรับรองไว้ เกี่ยวกับทัศนะเรื่องบิดอะมีหลายประเภท

ส่วนที่บอกว่าฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากันหรือสูงกว่าหมายถึง ผมยกฮาดีษมาจากซอเฮียะมุสลิม
ฮาดีษทั้งสามบทที่ผมยกมาก็มาจากหนังสือซอเฮียะมุสลิมโดยตรง โดยไม่ได้อ้างมาจาก
หนังสือของบรรดาอุลามะฮ์อีกที ซึ่งถ้าฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากัน ก็จะมาจากซอเฮียะมุสลิมเหมือนกัน
 หรือที่แข็งแรงกว่าก็ควรจะมาจากซอเฮียะบุคอรี ที่ถือว่าดีกว่าซอเฮียะมุสลิม

สำหรับประเด็นเรื่องฮาดีษที่จะนำมาคัดง้างนั้น ก็มีที่มาจากการที่ผมกำลังเปรียบเทียบระหว่าง
ฮาดีษของทางฝ่ายคณะเก่าอัลอะชาอิเราะฮ์ยกมากับฮาดีษของทางคณะใหม่ที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์ยกมา
ว่าฮาดีษตัวบทหลักฐานของทางไหนที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ และสมควรยึดถือเพื่อความปลอดภัย
มากกว่ากัน ชีวิตผม ผมก็ต้องรับผิดชอบเอง ต้องศึกษาเปรียบเทียบเอง ใช้ปัญญาตัดสินเอง
โดยถ้าจะให้ถูกต้อง ก็ต้องได้ฮาดีษที่มาจากทั้งสองฝ่ายเปรียบเทียบกัน ผมจะได้มีข้อมูลในการ
ตัดสินใจชีวิตของผมได้ แล้วสอนลูก สอนภรรยา หรือบอกเผยแพร่ต่อๆ กันไปได้ต่อไป

ดังนั้น ผมจึงต้องการฮาดีษที่เป็นตัวบทซึ่งเปรียบเสมือนหัวข้อหลักก่อน ซึ่งความเข้าใจ หรือทัศนะ
ความคิดเห็นอุลามาอฺก็ไว้ว่ากันอีกทีหลังจากได้ตัวบทหลักฐานเป็นหัวข้อแล้ว มันคงจะแปลกน่าดู
ที่มาศึกษาทัศนะเกี่ยวกับฮาดีษก่อน โดยยังไม่มีฮาดีษมาให้ ว่ามันฮาดีษไหนกันที่กำลังแสดงทัศนะกันอยู่

ถ้าคุณอัชฮารีหรือใครที่มีความรู้มากกว่าจะตอบให้ผม ก็ขอให้ตอบเลยตรงๆ กรุณาอย่ามามัวเสีย
เวลาในการตำหนิคำในการเขียนของผม ที่มันก็สื่อสารไม่ค่อยจะดีนักอยู่แล้ว ให้ตอบมาเลยเนื้อๆ
ไม่ต้องน้ำให้มันเสียเวลา มีก็ยกมาให้ ไม่มีก็บอกตรงๆ ผมจะได้ตัดสินใจซะทีว่าจะไปทางไหน
และยาซากัลลอฮูค็อยร็อนล่วงหน้าสำหรับผู้ที่ตอบให้ผม เพราะท่านได้ช่วยพี่น้องของท่านในการ
ตัดสินใจเลือกทางเดินที่ถูกต้อง และมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า

ส่วนคุณอัชฮารีเป็นผู้ตอบคำถามในเว็บแห่งนี้ ก็ขอรบกวนตอบคำถามกระทู้นี้ให้ด้วย
"ขอทราบความคิดเห็นของอัชฮารีย์เรื่องการละหมาดอะรอเวาะห์ในไทยหน่อย "
เพราะว่าเป็นคำถามที่ถามไปก่อน ซึ่งยังไม่ได้คำตอบ  แต่กระทู้นี้ถามตามหลังมาเป็นวันแต่กลับได้ก่อน
ยาซากัลลอฮูค็อยร็อน
วิถีชีวิตของมุสลิม...

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ผมถามปัญหาศาสนาใคร ไม่เคยเจอโต๊ะครูคนไหนตำหนิคนถามเเบบคุณเลย คุณอัชฮารี
ถ้าคุณจะถามกลับมาเพื่อให้เข้าใจคำถามมากขึ้น ก็ทำได้ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรตำหนิผู้ถาม
เพราะคุณต้องเข้าใจว่าผู้ถามมีความรู้น้อยกว่าคุณจึงถาม ไม่งั้นจะมาถามทำไม?

มะอัฟด้วยครับ  หากคำพูดของผม  ดูเหมือนว่าจะไปตำหนิคุณ  โปรดอ่านกระทู้นี้สักนิดครับ : มารยาทในการถาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 18, 2008, 09:50 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผมถามปัญหาศาสนาใคร ไม่เคยเจอโต๊ะครูคนไหนตำหนิคนถามเเบบคุณเลย คุณอัชฮารี
ถ้าคุณจะถามกลับมาเพื่อให้เข้าใจคำถามมากขึ้น ก็ทำได้ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรตำหนิผู้ถาม
เพราะคุณต้องเข้าใจว่าผู้ถามมีความรู้น้อยกว่าคุณจึงถาม ไม่งั้นจะมาถามทำไม?

