บรรดาฮิกมะฮ์และปรัชญาต่าง ๆ แห่งบทบัญญัติอิสลาม

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะฮ์การละหมาดุฮา

ฮิกมะฮ์การละหมาดุฮา  ก็เพื่อมิให้ช่วงยามสายว่างเว้นในการละหมาดและทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา

ปล. เห็นอยู่คนละกระทู้กัน เลยจัดให้เข้าหมวดหมู่และ เพื่อให้ง่ายต่อการรวบรวม     

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะห์ของการห้ามสิ่งที่ทำให้มึนเมา

   อัลเลาะห์ตาอาลาได้ทรงให้ความโปรดปรานแก่มนุษย์มากมาย และที่สำคัญ คือ สติปัญญาที่ทำให้มนุษย์สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรดีไม่ดี และเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความแตกต่างไปจากสัตว์อื่น  มนุษย์จะมีชีวิตที่ดีงามทั้งในด้านส่วนตัวและสังคม ก็โดยมีสติเป็นสิ่งคอยกำกับควบคุม
   สิ่งที่ทำให้มึนเมา-เป็นที่ทราบกันดีว่า-จะทำลายความโปรดปรานของพระเจ้าข้อนี้และทำให้มนุษย์ต้องสุญเสียผลประโยชน์มากมาย
   เมื่อไม่อาจควบคุมสติได้ มนุษย์ก็สามารถกระทำการต่างๆได้อย่างไร้ขอบเขต เมื่อขาดสติมนุษย์จะทำตามใจตนและตามอารมณ์ปรารถนา ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ ความบาดหมางและความเป็นศัตรูกันจะแผ่ขยาย ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและความรักกันจะขาดสะบั้นลง และยิ่งไปกว่านั้นสุรายังเป็นเครื่องขัดขวางการรำลึกถึงอัลเลาะห์ตาอาลา ทำให้ออกห่างไกลจากประตูความเมตตา และความโปรดปรานของอัลเลาะห์อีกด้วยซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้อัลเลาะห์ตาอาลาได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า :
“ ชัยฏอนนั้นจะมีก็แต่ต้องการให้พวกท่านตกเป็นศัตรูและความโกรธเคืองกันเพราะสุราและการพนันและขัดขวางพวกท่านจากการรำลึกถึงอัลเลาะห์ และจากการละหมาด พวกท่านจะยุติกันได้ไหม .” (อัลมาอิดะห์:91)

และท่านศาสดา (ซ.ล ) ยังได้กล่าวยืนยันไว้ว่า :
“ ท่านทั้งหลายจงออกห่างจากสุรา เพราะมันเป็นกุญแจไขสู่ทุกความชั่ว .”
 รายงานโดย ฮากิม ในอัลมุสตัดรอก (ภาคเครื่องดื่ม-บท-ท่านทั้งหลายจงออกห่างสุรา 4/45 )

และนาซาอีได้รายงานในเรื่อง ( เครื่องดื่ม-บท-กล่าวถึงความผิดที่เกิดจากการดื่มสุรา 8/315)
เล่าจากอุสมาน ( ร.ด)  เป็นฮาดิษ เมากูฟว่า :
                     
“ ท่านทั้งหลายจงออกห่างจากสุราเถิด เพราะมันเป็นของบาปทั้งหลาย .”         คือเป็นแหล่งกำเนิดของความชั่วร้ายทั้งมวล
   ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฮิกมะห์การห้ามสุราและสิ่งที่ทำให้มึนเมาทุกชนิด


วัลลอฮูอะลัม

[al-azhary]

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ญะซากิลลาฮ์ สำหรับน้อง ^^ IkHLas ^^ ครับ  ที่ได้นำเสนอฮิกมะฮ์ต่าง ๆ ของบทบัญญัติอิสลามมานำเสนออย่างสม่ำเสมอให้พี่น้องได้ความรู้กัน

والسلام

 

[Al Fatoni]

