ผู้เขียน หัวข้อ: ดุลยภาพระหว่าง “ความถูกต้อง” กับ “ความเป็นพี่น้อง”  (อ่าน 4074 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
 salam
ที่กุลลียะก็เช่นกัน มีอาจารย์และเพื่อนบางคนมักจะพูดว่าแตกต่างแต่ไม่แตกแยก  พอเอาเข้าจริงๆไม่ได้เป็นดังที่พูด  ในกุลลียะมีคนถือมุซฮับชาฟีอีสัก 30 เปอเซน  เพื่อนเล่าให้ผมฟังว่าครั้งหนึ่งขณะที่เขาละหมาดซุบฮิในมัสยิดกุลลียะพอเขาทำรอกาอัตที่2 หลังอีหมำสลาม  เขาก็กูนุตมีจานท่านหนึ่งมายืนดูเขาใกล้ๆเหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด  หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ละหมาดที่มัสยิดดังกล่าวอีกเลย   แต่ท่านอธิการท่านเป็นคนที่ดีมากผมว่าท่านเข้าใจท่านมิได้ตำหนิเรื่องดังกล่าวเลยท่านมักจะพูดให้สามัคีกัน  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีสาวกที่ตามนักฟัตวาออนไลน์ในกุลลียะมากทีเดียวมักกล่าวให้ลงนรกเสมอ
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
salam
ที่กุลลียะก็เช่นกัน มีอาจารย์และเพื่อนบางคนมักจะพูดว่าแตกต่างแต่ไม่แตกแยก  พอเอาเข้าจริงๆไม่ได้เป็นดังที่พูด  ในกุลลียะมีคนถือมุซฮับชาฟีอีสัก 30 เปอเซน  เพื่อนเล่าให้ผมฟังว่าครั้งหนึ่งขณะที่เขาละหมาดซุบฮิในมัสยิดกุลลียะพอเขาทำรอกาอัตที่2 หลังอีหมำสลาม  เขาก็กูนุตมีจานท่านหนึ่งมายืนดูเขาใกล้ๆเหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด  หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่ละหมาดที่มัสยิดดังกล่าวอีกเลย   แต่ท่านอธิการท่านเป็นคนที่ดีมากผมว่าท่านเข้าใจท่านมิได้ตำหนิเรื่องดังกล่าวเลยท่านมักจะพูดให้สามัคีกัน  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีสาวกที่ตามนักฟัตวาออนไลน์ในกุลลียะมากทีเดียวมักกล่าวให้ลงนรกเสมอ

ผมได้ไปอ่านในกระทู้นี้  http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=2647.0 ก็ได้แนวคิดบ้างเหมือนกัน  ซึ่งมีเนื้อความดังนี้

"ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "แท้จริงบรรดานักปราชญ์จะตำหนิในเรื่องที่มีมติเอกฉันท์ให้ทำการตำหนิ แต่สำหรับสิ่งที่เป็นคิลาฟียะฮ์นั้นย่อมไม่มีการตำหนิแต่ประการใด(ที่จะเลือกระทำ)" ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ์ 20/225 ดังนั้นการที่พวกท่านได้ตำหนิผู้ทำการอ่านตัลกีน ก็เหมือนกับว่าพวกท่านทำให้ฐานะการอ่านตัลกีนนั้นเป็นบิดอะฮ์โดยเอกฉันท์(อิจญ์มาอฺ) ซึ่งเป็นจุดยืนที่ละเมิดต่อหลักการอิสลามและละเมิดต่อพี่น้องมุสลิม ดังนั้นเรื่องที่เป็นคิลาฟียะฮ์นั้นหากพวกท่านเลือกไม่กระทำก็ถือว่าเป็นทัศนะส่วนตนจะไปหุก่มลามไปยังคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่มีการตำหนิกันในเรื่องคิลาฟียะฮ์ในรูปแบบนี้ แต่หากประเด็นหนึ่งมีหลักอิจญ์มาอฺมติตัดสินว่าแล้วเรื่องนี้บิดอะฮ์หะรอม เราก็สามารถทำการตำหนิคัดค้านและวิจารณ์ผู้อื่นได้โดยให้อยู่ในกรอบของศาสนา ดังนั้นผมขอตำหนิผู้ที่ทีท่าทีแบบว่าหากไม่อ่านตัลกีนแล้วไม่ได้ทำเหมือนกับว่ามันเป็นวาญิบเสียอย่างนั้น และขอตำหนิผู้ที่เห็นคนอื่นทำการอ่านตัลกีนแล้วคิดเกินเลยขอบเขตกล่าวหาว่าทำบิดอะฮ์คิดเถิดไปว่าเขาสมควรรับนรกที่กระทำเช่นนี้ ซึ่งบุคคลทั้งสองประเภทนี้ไม่ได้อยู่บนความดีงามทั้งสิ้น"