ตำหนิตรงใหน ไม่เห็นมี  เขาแค่ขอความกระจ่าง แต่ไม่โดนใจคุณ

ซึ่งถ้าคุณอยากจะอธิบายกับทัศนะของผู้รู้ หรืออุลามะฮ์ต่างๆ ก็อธิบายได้ แต่มันก็ต้องหลังจาก
ที่มีตัวบทหลักฐานของท่านนบีมาตั้งเป็นหลักให้อธิบายเสียก่อน แล้วค่อยใช้ทัศนะอธิบาย

อะไรกัน  ฮะดิษแต่ละบทเราก็ต้องเข้าใจกันก่อน  ซึ่งอุลามาอ์ฮะดิษเขาเข้าใจมากกว่าเรา  อยู่ดี ๆ ก็มาบังคับไม่ให้เรายึดความเข้าใจฮะดิษที่มาจากอุลามาอ์ฮะดิษที่มีต่อฮะดิษนั้น ๆ

ไม่ใช่ไม่มีฮาดีษที่กล่าวโดยชัดเจนเลย แต่ลากฮาดีษบทนู้นบทนี้มาซึ่งไม่กล่าวชัดเจนตรงๆ ว่าบิดอะ
มีสองประเภท หรือจะกี่ประเภทก็แล้วแต่ หรือลากทัศนะของอุลามาคนนู้น คนนี้มาเกี่ยวกับ
เรื่องนั้นเรื่องนี้ ซึ่งผมอ่านแล้ว มันเหมือนชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบาย อ่านแล้วไม่มีความมั่นใจเลย
ว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนและเเข็งแรงจากท่านนบีรับรองไว้ เกี่ยวกับทัศนะเรื่องบิดอะมีหลายประเภท

แล้วบิดอะฮ์สองประเภท คือบิดอะฮ์ศาสนา และบิดอะฮ์ดุนยา  ที่วะฮาบีย์ยึดอยู่นั้น  นั้น  ไปลากจากฮาดิษใหนอีกล่ะ  ใหนบอกว่ามีบิดอะฮ์เดียว

ส่วนที่บอกว่าฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากันหรือสูงกว่าหมายถึง ผมยกฮาดีษมาจากซอเฮียะมุสลิม
ฮาดีษทั้งสามบทที่ผมยกมาก็มาจากหนังสือซอเฮียะมุสลิมโดยตรง โดยไม่ได้อ้างมาจาก
หนังสือของบรรดาอุลามะฮ์อีกที ซึ่งถ้าฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากัน ก็จะมาจากซอเฮียะมุสลิมเหมือนกัน
หรือที่แข็งแรงกว่าก็ควรจะมาจากซอเฮียะบุคอรี ที่ถือว่าดีกว่าซอเฮียะมุสลิม

คุณเอาหลักอะไรมาพูดเกี่ยวกับฮะดิษแข็งแรงเท่ากันหรือไม่เท่านั้น  บางทีฮะดิษแข็งแรงหรือชัดเจนในด้านสายรายงาน  แต่ไม่ชัดเจนในข้อบ่งชี้  และบางทีข้อบ่งชี้ของฮะดิษนั้น ไม่เด็ดขาด  แล้วคุณเอาหลักวิชาพื้นฐานใดมาเข้าใจฮะดิษ  คุณเคยเรียนวิชาอุซูลุลฟิกห์เกี่ยวกับ  การนะซัก  การตักซีซ หรือเปล่า 

สำหรับประเด็นเรื่องฮาดีษที่จะนำมาคัดง้างนั้น ก็มีที่มาจากการที่ผมกำลังเปรียบเทียบระหว่าง
ฮาดีษของทางฝ่ายคณะเก่าอัลอะชาอิเราะฮ์ยกมากับฮาดีษของทางคณะใหม่ที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์ยกมา
ว่าฮาดีษตัวบทหลักฐานของทางไหนที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ

แล้วคุณรวมฮะดิษเป็นหรือเปล่า  ซึ่งการรวมฮะดิษย่อมดีเลิศกว่าการให้น้ำหนักฮะดิษไม่ใช่หรือ  คุณเคยเรียนหรือเปล่า

ดังนั้น ผมจึงต้องการฮาดีษที่เป็นตัวบทซึ่งเปรียบเสมือนหัวข้อหลักก่อน ซึ่งความเข้าใจ หรือทัศนะ
ความคิดเห็นอุลามาอฺก็ไว้ว่ากันอีกทีหลังจากได้ตัวบทหลักฐานเป็นหัวข้อแล้ว มันคงจะแปลกน่าดู
ที่มาศึกษาทัศนะเกี่ยวกับฮาดีษก่อน โดยยังไม่มีฮาดีษมาให้ ว่ามันฮาดีษไหนกันที่กำลังแสดงทัศนะกันอยู่

คุณน่ะซิแปลก ที่แยกระหว่างตัวฮะดิษกับความเข้าใจของตัวบทฮะดิษ  ซึ่งฮะดิษบท ๆ หนึ่งต้องมีความเข้าใจในฮะดิษเสียก่อน  แล้วคุณเข้าใจแบบฉบับของตนเองหรือแบบฉบับเขานักปราชญ์ฮะดิษ

ถ้าคุณอัชฮารีหรือใครที่มีความรู้มากกว่าจะตอบให้ผม ก็ขอให้ตอบเลยตรงๆ กรุณาอย่ามามัวเสีย
เวลาในการตำหนิคำในการเขียนของผม ที่มันก็สื่อสารไม่ค่อยจะดีนักอยู่แล้ว ให้ตอบมาเลยเนื้อๆ
ไม่ต้องน้ำให้มันเสียเวลา มีก็ยกมาให้ ไม่มีก็บอกตรงๆ ผมจะได้ตัดสินใจซะทีว่าจะไปทางไหน
และยาซากัลลอฮูค็อยร็อนล่วงหน้าสำหรับผู้ที่ตอบให้ผม เพราะท่านได้ช่วยพี่น้องของท่านในการ
ตัดสินใจเลือกทางเดินที่ถูกต้อง และมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า

นี่ถ้าคุณถามและต้องการคำตอบ จากท่านอิมามอันนะวาวีย์ผู้อธิบายซอฮิห์มุสลิมและท่านอิบนุฮะญัรผู้อธิบายซอฮิห์บุคอรี  แล้วท่านอิมามทั้งสองจะตอบคุณอย่างไรเนี่ย?  หรือคำตอบของท่านอิมามทั้งสองได้อธิบายไว้ใหนการอธิบายซอฮิห์มุสลิมและซอฮฺห์บุคอรีแล้ว 

