salam
ขออนุญาตินำบางส่วนจากบันทึกที่ผมเรียนอยู่มานำเสนอ เพื่อเป็นเรียกน้ำย่อย ก่อนน่ะครับ
บิสมิลลาฮิรร่อมานิรร่อฮีม
อัลฮัมดุลิ้ลลาฮิร็อบบิ้ลอาล่ามีน
ว่าซ้อลล้อลลอฮุอาลาซัยยิดินามูฮัมหมัด
จากบทนำในหนังสือ ปางาวาร บาฆี ฮาตี
วายิบเหนือบุคคลทุกๆ คนที่มีสติปัญญาและบรรลุศาสนภาวะแล้ว ที่บุคคลผู้นั้นจะต้องขจัดและขัดเกลาหัวใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์จากบรรดา
คุณลักษณะอันถูกตำหนิทั้งหลาย และจำเป็นที่บุคคลผู้นั้นจะต้องประดับประดาหัวใจของตนนั้นให้งดงามด้วยกับบรรดาคุณลักษณะที่ได้รับการสรรเสริญ
ทั้งหลาย
เพราะอัลลอฮ์ ซ.บ. ทรงดำรัสว่า
وَاللّهُ يَعْلَمُ بِمَا فِيْ قُلُوبِكُمْ
"และอัลลอฮ์นั้นพระองค์ทรงรู้ดีถึงสิ่งที่มันอยู่ภายในหัวใจของพวกท่านทั้งหลาย"จากบรรดาคุณลักษณะที่ได้รับการสรรเสริญเยินยอและบรรดาคุณลักษณะ
ที่ถูกตำหนิติเตียน (อัลลอฮ์ทรงรู้ถึงหัวใจของพวกเราว่ามันเป็นหัวใจประเภทไหน)
และท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ซ็อลล้อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวว่า
แท้จริงอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั้น พระองค์มิได้ทรงพิจารณาไปยังบรรดารูปร่างรูปลักษณ์ของพวกท่านทั้งหลาย และอัลลอฮ์
ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็มิได้ทรงพิจารณามองดูผิวกายของพวกท่านทั้งหลาย แต่ว่าอันที่จริงอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา พระองค์ทรงพิจารณา
ไปยังบรรดาหัวใจของพวกท่านทั้งหลายต่างหาก
ท่านอิหม่ามฆ่อซาลีจึงกล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกที่มนุษย์ทั้งหลายมักจะห่วงใย ใส่ใจ กับใบหน้าของตน เพราะใบหน้าของตนมันเป็นจุดที่สายตาของ
ผู้คนทั้งหลายนั้นเขามอง.....แต่ทำไมหนอมนุษย์ทั้งหลายจึงไม่ใส่ใจในสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้พิจารณามองดู นั่นก็คือหัวใจ
และเพราะอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงดำรัสไว้อีกว่า
قَدْ أَفْلَحَ مَنْ ذَكََّاهَا
"แน่แท้ย่อมได้รับชัยชนะแล้ว บุคคลที่ได้ขจัดมัน"
แท้จริงย่อมได้รับความสุขความสำเร็จหรือชัยชนะแล้ว บุคคลที่เขาได้ชำระขัดเกลาหัวใจให้สะอาดบริสุทธิ์
หมายความว่า บุคคลที่เขาได้ขัดเกล่าซักฟอกหัวใจของตนนั้นให้สะอาดหมดจดจากบรรดาสภาพทั้งหลายที่ถูกห้าม และสภาพทั้งหลายที่ถูกตำหนิ
ฉะนั้นส่วนหนึ่งจากบรรดาสภาพที่ถูกตำหนินั้นก็คือ การกะกับโบร ถือว่าตนเองเป็นใหญ่ อวดโต อวดเก่ง อวดใหญ่ หยิ่งยะโส โอหัง
เพราะว่าท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ซ็อลล้อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้รายงานจากอัลลอฮ์ตะอาลา (ฮะดีส กุดซีย์)
อัลลอฮ์ตะอาลาทรงดำรัสไว้ในฮะดิสกุดซีย์ว่า ความสูงส่งนั้นก็คืออาพรของข้า และความยิ่งใหญ่เกรียงไกรนั้นก็คืออาพรของข้าเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นบุคคลใดหน้าใหนก็ตามที่มันมาแข่งมาแย่งข้า สิ่งหนึ่งสิ่งใดจากสองสิ่งนั้น (คือความสูงส่ง และความยิ่งใหญ่เกรียงไกร) ข้าจะจับผู้นั้น
โยนลงสู่นรกญ่าฮันนัม และข้านี้จะไม่แยแสมันเลย ฮะดิสนี้ท่าน อิหม่ามมุสลิม อิหม่ามอะบูดาวูด และอิบนุมายะฮ์ได้รายงานเอาไว้
ความหมายของฮะดีสนี้ก็คือว่า ความสูงส่ง ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรนั้น ทั้งสองคือคุณลักษณะเฉพาะของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น
คุณลักษณะดังกล่าวนั้นไม่เหมาะควรสำหรับผู้อื่นนอกจากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น
ฉะนั้นบุคคลใดก็ตามที่ไปถือว่าตนเองยิ่งใหญ่ ก็ประหนึ่งดังผู้นั้นได้ไปแย่งชิงเอาคุณลักษณะของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
บุคคลผู้นั้นก็สมควรแล้วที่จะถูกจับโยนลงไปในนรกภูมิ (นะอูซุบิ้ลลาฮิมินซาลิก)
และเหมือนกับการถือว่าตนเองมีความสำคัญนักหนา เรียกว่า ยิ่ง ยะโส โอหัง มันเป็นสภาพที่ถูกตำหนิ
ในทำนองเดียวกันก็ย่อมปรากฎว่าการลดตัวเองให้มีความนอมน้อมถ่อมตนนั้น นั่นแหละคือสภาพที่ได้รับการสรรเสริญ
เพราะท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ซ็อลล้อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวว่า บุคคลหนึ่งคนใดก็ตามที่เขานั้นได้ลดตัวเองให้ต่ำลง (คือแสดงความนอมน้อม
ถ่อมตน โดยบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ตะอาลา) นอกเสียจากว่าอัลลอฮ์จะยกคนผู้นั้นให้มีถานันดรสูงส่ง ฮะดีสนี้รายงานโดยอิหม่ามมุสลิม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาจารย์ที่สอนผม ได้สอนไว้อีกว่า การเรียน วิชาตะเซาวูฟ หากเราเรียนแล้วไมนำมาปฏิบัต เพียงแต่เรียนเพื่อรู้ ก็จะไม่เกิดผลอันกับหัวใจของเราเลย
คือเราต้องปฏิบัติด้วย เปรียบเสมือน เรารู้แล้วว่าหัวใจของเรานั้นจะสะอาดหมดจดได้อย่างไร แต่เราไม่ยอมทำความสะอาดมันเสียที
หัวใจของเราก็ยังไม่เป็นหัวใจที่สะอาดหมดจดได้
เหมือนกับคำกล่าวสของอุลามาว่า "คนที่มีความรู้นั้นจะประสบกับความวิบัติ นอกจากคนที่ปฏิบัติตามความรู้นั้น และคนที่ปฏิบัติก็ต้องประสบกับความพินาศ นอกจากคนที่ปฏิบัติตามความรู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ"
วัลลอฮุอะอฺลัม