ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ  (อ่าน 8185 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 07:31 AM »
0

 salam


การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ


เส้นทางวิบากแห่ง องค์ความรู้


 บทนำ

           ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติได้บันทึกปรากฎการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงต้นของอิสลามหลังการจากไปของท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม  เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่ประชาชาติใด หรือศาสนิกใด มาก่อน  ปรากฎการณ์ดังกล่าว คือ ปรากฎการณ์ของนักรายงานฮาดิษที่หลั่งไหลมาจากหัวเมืองต่างๆ จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตกด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คือ สืบหาฮาดิษ ของท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม จากปากของนักจำและจากนักบันทึกฮาดิษที่กระจัดกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ นักรายงานเหล่านี้มีความจำเป็นเลิศ มีความรับผิดชอบและอดทนสูง และมีการทำงานอย่างเป็นระบบและจริงจัง แต่ที่สำคัญ คือ มีความอิคลาสบริสุทธิ์ใจในการทำงานเพื่ออิสลาม พวกเขาไม่ต้องการชื่อเสียงและเกียรติยศ หรือเงินตรา สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือ การปกปักษ์รักษาอาดิษของท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม  ให้อยู่ในสภาพเดิม และให้ปลอดภัยจาการอุปโลกน์ การแอบอ้าง และการเสกสรรค์ปั้นแต่งของผู้ไม่ปรารถนาดี


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เม.ย. 21, 2008, 07:36 AM โดย ^^ IkHLas ^^ »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 07:38 AM »
0
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการเดินทางเพื่อฮาดิษ

      การเดินทางเพื่อสืบหาฮาดิษเริ่มขึ้นต้งแต่สมัยท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม โดยมีคนเผ่าอาหรับต่างๆ จากทั่วคาบสมุทรอาหรับเดินทางเข้ามาหาท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ณ นครมาดีนะฮฺเพื่อให้สัตยาบันต่อท่านในการรับอิสลาม และเพื่อศึกษาวะฮฺยูจากท่านทั้งในรูปแบบอัลกุรอ่านและซุนนะห์ 1
ครั้นเมื่อท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม เสียชีวิต บรรดาเหล่าซอฮาบะห์ต่างก้ให้ความสนใจ ต่อการเดินทางเพื่อตามหาฮาดิษ ยิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากอิสลามได้แผ่ขยายยังหัวเมืองต่างๆและบรรดาเหล่าซอฮาบะห์ที่จดจำฮาดิษก็กระจัดกระจายอยุ่ตามหัวเมืองเหล่านั้น
     
      ตัวอย่างการเดินทางของซอฮาบะห์ คือ  ท่านญาบิร อิบนุ อับดิลลาห์ (อยู่นครมาดีนะห์ ) ใช้เวลาหนึ่งเดือนในการเดินทางหาท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อุนัยสฺที่เมืองชาม 2   เพื่อฟังฮาดิษเพียงบทเดียวที่ไม่เหลือซอฮาบะห์คนใดจำ นอกจากท่าน 3  และอีกตัวอย่างหนึ่งคือ ท่านอัยยูบ อันอันซอรี ( อยู่นครมาดีนะห์ ) ได้เดินทางไปหาท่านอุกบะห์ อิบนุ อามีร (  ที่อียิปต์ ) เพื่อฟังฮาดิษบทหนึ่งที่ไม่เหลือซอฮาบะห์คนใดจำนอกจากท่าน และเดินทางกลับมาดีนะห์ทันทีหลังจากฟังฮาดิศเสร็จ 4
การเดินทางหาฮาดิษยังคงแพร่หลาย และได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงสมัยตาบีอีน เนื่องจากตาบีอีนส่วนใหญ่จะรับฮาดิษจากซอฮาบะห์โดยตรง 5  พวกเขาจึงต้องเดินทางไปยังหัวเมืองต่างๆที่มีซอฮาบะห์อยุ่เพื่อฟัง และรับฮาดิษจากคนเหล่านั้นแม้ในหมู่ตาบีอีนด้วยกัน ตาบีอีนรุ่นเล็กก็จะเดินทางเพื่อหาฮาดิษจากตาบีอีนรุ่นใหญ่ ( อาวุโส ) ที่กระจัดกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เช่นเดียวกัน ลักษณะเช่นนี้ยังคงปรากฏอยู่ต่อเนื่องในยุคสมัยของตาบีอิตตาบีอีน และยุคต่อๆมาจนกล่าวได้ว่า นักรายงานฮาดิษทุกคนเป็นนักเดินทาง มีนักฮาดิษจำนวนน้อยมากที่ไม่เคยเดินทางจากบ้านเกิดของตน