อัสสลามุ อลัยกุม

              55+ กะอิคลาศ พี่สาวของผมคนนี้ มีแต่จะพัฒนาขึ้นนะเนี่ยะ ต่างกับวันที่รู้จักแรกเลย สงสัยหากได้คุยอีกที ผมต้องวางตัวให้มากกว่านี้แล้วมั๊ง และคงจะต้องเปลี่ยนผู้สอนจากผมสอนกะ เป็นกะสอนผมแทน และ ญาซากั้ลลอฮุ ค็อยร็อน มากๆ นะครับ สำหรับฮิกมะฮฺเตือนใจดีๆ ให้เต็ม 10 เลย พยายามต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้ทั้งใกล้ และไกล

วัสสลามุ อลัยกุม

[- ครูจริงใจ-]

อัลฮัมดูลิลละห์ 
 (  มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ )

ยังไงซะก๊ะ  ก้อยังขอเป็นนักเรียนดีกว่า เจ้าค่ะ  (ข้าน้อยมิบังอาจ        )
ผิดพลาดประการใด น้อมรับคำชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ

[ILHAM]

แล้วข้าน้อยจะเป็นอะไรดีครับ
ละหมาดดูฮาผมก็ละหมาดก็ไปสอบ แถมอิสตีคอเราะห์ด้วยให้ชี้ข้อถูก 555

[al-azhary]

ฮิกมะฮ์การคลองอิดดะฮ์

อุลามาอ์ได้อธิบายถึงฮิกมะฮ์การคลองอิดดะฮ์ของสตรีที่สามีตายหรือถูกหย่าร้างว่า  เพื่อให้มีความแน่ใจว่ามดลูกของนางปราศจากการตั้งครรภ์  และเพื่อประวิงเวลาในการคืนดีกันระหว่างสามีภรรยา  แต่ยังมีฮิกมะฮ์หนึ่งทางวิทยาศาสตร์  ยืนยันว่า  น้ำอสุจิของผู้ชายจะมีความแตกต่างกับน้ำอสุจิของชายอื่น  ซึ่งเสมือนกับลายนิ้วมือที่ทุกคนจะมีความแตกต่างกัน  และผู้ชายทุกคนก็จะมีเพศสัมพันธ์ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะของตน  เราจะพบว่าผู้หญิงขายตัวนั้นจะประสบการโรคมะเร็งที่มดลูก หากข้างในตัวของสตรีมีคอมพ์พิวเตอร์ที่บันทึกโปรแกรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฝ่ายชายอยู่ในตัวนาง  เมื่อมีสิ่งอื่นแปลกปลอมเข้ามา  ก็จะเสมือนกับมีไวรัสเข้าไปที่คอมพิวเตอร์  ทำให้เกิดความเสียหาย  เครื่องรวน  และเกิดโรคร้าย  ดังนั้น  การวิจัยอย่างเข้มข้นเพื่อแก้ไขและเยียวยาปัญหาดังกล่าว  ปรากฏว่านักวิทยาศาสตร์พบว่าอิสลามได้สอนในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ไว้เป็นระยะเวลานานแล้ว  คือ  ในขณะที่นางได้ครองอิดดะฮ์นั้น  อิสลามบัญญัติใหนางรอคอยระยะเวลาที่ถูกกำหนดไว้เพื่อเตรียมพร้อมรอรับการอยู่ร่วมฉันท์สามีภรรยาครั้งใหม่โดยนางจะไม่ประสบปฏิกิริยาที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อมดลูกของนาง  ด้วยฮิกมะฮ์อันนี้  จึงสามารถตอบคำถามที่ว่า  เหตุใดผู้หญิงหนึ่งคนสามารถแต่งงานกับชายได้เพียงคนเดียวโดยไม่สามารถมีสามีครั้งเดียวได้หลายคน?

สตรีที่ถูกหย่ารอยคอยอิดดะฮ์ 3 เดือน  ส่วนสตรีหม้ายสามีตายนั้นรอยคอยอิดดะฮ์ 4 เดือน 10 วัน  ผลการวิจัยได้ยืนฮิกมะฮ์ดังกล่าวว่า  เหตุที่สตรีหม้ายคลองอิดดะฮ์มากกว่าสตรีที่ถูกหย่านั้น  เพื่อให้นางลืมความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของอดีตสามี  สภาพจิตใจของนางกำลังอยู่ในช่วงโศรกเศร้าที่สามีจากไปโดยไม่สามารถหวนกลับมาได้อีก 