ในข้อความดังกล่าวนี้ลองเปลี่ยนคำว่า "ตัลกีน" ให้เป็นคำว่า "กุนูต" ซิครับ  แล้วพิจารณาไปยังคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์  ดังนั้นหากอาจารย์วิทยาลัยยะลาคนดังกล่าวที่มายืนมองนักเรียนที่อ่านกุนูตเหมือนตัวประหลาดได้เข้าใจคำกล่าวของท่านอิบนุตัยมียะฮ์นี้  เขาจะเข้าใจหลักอิสลามในเชิงนิติศาสตร์นี้ครับ...ดังนั้นบรรดาผู้รู้ที่เข้าใจหลักอิสลามเชิงนิติศาสตร์ตรงนี้  เขาก็จะมองอาจารย์คนดังกล่าวเป็นคนเขลาหรือไม่เข้าใจไปเลยทีเดียวก็ว่าได้...

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
ครับ ... ในการไปร่วมการอบรมกับพี่น้องที่หลากหลายทุกครั้ง ผมหวาดเสียวตรงละหมาดศุบฮฺทุกที ผมมักจะแนะนำให้น้อง ๆ ในทีมงานที่ถือมัซฮับชาฟีอียฺขึ้นนำละหมาด โดยให้อ่านตามแบบชาฟีอียฺ แต่ในหลายครั้งที่ไปพบเจอคนนำละหมาดที่ไม่ได้อ่านกุนูต ปรากฏว่ามีพี่น้องหลายคนที่กำหนดตัวเองให้อยูในมัซฮับชาฟีอียฺ ได้ทำการสุยูดซะฮฺวียฺ ผมเองเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ และตัวอีหม่ามเองก็ไม่พอใจเอามากทีเดียว แต่เมื่อผมคิดถึงภูมิหลังการเรียนรู้ของคนที่สุญูดสะฮฺวียฺ ก็ได้แต่อดทนไม่เข้าไปต่อว่าอะไร …


...ท่านผู้เป็นอิมามและท่านผู้เขียนไม่น่าจะแสดงความไม่พอใจและอดทนอดกลั้นอะไร  เพราะการสุญูดซะฮ์วีเป็นสิ่งที่ให้กระทำได้  ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "แท้จริงบรรดานักปราชญ์จะตำหนิในเรื่องที่มีมติเอกฉันท์ให้ทำการตำหนิ แต่สำหรับสิ่งที่เป็นคิลาฟียะฮ์นั้นย่อมไม่มีการตำหนิแต่ประการใด(ที่จะเลือกระทำ)" ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ์ 20/225

...แล้วถ้าผู้เขียนกับอิมามนำละหมาดที่ไม่กูนูตนั้น  เผอิญได้ตามอิมามที่อ่านกุนูต  เขาทั้งสองได้อ่านกุนูตตามอิมามหรือเปล่าครับ  หรือว่าเวลาอิมามที่ไม่อ่านกุนูตนำละหมาด  มะมูมที่ตามไม่ควรอ่านกุนูตตามอิมาม  แต่เวลาอิมามที่อ่านกุนูต  มะมูมที่ไม่อ่านกุนูตตามไม่ต้องทำตามใช่ไหม  แบบนี้ความเอียงมันเกิดขึ้นบ้างแล้วน่ะครับ

