ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ  (อ่าน 8420 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 10:11 PM »
0
 salam


อ้างถึง
แต่ไหนละความรู้ของเรา? ความรู้ของเราในยุคนี้ ขาดซึ่งบะเราะกะฮฺความจำเริญ เพราะความถดถอยของอีหม่านตักวา.. ความอ่อนแอของจิตใจ และเจตนา.. แม้ว่าหนทางสู่ความรู้นั้นจะง่ายดายเพียงใด แต่เราก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษผงธุลีที่ติดอยู่ใต้รองเท้าของอุละมาอ์เหล่านั้น..[/quote]

 hihi:  ครับ อุลามนั้นมีบุญคุณคณูประการครับ ....หากขาดพวกเขาเหล่านั้นแล้ว  พวกเราคนยุคหลัง  คงจะหลงทางกันมากกว่านี้

ฉนั้น ผู้หนึ่งผู้ใดที่ตำหนิอุลามะหรือด่าทออุลามะนั้น  มันหมายถึง  เขาเหล่านั้นได้ด่าทอต่อพระองค์ผู้ทรงสร้างอุลามะที่ประเสริฐเหล่านั้นด้วย

และได้ชื่อว่า เขานั้นได้ทรยศ ต่อเขาอุลามะที่ดีของพระองค์นั้นเอง

เพราะในอัลกรุอ่านมีมากมายที่พระองค์ยกย่องและสรรญเสริญอุลามะของพระองค์

ส่วนในกรณีที่ บางกลุ่มที่ยกย่องผู้รู้ที่เผยแพร่ในแนวทางของตนว่า เป็นอุลามะและมความที่ถูกต้องฝ่ายเดียว

แม้ว่าผู้ที่ตนยกย่องว่าเป็นอุลามะนั้น  เขาจะรู้บางวิชาการหรือบางด้านก็ตาม ความคิดแบบนี้นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด

พลาดมากและอันตรายยิ่ง


เพราะผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นถึงระดับอุลามะนั้น จะต้องได้รับการยกยอ่งจากบรรดาผู้ที่รู้ในระดับเดียวกันและเป็นที่ยอมรับ

ของนักปราชญ์ท่านอื่นๆในแวดวงของวิชาการทุกแขนงทุกสาขารวมถึงทุกๆด้านนั้นด้วย


ดังนั้นผู้ที่เป็นถึงระดับอุลามะ นั้น  ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆตามปากที่เราเรียกหรือแต่งตั้งกันเหมือนปัจจุบันนี้


วัลลอฮูอะลัม


ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: เม.ย. 22, 2008, 10:14 PM »
0
แต่ไหนละความรู้ของเรา? ความรู้ของเราในยุคนี้ ขาดซึ่งบะเราะกะฮฺความจำเริญ เพราะความถดถอยของอีหม่านตักวา.. ความอ่อนแอของจิตใจ และเจตนา.. แม้ว่าหนทางสู่ความรู้นั้นจะง่ายดายเพียงใด แต่เราก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษผงธุลีที่ติดอยู่ใต้รองเท้าของอุละมาอ์เหล่านั้น..[/quote]

   



ครับ อุลามนั้นมีบุญคุณคณูประการครับ ....หากขาดพวกเขาเหล่านั้นแล้ว  พวกเราคนยุคหลัง  คงจะหลงทางกันมากกว่านี้

ฉนั้น ผู้หนึ่งผู้ใดที่ตำหนิอุลามะหรือด่าทออุลามะนั้น  มันหมายถึง  เขาเหล่านั้นได้ด่าทอต่อพระองค์ผู้ทรงสร้างอุลามะที่ประเสริฐเหล่านั้นด้วย

และได้ชื่อว่า เขานั้นได้ทรยศ ต่อเขาอุลามะที่ดีของพระองค์นั้นเอง

เพราะในอัลกรุอ่านมีมากมายที่พระองค์ยกย่องและสรรญเสริญอุลามะของพระองค์

ส่วนในกรณีที่ บางกลุ่มที่ยกย่องผู้รู้ที่เผยแพร่ในแนวทางของตนว่า เป็นอุลามะและมความที่ถูกต้องฝ่ายเดียว

แม้ว่าผู้ที่ตนยกย่องว่าเป็นอุลามะนั้น  เขาจะรู้บางวิชาการหรือบางด้านก็ตาม ความคิดแบบนี้นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด

พลาดมากและอันตรายยิ่ง


เพราะผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นถึงระดับอุลามะนั้น จะต้องได้รับการยกยอ่งจากบรรดาผู้ที่รู้ในระดับเดียวกันและเป็นที่ยอมรับ

ของนักปราชญ์ท่านอื่นๆในแวดวงของวิชาการทุกแขนงทุกสาขารวมถึงทุกๆด้านนั้นด้วย


ดังนั้นผู้ที่เป็นถึงระดับอุลามะ นั้น  ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆตามปากที่เราเรียกหรือแต่งตั้งกันเหมือนปัจจุบันนี้


วัลลอฮูอะลัม

ออฟไลน์ คนอยากรู้

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 621
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: เม.ย. 23, 2008, 08:53 AM »
0
ดังนั้น วิชาการต่างๆที่เราได้มาปัจจุบันนี้ ก็ล้วนมาจากการศึกษาและค้นคว้าจากบรรดาผู้ที่ชื่อว่าอุลามะหรือผู้รู้ที่พระองค์ทรงส่งมานั้นเอง

แต่ถ้าเราจะเปรียบเทียบบรรดาผู้รู้จากสลัฟแล้วก็คงไม่พ้นท่านอีม่ามทั้ง4ที่เป็นเจ้าของมัสหับ


1ท่านอีม่ามฮานาฟี

2ท่านอีม่ามมาลีกี

3ท่านอีม่ามชาฟีอี 

4ท่านอีม่ามฮัมบาลี


ทั้ง4 ท่านนี้ถือว่า เป็นผู้ที่มีความรู้มาก ในทุกสาขาทุกแขนง

ส่วนบุตรของอับดุลวาฮาบ(ผู้ริ่เริ่มนักผู้ปฏิรูปในแนวทางวาฮาบี)นั้น ท่านไม่ได้เป็นอุลามะ 

แต่ท่านเป็นแค่นักฟื้นฟูหรือนักปฏิรูปในสมัยที่ท่านมีอำนาจในการปกครองร่วมกับกษัตริย์ในสมัยของท่านเท่านั้น







ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: เม.ย. 25, 2008, 08:48 PM »
0
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเดินทางหาฮาดิษ (ต่อ  )


2.)   ทำให้รู้จักบรรดานักรายงานฮาดิษ และชีวประวัติของพวกเขาอย่างละเอียด ทั้งนี้เนื่องจากนักรายงานที่เดินทางตระเวนยังเมืองต่างๆ เพื่อหาฮาดิษนั้นต่างได้พบเจอและรู้จักนักรายงานฮาดิษจำนวนมากมายทั้งที่เป็นชาวเมือง และเดินทางมาจากเมืองอื่นๆ นักเดินทางเหล่านี้นอกจากจะจดจำ และบันทึกส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาดิษแล้วพวกเขายังจดจำ และบันทึกส่วนที่เกี่ยวข้องกับกับบุคคลอีกด้วย ดังที่ท่านอัลฮาฟิซ อัรรอมฮุรมุซีย์ ( 405 ฮ.ศ.) ได้บันทึกรายชื่อนักรายงานฮาดิษที่เดินทางยังเมืองต่างๆ โดยเรียบเรียงเป็นรุ่นๆ ( ฏอบะกาะฮฺ) ท่านได้กล่าวถึงนักรายงานที่เดินทางยังเมืองหลายเมือง และนักเดินทางที่เดินทางยังเมืองเดียว หรือซีกเดียว ( ดู อัลมูฮัดดิษ อัลฟาซิล : อัรรอมฮุ๊รมซีย์ หน้า 229-232 )
                                 

                     สำหรับเมืองสำคัญที่นักรายงานฮาดิษเดินทางไปเพื่อสืบหาฮาดิษ คือ มาดีนะห์ , มักกะห์ ,  กูฟะห์ ,บัศเราะห์  , ญะซีเราะห์  , ชาม  , ยะมามะห์,  เยเมน,  มิศร,  มัรวฺ (เมืองหนึ่งในประเทศตรุกมานิสตาน ) , ร็อย ( เมืองหนึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิหร่าน) และ บุคอรอ ( เมืองหนึ่งในอุซเบกิสถาน เป็นบ้านเกิดของอิมามบุคอรีย์ )   เมืองเหล่านี้ถือเป็นศูนย์กลางแห่งการแสวงหาความรู้เนื่องจากเหล่านักปราชญ์ มากมายมาพำนักอยู่ในเมืองเหล่านี้ และการรายงานฮาดิษก็ตื่นตัวอยุ่ในเมืองเหล่านี้ทั้งสิ้น