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะห์การดื่มน้ำโดยการนั่งดื่ม

         

เนื่องด้วยเหตุผลของการยืนดื่มน้ำนั้นเป็นสิ่งที่เป็นผลเสียหลายอย่าง ผู้ที่กระหายก็จะไม่หายกระหายและมันจะไม่คงอยู่ในกระเพาะนานพอที่จะให้ตับนำไปแจกจ่ายให้แก่อวัยวะส่วนอื่นๆได้เนื่องจากมันผ่านอย่างรวดเร็วจากปากไปยังกระเพาะทันที อาจจะทำให้กระเพาะที่ยังร้อนอยู่ได้รับความเย็นเร็วเกินไป กระเพาะอาหารจะเกิดอาการปั่นป่วนทำงานไม่สะดวก น้ำจะไปต่อยังส่วนล่างของของร่างกายโดยยังไม่ได้มีการจัดระเบียบที่ดี
           ทุกๆอย่างที่กล่าวมานี้เป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งสิ้น แต่ถ้าหากกระทำเช่นนี้นานๆ ครั้งหรือเมื่อมีความจำเป็นก็ไม่ถือเป็นอันตรายแต่ประการใด และต้องไม่ทำเป็นประจำจนเป็นนิสัยที่ไม่ดีติดตัว
 วัลลอฮูอะลัม

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะห์ที่น้ำทะเลมีรสเค็ม

     

 

           

             

   

พระองค์อัลลอฮ์ ได้ให้น้ำทะเลมีรสเค็ม มีความแวววาว มีรสขม มีความเค็มมากจนขมขื่นกินไม่ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ที่ทำให้เกิดต่อแผ่นดินต่อบรรดาสัตว์และมนุษย์  มีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ในน้ำทะเลอย่างปกติสุขและมีมากมายที่ตายในทะเลนั้นและไม่ได้ถูกฝังไป  ถ้าหากน้ำทะเลนั้นมีรสหวาน สัตว์ที่ตายเหล่านั้นก็จะเน่าเหม็น ทำให้สัตว์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลนั้นพลอยตายไปด้วย เกิดเป็นซากศพมากมายเน่าเหม็นไปทั่ว อากาศที่ห้อมล้อมโลกอยู่ก็จะได้รับสิ่งเน่าเหม็นเหล่านั้นไปด้วย โลกทั้งโลกก็จะเสียหายไป ด้วยวิทยปัญญาของของพระองค์อัลลอฮฺ  ซบ.  ทำให้น้ำทะเลเป็นน้ำที่เค็ม จนแม้ซากศพของสัตว์ทั้งโลกจะตายทับถมลงบนทะเลจนหมด ก็ไม่อาจทำให้มันเน่าเหม็นได้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะเดิมได้ตั้งแต่ที่พระองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงสร้างมันมาได้ จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์จะม้วนโลกนี้กลับคืนสู่พระองค์ นี่เองเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่มันจะต้องเป็นน้ำเค็ม  ส่วนสาเหตุทางกายภาพนั้นคือ แผ่นดินและทรายของมันนั้นมีเกลือปนอยู่

วัลลอฮูอะลัม

[Muftee]

ทุกอย่างมี ฮิกมะฮฺคับ....เพียงแต่เราจะรู้หรือเปล่า เท่านั้นเอง...
นำเสนอต่อเลยคับ  จะอ่านต่อ  ความรู้ทั้ง เพ เรย นิ.......

[al-azhary]

ฮิกมะฮ์การห่อศพสตรีด้วยผ้า 5 ชิ้นและชาย 3 ชิ้น

ฮิกมะฮ์การห่อผ้าขาว 5 ชิ้นสำหรับหญิง และห่อผ้าขาว 3 ชิ้นสำหรับชายนั้น  เพราะตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และอีกประเด็นหนึ่งก็คือผู้หญิงสมควรได้รับการปกปิดมากกว่าชายทั้งในยามมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว  เช่น อิมามอัชชาฟิอีย์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า  ให้เอาผ้าผืนหนึ่งผูกช่วงอกของมัยยิดผู้หญิง  เพื่อไม่ให้หน้าอกของเธอสั่นไหวในขณะที่แบก  เป็นต้น   

[nujjaba]

2 . เดือนรอมาดอนเป็นเดือนศักศิทธิ์และสำคัญยิ่ง

15. ศักดิ์สิทธิ์  =  ว. ที่เชื่อถือว่ามีอำนาจอาจบันดาลให้สำเร็จได้ดัง
 ประสงค์, ขลัง, เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์.
 