___________________________________________________________________________________________________________________________________________


1 ดูรายละเอียดเรื่องนี้ในหนังสือชีวประวัติท่านนบี ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม

2 เมืองชาม หมายถึงจอร์แดน ซีเรีย ปาเลสไตน์ และเลบานอนในปัจจุบัน
3 ดู ซอเฮี๊ยะบุคอรีย์ กิตาบุลอิลมฺ บทที 19
4 ดูอัรริหฺละฮฺฟีเฏาะละบิลฮาดิษ : อัลคอฏีบอัลบัฆดาดีย์ หน้า 188
5 โดยเฉพาะตาบีอีนรุ่นอาสุโส เนื่องจากมีโอกาสได้ร่วมสมัยกับซอฮาบะห์ส่วนใหญ่

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 07:40 AM »
0







          เดี๋ยว มาต่อให้     


      hihi: loveit: loveit:

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 08:56 AM »
0


ญะซากัลลอฮุค็อยร็อน  คร๊าบ  mycool:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 08:50 PM »
0
สาเหตุสำคัญของการเดินทางหาฮาดิษ
   
   ในยุคของซอฮาบะห์นั้นปรากฏว่าซอฮาบะห์จะเดินทางหาฮาดิษด้วยสาเหตุ 2 ประการ คือ
     1.) เพื่อฟังฮาดิษที่ตัวเองไม่ได้ฟังจากท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม 
     2.) เพื่อหาความมั่นใจในฮาดิษที่ตัวเองจดจำจากท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม และไม่มีคนอื่นจดจำในเมืองของเขา เขาจึงต้องเดินทางไปหาผู้จดจำฮาดิษนั้นๆยังต่างหัวเมืองเพื่อความมั่นใจในฮาดิษ


     สำหรับยุคตาบีอีนนั้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตาบีอีนต้องออกเดินทางหาฮาดิษก็เนื่องจากบรรดาซอฮาบะห์อยู่อย่างกระจัดกระจายตามหัวเมืองต่างๆ จึงจำเป็นต้องเดินทางไปหาบุคคลเหล่านั้น เพื่อฟังฮาดิษจากปากของพวกเขา ดังรายงานจากท่านอบุลอาลียะห์ได้เล่าว่า
   “ พวกเราชาวบัศเราะห์ 6  ได้ยินได้ฟังรายงานต่างๆที่เล่ามาจากบรรดาซอฮาบะห์ พวกเรายังไม่พอใจจนกว่าจะได้ขี่ยานพาหนะไปยังนครมาดีนะห์เพื่อฟังรายงานเหล่านั้นจากปากของซอฮาบะห์เอง 7   ”



ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 08:55 PM »
0
       อย่างไรก็ตามมีสาเหตุสำคัญบางสาเหตุเกิดขึ้นหลังจากสองยุคดังกล่าวผ่านไป เช่น :


    1.)  เกิดการปลอมแปลงฮาดิษโดยฝีมือของกลุ่มเบี่ยงเบนต่างๆ โดยเฉพาอย่างยิ่งกลุ่มรอวาฟิฏ (ชีอะห์)  กลุ่มคอวาริจ กลุ่มมุรญิอะห์  และกลุ่มญะมียะห์ มีการแอบอ้างฮาดิษต่างๆ เพื่อใช้เป็นสื่อเรียกร้องเชิญชวนผู้คนให้ศรัทธา และเชื่อหลักการและแนวคิดของตน เมื่อเป็นดังนั้น นักรายงานฮาดิษในยุคต่อมาจึงได้กระตือรือร้นในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของฮาดิษโดยการเดินทางเพื่อหาสายสืบและแหล่งที่มาที่ถูกต้อง
 