3.)   การเดินทางของนักรายงานฮาดิษได้ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวและตื่นตัวในการรวบรวมรายงานต่างๆไว้เป็นเล่ม เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่หนึ่งในยุคของซอฮาบะห์ และตาบีอีนรุ่นอาวุโสในรูปแบบ “ ศุหุฟ” ( พหูพจน์ของ “ศอฮีฟะห์ ” ในที่นี้หมายถึง วัสดุที่จารึกบทฮาดิษของท่านนบี )และ “ อัจซาอฺ”  ( เป็นพหูพจน์ของ ญุซอ ในที่นี้หมายถึง วัสดุที่บันทึกฮาดิษของท่านนบีเฉพาะเรื่อง หรือเฉพาะซอฮาบะห์คนใดคนหนึ่ง (ดูตัวอย่างศุหุฟและอัจซาอฺในหนังสือ : บุหูษฟีตารีค  อัสซุนนะห์ อัลมูชัรรอฟะห์ ของ ดร.อักรอม ฏิยาอฺอัลอูมารีย์ หน้า 228-231))       
ต่อมาได้พัฒนามาเป็นรูปแบบ “ มูศ้อนนาฟาต” และ “มูวัฏเฏาะอาต” (เอกสารที่รวบรวมฮาดิษที่สืบถึงท่านนบี (ฮาดิษมัรฟูอ์) ฮาดิษที่สืบถึงศอฮาบะห์ (ฮาดิษเมากูฟ) และฮาดิษที่สืบถึงตาบีอีน ( ฮาดิษมักฏั๊ว) ไว้ในเล่มเดียวกัน มีความหมายเดียวกันกับมูวัฏเฏาะอาต )
             
                     ในศตวรรษที่ 2 ยุคตาบีอีน และ อัตบาอฺ ตาบีอีนรุ่นอาวุโสเช่นอัลมูศ็อนนัฟของอับดุลรอซซาก อัศศอนอานีย์ (211 ฮ.ศ.)  และอัลมูวัฏเฏาะของอิมาลิก (179 ฮ.ศ.) และได้พัฒนามาสุ่ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของฮาดิษในศตวรรษที่สามในรูปหนังสือมะนาสีด (หนังสือที่รวบรวม และเรียบเรียงฮาดิษตามชื่อซอฮาบะห์ผู้รายงาน โดยไม่คำนึงถึงเรื่องของฮาดิษ)    เช่น อัลมุสนัดของอิมามอะห์มัด (240 ฮ.ศ.)   หนังสือศิหาหฺ ( หนังสือที่ผู้แต่งรวบรวมเฉพาะฮาดิษที่ซอเฮี๊ยะเท่านั้น ส่วนการเรียบเรียงนั้นจะเรียบเรียงตามบทต่างๆของวิชาฟิกฮ์)   เช่น อัลญามีออัศซอเฮี๊ยะ ของอิมามบุคอรีย์ (256 ฮ.ศ.)  และหนังสือสุนัน (หนังสือที่รวบรวมฮาดิษที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนใหญ่ในอิสลามโดยเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับ อะฮฺกาม ( ข้อบัญญัติ ) มีฮาดิษหลากหลายสถานภาพทั้งซอเฮี๊ยะ และไม่ซอเฮี๊ยะ ส่วนการเรียบเรียงนั้น จะเรียบเรียงตามบทต่างๆ ของวิชาฟิกฮ์ )  เช่น สุนันของอบูดาวูด (275  ฮ.ศ.) เป็นต้น
(มีต่อ)

วัลลอฮูอะลัม     


 loveit: loveit:



ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: เม.ย. 25, 2008, 08:58 PM »
0
 salam

ญะซากิลลาฮ์ค็อยร็อน  มาก ๆ สำหรับการนำเสนอหลักวิชาฮะดิษ นะครับ  mycool:
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: เม.ย. 25, 2008, 09:37 PM »
0
วิชาฮาเดสหรือพี่ ผมว่าวิชามุสตอลัฮมากกว่านะครับ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: เม.ย. 27, 2008, 11:55 PM »
0
( ต่อ  )      ;D





