ผู้เขียน หัวข้อ: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<  (อ่าน 4440 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • *****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/

 salam

ขอนำเสนอไฟล์เสียง  ประวัติศาสตร์ปัตตานีดารุสลาม  ตลอดจนการพ่ายแพ้สงครามต่อซิแย
และการกวาดต้อนผู้คนมาไว้ในบางกอก  โดยเฉพาะริมคลองแสนแสบ


เป็นการเสวนาในงานโรงเรียนท่าอิฐศึกษา (ปีใดมิทราบได้)
ผู้ร่วมเสวนา
อาจารย์อัฮหมัด สมบูรณ์ บัวหลวง
ผศ.เสาวนีย์ จิตรหมวด
อาจารย์สุลัยมาน  ลาฟีตี

ส่วนผู้ดำเนินการอภิปราย มิทราบได้


[wma=300,50]http://intifad.insurance-for-car.net/SOUND/abdulHakeem-Love.mp3[/wma]

จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ซายอก็เป็นลูกหลานของเฉลยที่ถูกกวาดต้อนมา  โต๊ะแนแนะของผมน่าจะเป็นชาวกลันตัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 29, 2009, 11:37 PM โดย Deeneeyah »

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ al-um

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 154
  • الأم
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 27, 2008, 09:05 PM »
0
 salam
 การเสวนาในครั่งนี้ น่าจะประมาณ3-5ปี มาแล้ว
อ้างถึง
ซายอก็เป็นลูกหลานของเฉลยที่ถูกกวาดต้อนมา  โต๊ะแนแนะของผมน่าจะเป็นชาวกลันตัน

ผมก็เช่นกันครับ ตอนนี้ในท่าอิฐทียังพูดมลายูก็เหลือนับจำนวนหลังคาเรือนได้ mycry
*للزكريا    الأنصاري*
      อุลามะในทัศนะวะฮาบีย์บางคนได้ทิ้งขวางความรู้ความคิดเห็นหรือผลงานของอุลามะฮ์ผู้นำมัซฮับทั้ง 4   แบบไม่ใยดี แต่กลับมาชื่นชอบทัศนะใหม่ที่มาทีหลัง ว่า ถูกต้องที่สุด..จนมันได้กลายเป็น...บิดอะดอลาละที่ลุ่มหลง.แบบตะอัศศุบ..ในทัศนะตนเองแบบสุดโต่ง แบบไม่น่าให้อภัย  และคิดว่า  ทัศนะใหม่ของตนเท่านั้นที่ถูกต้อง ....นะอูซุบิ้ลลา

ออฟไลน์ salahudin

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 46
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 06:42 AM »
0
ผมก็เหมือนกัน     น่าจะเเถวยะรังนะ    เพราะยายนามสกุลมีคำว่า "ยะรัง" ด้วย 
มาลายูก็มีติดปากบ้าง  ใช้เรียกสิ่งเฉพาะเท่านั้น ไม่ใช้พูด
อยู่เเถวมีนบุรีคร้าบ

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • *****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 07:45 PM »
0
อ้างถึง
ผมก็เหมือนกัน     น่าจะเเถวยะรังนะ

คงจะใช่ครับ มีประวัติศาสตร์เขียนไว้อย่างนั้นเหมือนกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

            ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 3 (นามเดิม  พระเจ้าทับ)  ซึ่งเป็นพระโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 


กับเจ้าจอมมารดา เรียม  ซึ่งเป็นชาวคลองบางหลวง  (บางกอกใหญ่)  โดยเจ้าจอมมารดาเรียมนั้นเป็นธิดาของ  พระยานนทบุรี  ศรีมหาอุทธยาน  (บุญจัน)  กับพระชนนี เพ็ง

ซึ่งพระชนนีเพ็ง  เป็นธิดาของการราชวังสัน  (หวัง)  กับคุณหญิงชู  ซึ่งคุณหญิงชูนั้นเป็นกุลสครีจากบางเชือกหนัง  โดยสรุปก็คือ  พระองค์เจ้าทับ  หรือกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์

ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  นั้นเป็นหลานตาของพระยานนทบุรศรีมหาอุทธยาน  เจ้าเมืองนนทบุรี  และเป็นเหลนตาของพระยาราชวังสัน

(หวัง)  ซึ่งสืบสายสกุลมาจากสุลต่านสุลัยมานซาห์  อดีตเจ้าเมืองสงขลา



            และในสมัยรัชการที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีนี้เอง  หัวเมืองภาคใต้ได้เกิดปัญหาขึ้น  โดยพระยาปัตตานีและพระยาหนองจิก  ร่วมกับพระยายะลาและพระยาระแงะ  ได้รวมทัพ

ทั้ง 4 หัวเมือง  ยกทับเข้าตีเมืองยะหริ่ง  (ยามู)  พระยายะหริ่ง  (พ่าย)  สู้ไม่ไหว  จึงหลบหนีไปเมืองสงขลา  เมื่อความทราบถึงกรุเทพฯ  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 จึงโปรดให้

พระยาเพชรบุรียกทัพไปปราบ  พระยาเพชรบุรีตีเมืองคืนได้  จับพระยาปัตตานี  พระยายะลา   และพระยาหนองจิกประหารชีวิตเสีย  ส่วนพระยาระแงะหลยหนีไปได้  และให้

พระยายะหริ่งครองเมืองยะหริ่งต่อไป  และได้แต่งตั้งให้หลวงสวัสดิ์ภักดี (ยิ้มซ้าย)  เป็นพระยาเมืองยะลา  ต่อมาพระยายะหริ่ง (พ่าย)  ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชา  ได้โปรดเกล้า

ให้หลวงสวัสดิ์ภักดี  (ยิ้มซ้าย)  รักษาการเจ้าเมืองยะหริ่งอีกตำแหน่งหนึ่ง  เมืองยะหริ่งในสมัยนั้นครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของ  อ.ยะหริ่ง  อ.มายอ  อ.ปานาเระ 

ในจังหวัดปัตตานี้ขณะนี้


            ในครั้งที่พระยาเพชรบุรี  ได้ยกทับไปตีเมืองภาคใต้ในครั้งนั้นเมื่อกำจัดเจ้าเมืองที่ก่อปัญหาได้แล้วก็ได้กวาดต้อนราษฎรจากเมืองต่างๆ  เข้ามาในพระนคร 

และปริมณฑลมากมาย  จนเป็นชุมชนมุสลิมในเมืองหลวงของประเทศไทยและมีลูกหลานสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน  อาจพอกล่าวเป็นสังเขปได้ดังนี้

จากเมืองยะหริ่ง  (ยามู) ได้นำมาปล่อยให้ทำมาหากินเป็นเกษตรกรริมคลองแสนแสบ  ตั้งแต่หมู่บ้าน  บ้านดอน  สามอิน  คลองตัน  ต่อมากลุ่มนี้ได้ขยายถิ่นฐานไปอยู่คลองลาดพร้าว
วัดตึก  วัดกลาง (ริดวานุ้นอิสลาม)  หลอแหล  ไปจนถึงคลองสี่วังเล็ก  เขตมีนบุรี  จากเมืองยะรัง  ได้นำมาปล่อยที่ หลอแหล  ลาดบัวขาว  ในเขตสะพานสูง

จากเมืองกลันตัน ได้นำมาปล่อยแถวหัวป่า  บ้านป่า  สวนหลวง  พัฒนาการ  ศรีนครินทร์  และขยายถิ่นฐานไปถึงคลอง 16 ลำซะล่า  คลอง 18  คลอง 19  คลอง 20 
ในอำเภอบางน้ำเปรี้ยว  จังหวัดฉะเชิงเทรา


จากเมืองสะโตย  คือ  สตูล (ในปัจจุบัน) คนกลุ่มนี้มักเรียกว่า  "แขกตำพรื้อ"  ได้ถูกจับมาปล่อยไว้ที่  คลองกุ่ม  (อัสสลาม)  สุเหร่าแดง (คันนายาว)  บางชัน  กลีบหมู (ปลีกหมู่)  คูคต
ลำกระโหลก  คลองสามวา  คลองสี่ตะวันออก  คลองแปด  คลองเก้า  คลองสี่ตะวันออก คลองแปด  คลองเก้า  ในเขตคลองสามวาและหนองจอกในปัจจุบัน


