ผู้เขียน หัวข้อ: สายรายงานการกล่าว ซัยยิดินา ของท่านอิบนุมัสอูดซอเฮี๊ยะห์หรือไม่  (อ่าน 8708 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Qortubah

  • บุคคลทั่วไป

ต้องมะอัฟด้วยที่มีส่วนพากระทู้ออกนอกเรื่องครับ

ในส่วนคำถามของคุณ คนอยากรู้ ที่ว่า่


และก็อยากต่ออีกจะถามว่า

ฮะดิษที่ว่า

لا تُسَيِّدُوني في الصلاة

“พวกท่านอย่ากล่าวซัยยิดินากับฉันในละหมาด”

ฮาดิสดังกล่าว เป็นฮาดิสแบบไหนครับ....QorTuBah...



จริงๆผมก็ไม่ได้ชำนิชำนาญวิชาหะดีษเท่าไหร่นะครับ แต่ก็พอจะทราบอยู่บ้างว่า หะดีษดังกล่าวไม่ถูกต้อง เลยลองกลับไปค้นๆดูก็พบว่า :

อย่างน้อยก็ท่านอัสสะคอวีย์ , อะลี อัลกอรีย์ และอัลอะมีร อัลมาลิกีย์ ที่กล่าวตรงกันว่าเป็นหะดีษที่ لا أصل له (หะดีษที่ไม่พบว่ามีสายรายงานในตำราต่างๆที่เป็นที่ยอมรับ) ครับ ซึ่งก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มหะดีษที่ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้

ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าท่านคนอยากรู้ ยกหะดีษนี้ขึ้นมาถามทำไมหรือครับ? คงไม่มีใครยึดหะดีษบทนี้เป็นหลักฐานห้ามกล่าวสัยยิดินาหรอกนะครับ? วัลลอฮุอะลัม




ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อยากให้ทบทวนความหมายของคำว่า تسويده กับคำว่า تسودوه ว่าความหมายที่ถูกต้องคือคำสั่งให้ "กล่าวซัยยิดินา" หรือว่าคำสั่งให้ยกย่องหรือแต่งตั้งเป็นผู้นำ ซึ่งมีความหมายที่สอดคล้องกับการตีความอีกหลายๆคำ เช่น تفخيمه, يعظموه, يفخموه,
ถ้าจะแปลว่า ให้กล่าว "ซัยยิดินา" น่าจะใช้คำว่า "تسيدوه" น่าจะถูกต้องกว่ามั้ย เหมือนกับสำนวนของหะดีษเฎาะอีฟที่ว่า لا تسيدوني  วัลลอฮุอะอฺลัม

        คุณ GeT ครับ สำนวนของหะดีษเฎาะอีฟที่ว่า لا تسيدوني  นั้น  คุณคิดว่าฮะดิษเมาฏั๊วะนี้เขาใช้สำนวนถูกต้องที่สุดตามภาษาอาหรับแล้วหรือครับ  และการกล่าวว่า  ซัยยิดีหรือซัยยิดินานั้น  เป็นการ تفخيمه, يعظموه, يفخموه ให้เกียรติยกย่องหรือไม่?  วัลลอฮุอะลัม
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
ถ้าจะแปลว่า ให้กล่าว "ซัยยิดินา" น่าจะใช้คำว่า "تسيدوه" น่าจะถูกต้องกว่ามั้ย เหมือนกับสำนวนของหะดีษเฎาะอีฟที่ว่า لا تسيدوني  วัลลอฮุอะอฺลัม

ไม่ถูกต้องครับ  เพราะหลักภาษาอาหรับฟุศฮะฮ์ เขาไม่ใช้คำว่า تسيدوه  และฮะดิษเมาฏั๊วะอฺที่ใช้คำว่า  لا تسيدوني  นั้น ถือว่าเพี้ยนเชิงภาษาในตัวบทและไม่มีสายรายงาน  ซึ่งเป็นฮะดิษเมาฏั๊วะครบวงจร 

ท่านชัยคุลอิสลาม  อับดุลลอฮ์  อัชชัรกอวีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า

وحديث لا تسودوني في صلاتكم بالواو لا بالياء باطل

"และฮะดิษ  ลาตุเซาวิดูนี ฟีศ่อลาติกุ้ม นั้น อ่านด้วยกับวาว (คือลาตุเซาวิดูนี) ไม่ใช่อ่านด้วยาอฺ (คือลาตุซัยยิดูนี) ซึ่งเป็นฮะดิษโมฆะ"  ดู  หนังสืออัชชัรกอวีย์  อัชห์ อะลัลฮุดฮุดีย์ หน้า 8

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
สายรายงานของอิสมาอีล บิน อิสหาก ในหนังสือ ฟัฎลุลเศาะลาตอะลา อันนะบีย์ ที่คุณอัลอัซฮารีย์อ้างถึง
حدثنا عاصم بن علي قال : ثنا المسعودي ، عن عون بن عبد الله ، عن أبي فاختة ، عن الأسود ، عن عبد الله ، أنه قال : إذا صليتم على النبي فأحسنوا الصلاة عليه فإنكم لا تدرون لعل ذلك يعرض عليه ، قالوا : فعلمنا قال : قولوا : اللهم اجعل صلاتك ورحمتك وبركاتك على سيد المرسلين وإمام المتقين وخاتم النبيين محمد عبدك ورسولك إمام الخير وقائد الخير ورسول الرحمة ، اللهم ابعثه مقاما محمودا يغبطه به الأولون والآخرون ، اللهم صل على محمد وعلى آل محمد كما صليت على إبراهيم وعلى آل إبراهيم إنك حميد مجيد ، اللهم بارك على محمد وعلى آل محمد كما باركت على إبراهيم وآل إبراهيم إنك حميد مجيد

ท่านอัลมิซซีย์  ได้กล่าวว่าไว้ในนักรายงานที่ 3016  ความว่า

وقال أبو بكر المروذي سألته يعني أحمد بن حنبل عن عاصم بن علي فقلت إن يحيى بن معين قال كل عاصم في الدنيا ضعيف قال ما أعلم منه إلا خيرا كان حديثه صحيحا حديث شعبة والمسعودي ما كان أصحها

“อบูบัก อัลมัรวะซีย์  ได้กล่าวว่า  ฉันได้ถามอิมามอะห์มัดบินฮัมบัล  เกี่ยวกับอาซิม บิน อะลี  แล้วฉันกล่าวว่า  ยะห์ยา บิน มะอีน  กล่าวว่า  ทุกคนที่ชื่ออาซิมในดุนยานี้ฎออีฟ (ด้วยเหตุนี้แหละที่การตำหนินักสายรายงานจะไม่ถูกยอมรับหากไปแย้งกับผู้อื่น)  อิมามอะห์หมัดจึงกล่าวว่า  ฉันไม่รู้จากเขาเลยนอกจากความดีงาม  ฮิดิษของอาซิม บิน อะลี นั้น ซอฮิห์  ยิ่งฮะดิษของชั๊วะบะฮ์ และอัลมัสอูดีย์ (ที่เขาได้รายงาน) ด้วยแล้ว ช่างซอฮิห์กระไรเช่นนี้!”