ส่วนคุณอัชฮารีเป็นผู้ตอบคำถามในเว็บแห่งนี้ ก็ขอรบกวนตอบคำถามกระทู้นี้ให้ด้วย
"ขอทราบความคิดเห็นของอัชฮารีย์เรื่องการละหมาดอะรอเวาะห์ในไทยหน่อย "
เพราะว่าเป็นคำถามที่ถามไปก่อน ซึ่งยังไม่ได้คำตอบ  แต่กระทู้นี้ถามตามหลังมาเป็นวันแต่กลับได้ก่อน
ยาซากัลลอฮูค็อยร็อน

ผมเห็นในกระทู้นี้ อัลอัซฮะรีย์  ยังไม่ได้ตอบคุณเลย  เขาเพียงแค่ขอความกระจ่างในคำตอบของคุณ  และกระทู้เรื่องละหมาดตะรอวิห์ในไทยนั้น  เขายังไม่ได้ตอบคุณ  เพราะพี่น้องทั้งหลายที่เขาตั้งคำถามมามากมายก่อนคุณนั้น  อัลอัซฮะรีย์เขายังไม่ตอบให้พวกเขาเลย   oh:   
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ الأزاهرة

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ท่านพี่น้องและคุณ mumin ช่วยตอบฉันหน่อยน่ะ  คืออย่างนี้

ถ้าคุณอัชฮารีหรือใครที่มีความรู้มากกว่าจะตอบให้ผม ก็ขอให้ตอบเลยตรงๆ กรุณาอย่ามามัวเสีย
เวลาในการตำหนิคำในการเขียนของผม ที่มันก็สื่อสารไม่ค่อยจะดีนักอยู่แล้ว ให้ตอบมาเลยเนื้อๆ
ไม่ต้องน้ำให้มันเสียเวลา มีก็ยกมาให้ ไม่มีก็บอกตรงๆ ผมจะได้ตัดสินใจซะทีว่าจะไปทางไหน
และยาซากัลลอฮูค็อยร็อนล่วงหน้าสำหรับผู้ที่ตอบให้ผม เพราะท่านได้ช่วยพี่น้องของท่านในการ
ตัดสินใจเลือกทางเดินที่ถูกต้อง และมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า

นี่ถ้าสมมุติว่าคุณ mumin อยู่ร่วมสมัยของท่านอิมามอันนะวาวีย์และท่านอิมามอิบนุฮะญัร  ทั้งสองได้มานั่งต่อหน้าคุณ  แล้วคุณ  mumin ถามและต้องการคำ

ตอบ จากท่านอิมามอันนะวาวีย์ผู้อธิบายซอฮิห์มุสลิมและท่านอิบนุฮะญัรผู้อธิบายซอฮิห์บุคอรี  โดยคุณถามท่านอิมามทั้งสองว่า  จากฮะดิษบุคอรีและมุสลิมดัง

กล่าว  ผมขอให้ท่านทั้งสองตอบตรง ๆ  เลย  ให้ตอบแบบเนื้อ ๆ  ไม่ต้องมีน้ำให้เสียเวลา  หากมีก็ยกมา  หากไม่มีก็บอกตรง ๆ  ฉันจะได้ตัดสินใจว่าจะไปทางใหน  natural:


ท่านพี่น้องทั้งหลายครับ  แล้วท่านอิมามทั้งสองจะตอบคุณ  mumin  อย่างไรเนี่ย?  หรือคำตอบของท่านอิมามทั้งสองได้อธิบายไว้ใหนซอฮิห์มุสลิมและซอฮฺห์

บุคอรีตามหลักวิชาฮะดิษแล้ว   hehe 
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสความว่า "ฟิรอูนกล่าวว่า ข้ามิได้ให้พวกท่านออกความเห็นนอกจากสิ่งที่ฉันมีความเห็นเท่านั้น และข้าจะไม่ชี้นำพวกเจ้านอกจากชี้ลู่ทางอันถูกต้องเท่านั้น"  ฆอฟิร 29  ดังนั้น ฟิรอูนจึงเป็นแบบฉบับผู้ที่ชอบกล่าวและเชื่อว่า "ข้าเท่านั้นที่ถูกและข้าเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ทางนำ"

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ซุบฮานัลลอฮฺ...
ก็แค่ฮะดิส ที่คุณยกมาจาก มุสลิมก็ดี หรือจาก  บุคอรีก็ดี
พวกถ้าเหล่านั้น ก็เป็น อุลามะ ครับ มิได้เป็น นบี
ดังนั้น ถ้าคุณจะถามฮะดิส คุณก็ต้องตรวจสอบฮะดิสเอง บันทึกด้วยตัวคุณเอง

อีกทั้งอุลามะที่เข้าใจฮะดิสต่างๆ เหล่านั้นเราไม่เอาเขา แล้วคุณมีปัญญามากแค่ไหน จะวินิจฉัยฮะดิสเองว่าอันไหนหนักกว่า หรือมีสายรายงานอย่างไร ?
คุณกล่าวว่าชีวิตคุณ คุณเลยต้องศึกษาเปรียบเทียบเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่คนระดับคุณจะศึกษาแล้วเปรียบเทียบได้ดีกว่า บุคคลยุคก่อนๆ ที่เขาได้พบเจอกับนบี
บุคคลเหล่านั้น พบเห็นนบี ไม่ก็พบเห็นซอฮาบะ ไม่ก็พบเห็นลูกหลานซอฮาบะ หรือที่เราเรียกว่า ซุนนะ ซอฮาบะ ตาบีอีน ตาบีอิตตาบีอีน

มันเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลอย่างคุณจะนำตัวบทฮะดิส มากล่าวเองวินิจฉัยเอง และเปรียบเทียบเอง
เพราะคุณก็ยังใช้ฮะดิส ตามอุลามะอย่าง บุคอรี มุสลิม นะซะอี อะหมัด อบูดาวุด ตริมีซี เป็นต้น

