ผู้เขียน หัวข้อ: ถามจริง  (อ่าน 3856 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
ถามจริง
« เมื่อ: เม.ย. 02, 2008, 12:32 PM »
0

salam

ปู่ช่วยอธิบายที

ว่าทำไมตอนเค้าอาซานว่า

ฮัยยาอะลัซซอลาฮ์

ถึงต้องกล่าวคำว่า

ลาเฮาลาวาลากูวาตาอิลลาบิลลาฮิลอาลียิลอาซีม

(ที่เค้ารู้ไม่รู้ว่าถูกอ๊ะป่ะ)

หากผิดพลาดประการใดโปรดอภัยให้ด้วยนะพี่น้อง


 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: ถามจริง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เม.ย. 04, 2008, 08:54 AM »
0
بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين

รายงานจากท่านอุมัร อิบนุ ค็อฏฏอบ  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ  ความว่า

‏قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏إِذَا قَالَ الْمُؤَذِّنُ اللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ فَقَالَ أَحَدُكُمْ اللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ ثُمَّ قَالَ أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ قَالَ أَشْهَدُ أَنْ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ ثُمَّ قَالَ أَشْهَدُ أَنَّ ‏ ‏مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏قَالَ أَشْهَدُ أَنَّ ‏ ‏مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏ثُمَّ قَالَ حَيَّ عَلَى الصَّلَاةِ قَالَ لَا حَوْلَ وَلَا قُوَّةَ إِلَّا بِاللَّهِ ثُمَّ قَالَ حَيَّ عَلَى الْفَلَاحِ قَالَ لَا حَوْلَ وَلَا قُوَّةَ إِلَّا بِاللَّهِ ثُمَّ قَالَ اللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ قَالَ اللَّهُ أَكْبَرُ اللَّهُ أَكْبَرُ ثُمَّ قَالَ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ قَالَ لَا إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ مِنْ قَلْبِهِ دَخَلَ الْجَنَّةَ ‏

ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  เมื่อมุอัซซิน(ผู้ทำการอะซาน)  ได้กล่าวว่า  อัลลอฮุอักบัร  อัลลอฮุอักบัร  แล้วเขาคนหนึ่งจากพวกท่านกล่าว(ตอบ)ว่า   อัลลอฮุอักบัร  อัลลอฮุอักบัร  หลังจากนั้นมุอัซซินกล่าวว่า  อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  เขากล่าวตอบว่า  อัชฮะดุอัลลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  หลังจากนั้น  มุอัซซินกล่าวว่า  อัชฮะดุอันนะมุฮัมมะดะร่อซูลุลลอฮ์  แล้วเขากล่าวตอบว่า  อัชฮะดุอันนะมุฮัมมะดะร่อซูลุลลอฮ์  หลังจากนั้นมุอัซซินกล่าวว่า  ฮัยยะอะลัสศ่อลาฮ์  เขากล่าวตอบว่า  ลาเฮาล่าวะลากู้วะต้าอิลลาบิลลาฮ์  หลังจากนั้นมุอัซซินกล่าวว่า  ฮัยยะอะลัลฟะลาห์  แล้วเขากล่าวตอบว่า  ลาเฮาล่าวะลากู้วะต้าอิลลาบิลลาฮ์  หลังจากนั้นมุอัซซินกล่าวว่า   อัลลอฮุอักบัร  อัลลอฮุอักบัร  แล้วเขากล่าวตอบว่า   อัลลอฮุอักบัร  อัลลอฮุอักบัร  หลังจากนั้นมุอัซซินกล่าวว่า  ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  แล้วเขากล่าวตอบว่า  ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์  ที่มาจากหัวใจของเขา(ที่บริสุทธิ์ใจและมุ่งมั่นตั้งใจ)  เขาย่อมได้เข้าสวรรค์"  รายงานโดยมุสลิม (578)

คำว่า  "ฮัยยะอะลัสศ่อลาฮ์"  หมายถึง  "พวกท่านจงมาละหมาดกันเถิด"   คำว่า  "ฮัยยะอะลัลฟะลาห์"  หมายถึง  "พวกท่านจงมาสู่สาเหตุแห่งความผาสุก  ความสำเร็จ  และการได้รับความดีงามกันเถิด"

แล้วเราก็ตอบว่า  "ลาเฮาล่าวะลากู้วะต้าอิลลาบิลลาฮ์"  หมายถึง  "ไม่มีการเคลื่อนไหวและพลังความสามารถใด ๆ นอกจากด้วยความช่วยเหลือของอัลเลาะฮ์"   

ฮิกมะฮ์ดังกล่าวคือ  บ่าวนั้นมีความอ่อนแอ  ไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพหนึ่งไปสู่อีกสภาพหนึ่งได้นอกจากด้วยการช่วยเหลือของอัลเลาะฮ์ ตะอาลาเท่านั้น   ส่วนหนึ่งก็คือ  การไปละหมาดเพื่อทำญะมาอะฮ์  ซึ่งไม่มีพลังความสามารถใดที่จะทำละหมาดญะมาอะฮ์ได้นอกจากด้วยกับอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ดังนั้นเราจึงรู้สึกว่ามีความอ่อนแอและไร้ความสามารถ  และก็ไม่สามารถตอบรับการเรียกร้องการไปสู่การละหมาดนี้ได้นอจากด้วยกับอัลเลาะฮ์เพียงองค์เดียวเท่านั้น  ดังนั้น  เมื่อผู้อะซานกล่าวว่า  ฮัยยะอะลัสศ่อลาฮ์  ฮัยยะอะลัลฟาลาห์  เราก็จะกล่าวว่า "ลาเฮาล่า วะลา กู้วะต้า อิลลาบิลลาฮ์"  (ไม่มีการเคลื่อนไหวและพลังความสามารถใด ๆ นอกจากด้วยความช่วยเหลือของอัลเลาะฮ์)

والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged