ความโรแมนติกของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

[al-azhary]

Tweet

ความโรแมนติกของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

สตรีมุสลิมะฮ์ผู้มีเกียรติจะบอกว่า "ท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เป็นแบบฉบับของบุรุษทั้งโลก"  นั่นก็เพราะเธอใฝ่ฝันที่จะให้คู่ชีวิตของเธอที่มีแบบฉบับของท่านนบี  ศ็อลลัลลออุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในฐานะสามีที่มีต่อภรรยา  การพูดถึงท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  อันเกี่ยวกับชีวประวัติของท่านนั้นย่อมเป็นการฟื้นฟูความชื่นฉ่ำ และเพิ่มความศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่หัวใจ เพราะท่านคือผู้เป็นที่รักของทุกหัวใจนั่นเอง 

ดังนั้นความโรแมนติก  การปฏิบัติดี  ทะนุถนอมจิตใจอันละเอียดอ่อน  หมั่นสร้างรอยยิ้ม  และความชุ่มฉ่ำให้เกิดขึ้นในหัวใจของผู้เป็นภรรยาอันเป็นที่รักนั้น  ย่อมเป็นสิทธิหน้าที่อันพึงปฏิบัติของสามี  ดั่งท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวไว้ความว่า  "พวกท่านที่ดีเลิศสุดนั้น  คือผู้ที่ดีเลิศที่สุดให้กับครอบครัวของเขา  ส่วนฉันก็คือผู้ที่ดีเลิศที่สุดให้กับครอบครัวของฉัน" รายงานโดยอิบนุฮิบาน (4177)  เพราะฉะนั้น  กระผมเองจึงรู้สึกประทับใจและแทบไม่เชื่อว่า จะมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านเป็นบุคคลที่ดีเลิศที่สุดอีกทั้งเป็นแบบฉบับของบุรุษทั้งโลก

ต่อไปนี้กระผมจะพูดถึงบางส่วนจากแง่มุมที่พิเศษของท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านได้แสดงความรักต่อภรรยาของท่านอย่างไร?  เนื่องจากอัลลอฮฺตะอาลาทรงตรัสว่า "อันแท้จริงในศาสนทูตแห่งอัลเลาะฮ์  ย่อมมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้า" : อัลอะห์ซาบ 21

รายงานจากอะนัส  "เราได้เดินทาง(จากค็อยบัร)ไปยังนครมะดีนะฮ์  ฉันได้เห็นท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ่อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้นั่งอยู่บนอูฐ  แล้วท่านก็วางเข่าของท่านลงและท่านหญิงซอฟียะฮ์ก็วางขาของนางให้อยู่บนเข่าของท่านจนกระทั่งนางได้ขึ้นขี่บนอูฐ" (รายงานโดยบุคอรี 3889) ท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุฮะญัร  ได้รายงาจากอุรวะฮ์  ความว่า  "ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้วางนางบนขาอ่อนของท่านเพื่อทำให้นางได้ขึ้นขี่อูฐ  ดังนั้น  นางจึงค่อย ๆ วางขาของนางไว้บนขาอ่อนของท่านร่อซูลุลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จากนั้นนางก็วางเข่าบนขาอ่อนของท่านและนางก็สามารถขึ้นขี่อูฐได้" ฟัตฮุลบารีย์

ดังนั้น  ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้มีความอายแต่ประการใดที่จะมีเหล่าทหารได้เห็นฉากนี้  และท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ่อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจะละอายทำไม  ทั้งที่ท่านหญิงซอฟียะฮ์คือภรรยาผู้เป็นที่รักของท่าน

ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ่อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้มีความเป็นห่วงภรรยาของท่านเป็นอย่างยิ่ง  แม้กระทั่งกรณีผู้บังคับอูฐได้เร่งรีบขบวนอูฐที่บรรดาภริยาของท่านนบีใช้เป็นพาหนะเดินทาง  รายงานจากท่านอะนัส  ความว่า  "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ระหว่างการเดนิทางนั้น  ท่านได้มีคนใช้ผิวดำคนหนึ่ง  ชื่อว่า  อันญิชะฮ์  ได้มีหน้าที่บังคับขบวนอูฐที่บรรดาภรรยาของท่านนบีบางส่วนได้ใช้เดินทาง  ซึ่งเขาได้ทำการกระตุ้นอูฐอย่างเร่งรีบ  ท่านนบีจึงกล่าวว่า  โอ้  อันญิชะฮ์  ท่านจงบังคับอูฐช้า ๆ  อย่าทำให้จิตใจของพวกนางต้องตกใจกระทบกระเทือน" รายงานโดยบุคอรี (5683) และมุสลิม (4287)

ในขณะที่เสียงพูดของบรรดาซอฮาบะฮ์ได้เบาลงครั้งเมื่อได้มีการกล่าวถึงชื่อภรรยาของพวกเขา  แต่เราได้พบว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ่อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมของเราได้ประกาศความรักของท่านที่มีต่อภรรยาต่อหน้าผู้คนทั้งหลาย  รายงานจากอัมร์ บุตร อัลอาซฺ  ซึ่งเขาได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า "บุคคลใดที่เป็นที่รักยังท่านมากที่สุด  ท่านนบีตอบว่า อาอิชะฮ์  ฉันถามอีกว่า  แล้วผู้ชายล่ะครับ?  ท่านนบีตอบว่า  บิดาของนาง" รายงานโดยบุคอรี (3389)

ภริยาของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  คือท่านนางซอฟียะฮ์ บุตรี ฮุยัยย์ เล่าว่า  "นางได้ไปหาท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เพื่อทำการเยี่ยมเยือนผู้เป็นสามีในขณะที่ท่านกำลังเอี๊ยะอฺติกาฟอยู่ในมัสยิดช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมะดอน  นางได้พูดคุยกับท่านนบีได้ช่วงเวลาหนึ่ง  ก็ทำการยืนขึ้นเพื่อขอตัวอำลา  ดังนั้น  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงยืนขึ้นเพื่อเดินส่งนางจนกระทั่งถึงประตูหนึ่งของมัสยิด  ซึ่งเป็นประตูบ้านของท่านนางอุมมุสะละมะฮ์  จึงมีชายสองคนจากชาวอันซ๊อรเดินผ่านมา  ทั้งสองจึงให้สลามต่อท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านนบี  ศ่อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จึงกล่าวแก่ทั้งสองว่า  ท่านจงทั้งสองจงเดินทางสุภาพ  เพราะเธอคนนี้คือ  ท่านนางซอฟียะฮ์ บุตรี ฮุยัยย์ (ภริยาของฉัน)" รายงานโดยบุคอรี(1894)

แม้นว่าความสุขใดที่บุคคลหนึ่งพยายามทำตามแบบฉบับของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  แต่ทว่าบรรดาภริยาของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  ได้รับความสุขฉันท์สามีภรรยายิ่งกว่าจนกระทั่งสตรีทั้งหลายต้องอิจฉา  ดังนั้น  เราไม่หวังบ้างหรือที่จะดำเนินชีวิตร่วมกับภรรยาโดยรักษาไว้ซึ่งสิทธิและความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของนางให้มากกว่าสิ่งอื่นใด  ยิ่งกว่านั้น  เราต้องเอาใจใส่ต่อครอบครัว  มีความรักเมตตาอาทรต่อพวกเขา  เพื่อนำมาเป็นแบบฉบับที่ดีจากความเป็นหัวหน้าครอบครัวของท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า  "พวกท่านที่ดีเลิศสุดนั้น  คือผู้ที่ดีเลิศที่สุดให้กับครอบครัวของเขา  ส่วนฉันก็คือผู้ที่ดีเลิศที่สุดให้กับครอบครัวของฉัน" รายงานโดยอิบนุฮิบาน(4177)   

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  "นางได้จะทำการอาบน้ำพร้อมกับท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในภาชนะเดียวกัน  ดังนั้นท่านนบีและนางจึงรีบไปที่ภาชนะนั้นพร้อม ๆ กัน  ท่านนบีจึงกล่าวแก่นางว่า  เธอจงปล่อย(ภายชนะ)ให้ฉันก่อนซิ  ท่านหญิงอาอิชะฮ์ก็กล่าวเช่นกันว่า  ท่านปล่อยให้ฉันก่อนซิ(ด้วยการหยอกเย้าฉันท์สามีภรรยา)"  และท่านหญิงอาอิชะฮ์  กล่าวเช่นกันว่า  "ฉันกำลังดื่มน้ำ  ขณะที่ฉันมีประจำเดือน  แล้วท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็เอาน้ำไปดื่ม  โดยท่านได้เอาริมฝีปากของท่านวางบนสถานที่ที่ริมฝีปากของฉันได้ทำการดื่ม"  รายงานโดยมุสลิม (453) และอันนะซาอี (377)

ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวว่า "ได้มียืนยันในฮะดิษซอฮิห์จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ท่านนางกล่าวว่า  ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้  ได้นอนพิงบนตักของฉันโดยขณะฉันมีประจำเดือนและท่านนบีก็ทำการอ่านอัลกุรอานให้ฟัง" รายงานโดยบุคอรี(288)

รายงานจากท่านนางมัยมูนะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ว่า  "ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้เข้ามาหาภรรยาคนหนึ่งคนใดจากเรา  โดยที่นางมีประจำเดือน  ดังนั้น  ท่านร่อซูลลุอฮ์ก็จะวางศีรษะบนตักของนาง  แล้วทำการอ่านอัลกุรอานให้ฟัง"  รายงานโดยท่านอะห์มัด (25582)

แม้ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะมีภรรยาหลายคน  แต่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ผู้เป็นจอมทัพและเป็นศาสนทูต  ก็ให้ความเอาใจใส่และให้ความรักความเป็นห่วงอยู่สม่ำเสมอ  รายงานจากท่านอิบนุอับบาส  เขากล่าวว่า  "เมื่อท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้นั่งที่มุซ๊อลลา(สถานที่ละหมาดประจำของท่าน)  ผู้คนทั้งหลายก็นั่งรอบ ๆ ท่านจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น  หลังจากท่านก็เข้าไปหาภรรยาของท่านทีละคน ๆ โดยให้สลามและขอดุอาให้แก่พวกนาง  ดังนั้นเมื่อถึงเวณที่ท่านนบีจะต้องอยู่กับภรรยาคนใดคนหนึ่ง  ท่านก็จะอยู่กับภรรยาคนนั้น" ฟัตหุลบารีย์

ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เป็นผู้ให้ความช่วยเหลืองานบ้านของบรรดาภรรยาที่ประเสริฐยิ่ง  ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้รายงานไว้หลายสายรายงานด้วยกันเกี่ยวกับการที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ช่วยทำงานบ้าน  ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้ถูกถามว่า  "อะไรบ้างหรือที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ทำงานในบ้าน?  ท่านหญิงกล่าวว่า  ท่านร่อซูลุลลอฮ์ได้ทำงานบ้านเป็นประจำ และเมื่อได้ยินเสียงอะซาน  ท่านก็จะออกจากบ้าน" รายงานโดยบุคอรี (4944)

ท่านอิบนุฮิบบานได้รายงานจาก อุรวะฮ์  จากบิดาของเขา  ว่า  ฉันได้กล่าวถามท่านหญิงอาอิชะฮ์กล่าวว่า  "อะไรบ้างที่ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้งานงานบ้าน?  ท่านหญิงกล่าวว่า  ท่านร่อซูลลุลอฮ์ได้ทำการเย็บสื้อ  เย็บรองเท้า  และทำงานเหมือนกับที่บรรดาผู้ชายได้ทำงานในบ้านของพวกเขา" ฟัตหุลบารีย์ อธิบายฮะดิษที่(5579)

ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยังคงรักษาสัญญามั่นต่อท่านนางค่อดีญะฮ์ภรรยาคนแรกของท่านตลอดระยะเวลาที่นางมีชีวิตอยู่  โดยท่านมิได้ทำการแต่งงานกับสตรีท่านใดเลยจนกระทั่งนางได้จากไป  และหลังจากที่นางได้เสียชีวิตแล้วนั้น  ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็มักจะประกาศต่อหน้าผู้คนทั้งหลายกับความรักของท่านที่มีต่อนาง  ท่านยังได้ทำดีต่อบรรดาเพื่อน ๆ ของนางเพื่อให้เกียรติต่อการรำลึกถึงนาง  จนกระทั่งท่านหญิงซัยยิดะฮ์ อาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ได้กล่าวว่า  "ฉันไม่เคยหึงหวงจากภริยาคนใดจากของท่านนบียิ่งไปกว่าท่านนางค่อดีญะฮ์เลย  และฉันไม่ก็ไม่เคยเห็นนางแต่ทว่าท่านนบีได้กล่าวระลึกถึงนางเป็นอย่างมาก  บางครั้งเมื่อท่านได้ทำการเชือดแกะ  แล้วทำการชำแหละอวัยวะต่าง ๆ ของมัน หลังจากนั้นท่านก็ได้ส่งมอบมันให้เป็นของกำนัลแด่บรรดาเพื่อน ๆ ของท่านนางค่อดีญะฮ์  และในบางครั้งฉันได้กล่าวแก่ท่านนบีว่า  "เสมือนกับว่าไม่มีสตรีคนใดในโลกดุนยานี้อีกแล้วนอกจากค่อดีญะฮ์"  ดังนั้นท่านนบีจึงกล่าวว่า  "นางเป็นสตรีที่ประเสริฐ  มีสติปัญญาเฉียบแหลม  และนางได้กำเหนิดบุตรให้แก่ฉัน" รายงานโดยบุคอรีย์ (3534)