อีกทั้งหากคุณจะทำเช่นนั้นจริงๆ คุณก็ต้องไปหาฮะดิสเองทั้งหมด อัลกรุอานเองทั้งหมด ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
เช่น การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ต่อร่อซุ้ล ต่อมะลาอิกะ ต่อบรรดาคัมภีร์ ต่อสภาวะการกำหนดของพระองค์ ต่อวันสิ้นโลก และไหนจะเรื่อง ละหมาด ถือศีลอด ซะกาต ฮัจย์ อีก
แล้วยังไม่รวมไปถึง เรื่องต่างๆ อาทิ มรดก นะยิส มารยาท น้ำสะอาดที่ไว้ชำระล้างร่างกาย การอาบน้ำละหมาด การอาบน้ำยกฮะดัส การอ่านอัลกรุอาน
เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เรานำมันมาจากบรรดาอุลามะที่ศึกษามันมาอย่างถ่องแท้แล้วทั้งนั้น

คุณไม่เรียนรู้จากผู้รู้ อุลามะ ผมถามหน่อย คุณจะรู้จากไหน ? อัลกรุอานอย่างเดียวใช่ไหม .. วะฮี คงไม่ใช่ จากนบี ก็คงไม่ใช่อีก
แล้วอย่าบอกว่าเอาจาก ฮะดิสบุคอรี และมุสลิม เพราะนั่นก็เป็น อุลามะ เหมือนกัน



หากคุณเข้าใจแล้ว ผมก็จะนำเสนอเรื่องบิดอะ ให้ได้ทราบบ้าง.. เพราะว่า ฮะดิส อะไรที่ผมจะยกก็มาจากอุลามะเหมือนกัน ผมตรวจสอบเองไม่เป็นครับ
อินชาอัลลอฮฺ
วัสลาม...

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
อนึ่ง อัลกรุอาน รวมทั้ง ฮะดิส  ที่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับ บิดอะนั้น มีมากมายเป็น สิบๆ บท ไม่ใช่มีแค่สามบทอย่างที่คุณทราบ

ผมขอยกฮะดิส ที่อีหม่ามซาฟีอีได้ใช้เป็นหลักฐาน ซัก 3 บท ก็พอ ( เท่ากันกับของคุณ จริงๆ แล้วมีอีกมาก )

ฮะดิสที่ 1 ซัรมุสลิม เล่มที่ 12 หน้า 16

ใครที่ประดิษขึ้นในกิจการของเรา ( กิจการทางศาสนา ) โดยที่ไม่มีในศาสนา การกระทำนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ

ฮะดิสที่ 2 ซัรมุสลิม เล่มที่ 17 หน้า 266

ใครทำแบบฉบับที่ดีในอิสลาม แล้วคนรุ่นหลังได้ทำตามแบบฉบับนั้น เขาจะได้รับผลบุญเหมือนกับผลบุญของผู้ที่กระทำ โดยไม่ลดหย่อนจากผลบุญของพวกเขา(ผู้กระทำ)เลยแม้แต่น้อย และใครทำแบบฉบับที่เลวในอิสลาม แล้วคนรุ่นหลังได้ทำตามแบบฉบับนั้น เขาจะได้รับโทษเหมือนกับโทษของผู้กระทำตาม ไม่ลดหย่อนไปกว่าโทษของพวกเขา(ผู้กระทำตาม)เลยแม้แต่น้อย

ฮะดิสที่ 3 ซอเหียะบุคอรี เล่มที่ 1 หน้า 242

จากอับดุรเราะมาน บินอัลกอรี กล่าวว่า ในคืนวันหนึ่งฉันได้ไปยังมัสยิดของท่านนบีที่มะดีนะ พร้อมกับอุมัร บิน อัลคอฎฎ๊อบ ได้เห็นปวงชนทำการละหมาดตะรอเวียะกันกระจัดกระจาย(ไม่พร้อมกัน) บ้างก็ทำละหมาดตามลำพัง และบ้างก็ละหมาดในรูปแบบญามาอะ อุมัรกล่าวว่า ฉันเห็นว่าหากฉันรวมพวกเขาให้ตามอีหม่ามเพียงคนเดียว แน่แท้ย่อมดีกว่า แล้วอุมัรได้ทำให้เกิดการละหมาดพร้อมๆ กัน โดยให้อุบั๊ย บิน กะบิน เป็นอีหม่าม คืนหลังจากนั้นเราได้ไปที่มัสยิดอีก ซึ่งเราพบว่าปวงชนได้ทำการละหมาดพร้อมๆ กัน อุมัรกล่าวว่า นี่คือบิดอะที่ดี

ดังนั้น บิดอะนั้น คือการกระทำที่ไม่มีตัวอย่างมาก่อน ตาม ฮะดิสบทที่ 1
โดยเราจะเห็นว่า การละหมาดตอระเวียะนั้นมีอยู่ในกิจการศาสนาแล้ว เป็นเรื่องราวของศาสนา แต่การจับรวมกันนั้นไม่มีในสมัยร่อซู้ล
จาก ฮะดิสที่ 2 และ 3 นี้จึงเป็นที่มาของคำว่า บิดอะฮะซานะ หรือ อุตริกรรมที่ดี

สรุป บิดอะ คือ การกระทำที่ไม่มีแบบอย่างในสมัยนบี

ซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 185
“อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้พวกเจ้ามีความสะดวกและมิทรงประสงค์ให้พวกเจ้าประสบความลำบาก”

บันทึกของอิมามบุคอรียฺ รายงานโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า
“เมื่อท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกเสนอให้เลือกระหว่างสองประการ ก็ย่อมจะเลือกสิ่งที่สะดวกกว่า เว้นแต่(สิ่งที่สะดวกกว่า)จะเป็นความผิด หากเป็นความผิดก็จะเป็นผู้ห่างไกลที่สุดจากมัน”



วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

ออฟไลน์ mumin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • เพศ: ชาย
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
เฮ้ออออ.... ทำไมจะหาหลักฐานของทางฝั่งนี้มันช่างยากเย็นเสียจริงๆ
ผมดูแล้วคนอื่นๆ ที่เข้ามาตอบนอกจากคุณอัชฮารีย์นี่ไม่ค่อยจะเข้าใจที่
ผมสื่อไปเท่าไหร่ ตีความกันไปต่างๆ นาๆ แบบมีอคติกับผม ผมถามนี่
ผมก็ถามตรงๆ ตามที่ผมสงสัย แต่กลับมามองผมต่างๆ นาๆ วิพากวิจารญ์
กันวุ่นวายไปซะหมด ผมเห็นอย่างนี้แล้วเข้าใจเลย ว่าทำไมเว็บถามตอบ
ของอัลอะชาอิเราะฮ์ถึงสู้เว็บที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นวะฮาบีย์ไม่ได้ เว็บที่ถูก
กล่าวหาว่าเป็นวะฮาบีย์ถามไปปุ้บ ถ้าตอบเค้าก็ตอบเลย ถ้าไม่ตอบก็คือ
ไม่ตอบไปเลย ไม่มีการมานั่งวิพากวิจารณ์คำถามของผู้ถาม ผมเจออย่างนี้
แล้วเหนื่อยใจจริงๆ

คุณ elharm ผมยังไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาทัศนะของอุลามาฮฺเลย แต่ที่ผมต้อง
การน่ะ มันเป็นเสต็ป ขั้นแรกน่ะมันต้องขอดูหลักฐานฮาดีษจากท่านนบีก่อน
แล้วขั้นที่สอง ผมจึงจะขอทัศนะของอุลามะฮ์เกี่ยวกับฮาดีษดังกล่าวนี้ต่อไป
แต่คุณมาเข้าใจผมว่าผมไม่เอาทัศนะของนักวิชาการเลย? ผมว่าลดอคติลงซะก่อน
แล้วไปอ่านที่ผมโพสต์มาใหม่จะดีกว่าครับ ไปจับประเด็นที่ผมเขียนไว้ให้ดีๆ
แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ถ้าคิดจะวิจารณ์ผม ผมถามหน่อย คุณจะมาเอาอะไรกับ
คนที่รู้น้อยกว่าคุณไม่ทราบ? เวลาลูกศิษย์ลูกหาของคุณถามคุณมานี่ คุณไม่ตั้งใจฟัง
ให้ดีๆ อย่างเปิดกว้างเป็นกลาง แต่กลับมาวิจารย์ข้อเขียนคำถามของเค้าแทนใช่มั้ยครับ?
คนที่จะเป็นผู้รู้ที่น่านับถือน่ะนะครับ คุณ elharm ถึงแม้เค้าจะรู้ว่าคนที่ถามนั้น
คิดจะลองภูมิเขา หรือจะอย่างไรกับเขาก็ตาม เขาก็ยังตอบไปตามมารยาทอันดีงาม
กับผู้ถามใช่มั้ยครับ? เขาคิดอย่างไรกับผู้ถาม ผมว่าผู้รู้ที่น่านับถือเค้าไม่จำเป็น
จะต้องพูดหรือวิจารณ์ออกมาให้ผู้ถามได้ยินหรอกครับ ผมว่าเค้าจะตอบให้ไปโดยมารยาท
อันดีงามสมกับเป็นผู้รู้ดีกว่า คุณเอาแต่ตำหนิคนถามคำถาม คงยากครับที่เค้า
จะเปิดใจกับคุณ แล้วมีครั้งไหนที่นบีทำเเบบคุณบ้างครับ เวลาท่านถูกถาม?
นบีมูฮัมหมัดของเราสอนให้เราตำหนิผู้ถามแบบนี้หรือมานั่งคอมเมนต์เจาะ
ทีละบรรทัดกันอย่างนี้เลยเหรอครับ? ซุนนะฮ์สทิวเดนท์จริงๆ ครับอย่างนี้

ส่วนคุณ Goddut ผมบอกไว้ที่บรรทัดไหนเหรอครับ ว่าฮาดีษเกี่ยวกับบิดอะนั้น
มีอยู่แค่ 3 บทเท่าที่ผมยกมา? ผมอ่านดูแล้ว คุณก็ยังไม่เข้าใจคำถามกับคำอธิบาย
ของผม แต่ก็นะ จะไปโทษคุณก็ไม่ได้ ผมอาจจะสื่อไม่ดีเองก็ได้ คนเรามันก็ต้อง
มองตรวจสอบตัวเองไว้ก่อน แต่อย่างน้อยคุณก็ยังเข้าใจกว่าคุณ elharm หน่อยนึง
ตรงที่คุณยกฮาดีษมาเลยตามที่ผมต้องการทราบ เพียงแต่ยังไม่ตรงเป๊ะๆ นัก
เพราะที่ผมต้องการฮาดีษนั้น คือฮาดีษที่ออกจากปากท่านนบีโดยตรงว่าท่าน
กล่าวทำนองว่าบิดอะนั้นเเบ่งออกเป็นหลายประเภท ทำนองนี้เป็นต้น
เพราะผมได้เห็นแต่เพียงฮะดีษที่ท่านนบีบอกว่า ทุกๆ บิดอะนั้นหลงผิด เท่านั้น
แต่ไม่เคยได้ยินฮาดีษที่ท่านนบีบอกตรงๆ เลยว่าบิดอะมีหลายประเภท จะมี
ก็เพียงแต่ทัศนะของอุลามาฮ์เท่านั้น ซึ่งทัศนะของอุลามาฮ์ซึ่งเป็นมนุษย์ ก็ย่อม
จะมีผิดมีถูก ผมจึงอยากได้ที่เป็นฮาดีษสายรายงานศอเฮียะที่ท่านนบีกล่าวชัดเจนเลย
ว่ามีบิดอะฮาซานะฮ์ ผมจะได้นำไปเทียบเคียงกับฮาดีษของฝ่ายถูกกล่าวหาว่า
เป็นวะฮาบีย์ได้ จะได้ไปแย้งกับเค้าได้เต็มๆ ปากหน่อย ว่าฮาดีษหลักฐานแข็งแรง
ก็มีเหมือนกัน ที่บอกว่าบิดอะฮาซานะฮ์มีจริง

ส่วนเรื่องตรวจสอบนี่ คุณ Goddut ก็ยังอ่านแล้วไม่เข้าใจ คุณคิดว่าผมจะไปตรวจสอบ
ทางต้นสายวิชาการ คุณ Goddut ครับ ที่บอกว่าตรวจสอบนี่คือ การที่ผมนำเอา
ฮาดีษทั้งของฝ่ายอัลอะชาอิเราะฮ์กับฮาดีษฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นวะฮาบีย์
มาเทียบกัน ว่าทัศนะน้ำหนักทางไหนน่าเชื่อถือกว่า นั่นเป็นสิ่งที่ผมจะนำไป
ตัดสินใจในการดำเนินชีวิตของผมและครอบครัวผมครับ ว่าจะดำเนินไปตามเส้นทางไหนของ
สองเส้นทางนี้ เพราะว่าทางฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นวะฮาบีย์นั้น เค้ายกหลักฐาน
ฮาดีษมาก่อน แล้วใช้ทัศนะของอุลามามาอธิบาย ซึ่งผมก็ได้หลักฐานทางนี้
มาแล้ว เพราะได้ยินพวกเขาพูดบ่อยมากๆ ผมก็เลยอยากจะได้หลักฐานที่ผม
จะมั่นใจได้ของทางอัลอะชาอิเราะฮ์นี้บ้าง ซึ่งผมเองก็ยังไม่มี ถึงได้เข้ามาถาม
ผู้รู้แบบพวกท่านให้ช่วยผมหน่อย แต่นี่หลักฐานฮาดีษพวกคุณก็ยังช่วยหามาให้
ผมไม่ได้ แต่กลับจะมาวิพากผมซะแล้วเหรอครับ? ผมถึงได้เขียนไว้แล้วไง ว่า
เสียเวลาจะมาวิพากวิจารณ์ผมเปล่าๆ นำสิ่งที่คุณมี และที่ผมเชื่อว่าคุณมีมาให้
ผมไปเลยครับ เนื้อๆ ไปเลย ไม่ต้องมาวิจารณ์ให้มันแฉะน้ำให้วุ่นวาย หรือว่า
พวกคุณไม่มี? ไม่มีก็บอกตรงๆ ครับ ผมจะได้นำไปสรุปผลเทียบต่อไปและ
ได้เลือกแนวทางที่จะเดินซะที ผมปล่อยให้มันคาราคาซัง ขุ่นมัว ไม่ชัดเจน
มานานแล้วในชีวิตผม พวกคุณเป็นมุสลิมเป็นพี่น้องกับผม จะไม่ช่วยผมเลยหรือ?
กลับจะมาวิพากวิจารณ์ผมแทนหรือ? พี่น้องกันยังไงครับแบบนี้?

อ่านให้เข้าใจครับ ถ้าไม่เข้าใจคำถามก็ถามกลับมา ไม่ใช่มาวิพากวิจารณ์คำถามผม
ผมว่านบีมูฮัมหมัด ซ.ล. ไม่ได้ทำแบบนี้ครับ วิจารณ์คำถามของผู้ถาม
ถามดีๆ กลับตอบมาเป็นแบบนี้ซะนี่ ใครไม่รู้คำตอบก็นิ่งๆ นะครับ ไม่ต้องชี้ ไม่รู้ก็ไม่ต้องชี้
ครับ เพราะไม่รู้แล้วชี้นี่ มันฟิตนะฮ์ วุ่นวายเปล่าๆ ถามไป ตอบมาก็จบ

ส่วนคุณอัชฮารี ก็ไม่เป็นไรครับ ผมมาอัฟให้ และหวังว่าจะได้คำตอบจากคุณนะครับ
ยาซากัลลอฮูค็อยร็อน

วิถีชีวิตของมุสลิม...

ออฟไลน์ admin

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 464
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • ..
ก่อนหน้านี้มีคนมาถามผมว่า คิดยังไงกับบินลาเด็น
ผมถามว่าประเด็นไหน
- หน้าตาดีไหม
- เคราสวยไหม
- อาม้าลเขาหรอ
- ฝีมือในการหลบหนี
- ความคิดของเขา

ผมจะตอบยังไงถ้าคำถามกว้างเป็นทะเล
เขียนหนังสือสักเล่มยังไม่รู้ว่าจะหมดไหม
ปรากฏว่าเจ้าของคำถามเงียบ ไม่ยอมอธิบายหาว่าผมกวน

บัง al-azhary เขาแค่ต้องการขอบเขต กรอบของคำถาม
เชิงวิชาการ ที่ว่ามันอย่างไร ก็แค่นั้น

แต่คำว่า
อ้างถึง
   รบกวนขอหลักฐานฮาดีษซอเฮียะฮ์ที่มีสถานะเทียบเท่าหรือสูงกว่าที่สามารถมาคัดง้างกับฮาดีษศอเฮียะ
ดังต่อไปนี้หน่อยครับ ขอเป็นหลักฐานฮาดีษนะครับ อุลามะฮ์ท่านนั้น ท่านนี้ หรือหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ บอกไว้ว่า
นี่ไม่เอานะครับ เพราะฮาดีษที่แข็งแรง ถ้าจะใช้คัดง้างกันได้ ก็น่าจะเป็นฮาดีษที่แข็งแรงเท่ากันหรือสูงกว่าครับ

แล้วจำเป็นหรือที่ต้องคัดง้าง เป็นส่วนขยาย เสริม สนับสนุน อะไรแบบนั้นไม่ได้หรอ

งั้นถ้าบัง al-azhary ตอบว่า บัง al-azhary ไม่มีมาคัดง้าง แค่กรอบนี้

คุณก็จะตีความว่า น้านไง เห็นไหมไม่มี ของคุณถูกที่สุด ซึ่งนั้นไม่ได้เป็นความหมาย
ที่บัง al-azhary เจตนาจะเสนอก็ได้ บังเขาเลยอยากจะล้อมกรอบ ตรงประเด็นไหนแค่นั้น
พอเขาถามหาว่าเขา ดูหมิ่น คนถาม แต่ตอนคนถามถามก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้คนถามเท่าไหร่