    2.)  การสืบหาสายสืบที่  “ อาลี ” หมายถึงสายสืบที่มีผู้รายงานน้อยเมื่อเทียบกับอีกสายสืบหนึ่งที่รายงานฮาดิษบทเดียวกัน 8   กล่าวคือ นักรายงานฮาดิษในยุคนี้จะพยายามค้นหาสายสืบที่ฮาดิษที่ อาลี  ไม่ว่าสายสืบนั้นจะอยู่กับใคร และอยู่ที่ใด เนื่องจากนักฮาดิษมีหลักการพิจารณาว่า ฮาดิษที่มีสายสืบ  “ อาลี ” มีความน่าเชื่อถือมากกว่าฮาดิษที่มีสายสืบไม่ “ อาลี ” 9  ด้วยเหตุผลว่า ผู้รายงานที่น้อย ความผิดพลาดย่อมน้อยเป็นเงาตามตัว ท่านอีมามอะห์หมัด อิบนิ ฮัมบัลได้กล่าวไว้ว่า

 
              
“      طلب الاسناد العالي سنة عن سلف  ”

“ การแสวงหาอิสนาดที่ อาลี นั้นเป็นวิถีที่ได้มาจากคนยุคก่อน ”
 (  อูลูมุลฮาดิษ : อิบนุศศอลาห์ หน้า 231 )
[/size]


       3.)  การรวบรวมสายสืบฮาดิษหลายๆ สายของฮาดิษบทเดียว กล่าวคือ  นักรายงานฮาดิษในยุคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะตัวบทฮาดิษเพียงอย่างเดียว แต่ได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการรวบรวมสายสืบของตัวบทฮาดิษ คนเหล่านี้ต้องเดินทางไปยังหัวเมืองต่างๆ ด้วยความยากลำบาก เพื่อให้ได้มาซึ่งสายสืบใหม่ๆของฮาดิษ เนื่องจากสายสืบต่างๆนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาตัวบทของฮาดิษว่า อยู่ในสถานะที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ อย่างไร 10 



           ตัวอย่างที่โดดเด่นของนักรายงานในกลุ่มนี้ คือ ท่านอิมามอะห์หมัด อิบนุ ฮัมบัล ( 241 ฮ.ศ.)   อิสหาก อิบนุ รอหะวัยฮ์ ( 238 ฮ.ศ.)  อะลีย์ อิบนุล มาดีนีย์ ( 234 ฮ.ศ.)   ยะหฺยา  อิบนุ มะอีน ( 233 ฮ.ศ . )  อิมามอัลบุคอรีย์ ( 256 ฮ.ศ .)  อิมามมุสลิม ( 261 ฮ.ศ. )  อบูซุรอะห์ ( 327 ฮ.ศ . )  และ อบูฮาติม (277 ฮ.ศ.) และอื่นๆอีกมากมาย
__________________________________________________________________________________________________________________________________________
             6   เมืองหนึ่งในประเทศอิรัก
             7    ตัดรีย์บุรรอวีย์ : อัสซูยูตีย์ หน้า 359
             8    ดู  ตัยซีรมุศฏอละฮิลฮาดิษ : ดร. มะห์มูด อัฏเฏาะฮาน หน้า 181
                      คำว่าผู้รายงานน้อยในที่นี้ให้พิจารณาตามแนวตั้งมิใช่แนวนอน
             9    เรียกในภาษาฮาดิษ ว่า  นาซิล หรือ  อิสนาด นาซิล  หมายถึงสายสืบที่มีจำนวนผู้รายงานมากกว่า (พิจารณาตามแนวตั้งมิใช่แนวนอน)
            10   สายสืบดังกล่าวนี้หากสืบถึงซอฮาบะห์คนเดียวกัน  เรียกว่า มุตาบิอ์ แต่ถ้าหากสืบถึงซอฮาบะห์คนละคน เรียกว่า ชาอิด ( ดู   ตัยซีรมุศฏอละฮิลฮาดิษ : ดร. มะห์มูด อัฏเฏาะฮฺฮาน หน้า 141 )



              วัลลอฮูอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เม.ย. 21, 2008, 09:00 PM โดย ^^ IkHLas ^^ »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-jaohary

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 78
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เม.ย. 21, 2008, 09:13 PM »
0
เยี่ยมมากครับ.......นำเสนอต่อเลยคับ...
น่าสนใจมากๆ เรื่องนี้ ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย...
จะรออ่านนะคับ.....
@ al-jaohary  หมายถึง อัญมณีอันมีค่า ..... และ....อัญมณีที่มีค่าที่สุดในใจของข้าพเจ้า  คือ  อัล-อิสลาม @

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 08:20 PM »
0
แรงจูงใจในการเดินทางหาฮาดิษ   


                นักรายงานฮาดิษเหล่านี้มีแรงจุงใจเพียงอย่างเดียวนั่น คือ จิตสำนึกอันสูงส่งในความรับผิดชอบต่อการปกปักษ์รักษาบทบัญญัติอิสลามทั้งในรูปของอัลกุรอ่านและอัสซุนนะห์ และต่อการเผยแพร่บทบัญญัติอิสลามยังมวลประชาชาติเหมือนกับที่ท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ผลงานอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาเกิดขึ้นจากความศรัทธาอันแรงกล้าและความปรารถนาที่จะสนองตอบต่อคำประกาศของท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ในหลายฮาดิษอาทิ เช่น

               1.)  ท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า :

                 “ ท่านทั้งหลายจงเผยแพร่จากฉัน แม้เพียงหนึ่งอายะห์  ( หมายถึงแม้เพียงเล็กน้อย)  และจงรายงาน ( เล่าเรื่องราวต่างๆ) จากบนีอิสรออีลโดยไม่ต้องกังวลใดๆ ”   ซอเฮี๊ยะบุคอรีย์ หมายเลขฮาดิษ 3461

               2.)   ท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า :
              “ ขออัลลอฮฺได้ทรงโปรดประทานความสุขสดชื่น และสวยงามแก่บุคคลหนึ่งที่เขาได้ยินคำพูดของฉัน เขามีความเข้าใจและเขานำไปรายงานต่อ ( ยังผู้อื่น) เหมือนกับที่ได้ยินมา บ่อยครั้งที่ผุ้รับรายงานมีความเข้าใจดีกว่าผู้ ( ให้รายงาน) ที่ได้ยินมาเอง ”  สุนันอบูดาวูดหมายเลขอฮาดิษ 3660 และสุนันติรมีซีย์ หมายเลขฮาดิษ 5657-5658 และท่านบอกว่าเป็นฮาดิษ หะซัน

               3.)  ท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กำชับและเตือนถึงโทษอันมหันต์ของการแอบอ้าง หรืออุปโลกน์ ซึ่งปรากฏในหลายฮาดิษ เช่น

                      ก.   “ ผู้ใดโกหกต่อฉัน  ( หมายถึงนำฉันไปแอบอ้าง ) เขาจงเตรียมที่นั่งของเขาในไฟนรก ”
                               ซอเฮี๊ยะบุคอรีย์ หมายเลขฮาดิษ 107


                      ข.   “   เป็นการโกหกพอแล้วที่คนๆหนึ่งเล่า ( รายงาน ) ทุกสิ่งที่เขาได้ฟังมาโดยไม่จำแนก ”   โดยมุสลิมในคำนำของหนังสือซอเฮี๊ยะ ฮาดิษหมายเลข 5


                      ค.  “   ผู้ใดเล่าฮาดิษหนึ่งจากฉันทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องโกหก เขาก็เป็นคนหนึ่งจากนักโกหก ”
                                   โดยมุสลิมในคำนำของหนังสือซอเฮี๊ยะ ฮาดิษหมายเลข 1

    จากคำสั่งข้างต้นของท่านรอซูล  ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ข้างต้นทำให้นักรายงานฮาดิษมีความกระตือรือร้นในการถ่ายทอด  แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาระมัดระวังต่อสิ่งที่ถ่ายทอด นักรายงานฮาดิษในยุคซอฮาบะห์จึงพิถีพิถันในการรายงาน กล่าวคือ จะไม่รายงานจนกว่าจะแน่ใจในความเที่ยงตรง และความถูต้องจากท่านรอซูล ซ็อลลอลลอฮู อะลัยฮิวะซัลลัม ( ดู ตัวอย่าง จุดยืนของซอฮาบะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือสุนันของอิบนุมาญะห์ )   
   สำหรับนักรายงานในยุคต่อมาจึงได้วางระบบสายสืบ ( อิสนาด) อย่างละเอียดและแยบยล พวกเขาจะไม่รายงานนอกจากจะต้องมีสายสืบที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือได้เท่านั้น

วัลลอฮูอะลัม

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 08:25 PM »
0
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเดินทางหาฮาดิษ
   

                      การเดินทางของนักรายงานฮาดิษเพื่อสทืบหาฮาดิษได้ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ที่สำคัญนานัปการต่อวิชาการฮาดิษ เช่น :
               1.)ทำให้ฮาดิษแพร่หลายและทำให้สายรายงาน ( อิสนาด ) ของฮาดิษมีจำนวนเพิ่มากขึ้น การเพิ่มจำนวนของสายรายงานนับเป็นประโยชน์ของการพิจารณาฮาดิษในหลายด้าน :
                     ก.การพิจารณาความเป็น มุตะวาติร  ( ฮาดิษที่มีผู้รายงานจำนวนมาก  รายงานสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่สติปัญญามิอาจยอมรับได้ว่า ผู้รายงานเหล่านันสมคบกันรายงานเท็จ )  และอาห้าด (  ฮาดิษที่ไม่ถึงระดับมุตะวาติร (ดูตัยซีรมุศฏอละหุ้ลฮาดิษ : ดร.มะห์มูด อัฏเฏาะห์ฮาน หน้า 19-22 ))
                     
                    ข.การพิจารณาสายรายงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนสู่การเป็นฮาดิษ “ ซอเฮี๊ยะลิฆอยรีฮี ”  (  คือฮาดิษ หะซันที่มีสายรายงานอื่น (มีฐานะเดียวกัน หรือ เหนือกว่า)  มาสนับสนุน (อ้างแล้ว หน้า 51 ))  หรือ หะซันลิฆอยรีฮี ( คือ หะดิษฎออีฟ (ที่มิได้มีสาเหตุมาจากผู้รายงานเป็นผู้ฟาซิก: ทำบาปใหญ่ หรือสะสมบาปเล็กเป็นนิจ หรือ เป็นผู้โกหก) เมื่อมีสายรายงานอื่น (ที่ฐานะเดียวกัน หรือ เหนือกว่า ) มาสนับสนุน ( อ้างแล้ว หน้า 52 ))
               
                    ค.การพิจารณาสายฮาดิษที่แตกต่างกันในแต่ละสายรายงาน เพื่อกำหนดส่วนที่เพิ่มเติม หรือส่วนที่แตกต่าง หรือขัดแย้งกันในแง่ของการนำมาใช้เป็นหลักฐาน

                    ง.การพิจาณาสำนวนของฮาดิษ และลักษณะการนำสืบของสายรายงานที่แตกต่างกัน เพื่อกำหนดว่าสำนวนใดหรือสายรายงานใดมีอิลละห์ ( อิลละห์ หรือ ไวรัสฮาดิษ  คือ ข้อบกพร่องที่ซ่อนเร้นในตัวบท หรือสายรายงานของฮาดิษ มีผลต่อสถานภาพของฮาดิษโดยตรง และนักฮาดิษทั่วไปมิอาจทราบ ยกเว้นปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น (อ้างแล้ว หน้า 99-100))