...ดังนั้นหากมะมูมที่ไม่อ่านกุนูต  ไม่ทำการอ่านกุนูตตามโดยยืนเฉยๆ เพื่อรออิมาม  ก็จะแปลกอะไรล่ะที่มะมูมที่อ่านกุนูตเขาจะสุยูดซะฮ์วีอันเนื่องมาจากตัวเขาไม่ได้กูนูต ไม่ใช่ตัวอิมามไม่ได้กุนูต

...ฉะนั้นปัญหาแก้ง่ายๆ ที่ผมอยากจะออกความเห็นตรงนี้ก็คือ  อะไรก็ตามครับที่อิมามหรือมะมูมกระทำไม่ผิดหลักการฟิกห์  ก็ให้เกียรติในทัศนะของเขาไป  มะมูมที่ไม่อ่านกุนูตแต่ยืนรออิมามกุนูตให้เสร็จก็ไม่ผิดอะไร  และการที่มะมูมบางท่านได้สุยูดซะฮ์วีเพราะเขาไม่ได้กุนูต  ก็ไม่ผิดอะไรใช่ป่ะครับ  เมื่อเราเข้าใจเช่นนี้ก็ไม่ต้องไปหนักใจอดทนอดกลั้นหรือแสดงความไม่พอใจเลย

...แต่ประเด็นอันหนักหนาที่  เมื่ออิมามอ่านกุนูต  มะมูมที่ไม่อ่านกุนูตดันไม่ยอมเป็นมะมูมโดยออกจากละหมาด  หรือผู้ที่อ่านกุนูตไม่ยอมตามอิมามที่ไม่อ่านกุนูตและต้องไปกอดอละหมาดซุบฮิใหม่นี่ซิครับ  มันผิดหลักชะรีอะฮ์แล้ว  เพราะว่า   ท่านอิบนุตัยมียะฮ์กล่าวว่า "แท้จริงบรรดานักปราชญ์จะตำหนิในเรื่องที่มีมติเอกฉันท์ให้ทำการตำหนิ แต่สำหรับสิ่งที่เป็นคิลาฟียะฮ์นั้นย่อมไม่มีการตำหนิแต่ประการใด(ที่จะเลือกระทำ)" ฟะตาวาอิบนุตัยมียะฮ์ 20/225

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อ้างอิง : http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=275&Itemid=1

ผู้เขียนคือ ท่าน อัล-อัค  ได้เขียนหมายเหตุไว้น่าสนใจและเสวนาต่อยอดได้ครับ

หมายเหตุ

·  บทความนี้เขียนทิ้งไว้เมือรอมฎอน 1428  (ปีกลาย) 

·  ความจริงดุลยภาพระหว่าง“ความถูกต้อง”  กับ “ความเป็นพี่น้อง” เป็นหลักการพื้นฐานของอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ คือสมดุลระหว่างอะฮฺลุซ ซุนนะฮฺ และอะอฺลุล ญะมาอะฮฺ 

