1. คำตอบ กรณีที่ทำน้ำดุอาอ์แล้วนำไปอาบ, ไปกิน หรือไปพรมนั้นผมยังไม่พบหลักฐานจากท่านรสูลเลยนะครับ, ส่วนกรณีที่เราเห็นการทำน้ำดุอาอ์ในปัจจุบันถือว่าเป็นการอุตริกรรมขึ้นมาใหม่ (บิดอะฮฺ) นั่นเอง แต่การทำน้ำดุอาอ์มีความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องก็ถือว่าเป็นการทำชิริก (การตั้งภาคี) อีกด้วย
ท่านบุคอรี ได้รายงานฮะดิษจากท่าน ญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ เขากล่าวว่า
جَاءَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَعُودُنِي وَأَنَا مَرِيضٌ لَا أَعْقِلُ فَتَوَضَّأَ وَصَبَّ عَلَيَّ مِنْ وَضُوئِهِ فَعَقَلْتُ
"ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้มาเยี่ยมฉัน โดยฉันป่วยจนไม่ได้สติ ดังนั้นท่านร่อซูลจึงอาบน้ำละหมาดและรดน้ำบนฉันจากน้ำที่ใช้อาบน้ำละหมาด แล้วฉันก็คืนสติ" รายงานโดยบุคอรี (191)
ท่านมุสลิม ได้รายงานฮะดิษจากท่าน ญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ เขากล่าวว่า
عَادَنِي النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبُو بَكْرٍ فِي بَنِي سَلِمَةَ يَمْشِيَانِ فَوَجَدَنِي لَا أَعْقِلُ فَدَعَا بِمَاءٍ فَتَوَضَّأَ ثُمَّ رَشَّ عَلَيَّ مِنْهُ فَأَفَقْتُ
"ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และท่านอบูบักรได้อยู่ในเผ่าสะลิมะฮ์ ทั้งสองท่านได้เดินเท้า(มาเยี่ยมฉัน) โดยฉันเป็นลมหมดสติ ท่านนบีจึงขอน้ำมา แล้วทำการอาบน้ำละหมาด หลังจากนั้นท่านได้เอาน้ำที่ใช้อาบน้ำละหมาดมาพรมบนฉัน แล้วฉันก็ฟื้นคืนสติ" รายงานโดยมุสลิม (1616)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ ได้กล่าวอธิบายฮะดิษนี้ว่า
وَفِيهِ التَّبَرُّك بِآثَارِ الصَّالِحِينَ وَفَضْل طَعَامهمْ وَشَرَابهمْ وَنَحْوهمَا , وَفَضْل مُؤَاكَلَتهمْ وَمُشَارَبَتهمْ وَنَحْو ذَلِكَ
"ในฮะดิษนี้ ชี้ถึงการเอาบะรอกัต(ศิริมงคล) ร่องส่วนที่เหลือต่าง ๆ ของบรรดาบุคคลที่มีคุณธรรม(ซอและฮ์) และอาหารที่เหลือของพวกเขาและเครื่องดื่มที่เหลือของพวกเขาและอื่น ๆ จากทั้งสอง และของเหลือที่พวกเขาได้ร่วมกินและร่วมดื่มกัน และอื่น ๆ จากสิ่งดังกล่าว" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