    วัลลอฮูอะลัม


ค่อยมาต่อให้ ใหม่ นะเจ้า ค่ะ     loveit:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เม.ย. 22, 2008, 08:27 PM โดย ^^ IkHLas ^^ »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 09:02 PM »
0
คงยากมากเลยกว่าจะได้ของแท้สุดๆ พวกเขาอุตส่าห์หามารวบรวมให้ ถ้าไม่รวบรวมแล้วป่านนี้คงจะต้องเดินทางหาเองเพื่อทำหลักฐานมั้ง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Qortubah

  • บุคคลทั่วไป
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 09:28 PM »
0

สมัยก่อน กว่าจะได้มาหะดีษนึง ลำบากยิ่งนัก..
และอุละมาอ์ในสมัยนั้น ก็ใช่ว่าจะมีตำราครบครัน ดังเช่นพวกเราในสมัยนี้..

ดังที่มีรายงานว่าขนาด ท่านอิบนุ หัซม์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ยังไม่มีสุนันตัรมิซีย์เลย ทั้งที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ทั้งนี้เพราะตำราเล่มนี้แพร่หลายไปไม่ถึงอันดะลุสที่ท่านพำนักอยู่ เช่นเดียวกับอีกหลายๆท่านที่มีรายงานว่าท่านเหล่านั้นไม่เคยอ่าน ไม่เคยเห็นตำราสำคัญๆหลายๆเล่ม..แต่ถึงกระนั้น ท่านเหล่านั้น ก็กลายเป็นอุละมาอ์ที่นำพาประชาชาตินี้สู่หนทางแห่งอิสลาม คือผู้ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ ตกทอดมาถึงเราทุกวันนี้..ทั้งนี้ เพราะความรู้ เวลา และทุกช่วงชีวิตของพวกท่านมีแต่บะเราะกะฮฺความจำเริญ อันเนื่องมาจากตักวาความยำเกรง ที่ท่านเหล่านั้นมีต่ออัลลอฮฺตะอาลา..

ตรงข้ามกับเราในทุกวันนี้.. เรามีตำราที่สำคัญๆ แทบจะทุกเล่ม ในทุกๆศาสตร์ ชนิดที่ไม่เคยปรากฎในหน้าประวัติศาสตร์ว่าจะมียุคสมัยใดที่มีตำรับตำรา ข้อมูลความรู้ที่เพียบพร้อมเฉกเช่นในยุคนี้ ตำราที่หายากในยุคก่อนก็ได้รับการตีพิมพ์อย่างแพร่หลาย.. ทุกคนสามารถเข้าถึงตำราเหล่านั้นอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะในรูปของซีดี โปรแกรม หรือตามเน็ต ตามเว็บไซต์ต่างๆที่มีอยู่มากมาย.. การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนทั่วทุกมุมโลกก็เป็นไปอย่างรวดเร็วง่ายดาย.. เรียกได้ว่าต่างกันลิบลับจากยุคก่อน..

แต่ไหนละความรู้ของเรา? ความรู้ของเราในยุคนี้ ขาดซึ่งบะเราะกะฮฺความจำเริญ เพราะความถดถอยของอีหม่านตักวา.. ความอ่อนแอของจิตใจ และเจตนา.. แม้ว่าหนทางสู่ความรู้นั้นจะง่ายดายเพียงใด แต่เราก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษผงธุลีที่ติดอยู่ใต้รองเท้าของอุละมาอ์เหล่านั้น..

วัลลอฮุลมุสตะอาน..


ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 09:34 PM »
0
สมัยนี้มันได้มาอย่างง่ายดาย เลยไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่ถ้าเป็นแต่ก่อนได้มาด้วยความยากลำบาก ทำให้มีค่ายิ่ง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ItQan

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 177
  • Reflection
  • Respect: +50
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 09:52 PM »
0
  salam

 myGreat: myGreat:

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีแด่ผู้นำเสนอ

"แต่ไหนละความรู้ของเรา? ความรู้ของเราในยุคนี้ ขาดซึ่งบะเราะกะฮฺความจำเริญ เพราะความถดถอยของอีหม่านตักวา.. ความอ่อนแอของจิตใจ และเจตนา.. แม้ว่าหนทางสู่ความรู้นั้นจะง่ายดายเพียงใด แต่เราก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษผงธุลีที่ติดอยู่ใต้รองเท้าของอุละมาอ์เหล่านั้น..."