ส่วนสายรายงานของท่านอิบนุมาญะฮ์ที่มาสนับสนุน   ระบุว่า

ขอเพิ่มเติมในส่วนของเนื้อหาหะดีษเพื่อความสมบูรณ์ของการวิจารณ์ต่อไป
حَدَّثَنَا الْحُسَيْنُ بْنُ بَيَانٍ حَدَّثَنَا زِيَادُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ حَدَّثَنَا الْمَسْعُودِيُّ عَنْ عَوْنِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ عَنْ أَبِي فَاخِتَةَ عَنْ الْأَسْوَدِ بْنِ يَزِيدَ عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ مَسْعُودٍ قَالَ
إِذَا صَلَّيْتُمْ عَلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَحْسِنُوا الصَّلَاةَ عَلَيْهِ فَإِنَّكُمْ لَا تَدْرُونَ لَعَلَّ ذَلِكَ يُعْرَضُ عَلَيْهِ قَالَ فَقَالُوا لَهُ فَعَلِّمْنَا قَالَ قُولُوا اللَّهُمَّ اجْعَلْ صَلَاتَكَ وَرَحْمَتَكَ وَبَرَكَاتِكَ عَلَى سَيِّدِ الْمُرْسَلِينَ وَإِمَامِ الْمُتَّقِينَ وَخَاتَمِ النَّبِيِّينَ مُحَمَّدٍ عَبْدِكَ وَرَسُولِكَ إِمَامِ الْخَيْرِ وَقَائِدِ الْخَيْرِ وَرَسُولِ الرَّحْمَةِ اللَّهُمَّ ابْعَثْهُ مَقَامًا مَحْمُودًا يَغْبِطُهُ بِهِ الْأَوَّلُونَ وَالْآخِرُونَ اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إِبْرَاهِيمَ وَعَلَى آلِ إِبْرَاهِيمَ إِنَّكَ حَمِيدٌ مَجِيدٌ اللَّهُمَّ بَارِكْ عَلَى مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ كَمَا بَارَكْتَ عَلَى إِبْرَاهِيمَ وَعَلَى آلِ إِبْرَاهِيمَ إِنَّكَ حَمِيدٌ مَجِيدٌ

เป็นที่ทราบดีว่า  ท่านอัลมัสอูดีย์นั้น  คือ  อับดุเราะห์มาน บิน อับดุลลอฮ์  บิน อุตบะฮ์  อัลกูฟีย์  ซึ่งมีความจำสับสนที่แบกแดดก่อนเสียชีวิต 1 ปี หรือ 2 ปี  ดังนั้น  หากรับรายงานจากเขาอื่นจากแบกแดดถือว่าเป็นการรายงานที่ดี

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  ได้กล่าวว่าในหนังสือ ตะซีบุตตะซีบ  นักรายงานลำดับที่   3919

 وقال عبد الله بن أحمد عن أبيه سماع وكيع من المسعودي قديم وأبو نعيم أيضا وإنما اختلط المسعودي ببغداد ومن سمع منه بالكوفة والبصرة فسماعه جيد

“อับดุลลอฮ์ บุตร อะห์มัด  ได้กล่าวจากบิดา(คืออิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล) ว่า  การได้ยินของวะเกี๊ยะอฺจากอัลมัสอูดีย์นั้น  ได้ยินมาแต่เดิมแล้ว  อบูนุอัยม์ ก็เช่นกัน  ทว่าแท้จริงอัลมัสอูดีย์มีความจำสับสนที่แบกแดด  และผู้ที่ได้ยินอัลมัสอูดีย์  ที่กูฟะฮ์หรือบัสเราะฮ์  การได้ยิน(ฮะดิษ) ของเขา (จากอัลมัสอูดีย์) ถือว่าเป็นการได้ยินที่ดี” 

ในสายรายงานของท่านอิบนุมาญะฮ์  ปรากฏว่าผู้ที่ได้ยินและรับฮะดิษมาจาก อัลมัสอูดีย์   ก็คือ  ซิยาด บิน อับดิลลาฮ์  ซึ่งเขาก็คือ  ซิยาด บิน อับอิลลาฮ์ บิน อัฏฏุฟัยล์  อัลอามีรีย์  อัลกูฟีย์ (เป็นชาวกูฟะฮ์)  ดู  หนังสือตักรีบบุตตะฮ์ซีบ ลำดับนักรายงานที่ 2085

ดังนั้น  การที่ซิยาด บิน อับดิลลาฮ์  ซึ่งเป็นชาวกูฟะฮ์  ได้ยินจากอัลมัสอูดีย์  ถือว่าเป็นการได้รับและได้ยินฮะดิษที่ดี 

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ในหนังสือศิฟะตุลเศาะลาตของเชคอัลบานีย์ ท่านได้อ้าง คำฟัตวาของอัลหาฟิซอิบนุหะญัรเกี่ยวกับการกล่าวสัยยิดินา ซึ่งยังเป็นเมนุสคริปอยู่ที่ห้องสมุด อัลซอฮิรียะฮฺ มีเนื้อหาดังนี้ ที่สำคัญคือ อัลหาฟิซได้หุกมอาษารของอิบนุมัสอูดที่เรากำลังถกกันอยู่ว่าเป็นอาษารที่เฎาะอีฟเช่นกัน
قال الحافظ محمد بن محمد بن محمد الغرابيلي (وكان ملازما لابن حجر) :"وسئل (أي الحافظ ابن حجر) أمتع الله بحياته عن صفة الصلاة على النبي صلى اله عليه وسلم في الصلاة أو خارج الصلاة, سواء قيل بوجوبها أو ندبيتها, هل يشترط فيها أن يصفه صلى الله عليه وسلم بالسيادة؛ كأن يقول مثلاً: اللهم صل على سيدنا محمد, أو على سيد الخلق, وعلى سيد ولد آدم؟ أو يقتصر على قوله: "اللهم صل على محمد؟ وأيهما أفضل, الإتيان بلفظ السيادة لكونها صفة ثابتة له صلى الله عليه وسلم, أو عدم الإتيان به لعدم ورود ذلك في الآثار؟
فأجاب رضي الله عنه: نعم إتباع الألفاظ المأثورة أرجح, ولا يقال: لعله ترك ذلك تواضعا منه صلى الله عليه وسلم, كما لم يكن يقول عند ذكره صلى الله عليه وسلم: "صلى الله عليه وسلم" وأمته مندوبة إلى أن تقول ذلك كلما ذكر. لأنا نقول: لو كان ذلك راجحا لجاء عن الصحابة ثم عن التابعين, ولم نقف في شيء من الآثار عن أحد من الصحابة ولا التابعين لهم, قال: ذلك مع كثرة ما وردعنهم من ذلك, وهذا الإمام الشافعي أعلى الله درجته وهو من أكثر الناس تعظيما للنبي صلى الله عليه وسلم. قال في خطبة كتابه الذي هو عمدة أهل مذهبه: "اللهم صل على محمد إلى آخر ما أداه إليه اجتهاده وهو قوله: كلما ذكره الذاكرون, وكلما غفل عن ذكره الغافلون, وكأنه استنبط ذلك من الحديث الصحيح الذي فيه: سبحان الله عدد خلقه.
وقد عقد القاضي عياض بابا في صفة الصلاة على النبي صلى الله عليه وسلم في كتاب "الشفاء" ونقل فيه آثارا مرفوعة عن جماعة من الصحابة والتابعين ليس في شيء منها عن أحد من الصحابة وغيرهم لفظ "سيدنا". منها حديث علي أنه كان يعلمهم كيفية الصلاة على النبي صلى الله عليه وسلم فيقول: اللهم داحي المدحوات, وباري المسموكات, اجعل سوابق صلواتك, ونوامي بركاتك, وزائد تحيتك, على محمد عبدك ورسولك, الفاتح لما أغلق.
وعن علي أيضا أنه كان يقول: صلوات الله البر الرحيم, والملائكة, المقربين, والنبيين والصديقين والشهداء الصالحين, وما سبح لك من شيء يا رب العالمين, على محمد بن عبد الله خاتم النبيين وإمام المتقين... الحديث...
نعم ورد في حديث ابن مسعود أنه كان يقول في صلاته على النبي صلى الله عليه وسلم: اللهم اجعل فضائل صلواتك ورحمتك وبركاتك على سيد المرسلين... الحديث. أخرجه ابن ماجه, ولكن إسناده ضعيف.