จะเห็นได้ว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จะมีความโมแมนติกกับท่านหญิงค่อดีญะฮ์มากกว่าใคร ๆ  เพราะแม้ว่านางจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม  แต่ทว่าท่านยังกล่าวหวนรำลึก  ทำดีต่อมิตรสหายของนาง  ท่านมีความโมแมนติกจนกระทั่งท่านหญิงอาอิชะฮ์ต้องเกิดความหึงหวง  แต่ความหึงหวงก็เป็นความน่ารักและเป็นเครื่องประดับของสตรี

สิ่งที่ผมได้นำเสนอมานั้น  บุรุษทั้งหลายคงได้ทราบถึงความโมแมนติกของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในบางแง่มุมที่ท่านได้เผยให้เราได้ทราบ  นั่นก็เพื่อเป็นบทนำและแบบฉบับต่อสามีที่ต้องนำไปปฏิบัติต่อภรรยา  และครอบครัวจะได้มีความอบอุ่นและอบอวนไปด้วยกลิ่นไออันหอมหวนแห่งอิสลาม

 

[คะลัคคะลุย]

 salam

ได้อ่านแล้ว  ใจเต้นตูมตาม   

[قطوف من أزاهير النور]

 salam





 

[นูรุ้ลอิสลาม]

ความโรแมนติกของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

สตรีมุสลิมะฮ์ผู้มีเกียรติจะบอกว่า "ท่านนบีมุฮัมมัด  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เป็นแบบฉบับของบุรุษทั้งโลก"  นั่นก็เพราะเธอใฝ่ฝันที่จะให้คู่ชีวิตของเธอที่มีแบบฉบับของท่านนบี  ศ็อลลัลลออุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในฐานะสามีที่มีต่อภรรยา 

       จะมีผู้หญิงคนใดบ้างขอรับ  ที่ใฝ่ฝันสามีที่มีแบบฉบับของท่านนบี (ซ.ล.)  คงหาได้ยากแต่เอาแบบใกล้เคียงก็พอได้เห็นกันบ้าง  ปัจจุบันหล่อและรวยครับ แต่ก็ไม่สามารถทำให้โรแมนติกได้เสมอไป  เพราะหล่อนิสัยไม่ดี  รวยเอาแต่ใจ  เครียดแย่เลยขอรับ   

[นูรุ้ลอิสลาม]

ดังนั้นความโรแมนติก  การปฏิบัติดี  ทะนุถนอมจิตใจอันละเอียดอ่อน  หมั่นสร้างรอยยิ้ม  และความชุ่มฉ่ำให้เกิดขึ้นในหัวใจของผู้เป็นภรรยาอันเป็นที่รักนั้น  ย่อมเป็นสิทธิหน้าที่อันพึงปฏิบัติของสามี 

แค่นี้ก็ไม่ไหวโมแมนติกแล้ว  ใครที่แต่งงานปฏิบัติกันได้เลยครับ

[vrallbrothers]

 salam

อ่านแล้วไม่มีคำบรรยายครับ ตื้นตัน ๆ ครับ 
รักนบี  เราก็ต้องทำตามแบบฉบับของท่านให้ครบทุกแง่ทุกมุมของชีวิตครับ
"อัลลอฮ์ฮุมมาซ็อลลิอะลาซัยยิดินามุฮัมมัด"

    

[- ครูจริงใจ-]

 

[al-azhary]

"อัลลอฮ์ฮุมมาซ็อลลิอะลามุฮัมมัด"

اللهم صلِّ علي سيدنا محمد وعلي أله وصحبه وسلِّمْ

[ItQan]

 salam

มาชาัอัลลอฮฺ ...

no words can say

ขออัลลอฮฺตอบแทนผู้นำเสนอ...