 :-[ :-[  ข้อคิดเตือนใจที่ดีมาก...
أللهم اخرجنا من ظلمات الوهم وأكرمنا بنور الفهم ... آمين يارب العالمين
โอ้อัลเลาะฮ์ ขอพระองค์ทรงให้เราออกห่างจากความมืดมนแห่งความคิดคลุมเครือ  และให้เกียรติเราได้วยรัศมีแห่งความเข้าใจ... อามีน ยาร็อบ

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 10:06 PM »
0
ญาซากัลลอฮฺ ท่าน Qortubah        mycool:




สมัยก่อน กว่าจะได้มาหะดีษนึง ลำบากยิ่งนัก..
และอุละมาอ์ในสมัยนั้น ก็ใช่ว่าจะมีตำราครบครัน ดังเช่นพวกเราในสมัยนี้..

ดังที่มีรายงานว่าขนาด ท่านอิบนุ หัซม์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ยังไม่มีสุนันตัรมิซีย์เลย ทั้งที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ทั้งนี้เพราะตำราเล่มนี้แพร่หลายไปไม่ถึงอันดะลุสที่ท่านพำนักอยู่ เช่นเดียวกับอีกหลายๆท่านที่มีรายงานว่าท่านเหล่านั้นไม่เคยอ่าน ไม่เคยเห็นตำราสำคัญๆหลายๆเล่ม


 oh:   เชื่อแล้ว ค่ะ  ว่า วิชาความรู้แต่ละศาสตร์ กว่าจะได้มา  ยาก ลำบากจริงๆ


 

   ท่านเหล่านั้น ก็กลายเป็นอุละมาอ์ที่นำพาประชาชาตินี้สู่หนทางแห่งอิสลาม คือผู้ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ ตกทอดมาถึงเราทุกวันนี้..ทั้งนี้ เพราะความรู้ เวลา และทุกช่วงชีวิตของพวกท่านมีแต่บะเราะกะฮฺความจำเริญ อันเนื่องมาจากตักวาความยำเกรง ที่ท่านเหล่านั้นมีต่ออัลลอฮฺตะอาลา..



อัลฮัมดูลิลละห์  สำหรับความมานะอุตสาหะ ของพวกท่านเหล่านี้  
ความรู้จึงได้ตกทอด และหลงเหลือ มาถึงพวกเราทั้งหลาย




 ทุกคนสามารถเข้าถึงตำราเหล่านั้นอย่างง่ายดาย    



ช่างน่าเสียดาย  
ทุกคนสามารถเข้าถึงตำราได้อย่างง่ายดาย
แต่ ความรู้ที่มีอยู่แล้วในตำรา อาจเข้าถึงใจของทุกคนได้ไม่ง่ายนัก
เพราะ ความง่ายดายที่เราได้รับมา ทำให้เราไม่เห็นคุณค่า ของสิ่งนั้น



ไหนละความรู้ของเรา? ความรู้ของเราในยุคนี้ ขาดซึ่งบะเราะกะฮฺความจำเริญ เพราะความถดถอยของอีหม่านตักวา.. ความอ่อนแอของจิตใจ และเจตนา.. แม้ว่าหนทางสู่ความรู้นั้นจะง่ายดายเพียงใด แต่เราก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษผงธุลีที่ติดอยู่ใต้รองเท้าของอุละมาอ์เหล่านั้น..



ขออัลลอฮฺ ทรงช่วยเหลือ และคุ้มครองหัวใจ ของพวกเรา ด้วยเทอญ    อามีน

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 10:09 PM »
0
 salam

สัญญาว่าเสร็จธุระ จามาอ่าน อินชาอัลลอฮฺ  ;D  มายะซากัลลอฮฺ น้องอิคลาสไว้ก่อน  loveit:
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

 

GoogleTagged