เช่นเดียวกับ เชคหัมดี อับดุลหะมีด มุหักกิกหนังสือ อัลุมอฺญัมอัลกะบีรของ เฏาะบะรอนีย์ ได้กล่าวที่เชิงอรรถของอาษารอิบนุมัสอูดข้างต้น เลขที่ 8594 (9/121) ว่า "บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ เลขที่ 906 และอิสมาอีล อัลกอฎีย์ ในหนังสือ "ฟัฎลุอัลเศาะลาตอะลา อันนะบีย์" เลขที่ 61 และอัลหาฟิซอิบนุหะยัรได้กล่าวว่า "เฎาะอีฟ" ในฟัตวาของท่านเกี่ยวกับการไม่มีบัญญัติ (ชะรีอะฮฺ) ให้กล่าวพรรณนาท่านนบีในละหมาดด้วยคำว่า "สัยยิดินา"
วัลลอฮุอะอฺลัม

ท่านอัลอัลบานีย์ วิจารณ์นักหดีษไว้อย่างไรบ้างหรือครับ ทำไมท่านต้องวิจารณ์ด้วยครับ ท่านวิจารณ์ในแง่ดี หรือไม่ดีครับ ทั้งๆ ที่ท่านเองก็เป็นนักหดีษเหมือนกันมิใช่หรือ? - วัสสลาม

       ผมคิดว่าท่านอัลบานีทำการวิจารณ์สายรายงานไปยังท่านอิบนุมัสอูด รอฎิยัลลอฮุอันฮ์ นั้น เพราะเขาไม่ชอบให้กล่าวซัยยิดินาต่อท่านนบี ไม่ว่าจะในละหมาดหรือนอกละหมาดครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็แสดงว่าท่านอัลหาฟิซอิบนุหะญัรก็คงจะไม่ชอบให้กล่าวซัยยิดินาต่อท่านนบีในละหมาดเช่นกัน ใช่ไหมครับคุณ นูรุ้ลฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2008, 10:47 AM โดย GeT »

ออฟไลน์ sunnah 50

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 
 salam
 มีผู้ถามท่านหาฟิซอิบนุหะญัร(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) เกี่ยวกับการเพิ่มเติมคำว่า "ซัยยิดินา"ในเศาะละวาตนบี  ท่านตอบว่า
نعم ؛ اتباع الألفاظ المأثورة أرجح ، ولا يقال : لعله ترك ذلك تواضعاً منه صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ؛ كما لم
يكن يقول عند ذكره صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : " صلى الله عليه وسلم " ، وأمته مندوبة إلى أن تقول ذلك
كلما ذكر !لأنا نقول : لو كان ذلك راجحاً ؛ لجاء عن الصحابة ثم عن التابعين ، ولم نقف في
شيء من الآثار عن أحد من الصحابة ولا التابعين لهم قال ذلك ؛ مع كثرة ما ورد عنهم
من ذلك
ครับ  การปฏิบัติตามบรรดาถ้อยคำที่ถูกสืบค้นมาจากหะดิษ นั้น  มีน้ำหนักกว่า  และไม่ควรจะมีผู้กล่าวว่า "บางที ท่านละทิ้งดังกล่าวนั้น (การกล่าวซัยยิดินา)เป็นการถ่อมตัวจาก ท่านนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม  ดังที่ท่านไม่ได้กล่าว ขณะที่ระบุถึงท่าน ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม  ว่า"ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม " และ อุมมะฮของท่านนั้น ถูกส่งเสริมให้กล่าวถ้อยคำดังกล่าวนั้น ทุกครั้งที่ระบุ(ชื่อนบี)  เราขอกล่าวว่า " ถ้าดังกล่าวนั้น(หมายถึงการเพิ่มซัยยิดินา) มีน้ำหนัก แน่นอน ย่อมปรากฏรายงานมาจากเหล่าเศาะหาบะฮ หลังจากนั้น รายงานจากบรรดาตาบิอีน  และเราไม่เคยพบบรรดาหะดิษใดเลยที่รายงานจากคนหนึ่งคนใดจากบรรดาเศาะหาบะฮและตาบิอีน ที่เจริญรอยตามพวกเขา กล่าวดังกล่าวนั้น(หมายถึงกล่าวคำว่า"ซัยยิดินา") ทั้งๆที่มีรายงานมากมายจากพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนั้น" - ดู อัลฟัฎลุล อัลมุบีน อะลาอักดิลเญาฮะริษษะมีน หน้า 70 ดู อัลเกาลุลมุบีน ฟีอัคเฏาะอิลมุศอ็ลลีน หน้า  153
...............
 อยากจะเรียนถามว่า ท่านอิหม่ามชาฟิอี ส่งเสริมใหเกล่าวคำว่า "ซัยยิดินา"ในตะชะฮุดหรือไม่ หวังว่าผู้ทรงความรู้จากเว็บนี้คงตอบได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 05:17 PM โดย sunnah 50 »

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ได้ไปอ่านในกระทู้นี้

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2368.0

ทำไมคุณ...GeT...ไม่ลองไปอ่านที่ลิงค์ที่เขาแนะนำไว้ล่ะครับ...ซึ่งผู้เขียนเขาก็ได้นำเสนอวิจารณ์การอ้างฟัตวาพาดพิง...ถึงท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานี...ว่ามันขัดกับหลักปฏิบัติจริงของท่านอิบนุฮะญัร...

ในหนังสือศิฟะตุลเศาะลาตของเชคอัลบานีย์ ท่านได้อ้าง คำฟัตวาของอัลหาฟิซอิบนุหะญัรเกี่ยวกับการกล่าวสัยยิดินา ซึ่งยังเป็นเมนุสคริปอยู่ที่ห้องสมุด อัลซอฮิรียะฮฺ มีเนื้อหาดังนี้ ที่สำคัญคือ อัลหาฟิซได้หุกมอาษารของอิบนุมัสอูดที่เรากำลังถกกันอยู่ว่าเป็นอาษารที่เฎาะอีฟเช่นกัน
قال الحافظ محمد بن محمد بن محمد الغرابيلي (وكان ملازما لابن حجر) :"وسئل (أي الحافظ ابن حجر) أمتع الله بحياته عن صفة الصلاة على النبي صلى اله عليه وسلم في الصلاة أو خارج الصلاة, سواء قيل بوجوبها أو ندبيتها, هل يشترط فيها أن يصفه صلى الله عليه وسلم بالسيادة؛ كأن يقول مثلاً: اللهم صل على سيدنا محمد, أو على سيد الخلق, وعلى سيد ولد آدم؟ أو يقتصر على قوله: "اللهم صل على محمد؟ وأيهما أفضل, الإتيان بلفظ السيادة لكونها صفة ثابتة له صلى الله عليه وسلم, أو عدم الإتيان به لعدم ورود ذلك في الآثار؟
فأجاب رضي الله عنه: نعم إتباع الألفاظ المأثورة أرجح, ولا يقال: لعله ترك ذلك تواضعا منه صلى الله عليه وسلم, كما لم يكن يقول عند ذكره صلى الله عليه وسلم: "صلى الله عليه وسلم" وأمته مندوبة إلى أن تقول ذلك كلما ذكر. لأنا نقول: لو كان ذلك راجحا لجاء عن الصحابة ثم عن التابعين, ولم نقف في شيء من الآثار عن أحد من الصحابة ولا التابعين لهم, قال: ذلك مع كثرة ما وردعنهم من ذلك, وهذا الإمام الشافعي أعلى الله درجته وهو من أكثر الناس تعظيما للنبي صلى الله عليه وسلم. قال في خطبة كتابه الذي هو عمدة أهل مذهبه: "اللهم صل على محمد إلى آخر ما أداه إليه اجتهاده وهو قوله: كلما ذكره الذاكرون, وكلما غفل عن ذكره الغافلون, وكأنه استنبط ذلك من الحديث الصحيح الذي فيه: سبحان الله عدد خلقه.
وقد عقد القاضي عياض بابا في صفة الصلاة على النبي صلى الله عليه وسلم في كتاب "الشفاء" ونقل فيه آثارا مرفوعة عن جماعة من الصحابة والتابعين ليس في شيء منها عن أحد من الصحابة وغيرهم لفظ "سيدنا". منها حديث علي أنه كان يعلمهم كيفية الصلاة على النبي صلى الله عليه وسلم فيقول: اللهم داحي المدحوات, وباري المسموكات, اجعل سوابق صلواتك, ونوامي بركاتك, وزائد تحيتك, على محمد عبدك ورسولك, الفاتح لما أغلق.
وعن علي أيضا أنه كان يقول: صلوات الله البر الرحيم, والملائكة, المقربين, والنبيين والصديقين والشهداء الصالحين, وما سبح لك من شيء يا رب العالمين, على محمد بن عبد الله خاتم النبيين وإمام المتقين... الحديث...
نعم ورد في حديث ابن مسعود أنه كان يقول في صلاته على النبي صلى الله عليه وسلم: اللهم اجعل فضائل صلواتك ورحمتك وبركاتك على سيد المرسلين... الحديث. أخرجه ابن ماجه, ولكن إسناده ضعيف.