·  คนจำนวนไม่น้อยมักปฏิเสธข้อเสนอผมตามข้างบน ผมยกตัวอย่างสักเรื่อง เช่นผมเสนอแก่ผู้ถือมัซฮับชาฟิอียฺว่าไม่ควรสูญูดซะฮฺวียฺ ถ้าอีหม่ามที่นำไม่ได้อ่านกูนูต(เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามแนวนี้) หลายคนยืนยันจะสูญูดต่อไป เรื่องนี้ผมก็ห้ามไม่ได้ ... เพียงแค่ผมให้นึกว่าหากเราดึงดันแนวนี้ตลอดนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น ในบางพื้นที่ที่อิหม่ามเป็นฮานาฟียฺ แต่มะอมูมจำนวนไม่น้อยเป็นชาฟิอียฺ พวกเขาต้องสูญูดซะฮฺวียฺกันทุกวันเลยหรือ? เป็นภาพที่แปลกทุกวักตูศูบฮฺที่คนจำนวนหนึ่งในมัสญิดสูญูดกันต่อ หรือว่าต้องให้เปลี่ยนอิหม่ามกัน ... มันเป็นประเด็นที่มัซฮับมันยอมกันไม่ได้เลยเชียวหรือ? หรือว่าต้องให้เปลี่ยนอิหม่ามมาเป็นกูนูตเท่านั้น (ความจริงที่ต้องกล่าวไว้ตรงนี้ก็คือ มีพี่น้องที่ถือตามแนวมัซฮับชาฟีอียฺจำนวนมากไม่ได้ดึงดันขนาดนั้น  พวกเขามีความเข้าใจในการดำเนินตามมัซฮับ พวกเขาบอกว่าไม่ต้องสูญูดซะฮฺวียฺก็ได้)

  ในบทความข้างต้นผมตั้งคำถามกับคนที่ไม่ยอมละหมาดตามหลังอิหม่ามที่กุนูตว่า หรือว่าไม่พึงพอใจที่อีหม่ามชาฟิอียฺเป็นอีหม่าม !!!  ขณะเดียวกันเราก็ตั้งคำถามคนที่ไม่ค่อยเต็มใจจะละหมาดตามหลังอิหม่ามที่ไม่กูนูตได้เหมือนกันว่า ไม่พอใจที่มีอิหม่ามอบู ฮะนีฟะฮฺเป็นอีหม่ามหรือ

  ในความเป็นจริงการอยู่ร่วมระหว่างมัซฮับของซุนนี่มันมีมานานแล้ว และพวกเขาก็แยกประเด็นต่าง ๆ ได้ อีหม่ามชาฟิอียฺเคยนำละหมาดศุบฮฺผู้ถือมัซฮับฮานาฟียฺโดยไม่กูนูต(ไม่ต้องถามว่าสูญูดซะฮฺวียฺหรือป่าว?) พูดง่าย ๆ เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครจะให้เอาตามตัวเองทุกอย่าง อย่างชนิดที่ไม่ยอมอะลุ่มอะหล่วยกันเลย

·  คำถามที่ต้องถามต่อมาคือ แต่ละคนเข้าใจว่า “มัซฮับ” ทางฟิกฮฺคืออะไร? คือการปฏิบัติที่ไม่ยอมมองดูพี่น้องอีกมัซฮับหนึ่งเลยกระนั้นหรือ? มันคือตัวศาสนาที่เด็ดขาดหรือเป็นแนววินิจฉัยที่แตกต่างกันได้ เป็นสิ่งที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้เลย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?

   มัซฮับไม่ใช่ความเลวร้ายในอิสลาม ยิ่งกว่านั้นเป็นผลงานที่ทำให้อุมมะฮฺปฏิบัติศาสนาได้ง่ายๆและเป็นระบอบ ผมแยกแยะระหว่างผู้ดำเนินตามมัซฮับอย่างเข้าใจกับผู้ที่ถือดีในมัซฮับตน คนประเภทหลังก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เลวร้ายต่อมัซฮับ ดังข้อวิจารณ์ของกลุ่มสลาฟียฺต่าง ๆ ที่มีต่อมัซฮับว่าสร้างความแตกแยก ดังมีการปะทะกันระหว่างผู้ถือมัซฮับที่แตกต่างกันในช่วงปลายราชวงศ์อับบาสียะฮฺ ... แต่ข้อมูลนี้ไม่ได้หมายความว่ามัซฮับไม่ดี คนตามมัซฮับที่ไม่เข้าใจต่างหากที่มีปัญหา (เช่นเดียวกับปัญหาของคนไม่ตามมัซฮับ เพราะเป็นคนที่ถือดีเหมือนๆกัน)