ฮะดิษนี้มีข้อบ่งชี้อย่างชัดเจน และอิมามอันนะวาวีย์ก็ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจน ส่วนกรณีเรื่องน้ำดุอา ที่นำไปกิน นำไปพรม และนำไปดื่มนั้น คุณฮุกุ่มว่าชิริกเพราะคุณคิดเอาเองว่า คนอื่นเขาได้มอบหมายต่อน้ำดุอานั้น เดี๋ยวก่อน ต้องพิจารณาก่อน อย่าเพิ่งไปทำรู้เหมือนกับเคยผ่าหัวใจคนอื่นดู แล้วตัดสินว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเพราะไปมอบหมายกับน้ำดุอา แต่ความจริงแล้วน้ำดุอานั้น เขาทำเพื่อเอาบารอกัตจากดุอา จากอัลกุรอาน และพระนามของอัลเลาะฮ์ ตะอาลา
ท่านอับดุลเลาะฮ์ บุตร ของท่านอะหฺมัด บิน ฮัมบัล กล่าวว่า
رأيت أبى يكتب التعاويد للدى يصرع وللحمى لأهله وقراباته ، ويكتب للمرأة إدا عسر عليها الولادة فى جام أو شيء نظيف ، ويكتب حديث إبن عباس ، إلا أنه كان يفعل ذلك عند وقوع البلاء ، ورأيت يعود فى الماء ويشربه المريض ، ويصب على رأسه منه ، ورأيت أبى يأ خد شعرة من شعر النبي صلى الله عليه وسلم فيضعها على فيه يقبلها ، وأحسب أنى قد رأيته يضعها على رأسه أو عينه ، فغمسها فى الماء ثم شربه يستشفى به ، ورأيته قد أخد قصعة النبى صلى الله عليه وسلم بعث بها أليه أبو يعقوب بن سليمان بن جعفر فغسلها فى جب الماء ثم شرب فيها ، ورأيت من ماء زمزم يستشفى به ويمسح به يديه ووجهه
"ข้าพเจ้าได้เห็นบิดา ทำการเขียน สิ่งขอความคุ้มครอง ให้กับผู้เป็นลมและผู้ที่ป่วยไข้ ที่เป็นครอบครัวและเครือญาติของท่าน และบิดาได้เขียนในถ้วยหรือสิ่งที่สะอาดให้กับสตรีท่านหนึ่ง เมื่อนางคลอดลำบาก และเขียนหะดิษของท่านอิบนุอับบาส แต่ท่านบิดาได้กระทำสิ่งดังกล่าวในยามที่มีภัยมาทดสอบ และข้าพเจ้าเห็นบิดาทำการอ่านดุอาอ์ของการคุ้มครอง(แล้วเป่า)ลงในน้ำและให้ผู้ป่วยดื่มและทำการรดบนศีรษะจากน้ำนั้น และข้าพเจ้าเห็นบิดา ได้เอาเส้นผมของท่านนบี(ซ.ล.) แล้วนำมาวางบนปากของท่าน เพื่อทำการจูบมัน และข้าพเจ้าเข้าใจว่า ข้าพเจ้าได้เคยเห็นบิดาวางเส้นผมของท่านนบี(ซ.ล.) บนศีรษะและตาของท่าน แล้วท่านก็นำมันจุ่มลงในน้ำ จากนั้น ก็ทำการดื่มน้ำนั้น เพื่อให้ขอให้หายด้วยน้ำนั้น และข้าพเจ้าเห็นบิดาเอาจานของท่านนบี(ซ.ล.) ที่อบูยะอฺกูบ บิน สุไลมาน บิน ญะฟัร ได้ส่งมาให้ท่าน ดังนั้น บิดาจึงทำการล้างมันในบ่อน้ำ แล้วก็ดื่มมัน และข้าพเจ้าได้เห็นบิดาเอาน้ำซัมซัมมารักษา และเอามาลูบสองมือและใบหน้าของท่าน" ดู หนังสือ มะซาอิล อิมามอะหฺมัด ของท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน อะหฺมัดบินฮัมบัล หน้า 447