เช่นเดียวกับ เชคหัมดี อับดุลหะมีด มุหักกิกหนังสือ อัลุมอฺญัมอัลกะบีรของ เฏาะบะรอนีย์ ได้กล่าวที่เชิงอรรถของอาษารอิบนุมัสอูดข้างต้น เลขที่ 8594 (9/121) ว่า "บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ เลขที่ 906 และอิสมาอีล อัลกอฎีย์ ในหนังสือ "ฟัฎลุอัลเศาะลาตอะลา อันนะบีย์" เลขที่ 61 และอัลหาฟิซอิบนุหะยัรได้กล่าวว่า "เฎาะอีฟ" ในฟัตวาของท่านเกี่ยวกับการไม่มีบัญญัติ (ชะรีอะฮฺ) ให้กล่าวพรรณนาท่านนบีในละหมาดด้วยคำว่า "สัยยิดินา"
วัลลอฮุอะอฺลัม

ส่วนการอ้างอิงคำกล่าวของท่าน อัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  อัลอัสก่อลานี  ปราชญ์ฮะดิษ  มัซฮับชาฟิอีย์  ที่ท่าน  มุฮำมัด  อิบนุ  มุฮำมัด  อิบนิ  มุฮำมัด  อัลฆ่อรอบีลีย์  ได้ถ่ายทอดฟัตวา  จากลายมือของท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุฮะญัร  เกี่ยวกับการไม่กล่าวคำว่า ซัยยิดินา  ในละหมาดและนอกละหมาด  และไม่มีซอฮาบะฮ์และตาบิอีนคนใดได้กล่าวซัยยิดกับท่านนบีในการซอลาวาตนั้น  ถือว่าเป็นการถ่ายทอดฟัตวาที่ไม่มีน้ำหนัก  โดยมีข้อสังเกตดังนี้

1.  ท่านมุฮัมมัด  อัลฆ่อรอบีลีย์  ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุฮะญัร  นั้น   เสียชีวิตในปี ฮ.ศ  835  ส่วนท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  ได้เสียชีวิตในปี ฮ.ศ.  852  ดังกล่าว  ปรากฏว่า  ท่านอัลฆ่อรอบีลีย์เสียชีวิตก่อน  ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ ฮะญัร  ถึง  17 ปี  ซึ่งสภาพการเช่นนี้  สมควรที่  ท่านมุฮัมมัด  ฆ่อรอบีลีย์  สมควรที่จะรายงานคำพูดจากท่านอิบนุฮะญัร  มิใช่ถ่ายทอดฟัตวาจากลายมือการบันทึกของท่านอิบนุฮะญัร  เพราะว่าการที่ลูกศิษย์ได้รู้ฟัตวาของอาจารย์  ก็จะอยู่ในการรับในรูปแบบของริวายะฮ์  มิใช่ลายมือการเขียนฟัตวาของอาจารย์ 

2.  หากเราศึกษาจากตำราต่าง ๆ ของท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  ปรากฏว่าตำราต่าง ๆ ของท่าน  การมีการกล่าวซัยยิดินาหลายแห่งด้วยกัน  ซึ่งถือว่าเป็นการขัดแย้งกับการถ่ายทอดฟัตวาที่อ้างถึงท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ  ฮะญัร  ดังนั้น  ฟัตวาที่ท่านมุฮัมมัด อัลฆ่อรอบีลีย์  อ้างถึงท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  นั้น  จึงเป็นการถ่ายทอดที่ชาซฺ(แหวกแนวทางอีกทั้งขัดแย้งกับสิ่งที่ถูกต้องยิ่งกว่า) ซึ่งไม่สามารถนำมาอ้างเป็นหลักฐานได้เลยแม้แต่น้อย

ตัวอย่างเช่น   

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  ได้กล่าวไว้ในหนังสือฟัตฮุลบารีย์  ของท่านความว่า

وأشهد أن سيدنا محمداً عبده ورسوله ما أكرمه عبداً وسيداً

“อัชฮะดุ  อันน่า   ซัยยิด่านา  มุฮัมมะดัน  อับดุฮู  วะร่อซูลูฮ์  มาอักร่อมะฮุ้  อับดัน  วะ  ซัยยิดา”  ฟัตฮุลบารีย์ 1/5

ท่านอัลฮาฟิซฺ  ได้กล่าวเช่นกันว่า

والحاصل أنهم ألزموا ابن تيمية بتحريم شد الرحل ألي زيارة قبر سيدنا رسول الله صلي الله عليه وسلم  وأنكرنا صورة ذلك

“วัลฮาซิลู้  อันน่าฮุ้ม  อัลซะมู  อิบน่าตัยมียะฮ์  บิตะห์รีมมิ ชัดดัรร่อลิ  อิลา  ซิยาร่อติ  ก็อบริ  ซัยยิดินา ร่อซูลิลลาฮ์  ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  วะอันกัรนา  ซูร่อตะซาลิก้า”  ฟัตฮุลบารีย์ 3/66

ดังนั้น  คำฟัตวาของท่านอิบนุฮะญัรที่ได้มาจากท่านมุฮัมมัด อัลฆ่อรอบีลีย์  นั้น  ถือว่าเป็นฟัตวาที่ไม่สามารถนำมายึดเป็นหลักฐานในเชิงวิชาการได้

3.  ได้มีรายงานจากท่านอิบนุมัสอูด  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ซึ่งท่านได้กล่าวการศ่อลาวาตในละหมาดของท่านอีกถ้อยคำหนึ่งว่า

اللهم اجعل صلاتك ورحمتك وبركاتك علي سيد المرسلين

“อัลลอฮุ้มมัจญ์อัล  ศ่อลาตะก้า  วะเราะห์มะตะก้า  วะบะรอกาตะก้า  อะลา  ซัยยิดิล มุรซะลีน”  หนังสือ  ฟัฏลุสศ่อลาติ อะลันน่าบี (ซ.ล.)  ของท่าน  อิมามอิสมาอีล  อัลกอฎี  หน้า 58  สายรายงานนี้  ซอฮิห์

มีสายรายงานสนับสนุน  จากท่านอัลฮาฟิซฺ  อับดุรร็อซซาก  ถึงท่านอิบนุมัสอู ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ท่านได้กล่าวว่า

اللهم اجعل صلاتك ورحمتك وبركاتك علي سيد المرسلين وإمام المتقين

“อัลลอฮุ้มมัจญ์อัล  ศ่อลาตะก้า  วะเราะห์มะตะก้า  วะบะรอกาตะก้า  อะลา  ซัยยิดิล มุรซะลีน  วะอิมามิลมุตตะกีน” ดู  หนังสือมุซซันนัฟ  ของท่านอัลฮาฟิซฺ  อับดุรร็อรซาก 2/213

ท่านอิมาม อิสมาอีล  อัลกอฎี  ได้รายงานจาก  ถึงท่านอิบนุอุมัร  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา  จากยูนุส  เมาลาบนี  ฮาชิม  เขากล่าวแก่ท่านอิบนุอุมัร  ว่า  การศ่อลาวาตต่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น เป็นอย่างไร?  ท่านอิบนุอุมัร กล่าวว่า   

اللهم اجعل صلاتك ورحمتك وبركاتك علي سيد المسلمين وإمام المتقين

“อัลลอฮุ้มมัจญ์อัล  ศ่อลาตะก้า  วะเราะห์มะตะก้า  วะบะรอกาตะก้า  อะลา  ซัยยิดิล  มุสลิมีน  วะอีมามิลมุตตะกีน” หนังสือ  ฟัฏลุสศ่อลาติ อะลันน่าบี (ซ.ล.) หน้า 58