·  โลกทุกวันนี้ไม่เหมือนในอดีต ชุมชนหนึ่งอาจไม่ได้มีแค่มัซฮับเดียว แต่อาจมีหลายมัซฮับ(รวมทั้งคนที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็นวะฮาบียฺด้วย) ข้อแนะนำผมก็เพียงหนึ่งในความคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมัซฮับในแนวซุนนี่ ซึ่งสามารถปฏิบัติได้จริง อย่างน้อยก็เห็นชัดเจนในกลุ่มญะมาอัตตับลีฆที่สามารถทำให้หลายหลายมัซฮับอยู่ร่วมกันได้ เพราะพวกเขามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามัซฮับยึดถืออยู่  ผมยังมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่ามัซฮับต่าง ๆ ไม่ใช่ระบอบสุดโต่งขนาดละหมาดตามหลังกันไม่ได้ มัซฮับยืดหยุ่นได้ ... ผมเชื่อมั่นในความดีงามของการมีอยู่ของมัซฮับ แต่ผมไม่ศรัทธาในแนวคิดการแบ่งผู้คนเป็นพวกๆด้วยมัซฮับทางฟิกฮฺต่าง ๆ หรือระหว่างคนที่สังกัดมัซฮับกับไม่สังกัด 
     
·  แนะนำให้อ่านหนังสือ “ความขัดแย้งทางฟิกฮฺ: ความแตกต่างที่ต้องอาศัยความเข้าใจ” ของเชค ดร. ยูซุฟ อัล-เกาะเราะฎอวียฺ ที่ผมได้แปลมาหลายปีแล้ว

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

อ้างถึง
ครับ ในบทความข้างต้นผมตั้งคำถามกับคนที่ไม่ยอมละหมาดตามหลังอิหม่ามที่กุนูตว่า หรือว่าไม่พึงพอใจที่อีหม่ามชาฟิอียฺเป็นอีหม่าม !!!  ขณะเดียวกันเราก็ตั้งคำถามคนที่ไม่ค่อยเต็มใจจะละหมาดตามหลังอิหม่ามที่ไม่กูนูตได้เหมือนกันว่า ไม่พอใจที่มีอิหม่ามอบู ฮะนีฟะฮฺเป็นอีหม่ามหรือ


...คนที่ละหมาดแล้วอ่านกุนูตในบ้านเรานั้นคือเขาอยู่ในมัซฮับชาฟิอีย์  แต่ส่วนมากผู้ที่ไม่อ่านกุนูตนั้น  ไม่ได้อยู่มัซฮับอบูฮะนีฟะฮ์  ไม่ได้อยู่มัซฮับฮัมบาลี  คือเขาไม่มีมัซฮับ  แต่เขาถือดีในตัวเองว่า  เขาอยู่มัซฮับนบี  ;D

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ตั้งแต่เข้าเดือนปอซอมานี่ผมไม่ได้อ่านกูนูตเลยสักครั้งครับ เครียดมากๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะผมต้องการรักษาละหมาดญามาอัฮ เวลาละหมาดซูบฮก็ให้พวกเขาขึ้นเป็นอีมาม เพราะรู้ตัวดีว่าถ้าผมขึ้นพวกเขาจะต้องยืนเฉยๆตอนผมอ่านกูนูต แม้หน้าตาจะยิ้มแย้ม แต่แน่นอนว่าในใจต้องแอนตี้เป็นธรรมดา

เท่าที่ผมเรียนมา ถ้าจำไม่ผิด กูนุตเป็นซูนัตมูอากัต ควรจะต้องทำ

เรื่องอีมามฮานาฟีที่บอกว่าตามไม่ได้นั้นอุสตาสของผมก็เคยเล่า เขาบอกว่ามัสฮับอื่นโดนตัวผู้หญิงแล้วไม่ตกน้ำละหมาด แต่ในแง่ของเรานั้นตก ดังนั้นถ้าเราเห็นเขาแตะต้องผู้หญิงแล้วก็อยู่ที่เราว่าจะคิดยังไง ถ้าคิดว่าเขาไม่ตกก็ละหมาดตามได้ ถ้าคิดว่าเขาตกก็ละหมาดตามไม่ได้ อะไรประมาณนั้น

إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
อ่านบทความนี่ตอนแรกก็คล้อยตามเหมือนกัน แต่พอมาเห็นของนูรุลอิสลามแล้วเลิกคล้อยเลย มันบ่งบอกว่าคนเขียนรู้ไม่จริง รู้ไม่หมด
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
อ่านบทความนี่ตอนแรกก็คล้อยตามเหมือนกัน แต่พอมาเห็นของนูรุลอิสลามแล้วเลิกคล้อยเลย มันบ่งบอกว่าคนเขียนรู้ไม่จริง รู้ไม่หมด

แต่ผู้เขียนเขาพยายามสร้างเป้าหมายที่ดี และพยายามสร้างความเป็นพี่น้องกัน  หากแม้นว่าการอธิบายในบางแง่มุมจะไม่รัดกุมนัก แต่เป้าหมายในการเขียนนั้นก็ถือว่าผ่านนะครับ

ออฟไลน์ มุคลิศ

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 159
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด

มัซฮับไม่ใช่ความเลวร้ายในอิสลาม ยิ่งกว่านั้นเป็นผลงานที่ทำให้อุมมะฮฺปฏิบัติศาสนาได้ง่ายๆและเป็นระบอบ ผมแยกแยะระหว่างผู้ดำเนินตามมัซฮับอย่างเข้าใจกับผู้ที่ถือดีในมัซฮับตน คนประเภทหลังก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เลวร้ายต่อมัซฮับ ดังข้อวิจารณ์ของกลุ่มสลาฟียฺต่าง ๆ ที่มีต่อมัซฮับว่าสร้างความแตกแยก ดังมีการปะทะกันระหว่างผู้ถือมัซฮับที่แตกต่างกันในช่วงปลายราชวงศ์อับบาสียะฮฺ ... แต่ข้อมูลนี้ไม่ได้หมายความว่ามัซฮับไม่ดี คนตามมัซฮับที่ไม่เข้าใจต่างหากที่มีปัญหา (เช่นเดียวกับปัญหาของคนไม่ตามมัซฮับ เพราะเป็นคนที่ถือดีเหมือนๆกัน)

อันนี้เห็นด้วยครับ  แต่ขอถามพี่น้องสักหน่อยว่า  การปะทะกันระหว่างมัซฮับนั้น ปะทะกันในเรื่องฟิกฮ์หรือเรื่องอะกีดะฮ์ครับ

ออฟไลน์ musalmarn

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 796
  • เพศ: ชาย
  • สักวัน... ฉันจะขี่ม้า
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
    • ชมรมศาสนศึกษา แผนกอิสลาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
บทความของ คุณ อัล-อัค เนี่ย  วะฮาบีย์แบบจัด ๆ หน่อย เขาไม่ยอมรับหรอกครับ  เนื่องจากการ อุดมการณ์ของ คุณ อัล-อัค และทีมงานฟิตยะฮ์นั้น  เป็นกลางหรืออยู่ในสายกลาง  ซึ่งไม่ใช่อุดมการณ์ของวะฮาบีย์  เนื่องจากวะฮาบีย์แบบจัด ๆ เขาคิดว่าสิ่งถูกต้องมีหนึ่งเดียว  คือสิ่งที่พวกเขายึดอยู่  ความเป็นกลางหรือสายกลางจึงเกิดขึ้นไม่ได้ตามทัศนะของวะฮาบีย์แบบจัด ;D

ผมชอบ อัล อัค
ผมชอบ แนวคิด อัล อัค
ผมชอบ งานเขียนของ อัล อัค

ยังยืนยันคำเดิม

 loveit:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 07, 2008, 05:38 PM โดย มูซัลมารณ ณ ซุนนะฮสติวเด้น »