         นอกเหนือจากนั้น การเคลื่อนไหว และตื่นตัว ยังครอบคลุมถึงการรวบรวมอัตชีวประวัติของนักรายงานฮาดิษไว้เป็นเล่มอีกด้วย ผลงานเหล่านั้นมีหลากหลายประเภท เช่น
         
         ก.หนังสือ มะอฺริฟะตุศศ่อฮาบะห์  ได้แก่หนังสือรวบรวมชีวประวัติของซอฮาบะห์โดยเฉพาะ เช่นผลงานของอบูอูบัยดะห์ มุอัมมัร อิบนุลมุซันนา (208 ฮ.ศ.)   ของยะกู๊บ อิบนุ ซุฟยาน อัลฟิสวี่ย์ ( 233 ฮ.ศ. ) (ดู ; บุหูษฟิตาริคิสซุนนะห์ของ ดร. อักรอม ฏิยาอฺ อัลอุมารีย์ หน้า 64-67)

         ข. หนังสือฎ่อบากอต ได้แก่หนังสือที่รวบรวมชีวประวัติของซอฮาบะห์ ตาบีอีน ตาบีอิตตาบีอีน หรือบุคคลในยุคหลังจากนั้น โดยจัดเป็นรุ่นๆ เช่นผลงานของอัลวากีดีย์ (207 ฮ.ศ.) ของอิบนุ สะอีด (230 ฮ.ศ.) และของเคาะลีฟะห์ อิบนุ ค็อยยาต (204 ฮ.ศ.) เป็นต้น

          ค.  หนังสือ “ อัลญัรหฺ วัตตะอดีล ” ได้แก่ หนังสือรวบรวมชีวประวัติผู้รายงานฮาดิษพร้อมวิจารณ์สถานภาพทั้งด้านดี (ความน่าเชื่อถือ) และ ด้านเสีย (ความไม่น่าเชื่อถือ)   หนังสือในกลุ่มนี้บางเล่มรวบรวมเฉพาะชีวประวัติผู้รายงานที่ ซิเกาะฮฺ ( เชื่อถือได้) เท่านั้น เช่น ผลงานของอาลี อิบนุล มะดีนีย์ (234 ฮ.ศ.) และของอิบนุ ฮิบบาน ( 354 ฮ.ศ.)  บางเล่มรวบรวมเฉพาะชีวประวัติผู้รายงานที่อ่อน (เชื่อถือไม่ได้)  เช่น ผลงานของ ยะหฺยา  อิบนุ มาอีน (233 ฮ.ศ.)  ของอบูฮาติม อัรรอซีย์ (277 ฮ.ศ.)  และของอับดุลลอฮ์ อิบนุ อะดีย์ อัลญุร ญานีย์ (365 ฮ.ศ.) และบางเล่มรวมผู้รายงานทั้งสองประเภท เช่น  ผลงานของอะห์มัด อิบนุ ฮัมบัล  (241 ฮ.ศ.)  ของอัลนะซาอีย์ (303 ฮ.ศ.)  และของอิบนุ อบี ฮาติม อัรรอซีย์ (327 ฮ.ศ.) เป็นต้น เจ้าของผลงานเหล่านี้ได้รวบรวมเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติของผู้รายงานฮาดิษ เช่น ชื่อ (ทั้งชื่อจริงชื่อกุนยะห์( ชื่อเล่นที่ใช้คำนำหน้าว่า อบู สำหรับผู้ชาย และอุมมุ สำหรับผู้หญิง) ) ชื่อบิดา ชื่อปู่ ชื่อตระกูล ชื่อเมืองที่เกิด ปีที่เกิด และเสียชีวิต ฉายาที่ได้รับ การศึกษา (  หมายถึงครูแต่ละคนและวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากครู หรือจำนวนฮาดิษที่ได้รายงานจากครู)  การเดินทาง(หมายถึงเมืองต่างๆ ที่เดินทางไปศึกษาและหาฮาดิษ )  ลูกศิษย์ (หมายถึง ลูกศิษยืที่ได้ถ่ายทอดฮาดิษให้โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียง) และ ความน่าเชื่อถือในการรายงาน โดยใช้ถ้อยคำเฉพาะที่นักฮาดิษบัญญัติขึ้นเพื่อสื่อถึงระดับต่างๆของความน่าเชื่อถือและความไม่น่าเชื่อถือ

          อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า การรวบรวมฮาดิษ  (เป็นเล่ม) ทั้งในด้านตัวบท และชีวประวัติของผู้รายงานได้เกิดขึ้นพร้อมๆกัน  และโดยกลุ่มนักปราชญ์กลุ่มเดียวกัน นักปราชญ์กลุ่มนี้จึงสามารถปกปักษ์รักาอัลฮาดิษให้พ้นจากเงื้อมมือของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่ออัลอิสลามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน



วัลลอฮูอะลัม   loveit:


ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พ.ค. 02, 2008, 11:54 PM »
0
บทส่งท้าย

   
     แม้ว่าปัจจุบันสังคมมนุษย์มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี ด้านสารสนเทศ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเดินทางเพื่อแสวงหาความรู้ ยังแหล่งต่างๆยังคงมีความจำเป็นต่อไป การเดินทางของนักรายงานฮาดิษในอดีต ได้บ่งบอกถึงวิธีวิทยาการในการค้นคว้า และวิจัยที่ถูกต้อง กล่าวคือ การหาข้อมุลจากแหล่งที่เป็นปฐมภูมิ (Primary Sources ) แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ได้บ่งบอกถึงสัจธรรมของอิสลาม ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์จะปกปักษ์รักษาให้มีความบริสุทธิ์ ด้วยการปกปักษ์รักษาของเหล่ากัลป์ญาณชนมุสลิมในอดีต (สลัฟศอลิฮ์) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของซอฮาบะห์ ตาบีอีน และตาบีอิตตาบีอีน ขออัลลอฮฺได้ทรงยินดีต่อพวกเขาและตอบแทนคุณงามความดีของพวกเขาด้วยสรวงสวรรค์ตลอดนิรันดร์กาล อามีน


ผิดพลาดประการใดได้โปรดชี้แนะด้วย 
 
วัลลอฮูอะลัม   loveit:

ผู้รู้ท่านใด จะเสวนา ต่อ เชิญตามสบาย นะค่ะ   cool2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 02, 2008, 11:56 PM โดย ^^ IkHLas ^^ »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ al-fantazy

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 270
  • สูบบุหรี่เป็นสีแก่ปาก สูบมากๆ ระวังปากจะไม่มีสี
  • Respect: +4
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พ.ค. 02, 2008, 11:58 PM »
0
โอ้  จบแล้วรึคับ....ในที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...  ความรู้เพียบ....

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พ.ค. 04, 2008, 06:10 PM »
0
salam

ญะซากิลลาฮูคอยร็อน

     อยากให้ช่วยอธิบายฮะดิษนี้  และอยากทราบที่มาด้วยค่ะ

  " จงสันโดษจากเพื่อนมนุษย์แล้วอัลลอฮ์จะรักเธอ

จงสันโดษจากทรัพย์สินของเพื่อนมนุษย์แล้วเพื่อนมนุษย์จะรักเธอ "

คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยอ่านเจอในหนังสือตะเซาวุฟ

แต่ไม่ใช่ของตัวเอง  ได้ดูผ่าน ๆ ตาเท่านั้น

     หากผิดเพี้ยนหรือไม่ถูกต้องอย่างไรก็ช่วยแก้ไขและชี้แจงให้ด้วยนะคะ
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พ.ค. 04, 2008, 06:12 PM »
0
^
รอ ( เหมือนกัน ) ผู้รู้มาชี้แจง     ;D

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พ.ค. 04, 2008, 06:35 PM »
0


     อยากให้ช่วยอธิบายฮะดิษนี้  และอยากทราบที่มาด้วยค่ะ

  " จงสันโดษจากเพื่อนมนุษย์แล้วอัลลอฮ์จะรักเธอ

จงสันโดษจากทรัพย์สินของเพื่อนมนุษย์แล้วเพื่อนมนุษย์จะรักเธอ "



^
ลองดู ประมาณ เนี่ย ไหม ค่ะ

                                                                                                          การใช้ชีวิตอย่างสมถะในโลกนี้


          จาก อบู อับบาส-สะฮัล  บินสะอัด  อัสสาอิดี (รอดียัลลอฮูอันฮู )  กล่าวว่า :

        " มีบุรุษผู้หนึ่งไปหาท่านนบี ซอลล็อลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้วถามว่า  โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮฺ ขอได้โปรดชี้แจงแก่ฉัน ถึงกิจการบางอย่างซึ่งเมื่อฉันทำแล้วจะทำให้อัลลอฮฺทรงรัก(เมตตา) ฉัน ในขณะเดียวกันผู้คนก็รัก(เมตตา)ฉันด้วย ”

           ท่านรอซูลตอบว่า
       
        “ จงใช้ชีวิตในโลกนี้ อย่างสมถะแล้วอัลลอฮฺจึงจะรักท่าน และจงไม่โลภ(อยากได้)ในสิ่งของ ของผู้อื่น แล้วพวกเขาจึงจะรักท่าน”

                                                      ฮาดิษ ฮาซัน บันทึกโดย อิบนุมายะห์ และคนอื่นๆ ด้วยสายสืบที่ฮาซัน



    วัลลอฮู อะลัม

ผิดพลาดประการใดโปรด ท้วงติง และชี้แนะได้ เค่อะ    ;D ;D ;D



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ค. 04, 2008, 06:37 PM โดย IkHLas ✿゚ ゚ ゚✎ »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พ.ค. 05, 2008, 03:48 PM »
0
 mycool: mycool: mycool:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พ.ค. 05, 2008, 03:50 PM »
0


     อยากให้ช่วยอธิบายฮะดิษนี้  และอยากทราบที่มาด้วยค่ะ

  " จงสันโดษจากเพื่อนมนุษย์แล้วอัลลอฮ์จะรักเธอ

จงสันโดษจากทรัพย์สินของเพื่อนมนุษย์แล้วเพื่อนมนุษย์จะรักเธอ "



^
ลองดู ประมาณ เนี่ย ไหม ค่ะ

                                                                                                          การใช้ชีวิตอย่างสมถะในโลกนี้


          จาก อบู อับบาส-สะฮัล  บินสะอัด  อัสสาอิดี (รอดียัลลอฮูอันฮู )  กล่าวว่า :

        " มีบุรุษผู้หนึ่งไปหาท่านนบี ซอลล็อลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม  แล้วถามว่า  โอ้ ท่านรอซูลุลลอฮฺ ขอได้โปรดชี้แจงแก่ฉัน ถึงกิจการบางอย่างซึ่งเมื่อฉันทำแล้วจะทำให้อัลลอฮฺทรงรัก(เมตตา) ฉัน ในขณะเดียวกันผู้คนก็รัก(เมตตา)ฉันด้วย ”

           ท่านรอซูลตอบว่า
       
        “ จงใช้ชีวิตในโลกนี้ อย่างสมถะแล้วอัลลอฮฺจึงจะรักท่าน และจงไม่โลภ(อยากได้)ในสิ่งของ ของผู้อื่น แล้วพวกเขาจึงจะรักท่าน”

                                                      ฮาดิษ ฮาซัน บันทึกโดย อิบนุมายะห์ และคนอื่นๆ ด้วยสายสืบที่ฮาซัน



    วัลลอฮู อะลัม

ผิดพลาดประการใดโปรด ท้วงติง และชี้แนะได้ เค่อะ    ;D ;D ;D







 salam

โอเคมาก ๆ เลย

แต่ไม่ค่อยปลื้มคำว่าเคอะสักเท่าไร

เพราะเหมือน ๆ กับจะมิกซ์จากคำว่า

ค่ะ  กับ  เชอะ  กลายเป็นเค่อะ

เลยสงกะสัยว่าอารมณ์ไหนกันแน่ะนะน้องพี่

เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: การเดินทางเพื่อหาฮาดิษ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พ.ค. 06, 2008, 06:40 PM »
0

โอเคมาก ๆ เลย

แต่ไม่ค่อยปลื้มคำว่าเคอะสักเท่าไร

เพราะเหมือน ๆ กับจะมิกซ์จากคำว่า

ค่ะ  กับ  เชอะ  กลายเป็นเค่อะ

เลยสงกะสัยว่าอารมณ์ไหนกันแน่ะนะน้องพี่[/b][/color]


^

 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

 

GoogleTagged