จากสิ่งที่ได้กล่าวมา  ปรากฏว่า  ซอฮาบะฮ์บางส่วนก็ทำการศ่อลาวาตต่อท่านนบี  ศ็อลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ด้วยการมีคำว่า  ซัยยิด

ส่วนกรณีการอ้างอิงคำกล่าวของท่าน  อิมาม อันนะวาวีย์  จากหนังสืออัลมัจญ์มั๊วะ  ที่ระบุว่า  :  ท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์  และ  อัลอัศฮาบ  (บรรดานักวิชาการสังกัดมัซฮับอัชชาฟิอีย์)  กล่าวว่า  :  ที่ประเสริฐที่สุด  (อัลอัฟฎ้อล)  ในลักษณะของการซอละหวาตนั้นคือการกล่าวว่า  :  “อัลลอฮุมม่า  ซ็อลลิ  อะลา  มุฮำมัด  ว่า  อะลา  อาลิ  มุฮำมัด”

แล้วสรุปว่า  การไม่กล่าวซัยยิดินานั้นดีกว่า  เพราะอิมามอันนะวาวีย์ได้กล่าวการศ่อลาวาตโดยไม่ได้กล่าวซัยยิดินา   ผมขอกล่าวว่า  การอ้างอิงคำกล่าวของอิมามอันนะวาวีย์มานั้น  ไม่ได้อยู่ในประเด็นของเรื่องการกล่าวซัยยิดินา  เพราะว่าท่านอิมามอันนะวาวีย์  ไม่ได้นำเสนอการศ่อลาวาตในกรณีของการกล่าวซัยยิดินาประเสริฐกว่าหรือไม่?  แต่ท่านได้นำเสนอการศ่อลาวาตในแง่ของการอ่านศ่อลาวาตแบบสั้นหรือแบบยาว  ซึ่งการอ่านศ่อลาวาตแบบยาวนั้นย่อมประเสริฐกว่า  โดยมิได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่ากล่าวซัยยิดินาประเสริฐกว่าแต่อย่างใด

ดังนั้น  อิมามอันนะวาวีย์  จึงไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นของการกล่าวซัยยิดินาประเสริฐกว่าหรือไม่ประเสริฐกว่า  เพราะท่านไม่ได้นำเสนอเกี่ยวกับประเด็นนี้  ดังที่ตามนิติศาสตร์อิสลามได้ระบุว่า

لا يُنْسَبُ لساكت قولٌ

“จะไม่ถูกพาดพิงคำพูดให้กับผู้ที่นิ่ง(จากการกล่าว)”       

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อัศศ่าคอวีย์  ศิษย์คนสำคัญของท่าน อัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  และได้อยู่ร่วมและร่ำเรียนกับท่านอัลฮาฟิซฺ อิบนุ ฮะญัร  นานยิ่งกว่าท่านมุฮัมมัด อัลฆ่อรอบีลีย์  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ  “เกาลุลบะเดียอฺ  ฟีสศ่อลาติ  อะลัลฮะบีบ  อัชชะฟีอฺ”  หน้า 108  ความว่า  “ฉันได้อ่านการบันทึกด้วยมือของบรรดาปราชญ์บางส่วนที่มีความแน่นแฟ้นในความรู้  จากผู้ที่ฉันได้รับเอาความรู้มาจากเขา  มีสิ่งที่ได้ระบุไว้ว่า  “การแสดงออกซึ่งมารยาทกับผู้ที่ถูกเอ่ยนามขึ้น  ด้วยการกล่าว ว่า  ซัยยิด  ถูกใช้ให้กระทำตามหลักของศาสนา  ดังนั้นในฮะดิษที่รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม  ที่ว่า  “พวกท่านจงยืนให้แก่หัวหน้า(ซัยยิด)ของพวกท่านเถิด” หมายถึง  ท่านสะอัด บิน มุอาซฺ  และการเป็นหัวหน้าแกนนำของท่านสะอัด บิน มุอาซฺ นั้น  คือ  ในแง่ของความรู้และเคร่งครัดในศาสนา  และคำกล่าวของผู้ทำการละหมาด  ที่ว่า

“อัลลอฮุ้มม่า  ซ็อลลิ  อะลา  ซัยยิดินา  มุฮัมมัด”

ในคำกล่าวนี้  เป็นการนำมาซึ่งสิ่งที่เราได้ถูกบัญชาใช้  และเพิ่มการบ่งบอกถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น (คือท่านนบีเป็นซัยยิดินาเป็นนายและหัวหน้าของเรา)  นั่นก็คือ  การแสดงออกซึ่งมารยาท  ซึ่งย่อมเป็นสิ่งที่ الأفضل ประเสริฐกว่าจากการละทิ้งการกล่าวซัยยิดินา  อันเนื่องจากความชัดเจนของฮะดิษดังกล่าว”

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2368.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2008, 03:16 PM โดย kowee »

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
وعن علي أيضا أنه كان يقول: صلوات الله البر الرحيم, والملائكة, المقربين, والنبيين والصديقين والشهداء الصالحين, وما سبح لك من شيء يا رب العالمين, على محمد بن عبد الله خاتم النبيين وإمام المتقين... الحديث...
نعم ورد في حديث ابن مسعود أنه كان يقول في صلاته على النبي صلى الله عليه وسلم: اللهم اجعل فضائل صلواتك ورحمتك وبركاتك على سيد المرسلين... الحديث. أخرجه ابن ماجه, ولكن إسناده ضعيف.[/right]

เท่าที่ผมอ่านการนำเสนอของบังอัซฮะรีย์น่ะ...สรุปได้ว่าฟัตวาที่ถูกอ้างไปยังท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานีนั้น...ไม่ถูกต้องที่จะอ้างพาดพิงไปยังท่านอิบนุฮะญัร...ดังนั้นการอ้างการตัดสินดออีฟไปยังท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานีก็ยังไร้น้ำหนักอยู่น่ะครับ...เพราะเท่าที่อ่านการเสวนาข้างต้นที่ผ่านมาในการนำเสนอสายรายงาน...ของท่านอิบนุมาญะห์...อย่างน้อยมีนักรายงานทั้งหมดคนใดบ้าง...ที่ท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลีได้บอกว่าเขาดออีฟ...อันนี้คุณ GeT ต้องไปคุยกับบังอัลฯในเรื่องการวิเคราะห์สายรางานกันเอง...แต่ยิ่งกว่านั้นยังมีอีกด่านหนึ่งที่บังอัลฯได้ข่าวเสริมไว้อีกว่า...มีสายรายงานสนับสนุน...ซึ่งบังเขายกมาสนับสนุนตั้ง 3 รายงานแน่ะครับ...เหมือนกับว่าบังเขานำเสนอเผื่อไว้สำหรับคนมาค้านโดยเฉพาะ...ซึ่งเป็นการนำเสนอตอบที่รัดกุมพอสมควร...คุณ GeT เห็นด้วยไหม...วัสลาม..

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ตกลงกระทู้นี้จะวิจารย์เรื่องการกล่าวซัยยิดินาในละหมาดหรือว่าเหมารวมละ
เท่าที่ทราบบรรดาอุละมาอ์ดังๆของกลุ่มที่พวกเราชอบเรียกว่าวะฮาบี ก็ไม่ได้คัดค้านเรื่องการกล่าวซัยยิดินานอกละหมาด ไม่ว่าจะในดุอา หรือในคุตบะฮฺวันศุกร์ แม้แต่อัลบานีย์เอง ก็ไม่พบว่าท่านคัดค้านเรื่องการกล่าวซัยยิดินานอกอิบาดะฮฺที่มีรูปแบบเฉพาะ
ถ้าจะอ้างถึงการกล่าวซัยยิดินาในงานประพันธ์หรือตำรา แม้แต่ในตำราของอิบนุตัยมิยะฮฺ หรือมุหัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ ก็มีกล่าวเช่นนั้นเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องยกคำกล่าวของอัลหาฟิซ แต่ถ้าถามว่า มีระบุในหนังสือเล่มไหนบ้างของอัลหาฟิซที่กล่าวแบบชัดถ้อยชัดคำว่า สุนนะฮฺให้กล่าวซัยยิดินาในละหมาด หรือในอาซาน หรือในอิกอมะฮฺ อันนี้สิ ที่เราอยากได้ เพราะมันเข้ากับบริบทที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่
เพราะฉะนั้น ถ้าจะกรถณาวิจารย์ก็ให้เข้ากรอบ คือ
1. มีหนังสือเล่มไหนบ้างที่ระบุว่า อัลหาฟิซกลับตัวจากการหุกมหะดีษอิบนุมัสอูดจากอ่อนเป็นเศาะหีห
2. มีข้อความส่วนใดบ้างของอัลหาฟิซที่ระบุทัศนะของท่านเกี่ยวกับการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด (เน้นในละหมาด) ที่ค้านและสามารถลบล้างคำฟัตวานั้น

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ได้ไปอ่านในกระทู้นี้

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2368.0

ทำไมคุณ...GeT...ไม่ลองไปอ่านที่ลิงค์ที่เขาแนะนำไว้ล่ะครับ...ซึ่งผู้เขียนเขาก็ได้นำเสนอวิจารณ์การอ้างฟัตวาพาดพิง...ถึงท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานี...ว่ามันขัดกับหลักปฏิบัติจริงของท่านอิบนุฮะญัร...