ศักดิ์ศิทธิ์   =  ไม่มีความหมาย
 

[nujjaba]

กระทู้ดีจัง  อัลฮัมดุลิลลาฮฺ

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะห์ในการบัญญัติการคิตาน

   
                  เคล็ดลับในการบัญญัติการคิตาน ก็คือ เพื่อให้เกิดความสะอาด และไม่ต้องสงสัยเลยว่าการตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายออกนั้น ย่อมทำให้เกิดความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง และความสะอาดภายนอกย่อมบ่งชี้ถึงความสะอาดภายในด้วยอย่างแน่นอน
อัลลอฮฺตาอาลา ตรัสว่า :

                    “  แน่แท้อัลลอฮฺนั้นทรงรักผู้ที่สำนึกผิดและทรงรักผู้ที่สะอาด.” ( อัลบากอเราะห์ 222 )

และไม่มีข้อสงสัยว่า การสำนึกผิด (เตาบัต) นั้น เป็นสัญลักษณ์ของการชำระภายในให้สะอาดจากบาปและข้อตำหนิต่างๆ

วัลลอฮูอะลัม

[- ครูจริงใจ-]

ฮิกมะห์ในการห้ามภาชนะที่ทำมาจากทองคำและเงิน

            อย่างที่รู้กันว่าเคล็ดลับในเรื่องดังกล่าวและเรื่องที่คล้ายกันนี้ เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งหรือที่เรียกว่า ตะอับบุดียะห์ และเป็นการทดสอบ แต่สำหรับผู้ที่ศึกษาหรือค้นคว้าก็สามารถค้นพบเคล็ดลับอื่นๆ ได้ดังต่อไปนี้ :
            1.อัลลอฮฺ ตาอาลา ทรงกำหนดให้ทองคำและเงินเป็นสิ่งทีมีค่าสำหรับมนุษย์ เพื่อใช้เป็นเงินตราหมุนเวียนและแลกเปลี่ยน พระองค์ไม่ทรงอนุญาตที่จะทำให้มันหมดสภาพจากหน้าที่ดังกล่าวและนำมาทำภาชนะ หรือของขวัญเก็บไว้อวดในบ้าน
            2.การกระทำเช่นนั้นเป็นการทำร้ายความรู้สึกของคนยากจน เมื่อมองเห็นคนร่ำรวยนำทองคำและเงินมาเป็นภาชนะเครื่องใช้ และโอ้อวดกัน ขณะที่ตนต้องพบกับความยากลำบาก อาหารที่จะรับประทานเข้าไปก็แทบไม่มี
             3.ห้ามประชาชาติยึดติดอยู่กับทองคำและเงินและถือเป็นเป้าหมายสูงสุดที่จะแข่งขันกันทุ่มเทและประดับประดา ตกแต่งบ้านเรือน โดยลืมไปว่ามันเป็นสื่อที่ถูกกำหนดไว้ในมือของพวกเขาเพื่อ จับจ่ายหมุนเวียน เพื่อผลประโยชน์ในโลกนี้
             4.เพื่อให้มีหลักปฏิบัติที่ตรงกันข้ามกับพวกไร้ศรัทธา เพราะพวกเขาหันหลังให้กับโลกอาคีเราะห์ และทุ่มเททุกอย่างเพื่อโลกนี้ มีหลักฐานปรากฏในฮาดิษที่ว่า :

        “ และพวกท่านจงระวังการตักตวงหาความสุข และการแต่งกายเช่นเดียวกับพวกที่ตั้งภาคี.” รายงานโดยมุสลิม ในเรื่อง (อาภรณ์เครื่องประดับ-บท-ห้ามใช้ภาชนะทองคำเลขที่ 2069 )
เล่าจากอุมัร (ร.ด)      
   
วัลลอฮูอะลัม