ก่อนหน้านี้ก็ เหมือนมีพี่น้องกลุ่มหนึ่ง ก็ไปถามอุลลามะฮ์ เพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการเท่านั้น
ด้วยคำถามแค่เขาทำแบบนี้ถูกไหม โดยไม่ได้เล่าที่มาที่ไปทั้งหมด ก็เหมือนการทิ้งลูกทิ้งเมีย ถูกไหม
อุลามะฮ์ที่ไหนก็ต้องบอกว่าผิดทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่า เดือนนึงไปฝึกตนเองแค่ 3 วัน
ไม่แน่คนที่ถามอาจจะได้ รับคำตอบที่แตกต่าง และเพิ่มพูนความรู้ และสติปัญญาก็เป็นได้

วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

คนอยากรู้

  • บุคคลทั่วไป
 :oอัลลอฮูอักบัร  เกิดมาก็เพิ่งเจอคุณmuminนี้แหละที่ถามอะไรแบบพิลึก ๆแบบว่าเอาแบบว่า อะไรเอ่ย   ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนไก่ ว่างั้นแหละ
ผมว่าให้ไปถาม ผู้บันทึกฮาดิสสมัยอดีตดีกว่าครับว่าฮาดิสที่คุณถามนั้นมาได้ยังงัยและใครเป็นผู้บันทึกและอธิบาย


ผมว่าต้องกลับไปเรียนหลักและที่มาของนิติศาสตร์อิสลามใหม่แล้วครับ  บังอิๆๆ(ล้อเล่น) boulay:

ออฟไลน์ mumin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • เพศ: ชาย
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
:oอัลลอฮูอักบัร  เกิดมาก็เพิ่งเจอคุณmuminนี้แหละที่ถามอะไรแบบพิลึก ๆแบบว่าเอาแบบว่า อะไรเอ่ย   ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนไก่ ว่างั้นแหละ
ผมว่าให้ไปถาม ผู้บันทึกฮาดิสสมัยอดีตดีกว่าครับว่าฮาดิสที่คุณถามนั้นมาได้ยังงัยและใครเป็นผู้บันทึกและอธิบาย


ผมว่าต้องกลับไปเรียนหลักและที่มาของนิติศาสตร์อิสลามใหม่แล้วครับ  บังอิๆๆ(ล้อเล่น) boulay:


....มาอีกแล้ว ไม่อ่าน ไม่รู้แล้วชี้ มีแต่วิจารณ์คำถาม เนื้อไม่มี มีแต่น้ำแฉะๆ เฮ้อออออออออออ.......

ถ้าผมถามได้ผมคงจะถามแล้วละครับ คุณบอกให้ผมไปเรียนมาใหม่ แสดงว่าคุณเรียนมาแล้ว
งั้นก็รบกวนช่วยสอนผมหน่อยนะครับ แยกกระทู้ไปต่างหากไปเลย ผมคนรู้น้อยครับ ถ้าคุณรู้มาก
กว่าผมก็อย่าอมความรู้ไว้อยู่นะครับ ช่วยสอนผมด้วย ให้รู้ว่าคุณรู้จริง

ผมเห็นมีแต่วิจารณ์คนถามทั้งนั้น ไม่มีใครจะหาคำตอบมาให้ผมอย่างจริงใจสักคน
หรือนี่คือแนวทางนี้ แนวทางอัลอะชาอิเราะฮ์? ไม่ตอบ ขอวิจารณ์อย่างเดียว?

ที่ผมบอกว่าไม่เอาทัศนะผู้รู้แล้วนั้น ก็เพราะว่าผมอ่านบทความเรื่องบิดอะฮาซานะฮ์
มา 6 หน้าเต็มเเล้ว 6 หน้าเพจ ยาวยาววววววววววววววววววววววววววนะครับ
ทัศนะของอุลามะฮ์ล้วนๆ ส่วนผมจะขออ่านฮาดีษที่เป็นตัวบทตรงๆ บ้างนี่ไม่ได้เหรอครับ?

มีก็ยกมาให้หน่อยครับ หรือถ้าไม่มีก็ตอบตรงๆ แค่นี้แหละง่ายๆ ไม่ต้องมาเสียเวลาวิจารณ์ผม
ดูเหมือนวัฒนธรรมในเว็บไซต์นี้นี่ จะไม่นิยมตอบ แต่ดูจะนิยมวิจารณ์แต่อย่างเดียวซะจริงๆ นะครับ

ยาซากัลลอฮูค็อยร็อน สำหรับผู้ที่ช่วยตอบให้ผมอย่างจริงใจ ถ้าใครวิจารณ์ก็ไม่เกี่ยวกับดุอาอ์นี้ครับ
เฮ้ออออออออออออออ......ซุนนะฮ์สทิวเดนท์
วิถีชีวิตของมุสลิม...

ออฟไลน์ admin

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนสนิท (._.")
  • *****
  • กระทู้: 464
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • ..
ก็คือว่าง่ายๆสรุปว่า ต้องทำตามที่คุณสั่งใช่ปะ
เอาแบบนี้ตรงกับใจคุณ ว่างั้นเหอะ จะได้สบายใจ
ความจิงคุณไม่เชื่อการให้ทัศนะ ของอุลามะฮ์
ก็ไม่มีใครที่ว่าอะไรคุณนะ คือว่าอยากฟัตวาเอง
ก็คงต้องรับผิดชอบ เตรียมตอบคำถามเองแล้วหละครับ

แล้วคุณก็ไม่สนใจสิ่งที่เขาพยายามชี้แจง ยกตัวอย่าง
เปรียบเทียบ ไม่เอาไม่สนใจ ขอแต่ที่อยากได้เป็นพอ

ออฟไลน์ JuyA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 107
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ปะจูว่าประเด็นหลักที่  คุณ มุมินต้องการศึกษาคือเรื่อง บิดอะห์  ดังนั้นเมื่ออ่านบทความเรื่องบิดอะห์ฮาซานะห์แล้วก็น่าจะเป็นความเข้าใจเบื้องต้นได้แล้วน่ะครับในเรื่องนี้   และก็เป็นแนวทางของคนส่วนใหญ่ในเว็บนี้น่ะครับ