ขัดกับหลักการปฏิบัติจริงของท่านตรงไหนไม่ทราบครับ ระหว่างคำฟัตวาของท่านที่กล่าวในกรณีการเพิ่มเติมซัยยิดินาในละหมาด เวลากล่าวตะชะฮุด ซึ่งเป็นอิบาดะฮฺที่มีรูปแบบและคำกล่าวเฉพาะที่ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมได้สอนไว้  กับการกล่าวซัยยิดินาของท่านในงานประพันธ์ ซึ่งเป็นการปฏิบัตินอกละหมาด ที่ไม่ใช่รูปของการอิบาดะฮฺที่จำเป็นต้องยึดรูปแบบเฉพาะตายตัว
ถ้ามีหนังสือหรือหลักฐานที่ระบุว่าอัลหาฟิซได้กล่าวซัยยิดินาในละหมาดหลังจากที่ลูกศิษย์ของท่านเสียชีวิตไปแล้ว นี่สิ ถึงจะเป็นหลักฐานด้านการปฏิบัติของท่าน (คือการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด) ที่ค้านกับฟัตวาของท่านดังกล่าว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2008, 04:56 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ผมคิดว่าท่านอัลบานีทำการวิจารณ์สายรายงานไปยังท่านอิบนุมัสอูด รอฎิยัลลอฮุอันฮ์ นั้น เพราะเขาไม่ชอบให้กล่าวซัยยิดินาต่อท่านนบี ไม่ว่าจะในละหมาดหรือนอกละหมาดครับ


บางครั้งผมเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องนูรุ้ลอิสลามคิดนะครับ  เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างมาประกอบนะครับ

พี่น้องมาดู ตาบิอีน ที่มีชื่อว่า  ท่านอัลก่อตาดะฮ์   ได้กล่าวอธิบายไว้เรื่องความสำคัญของคำว่าซัยยิดินา ไว้ว่า

وَتُوَقِّرُوهُ أمر الله بتسويده وتفخيمه

พวกท่านจะได้ให้เกียรติยกย่องเขา  หมายถึง  พระองค์ทรงบัญชาใช้กล่าวซัยยิดินาต่อท่านนบีและยกย่องให้เกียรติต่อท่าน”  ตัฟซีรอัฏฏ่อบะรีย์ อธิบายซูเราะฮ์อัลฟัตห์ อายะฮ์ 8 - 9


....ส่วนใครจะตามตาบีอีนหรืออัลบานีย์ก็ไม่ว่ากันครับ....

และท่านอัซซุดีย์  ได้กล่าวอธิบายในเรื่องนี้ต่ออีกว่า

 وَتُوَقِّرُوهُ  ‏أي تسودوه

“เพื่อพวกท่านจะได้ให้เกียรติยกย่องเขา  หมายถึง  เพื่อพวกท่านจะได้กล่าวซัยยิดินาต่อเขา”  ตัฟซีรอัลกุรฏุบีย์  อธิบายซูเราะฮ์อัลฟัตห์ อายะฮ์ 8 - 9

และพระองค์ได้ทรงห้ามเราจะการสนทนาเรียกท่านร่อซูลุลลอฮ์  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เหมือนกับที่พวกเราสนทนาเรียกชื่อกันเอง  พระองค์ทรงตรัสความว่า

لاَ تَجْعَلُوا دُعَاءَ الرَّسُولِ بَيْنَكُمْ كَدُعَاءِ بَعْضِكُم بَعْضًا

“พวกเจ้าอย่าทำการเรียกท่านศาสนทูตในระหว่างพวกเจ้าให้เหมือนการเรียกของพวกเจ้าซึ่งกันและกัน (คือเรียกชื่อเฉย ๆ แบบตรง ๆ หรือตะโกน  หรือเรียกอย่างขาดมารยาท)”  อันนูร 63
...
หลักฐานจากความไม่เป็นธรรมที่ผมยกตัวอย่างข้างต้นพอจะใช้ได้ไหมครับ   [/color] คุณGet hehe
คำอธิบายความหมายของอุละมาอ์เกี่ยวกับความหมายอของคำว่า เตากีร นี่ก็เหมือนกัน มีอุละมาอ์ท่านใดบ้างที่บอกว่าอายะฮฺนี้เป็นคำสั่งให้กล่าวคำว่า ซัยยิดินาในละหมาด ในกรณีที่เราแปลความหมายของ เตากีร ว่า ให้กล่าวซัยยิดินา
ส่วนอายะฮฺที่ยกมา
لاَ تَجْعَلُوا دُعَاءَ الرَّسُولِ بَيْنَكُمْ كَدُعَاءِ بَعْضِكُم بَعْضًا
ถ้าจะกรุณาอยากจะทราบว่า การเรียกขานท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยคำว่า ยารสูลุลลอฮฺ  ยานบียุลลอฮฺ  ศ็อลลัลลอฮุอะอลัยฮิวะสัลลัม โดยไม่ได้ใส่ซัยยิดินาเนี้ยะ อุละมาอ์ท่านใดบ้างที่ระบุว่า เป็นการเรียกขานท่านแบบไร้มารยาท เป็นการเรียกแบบทื่อๆและแข็งกระด้าง ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วทำไมถึงไม่มีรายงานส่วนใหญ่ที่มาจากเศาะหาบะฮฺ ล้วนเรียกขานแค่คำว่า ยารสูลุลลอฮฺ ยานบียุลลอฮฺ โดยไม่มีการเิ่พิ่มซัยยิดินาแต่ประการใด หรือเราจะบอกว่า พวกเรามีมารยาทต่อท่านรสูลุลลอฮฺมากกว่าบรรดาเศาะหาบะฮฺเหล่านั้น ที่เข้าใจความหมายของอายะฮฺข้างต้นเพียงแค่คำสั่งให้เรียกขานชื่อท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยจิตที่สำรวม นอบน้อมถ่อมตน และเรียกขานด้วยวาจาที่สุภาพ เท่านั้นเอง วัลลอฮุอะอฺลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2008, 05:01 PM โดย GeT »

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เพราะฉะนั้น ถ้าจะกรถณาวิจารย์ก็ให้เข้ากรอบ คือ
1. มีหนังสือเล่มไหนบ้างที่ระบุว่า อัลหาฟิซกลับตัวจากการหุกมหะดีษอิบนุมัสอูดจากอ่อนเป็นเศาะหีห
2. มีข้อความส่วนใดบ้างของอัลหาฟิซที่ระบุทัศนะของท่านเกี่ยวกับการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด (เน้นในละหมาด) ที่ค้านและสามารถลบล้างคำฟัตวานั้น

ผมเห็นว่า....การนำฟัตวาของท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานี...มาอ้างนั้นไม่บังควร...เพราะการถ่ายทอดฟัตวาไม่น่าเชื่อถือ...เพราะอะไร?...คุณลองสังเกตุซิว่าฟัตวาที่อ้างถึงท่านอิบนุฮะญัรนั้น...ฟันธงไม่มีการกล่าวในละหมาดและนอกละหมาด...แต่หลักปฏิบัติจริงของท่านอิบนุฮะญัร...ดันใส่ซัยยิดินานอกละหมาด...นั่นแสดงฟัตวาที่อ้างถึงท่านอิบนุฮะญัรนี้นี้ไม่ชอบมาพากล...