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

เห็นพี่น้องร่วมเสวนากันมา 2 หน้ากระดานแล้ว  ซึ่งอย่างไรก็ตาม  บทความนี้เขียนขึ้นโดยมีการวิเคราะห์เรื่องฟิกห์ระหว่างมัซฮับอยู่ด้วย  ซึ่งต้องใช้ข้อมูลอย่างละเอียดละออ  หากประเด็นใดที่พี่น้องคิดว่าจะแสดงความเห็น  ก็แสดงความเห็นให้อยู่ในเชิงวิชาการอย่างแท้จริง  เพราะเป้าหมายของบทความนั้น  ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ดีและถูกต้อง

วัสลาม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

nujjaba

  • บุคคลทั่วไป
ขอนั่งยันคำเดียวกับมุซัลมารณก็แล้วกัน   ;D

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
 salam

ถ้าเป็นแต่ก่อนผมซูญูต แต่พอมาเรียนมหาลัย มีรุ่นพี่ที่ทำอย่างผม (ซะฟีอีย์เหมือนกัน) เขาบอกว่าไม่ต้องซูญูต
ผมลืมแล้วว่าเขาให้เหตุผลอะไร  จากนั้นเวลาผมลืม ก็ไม่เคยซูญูตสะวีย์เลย

ผมอยากได้คำตอบที่แน่นอน และให้ผมมั่นใจว่า ต้อง หรือ ไม่ต้อง ซูญูตครับ
แล้วที่มา ที่มีการอ่านกูนูต นี้เพราะอะไรหรอครับ

การสุยูดซะฮ์วีนั้น  เป็นเพียงแต่สุนัตไม่ใช่วายิบต้องทำ  ดังนั้น  ถ้าหากจะอ่านกุนูตกันจริง ๆ ก็อ่านได้  แต่ให้อ่านแบบสั้น ๆ เพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาที  ก็ได้แล้ว  ดังที่ผมจะนำเสนอต่อไป  เพื่อเป็นทางออกง่าย ๆ แบบไร้กังวล

ก่อนอื่นเราต้องรู้จักคำนิยามของคำว่า "กุนูต" ตามหลักนิติศาสตร์ก่อน  กล่าวคือ  กุนูต  ตามหลักคำนิยามของนิติศาสตร์นั้นคือ "เป็นชื่อหนึ่งของดุอาในละหมาดซึ่งอ่านในสถานที่เฉพาะเจาะจงในขณะที่ยืน" หนังสือ อัลฟุตูฮาต อัรร็อบบานียะฮ์ ของท่านอิบนุอะลาล 2/286

ท่านอิ มามอันนะวาวีย์  ได้กล่าวไว้ว่า  "ทัศนะที่ถูกยึดถือของมัซฮับนั้นคือ  ดุอา(กุนูต)นั้นมิได้ถูกเจาะจงด้วยถ้อยคำเหล่านี้  และหากเขาได้ทำการอ่านดุอากุนูตด้วยสิ่งที่ถูกรายงานจากท่านอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ย่อมเป็นสิ่งที่ดี  และชอบให้กระทำ(มุสตะฮับ) การรวมระหว่างกุนูตของท่านอุมัรและสิ่งที่ผ่านมาแล้ว(จากกุนูตวิติร)  ดังนั้นหากถูกรวมระหว่างทั้งสอง  ทัศนะที่ชัดเจนยิ่งคือให้เอากุนูตของท่านอุมัรไว้หลัง" หนังสือมัจญ์มั๊วะอฺ อิมามอันนะวาวีย์ 3/476