 แต่ถ้าหากว่า คุณ มุมินไม่ต้องการแบ่งประเภทของบิดอะห์   ก็จะไร้ประโยชน์ในการเสวนากระทู้ของท่าน   เพราะจะหาจุดลงตัวไม่ได้


                      ยินดีเป็นพี่น้องน่ะครับ     wink:
อีหม่านที่ซอเเฮะห์  อามาลที่ซอและห์

ออฟไลน์ mumin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • เพศ: ชาย
  • Respect: -1
    • ดูรายละเอียด
ก็คือว่าง่ายๆสรุปว่า ต้องทำตามที่คุณสั่งใช่ปะ
เอาแบบนี้ตรงกับใจคุณ ว่างั้นเหอะ จะได้สบายใจ
ความจิงคุณไม่เชื่อการให้ทัศนะ ของอุลามะฮ์
ก็ไม่มีใครที่ว่าอะไรคุณนะ คือว่าอยากฟัตวาเอง
ก็คงต้องรับผิดชอบ เตรียมตอบคำถามเองแล้วหละครับ

แล้วคุณก็ไม่สนใจสิ่งที่เขาพยายามชี้แจง ยกตัวอย่าง
เปรียบเทียบ ไม่เอาไม่สนใจ ขอแต่ที่อยากได้เป็นพอ



อ้าว? คุณ admin นี่ก็อีกคนนึง ผมว่าผมพยายามอธิบายแล้วนะ
คุณก็ยังไม่เข้าใจอีก ยังคิดว่าผมไม่เชื่อทัศนะอุลามาฮ์อีก เฮ้ออออ
ทัศนะอุลามาฮ์น่ะผมเชื่อ แต่ท่านก็ต้องยกมาให้ผมเห็นด้วยว่า
ฮาดีษไหนที่อุลามะฮ์กำลังอธิบายอยู่ ไม่ใช่ให้เชื่อแล้วไม่รู้ว่า
อุลามะฮ์กำลังอธิบายฮาดีษไหนอยู่ ผมก็แค่อยากเห็นฮาดีษที่
นบีกล่าวไว้ตรงๆ เรื่องบิดอะฮาซานะ เพราะที่อ่านดูในบทความ
ทั้ง 6 หน้าเพจยาวยาวววววววววววววววววววว นั้นน่ะ มีทัศนะ
ของอุลามาฮ์ที่อธิบายฮาดีษอื่นๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่มีทัศนะ
ไหนที่อธิบายฮาดีษที่ท่านนบีบอกไว้ว่ามีบิดอะฮ์ฮาซานะฮ์ อย่า
ว่าแต่ทัศนะของอุลามะฮ์ที่จะอธิบายเลยครับ ฮาดีษที่นบีบอกไว้
ตรงๆ ว่ามีบิดอะฮ์ฮาซานะฮ์ยังไม่มีให้เห็นในบทความเลยครับ

ส่วนการตอบคำถามให้กับผม ซึ่งผมคิดว่าคุณ admin คงจะไม่ใช่
ผู้ตอบคำถามให้ผมอยู่แล้ว ก็คิดว่าไม่บังคับให้ตอบหรอกครับ
ผมไม่ได้มาสั่งให้ใครต้องตอบคำถามให้ผมหรอกนะครับ แต่เห็น
ว่าที่เว็บนี้เป็นเว็บหลักของอัลอะชาอิเราะฮ์ในขณะนี้ ก็เลยคิดว่า
น่าจะมาหาคำตอบที่เว็บนี้ได้ ไม่ได้สั่งหรือบังคับให้ใครมาตอบครับ
เพียงอยากจะมาหาความกระจ่างในเเนวทางนี้เท่านั้น

ความจริงแล้วผมว่า ผมถามนี่ ก็เป็นคำถามที่ถ้าคุณช่วยหาคำตอบให้เเล้ว
ก็เป็นการดีกับทางอัลอะชาอิเราะฮ์เองอย่างมากนะครับ เพราะจะได้หา
คำตอบ หรือหลักฐานที่สามารถไปยืนยันกับกลุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น
วะฮาบีย์ได้เลย เป็นการดีกับคุณเองที่จะตอบ แต่ถ้าคุณไม่ตอบ ผมก็ไม่ได้
ว่าอะไร อาจจะสรุปได้นิดหน่อยว่า อาจจะยังไม่มีหลักฐานที่เป็นฮาดีษ
ที่พอจะยกไปเปรียบเทียบกับอีกกลุ่มนึงได้ เพื่อเลือกแนวทางเดิน ถ้าเกิด
วันหน้ามีชาวบ้าน หรือผู้ศึกษาเรียนรู้แนวทางนี้ท่านอื่นๆ ที่ต้องการศึกษา
เปรียบเทียบของทั้งสองแนวทาง เพื่อจะได้เลือกแนวทางที่มีความน่าเชื่อถือ
เพื่อเดินตามที่สุด ทางอัลอะชาอิเราะฮ์ก็คงจะไม่มีคำตอบให้ เพราะไม่ได้
เตรียมมาไว้ก่อน ผมว่าถ้าคุณ admin หรือพี่น้องในนี้ คิดดูให้ดีๆ ตอบไป
ก็ดีกับอัลอะชาอิเราะฮ์นี้เอง ที่จริงพวกคุณน่าจะสนับสนุนให้หาคำตอบนี้
ด้วยซ้ำ ไม่ใช่มาวิพากวิจารณ์ผู้ถาม ที่จริงแล้วควรจะสนับสนุนต่างหาก
เพราะที่จริงแล้วก็จะดีกับอัลอะชาอิเราะฮ์เองทั้งหมดครับ ที่จะสามารถยก
อัลฮาดีษบทใดๆ ไปโต้กับสายที่ถูกเรียกว่าวะฮาบีย์ได้อย่างสบายปากไปเลย

วัสสลามมุอลัยกุมว่าเราะมะตุ้ลลอฮ์


วิถีชีวิตของมุสลิม...

 

GoogleTagged