ประการต่อมาที่น่าสังเกตุคือหากคุณ...ไปอ่านหนังสือที่สรุปการวิจารณ์นักรายงานของท่านอิบนุฮะญัร...ไม่มีใครสักคนเลยที่ท่านอิบนุฮะญัร...ได้ตัดสินว่าดออีฟ...ซึ่งบังอัลฯก็ได้นำเสนอวิเคราะห์ไปแล้ว...ดังนั้นคุณน่าสังเกตุว่า...ไม่มีตำราเล่มใดของท่านอิบนุฮะญัรได้ตัดสินว่าสายรายงานของอิบนุมาญะฮ์ดออีฟ...นอกจากฟัตวาที่ถูกอ้างขึ้นมาจากศิษย์คนหนึ่งของท่านอิบนุฮะญัรที่ตายก่อนท่านอิบนุฮะญัรตั้ง 17 ปี...ตามที่บังอัลฯได้นำเสนอ

และสมมุติฟัตวานั้นถูกต้อง...ไร้การชอบมาพากลจริง...ท่านอิบนุฮะญัรไม่ได้ปฏิเสธการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด...แต่ท่านเพียงแค่ให้น้ำหนักว่าดีหรือดีกว่าเท่านั้นเอง...และคุณลองสังเกตุน่ะว่า...ท่านอัศศ่าคอวีย์ศิษย์เอกของท่านอิบนุฮะญัรแถมยังเสียชีวิตหลังจากท่านอิบนุฮะญัร...ยังได้ยอมรับในเรื่องการกล่าวซัยยิดินา...ซึ่งเขาก็ได้รับเอามาจากอุลามาอ์บางส่วนที่มุฮักกิกีน...และไม่ได้นำเสนอกล่าวว่าครูของตนคือท่านอิบนุฮะญัรได้ปฏิเสธและคัดค้านในเรื่องการกล่าวซัยยิดินา...วัสลาม....

ได้ไปอ่านในกระทู้นี้

http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2368.0

ทำไมคุณ...GeT...ไม่ลองไปอ่านที่ลิงค์ที่เขาแนะนำไว้ล่ะครับ...ซึ่งผู้เขียนเขาก็ได้นำเสนอวิจารณ์การอ้างฟัตวาพาดพิง...ถึงท่านอิบนุฮะญัรอัลอัสเกาะลานี...ว่ามันขัดกับหลักปฏิบัติจริงของท่านอิบนุฮะญัร...


ขัดกับหลักการปฏิบัติจริงของท่านตรงไหนไม่ทราบครับ ระหว่างคำฟัตวาของท่านที่กล่าวในกรณีการเพิ่มเติมซัยยิดินาในละหมาด เวลากล่าวตะชะฮุด ซึ่งเป็นอิบาดะฮฺที่มีรูปแบบและคำกล่าวเฉพาะที่ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมได้สอนไว้  กับการกล่าวซัยยิดินาของท่านในงานประพันธ์ ซึ่งเป็นการปฏิบัตินอกละหมาด ที่ไม่ใช่รูปของการอิบาดะฮฺที่จำเป็นต้องยึดรูปแบบเฉพาะตายตัว
ถ้ามีหนังสือหรือหลักฐานที่ระบุว่าอัลหาฟิซได้กล่าวซัยยิดินาในละหมาดหลังจากที่ลูกศิษย์ของท่านเสียชีวิตไปแล้ว นี่สิ ถึงจะเป็นหลักฐานด้านการปฏิบัติของท่าน (คือการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด) ที่ค้านกับฟัตวาของท่านดังกล่าว

ฟัตวาที่อ้างถึงท่านอิบนุฮะญัรไม่ซอเฮี๊ยะห์ตามหลักการ...ดังนั้นเราจะไปอ้างว่าท่านอิบนุฮะญัรไม่เห็นด้วยกับการกล่าวซัยยิดินาในละหมาดและนอกละหมาดไม่ได้....เมื่อฟัตวาไม่ถูกต้องและไม่ชอบมาพากลตามหลักวิชาการ...ทัศนะของท่านอิบนุฮะญัรในเรื่องการกล่าวซัยยิดินาในละหมาด...จึงอยู่ในฮุกุ่ม المسكوت عنه อย่าไปแอบอ้างในสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลถึงท่านอิบนุฮะญัร

คุณบอกว่า  การซ่อลาวาตในละหมาดเป็นรูปแบบอิบาดะฮ์....ผมถามว่าการซอลาวาตนอกละหมาดไม่ใช่เป็นอิบาดะฮ์หรือ?...ซึ่งคุณห้ามปฏิเสธว่าการซ่อลาวาตนอกละหมาดไม่ใช่อิบาดะฮ์....เมื่อการซ่อลาวาตนอกละหมาดเป็นอิบาดะฮ์...ก็ต้องมีถ้อยคำซ่อลาวาตที่มีรูปแบบใช่ไหมครับก็เพราะมันอิบาดะฮ์ไม่ใช่หรือ?...ฉะนั้นการซ่อลาวาตนอกละหมาดเป็นอิบาดะฮ์ที่มีรูปแบบโดยนบีไม่ได้ใส่ซัยยิดินา...สรุปว่าถ้อยคำซ่อลาวาตที่เป็นอิบาดะฮ์ในละหมาดและนอกละหมาดใส่ซัยยิดินาไม่ได้ใช่ไหม?...วัสลาม

ดังนั้น...เมื่อการศ่อลาวาตเป็นอิบาดะฮ์....ไม่ว่าจะนอกละหมาดหรือในละหมาด....ล้วนแต่เป็นอิบาดะฮ์ทั้งสิ้น...ฉะนั้นการเจาะจงแอบอ้างว่าอิบาดะฮ์ในละหมาดห้ามกล่าวซัยยิดินา...ส่วนอิบาดะฮ์ศ่อลาวาตนอกละหมาดกล่าวซัยยิดินาได้...แบบนี้เป็นการเจาะจงฮุกุ่มแบบตามเภอใจ( التحكم )...ไร้หลักฐาน?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 12, 2008, 05:45 PM โดย kowee »

ออฟไลน์ Deeneeyah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 800
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.alisuasaming.com/
 salam

เอาคำตอบเรื่อง ซัยยิดินา (เพิ่มเติม) ของ อ.อาลี เสือสมิงมาให้อ่านกันนะ

พอดียังไม่ได้เอาไว้หน้าเว็บ

http://www.alisuasaming.com/qa/index.php?topic=10.0

วัสลาม

***ท่าน admin หรือใครพอทราบวิธีเอากระทู้ในบอร์ SMF มาโชว์หน้าแรกบ้าง  สอนมั่งนะ***
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 13, 2008, 11:17 AM โดย Deeneeyah »

كُلَّمَاأَدَّبَنِى الدّه    رُأََرَانِى نَقْصَ عَقْلِى    وإذاماازْدَدْتُ عِلْمًا   زَادَنِى عِلْمًابِجَهْلِى
 
ทุกครั้งคราที่กาลเวลาได้สอนสั่งฉัน  ฉันก็เห็นว่าตัวฉันปัญญาพร่อง  และเมื่อใดที่ฉันได้เพิ่มพูนความรู้  มันก็เพิ่มความรู้ว่าฉันโง่เขลา



ออฟไลน์ GeT

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 453
  • اللهم اعط منفقا خلفا
  • Respect: +25
    • ดูรายละเอียด
ท่านอัลอัลบานีย์ วิจารณ์นักหดีษไว้อย่างไรบ้างหรือครับ ทำไมท่านต้องวิจารณ์ด้วยครับ ท่านวิจารณ์ในแง่ดี หรือไม่ดีครับ ทั้งๆ ที่ท่านเองก็เป็นนักหดีษเหมือนกันมิใช่หรือ? - วัสสลาม