ดังนั้น การอ่านกุนูตในละหมาดซุบฮิ  ก็คือการอ่านดุอาขณะที่ยืนหลังจากงวยขึ้นมาจากรุกั๊วะนั่นเอง  หมายถึง  อ่านดุอาอะไรก็ได้  ที่เรียกว่าเป็นการขอดุอา  แต่ทว่าที่ดีแล้วนั้นสมควรเป็นดุอาที่มาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นอันดับแรก  หลังจากนั้นดุอาที่รายงานจากซอฮาบะฮ์  หากแม้นว่าบางคนบอกว่ามันเป็นดุอากุนูตวิติรไม่ใช่กุนูตซุบฮิ  เราขอกล่าวว่า  เมื่อมันเป็นคำดุอา ไม่ว่าจะเป็นดุอากุนูตวิติรหรือไม่ใช่ดุอาในวิติรก็เอามาอ่านในกุนูตซุบฮิ ได้  เหมือนกับดุอากุนูตในละหมาดวิติรที่อิมามมักกะฮ์ได้อ่านในละหมาดวิติรช่วง 10 คืนสุดท้าย  ซึ่งอ่านดุอากุนูตกันเป็นครึ่งชั่วโมง  หากจะถามว่าดุอากุนูตวิติรดังกล่าวที่อ่านกันเป็นครึ่งชั่วโมงนั้น  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแบบนั้นทั้งหมดเป็นครึ่งโมง ตามที่อิมามมักกะฮ์ได้อ่านหรือไม่?  ก็ขอตอบว่า  ไม่มีรายงานจากท่านนบี  ศ็อลลัลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่หากถามว่า  ทำไมอิมามที่มักกะฮ์จึงสรรหาดุอาต่าง ๆ มาอ่านในกุนูตวิติรอย่างมากมายที่ทั้งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ไม่เคยอ่านในรูปแบบเจาะจงเช่นนั้น  ก็ขอตอบว่า  อิมามมักกะฮ์เขารู้ดีว่า  กุนูต  คือการขอดุอา  ดังนั้นอะไรที่เป็นดุอา  ก็นำมาขอได้ในกุนูต นั่นเอง

ตั้งแต่เข้าเดือนปอซอมานี่ผมไม่ได้อ่านกูนูตเลยสักครั้งครับ เครียดมากๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะผมต้องการรักษาละหมาดญามาอัฮ เวลาละหมาดซูบฮก็ให้พวกเขาขึ้นเป็นอีมาม เพราะรู้ตัวดีว่าถ้าผมขึ้นพวกเขาจะต้องยืนเฉยๆตอนผมอ่านกูนูต แม้หน้าตาจะยิ้มแย้ม แต่แน่นอนว่าในใจต้องแอนตี้เป็นธรรมดา

เท่าที่ผมเรียนมา ถ้าจำไม่ผิด กูนุตเป็นซูนัตมูอากัต ควรจะต้องทำ

ดังนั้นหากเราละหมาดตามอิมามที่อยู่ในแนวทางมัซฮับฮะนะฟีย์หรือมัซฮับฮัมบาลีย์โดยไม่ได้อ่านกุนูต  แต่เราเกิดต้องการอ่านกุนูตขึ้นมา  ก็ให้ยกมือขอดุอาแบบสั้น ๆ ก็ได้นะครับ  คือให้กล่าวดุอาว่า

اللهم اغفرْ لي يا غفورُ

"อัลลอฮุ้มมัฆฟิรลี ยาฆ่อฟูร"

"ข้าแด่อัลเลาะฮ์เจ้า  โปรดทรงอภัยโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด  โอ้  ผู้ทรงอภัยยิ่ง"

วัลลอฮุอะลัม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 08, 2008, 11:53 AM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
จะเริ่มอ่านสั้นๆแบบนั้นตั้งแต่เช้าพรุ่งนี้เลยตอนละหมาดกับพวกนั้น INSYA ALLAH
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ IamCrying

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 376
  • เพศ: ชาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
จะเริ่มอ่านสั้นๆแบบนั้นตั้งแต่เช้าพรุ่งนี้เลยตอนละหมาดกับพวกนั้น INSYA ALLAH


พวกนั้นนี่ใครกันน้อ ฮ่าฮ๋า
Closer than veins : Invite to the Way of thy Lord with wisdom... Qur.16:125

 

GoogleTagged