[คะลัคคะลุย]

จะเห็นได้ว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  จะมีความโมแมนติกกับท่านหญิงค่อดีญะฮ์มากกว่าใคร ๆ  เพราะแม้ว่านางจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม  แต่ทว่าท่านยังกล่าวหวนรำลึก  ทำดีต่อมิตรสหายของนาง  ท่านมีความโมแมนติกจนกระทั่งท่านหญิงอาอิชะฮ์ต้องเกิดความหึงหวง  แต่ความหึงหวงก็เป็นความน่ารักและเป็นเครื่องประดับของสตรี

   แม้ท่านหญิงคอดียะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ได้เสียชีวิตไปแล้ว  แต่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ก็พยายามทำดีและหวนรำลึกนาง  ด้วยการทำดีต่อเพื่อน ๆ มิตรสหายของนาง  ผมจึงนึกขึ้นได้เลยครับในหลักการที่ว่า  หากแม่ของเราเสียชีวิต  ก็จงปฏิบัติดีต่อพี่ของแม่หรือน้องของแม่เรา  หากปู่เราเสียชีวิตไปแล้ว  เราก็ไปเยี่ยมและปฏิบัติดีต่อพี่ของปู่หรือน้องของปู่   เป็นต้น 

[al-fantazy]

ต้องจำเอาไว้เป็นแบบอย่างซะแล้ว.......เหอะ เหอะ สงสัย ต้องหามั้งแระ.....

[ILHAM]

งั้นถ้ามีภรรยาที่ขี้หึงมากๆ ก็แสดงว่าน่ารักมากๆ มีเครื่องประดับมากๆ ใช่มั๊ยครับ
รวยแล้วคราวนี้

[faison]

ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยังคงรักษาสัญญามั่นต่อท่านนางค่อดีญะฮ์ภรรยาคนแรกของท่านตลอดระยะเวลาที่นางมีชีวิตอยู่  โดยท่านมิได้ทำการแต่งงานกับสตรีท่านใดเลยจนกระทั่งนางได้จากไป  และหลังจากที่นางได้เสียชีวิตแล้วนั้น  ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ก็มักจะประกาศต่อหน้าผู้คนทั้งหลายกับความรักของท่านที่มีต่อนาง  ท่านยังได้ทำดีต่อบรรดาเพื่อน ๆ ของนางเพื่อให้เกียรติต่อการรำลึกถึงนาง  จนกระทั่งท่านหญิงซัยยิดะฮ์ อาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ได้กล่าวว่า  "ฉันไม่เคยหึงหวงจากภริยาคนใดจากของท่านนบียิ่งไปกว่าท่านนางค่อดีญะฮ์เลย  และฉันไม่ก็ไม่เคยเห็นนางแต่ทว่าท่านนบีได้กล่าวระลึกถึงนางเป็นอย่างมาก  บางครั้งเมื่อท่านได้ทำการเชือดแกะ  แล้วทำการชำแหละอวัยวะต่าง ๆ ของมัน หลังจากนั้นท่านก็ได้ส่งมอบมันให้เป็นของกำนัลแด่บรรดาเพื่อน ๆ ของท่านนางค่อดีญะฮ์  และในบางครั้งฉันได้กล่าวแก่ท่านนบีว่า  "เสมือนกับว่าไม่มีสตรีคนใดในโลกดุนยานี้อีกแล้วนอกจากค่อดีญะฮ์"  ดังนั้นท่านนบีจึงกล่าวว่า  "นางเป็นสตรีที่ประเสริฐ  มีสติปัญญาเฉียบแหลม  และนางได้กำเหนิดบุตรให้แก่ฉัน" รายงานโดยบุคอรีย์ (3534)

สัณญาข้อนี้คือสัณญาว่าจะมีภรรยาคนเดียวหรือว่าสัณญาอะไรหรอครับ

[al-azhary]

สัณญาข้อนี้คือสัณญาว่าจะมีภรรยาคนเดียวหรือว่าสัณญาอะไรหรอครับ

สัญญาใจเพื่อการให้เกียรติท่านหญิงค่อดีญะฮ์  โดยมิแต่งงานกับหญิงอื่นในขณะที่นางมีชีวิตอยู่ 

[faison]

แบบนี้ การให้สัญญา กับภรรยาของตนเองว่าจะมีเพียงคนเดียว อันี้ก็สามารถทำได้ใช่ไหมครับ และเราก็ห้ามผิดสัณญา


เคยถามที่ เวบ อ.มุรีด เขาบอกว่าสัญญา เป็นโมฆะเพราะขัดกับกุรอ่าน ที่อนุญาติให้มีได้ 4


ส่วนตัวผมยังไม่เห้นว่าขัดตรงไหน เพราะ อนุญาติให้มีได้ 4 ไม่ได้บังคับมี 4 ซะหน่อย