ตกลงว่าท่านอิมามอะห์มัด ให้เอาน้ำดุอาและผู้ป่วยดื่มและรดศีรษะของเขานั้น เป็นการทำชิริกหรือไม่? ดังนั้น หากไม่ชิริก แล้วทำไมคุณถึงฮุกุมว่าเป็นชิริก เคยไปผ่าหัวใจพี่น้องดูแล้วหรือว่าเขามีเจตนาอย่างไร? หรือว่ายัดเยียดเจตนาให้กับคนอื่นแล้วทำการฮุกุ่มชิริกต่อผู้อื่นตามที่ใจต้องการท่าน อิบนุ อะบี ชัยบะฮ์ ได้กล่าวรายงานว่า "ได้เล่ากับเรา โดยอบูบักร เขากล่าวว่า ได้เล่าแก่เรา โดยอะลี บิน มิสฮัร จากอิบนุ อบี ลัยลา จากอัลหะกัม , จากสะอีด บิน ญุบัยร์ จากท่านอิบนุอับบาส(ร.ฏ.) ซึ่งเขา(คือท่านสะอีด บิน ญุบัยร์) กล่าวว่า เมื่อสตรีได้มีการคลอดบุตรลำบาก ดังนั้น ท่านอิบนุอับบาสได้เขียนสองอายะฮ์นี้และบรรดาถ้อยคำต่าง ๆ จานใบหนึ่ง หลักจากนั้น ก็ทำการล้างน้ำ แล้วให้นางดื่มจากมัน (ถ้อยคำและอายะฮ์เหล่านั้น)คือ
بِسْمِ اللهِ لا إلهَ إلا هو الحَلِيْمُ الكَرِيْمُ ، سُبْحَانَ اللهِ ربِ السَموَاتِ السَبْعِ وَربِ العَرْشِ العَظِيْمِ
"ด้วยพระนามแห่งอัลเลาะฮ์ ที่ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ผู้ทรงสุขุมยิ่ง และทรงเผื่อแผ่ยิ่ง ความมหาบริสุทธิ์แด่อัลเลาะฮ์ ผู้เป็นเป็นผู้อภิบาลบรรดาฟากฟ้าทั้งเจ็ด และเป็นองค์อภิบาลบังลังก์อันยิ่งใหญ่"
كَأَنَّهُمْ يَوْمَ يَرَوْنَهَا لَمْ يَلْبَثُوا إِلَّا عَشِيَّةً أَوْ ضُحَاهَا
?คล้ายกับว่าพวกเขา ในวันที่พวกเขามองเห็นมันนั้น พวกเขาไม่ได้พักพิงอยู่(ในดุนยา) นอกจากเพียงชั่วยามเย็น หรือยามเช้าของมันเท่านั้น? อันนาซิอาตฺ 46
كَأَنَّهُمْ يَوْمَ يَرَوْنَ مَا يُوعَدُونَ لَمْ يَلْبَثُوا إِلَّا سَاعَةً مِّن نَّهَارٍ بَلَاغٌ فَهَلْ يُهْلَكُ إِلَّا الْقَوْمُ الْفَاسِقُونَ
"คล้ายกับว่าพวกเขาได้มองเห็นสิ่งที่สิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้ พวกเขาไม่ได้อยู่ นอกจากเพียงช่วงเวลาหนึ่งในตอนกลางวันเท่านั้น (ดังกล่าวนั้น) เป็นที่บรรลุ(สู่เป้าหมายแล้ว) ดังนั้น จะไม่ถูกทำลายล้าง นอกจากลุ่มชนที่ฝ่าฝืน" อัลอะหฺกาฟ 35
หลังจากนั้น จึงนำน้ำไปให้นางดื่ม และพรมน้ำส่วนที่เหลือบนส่วนหน้าอกของนาง และท่านอิมามอะหฺมัด ได้รายงานคำพูดนี้จากท่านอิบนุอับบาส และท่านอิบนุอัสซุนนีย์ ได้ยกคำพูดนี้ไปถึงท่านนบีไว้ในหนังสือ อะมัล เยาม์ วะ ลัยฮ์" ดู หนังสือ อัลอาดาบ อัชชัรอียะฮ์ เล่ม 2 หน้า 476 ของท่าน อิบนุ มุฟลิห์ อัลฮัมบาลีย์
ตกลงว่าท่านอิบนุอับบาส ให้เอาน้ำดุอาและผู้ป่วยดื่ม เป็นการทำชิริกหรือไม่? ดังนั้น หากไม่ชิริก แล้วทำไมคุณถึงฮุกุมว่าเป็นชิริก เคยไปผ่าหัวใจพี่น้องดูแล้วหรือว่าเขามีเจตนาอย่างไร? หรือว่ายัดเยียดเจตนาให้กับคนอื่นแล้วทำการฮุกุ่มชิริกต่อผู้อื่นตามที่ใจต้องการวัลลอฮุอะลัม