จากเมืองกะเดาะห์  (เคดาห์)  หรือเมืองไทรบุรี  และปะลิส (เปอร์ลิส)  ได้นำมาปล่อยย่าน  ทรายกองดินและแสนแสบ  ต่อมาได้ขยายถิ่นฐานไปอยู่ที่ศาลาแดง (หนองจอก) 
คลอง 16 สมอเอก  คลอง 17 (อ.บางน้ำเปรียว จ.ฉะเชิงเทรา)  คลอง 14 สายกลาง  คลองพระอาจารย์  คลอง 2 และคลอง 24 (อ.องครักษ์  จ.นครนายก)


จากเมืองปัตตานี  บางส่วนย่านบานาจะปังติกอ  และปูยุด  ได้นำมาปล่อยไว้ย่าน  เจียรดับ  กระทุ่มราย  หนองจอก  ต่อมาขยายถิ่นฐานไปอยู่คลอง 14 สายล่าง 
คลอง 15 สายล่าง  คลองหกวา  เป็นต้น


สำหรับลูกหลานขุนนางเมืองปัตตานี  เดิมถูกนำมาปล่อยไว้ที่บางลำพู  บ้านตึกดิน (ราชดำเนินกลาง) 

            ในสมัยรัชการที่ 1 นั้น  เมื่อรัชกาลที่ 3   ได้จ้างบริษัทวิศวกรชลประทานของประเทศอักฤษ  ชื่อบริษัทคูนาสยามจำกัด  มาทำการขุดคลองเพื่อการชลประทาน

และการขนส่งทางน้ำ  ในบริเวณที่ราบลุ่มระหว่างแม่น้ำบางปะกง  กับแม่น้ำเจ้าพระยา  จำนวน 35 คลอง  โดยมีคลองหลักแนวตะวั้นออก - ตะวันตก  จำนวน  5  คลอง  คือ

            คลองรังสิตประยูรศักดิ์  (คลอง 8 วา)
            คลองแสนแสบ
            คลองประเทศบุรีรมย์
            คลองสำโรง

            และมีคลองซอยตามแนวเหนือ - ใต้  อีกจำนวน 30 คลองเสร็จแล้ว  ชาวบางลำพูและบ้านตึกดินส่วนหนึ่งได้ขยายถิ่นฐานไปตั้งบ้านเรือนเพื่อทำการค้าขายที่สี่แยกมหานาค
(ใกล้วัดสะแก  ต่อมาเปลี่ยนเป็นวัดสระเกศ)  จากมหานาคต่อมากได้ขยายถิ่นฐานไปอย่างกว้างขวาง  เช่น  ไปอยู่บางตลาด  นนทบุรี  บ้านคู้  บ้านลำหิน  บ้านคลองสิบ  ในเขตหนองจอก  และบ้านคู้น้อย  คลอง 16  ในอำเภอบางน้ำเปรี้ยว  จังหวัดฉะเชิงเทรา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปัจจุบันนี้มีชุมชนมุสลิมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล  เป็นชุมชนที่เข้มแข้ง  มีมัสยิด  มีโรงเรียนสอนศาสนา กันอย่างกว้างขวาง

มองว่าการพ่ายแพ้ในสงคราม และต้องอบยพมาอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้นคือการขยายตัวของศาสนาอิสลามอีกนัยหนึ่ง 
เพราะปัจจุบันอิสลามยังอยู่กับคน ปัตตานีดารุสสลาม  และในกรุงเทพฯ ประปริมณฑน  ก็ยังมีอิสลามอยู่


ส่วนเรื่องภาษามลายูนั้น  ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ภาษามลายู ยกระดับกลายเป็นภาษาคลาสสิคไปแล้ว  เป็นภาษาวรรณกรรม  ภาษาตำรา  คนที่จะรู้มันก็ต้องเป็นคนที่เรียน 
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภาษาที่ใช้พูดกัน  แต่ตามโรงเรียนสอนศาสนาในกรุงเทพฯก็ยังสอนกันด้วยกิตาบมลายู

และคำว่ามลายูจะไม่มีคุณค่าอันใดเลยหากปราศจาก อุกะมาอิสลาม

.....อัลฮัมดุลิลลาฮ์.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 28, 2008, 08:30 PM โดย Deeneeyah »

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 11:10 PM »
0

เพื่อนมุสลิมคนใต้ ที่ ม. เคยถามว่าบ้านชาอยู่ไหน
พอตอบไป เขาก็สวนมาว่า .. แต่ก่อนเป็นเชลย