       ผมคิดว่าท่านอัลบานีทำการวิจารณ์สายรายงานไปยังท่านอิบนุมัสอูด รอฎิยัลลอฮุอันฮ์ นั้น เพราะเขาไม่ชอบให้กล่าวซัยยิดินาต่อท่านนบี ไม่ว่าจะในละหมาดหรือนอกละหมาดครับ
ดังกรณีของท่านชัยค์  ฮำมัด  นาซีรุดดีน  อัลอัลบานีย์  เองนั้นท่านถือตามทัศนะที่ว่า  การกล่าวซอละหวาตในละหมาดตามถ้อยคำที่มีรายงานมานั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า  แต่ในกรณีนอกการละหมาดนั้น  ท่านชัยค์เองก็ใช้สำนวนอัซซิยาดะฮฺ  (السِّيَادَةُْ)  เช่นกัน  ดังปรากฏในหนังสือซิฟะตุ  ซ่อลาตินนะบีย์ฯ  หน้าที่  21  ท่านใช้สำนวนว่า  (وَبَيَّنَه نَبِيُّنَامحمدسَيِّدُالمرسلين...)  “และท่านนบี  มุฮำหมัดของเรา  นายแห่งบรรดาศาสนทูต”  และมีปรากฏในคำอรัมภบทหนังสือ  “ซิลซีละฮฺ  อัลอะฮาดีษ  อัฎฎ่ออีฟะฮฺ  วัลเมาฎูอะฮฺ  เล่มที่  1  หน้าที่  3  ว่า  :  (والصلواتُ الطيِّبَاتُ عَلىسَيِّدِالمُرْسَلِيْنَ)  “และการประสาทพรอันดีงามทั้งหลายจงมีแด่นายของบรรดาศาสนทูต”  ทั้ง ๆ ที่รู้กันดีว่า  ท่านชัยค์  อัลอัลบานีย์ได้อ้างการถ่ายทอดของท่านมุฮำมัด  อัลฆ่อรอบีลีย์  จากลายมือการฟัตวาของท่านอิบนุ  ฮะญัร  (ร.ฮ.)  เอาไว้ในหนังสือ  ซิฟะตุ้  ซ่อลาตินนะบีย์  หน้า  135-139  เพื่อสนับสนุนทัศนะที่ไม่เห็นด้วยกับการเติมคำว่าซัยยิดินาในการซอละหวาตหลังตะชะฮฺฮุด  (หมายถึง ในการละหมาด)

-----------------------------------------------
งัดมาจากส่วนหนึ่งของ อ.อาลี เสือสมิง ตามลิงก์ข้านบน

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ท่านอาจารย์อะลีกล่าวว่า

3. การอ้างรายงานจากท่านอิบนุ มัสอู๊ด (ร.ฎ.) ว่าท่านกล่าวซอละหวาตในละหมาดของท่านอีกถ้อยคำหนึ่งว่า (اَللّهُمَّ اجْعَلْ صَلاَتَكَ وَرَحْمَتَكَ وَبَرَكَاتِكَ عَلَىسَيِّدِالمُرْسَلِيْنَ) แล้วระบุว่าสายรายงานว่า ซ่อฮีฮฺ นั้นความจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น กล่าวคือ ท่านอิบนุ มาญะฮฺได้บันทึกเอาไว้แต่สายรายงานฎ่ออีฟ (อ่อน) (ดูซิฟะตุ้ซ่อลาตินนะบีย์ฯ ; มุฮำมัด นาซิรุดดีน อัลอัลบานีย์ หน้า 137) ส่วนสายรายงานที่ท่านอิบนุ อบีอาซิม รายงานเอาไว้นั้นมีอัลมัสอูดีย์ ปรากฏอยู่ในสายรายงานบุคคลผู้นี้อิหม่ามอัสสะคอวีย์ ระบุว่า เขาเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ (ซิเกาะฮฺ) แต่เขามีความสับสน (อัลเกาลุลบะดีอฺฯ : อัสสะคอวีย์ หน้า 47,58) ท่านอิบนุ ฮิบบาน (2/51) กล่าวว่า : “หะดีษเดิมของเขาปะปนสับสนกับหะดีษในช่วงท้าย ไม่อาจจำแนกแยกแยะหะดีษที่เขารายงานในช่วงแรก ๆ ของอายุขัยออกจากหะดีษที่เขารายงานในช่วงหลัง จึงสมควรถูกละทิ้ง” ท่านอัซซะฮบีย์ ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของอัลมัสอูดีย์เอาไว้ในหนังสืออัลมีซาน ว่า : เขามีความจดจำที่เลว แล้วหะดีษของเขาจะซ่อฮีฮฺได้อย่างไรกัน?”

ออกความเห็นสักหน่อย

       สรุปว่า อ.อะลี เสือสมิงเอง ก็ไม่ได้เข้าไปศึกษาหลักวิจารณ์นักรายงานโดยตรง  โดยไปตักลีดตามการพิจารณาของอัลบานีย์  หาก อ.อะลี  ไปดูการวิจารณ์นักรายงานฮะดิษปรากฏว่าท่านอิบนุฮะญัรได้บอกว่า  อัลมุสอูดีย์นั้น  ศ่อดูก(ไม่ใช่ฎออีฟ) แต่มีความจำสับสนในยุคช่วงท้ายก่อนเสียชีวิต 1 - 2 ปีตามที่น้องอัลอัซฮะรีได้นำเสนอไป  เมื่อเป็นเช่นนี้  อ.อะลี ก็น่าจะไปพิจารณาว่า  ก่อนท่านอัลมัสอูดีย์จะสับสนนั้น

น้องอัลอัซฮะรียได้นำเสนอจากหนังสือของท่านอิบนุฮะญัร ไว้ว่า

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  ฮะญัร  ได้กล่าวว่าในหนังสือ ตะซีบุตตะซีบ  นักรายงานลำดับที่   3919

 وقال عبد الله بن أحمد عن أبيه سماع وكيع من المسعودي قديم وأبو نعيم أيضا وإنما اختلط المسعودي ببغداد ومن سمع منه بالكوفة والبصرة فسماعه جيد

“อับดุลลอฮ์ บุตร อะห์มัด  ได้กล่าวจากบิดา(คืออิมามอะห์มัด บิน ฮัมบัล) ว่า  การได้ยินของวะเกี๊ยะอฺจากอัลมัสอูดีย์นั้น  ได้ยินมาแต่เดิมแล้ว  อบูนุอัยม์ ก็เช่นกัน  ทว่าแท้จริงอัลมัสอูดีย์มีความจำสับสนที่แบกแดด  และผู้ที่ได้ยินอัลมัสอูดีย์  ที่กูฟะฮ์หรือบัสเราะฮ์  การได้ยิน(ฮะดิษ) ของเขา (จากอัลมัสอูดีย์) ถือว่าเป็นการได้ยินที่ดี”  

ในสายรายงานของท่านอิบนุมาญะฮ์  ปรากฏว่าผู้ที่ได้ยินและรับฮะดิษมาจาก อัลมัสอูดีย์   ก็คือ  ซิยาด บิน อับดิลลาฮ์  ซึ่งเขาก็คือ  ซิยาด บิน อับอิลลาฮ์ บิน อัฏฏุฟัยล์  อัลอามีรีย์  อัลกูฟีย์ (เป็นชาวกูฟะฮ์)  ดู  หนังสือตักรีบบุตตะฮ์ซีบ ลำดับนักรายงานที่ 2085

--------------------

       เห็นไหมครับว่า  ผู้ที่รายงานจากอัลมัสอูดีย์คือซิยาด บิน อับดิลลาฮ์นั้น  ได้รายงานในขณะที่อัลมัสอูดีย์ยังไม่มีความสับสน  เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเหตุใด อ.อะลี ถึงไม่ไปศึกษาจากต้นขั่วจากหนังสือวิจารณ์สายรายงาน  ซึ่งมีหลักการที่ชัดเจนกว่าการไปตักลีดตามการตัดสิน
لا إله إلا الله محمد رسول الله

 

GoogleTagged