อัลฮัมดุลิ้ลลา เชลย ก็เชลย  ;D
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 11:29 PM »
0
จากเมืองกะเดาะห์  (เคดาห์)  หรือเมืองไทรบุรี  และปะลิส (เปอร์ลิส)  ได้นำมาปล่อยย่าน  ทรายกองดินและแสนแสบ  ต่อมาได้ขยายถิ่นฐานไปอยู่ที่ศาลาแดง (หนองจอก)
คลอง 16 สมอเอก  คลอง 17 (อ.บางน้ำเปรียว จ.ฉะเชิงเทรา)  คลอง 14 สายกลาง  คลองพระอาจารย์  คลอง 2 และคลอง 24 (อ.องครักษ์  จ.นครนายก)

ปากลัด  ( อ.พระประแดง  จ.สมุทรปราการ)  ก็มาจาก  กะเดาะฮ์ (เคดาห์) ครับผม  loveit:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • *****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ก.พ. 28, 2008, 11:45 PM »
0
แล้วคำว่า  "แขกตำพรื้อ"  มันหมายความว่างัย  มีใครรู้บ้างครับ  natural:

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ก.พ. 29, 2008, 08:11 PM »
0
อัสสลามุ อลัยกุม

              ญาซากั้ลลอฮฺ ค็อนร็อยมากๆ ครับ หามานานหละ ผมเป็นแฟนหนังสือเกี่ยวกับประวัติปัตตานีของท่านอาจารย์ อัฮหมัด สมบูรณ์บัวหลวง มานานหละ เล่มแรกจากผลงานของท่านในเรื่องนี้ที่ผมได้ซื้อหาอ่านคือ "ปาตานี ดารุสสลาม" เป็นหนังสือหายากมากๆ และพิมพ์จำนวนจำกัดด้วย และเป็นการรวบรวมข้อมูลที่ทรงคุณค่ามากๆ ครับ ขอบคุณจริงๆ ครับที่เอามาฝาก หากมีอีกกรุณาเอามาลงด้วยนะครับ ต้องการจริงๆ

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มี.ค. 04, 2008, 01:37 PM »
0
الحمدلله  ساي لاهيردسيني
دان إنشاءالله  ساي اكن ماتي دتانه اير ساي دسيني
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มี.ค. 04, 2008, 02:09 PM »
0
แล้วคำว่า  "แขกตำพรื้อ"  มันหมายความว่างัย  มีใครรู้บ้างครับ  natural:

นั่งซิครับ   "แขกตำพรื้อ"  หมายความว่าอย่างไรใครรู้บ้าง?
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ม.ค. 19, 2009, 07:16 PM »
0
 salam คะ

 smile: รบกวนบังอีกนะคะ
ช่วยอั๊พโหลดใหม่ด้วยคะ

ขอบคุณคะบัง happy2:

วัสสลาม

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • *****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ม.ค. 20, 2009, 06:52 AM »
0

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ มัยซูน

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 280
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ม.ค. 20, 2009, 09:31 AM »
0
แล้วคำว่า  "แขกตำพรื้อ"  มันหมายความว่างัย  มีใครรู้บ้างครับ  natural:

ถ้าเป็นภาษาใต้  น่าจะหมายควายว่า เอ้ย หมายความว่า "มุสลิมเขาตำกันอย่างไร "
แขก=มุสลิม
ตำ=ตำ
พรื้อ=อย่างไร

ใช้สองมือหนึ่งหัวใจบอกเล่ากับพระองค์ก้มหน้าลง..แล้วขอความเมตตา

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ม.ค. 20, 2009, 11:49 AM »
0
ญะซากั้ลลอฮฺ
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ binti-adnan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 87
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: >>จากกรือเซะ...ถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยา<<
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ม.ค. 20, 2009, 02:35 PM »
0
กำลังนึกสงกะสัยอยู่เชียว ว่าไม่เห็นเอ่ยถึง ปากลัด เลย

ว่ามาจากไหน

แล้วบัง อัล-อัซฮารี รู้ได้งัยค่ะ ว่ามาจากเคดาห์

อยากทราบแหล่งอ้างอิงค่ะ

 

GoogleTagged