เพราะเรื่องที่คุณเสวนา เป็นเรื่องคิลาฟิยะ
ปัญหาไม่ได้มีคำตอบเดียว ดังนั้นเราไม่ควรเชื่อปักใจ 100 % ว่าเราถูกทั้งหมด
พวกเราชอบอ้างฮะดิสนบี โดยลืมว่าเรานั้นเป็นมนุษย์ธรรมดา เราไม่ใช่นบี เราไม่ใช่มะซูม
เรื่องตรงนี้ ลูกศิษย์สายที่บางทีเรียกคณะใหม่ บางทีเรียกวะฮะบี ชอบเอามาอ้างกัน
เช่น
ฮะดิส เกี่ยวกับรับประทานอาหารมือซ้ายว่าเป็นชัยตอน ก็เอามาพูดตอนเขาทำลักษณะเช่นนั้น แน่นอนมันไม่ได้เกินจริงหรอก แต่นัยยะของมันนั้นเขาคนนั้นไม่ใช่ชัยตอน ส่วนที่พูดมาก็จะอ้างว่านบีเป็นคนบอก ไม่ใช่เขา
ซึ่งเขามักจะพูดว่า " เฮ้ย ชัยตอนนี่หว่า !! " แล้วมาบอกว่านบีบอก
ฮะดิส ทุกลุ่มหลงอยู่ในนรก ก็มาบอกว่าใครทำบิดอะที่เป็น บิดอะด้านศาสนานั้นตกนรกหมด แล้วก็มาบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนบอก แต่นบีเป็นคนบอก
แล้วอย่างไร ต่างกันตรงไหนล่ะ .... ปัญหาคือว่า คนๆ นั้นทำบิดอะอะไร ในเมื่อบิดอะนั้นเป็น ทัศนะของอุลามะ ที่มีหลายฝั่ง
ดังนั้นการต่อทัศนะ แล้วให้ท้ายว่า คนทำตกนรก ก็กลับมาอ้างนบีแทนว่านบีเป็นคนพูด
ซึ่งเขามักจะพูดว่า "ทำบิดอะตกนรก !!" แล้วก็เหมือนเดิมว่านบีบอก
ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ หากผมได้ยินมีคนว่าคุณว่า XXX ( เอาว่าหยาบคาย )
ผมบอกคุณว่า XXX แล้วบอกคน นั้นพูด คุณจะคิดอย่างไร ? แล้วพูดแล้วพูดเล่า พูดซ้ำพูดซ้อน ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่ได้เป็นอย่าง XXX หรือเป็นอย่างอื่นก็ได้ หรือเข้าใจผิดกันก็ได้อีก
ส่วนที่ผมไปฟังคนนั้นพูดว่าคุณเป็น XXX แล้วมาเล่าให้คุณฟัง ก็แสดงว่าผมก็อาจจะมีความเชื่อแล้วบ้าง ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ต้องมีแน่นอน อาจจะซัก 1 % ก็คือมีเหมือนกัน
ดังนั้นการที่คุณยกในความเห็นที่มีสองนัยยะ ในเรื่องคิลาฟิยะที่มีหลายทัศนะ แล้วนำเสนอความคิดเหล่านั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าคุณก็คิดเช่นนั้น
ไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะเลือกทัศนะดังกล่าวได้อย่างไร เมื่อคุณเลือกไป ก็หมายถึงคุณเชื่อทัศนะเช่นนั้น แล้วทัศนะเช่นนั้นก็คือ ฮุก่มพี่น้องตกนรก
เรื่องนี้ ไม่ใช่นบีบอก เพราะนบีบอกกว้างๆ ทัศนะอุลามะ ไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็น ฮาลาล หรือ ฮารอม ดังนั้นการเลือกทัศนะเช่นนี้จึงถือว่าคุณเลือกที่จะเชื่อว่า ใครทำแล้วตกนรก ไม่ใช่มาอ้างนบี
ส่วนอีกเรื่อง ก็คือ ประโยคนี้แหละที่ผมอยากจะเตือน ประโยคตรงนี้ ที่คุณพิมว่า...
อย่าโกรธ อย่าเคลียด ไม่มีบารอกัดในการสนทนา
คุณกำลังคิดไปเองว่า คนอื่น หรือผม นั้น โกรธ และ เครียด เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะคุณเป็นคนกล่าวมาก่อนน่ะสิ
ยกตัวอย่างประเด็นนี้ง่ายๆ ว่า หากผมฟังคนด่าพ่อของผม ผมก็เลยวิ่งไปชกเขา และในเมื่อผมเห็นมีคนด่าพ่อเพื่อนผม ผมเลยต้องบอกเพื่อนผมว่า อย่าไปชกเขา
กรณีนี้ แสดงให้เห็นว่า ผมคิดว่าเพื่อนผมจะทำเหมือนอย่างเช่นผม หากผมไม่คิดว่าตัวเองจะวิ่งไปชก ผมก็คงไม่เตือน
ตัวอย่างนี้น่าจะทำให้คุณเข้าใจว่า คุณเองคงคิดไปได้ว่า ผม หรือ พี่น้องเขากำลัง โกรธ และ เครียดกัน ซึ่งนั่นเป็นการคิดเอาของคุณ
ไม่มีพี่น้องคนไหนพิม และเตือนมาแบบนั้น ก็เพราะว่าเขาไม่เคยคิดกัน ก็เลยนึกไม่ถึง มันดีแล้วที่คุณเตือนตัวเองด้วย
แล้ว ประโยคดังกล่าวก็เตือนตัวคุณเองด้วยเถิดครับ
เหนียตจริงๆ ของเราไม่มีใครรู้นอกจากอัลลอฮฺ
สำคัญที่การแสดงออกต้อง ต้องจริงใจ บริสุทธิ์ใจ ให้เห็นกันได้
มันต่างกันตรงที่หาก คุณจะเตือนใครซักคนแล้วเดินไปตบหัวเขาก่อน แล้วบอกว่าใส่หมวกละหมาดเถอะ เนี่ยเตือนด้วยความหวังดี
ผมคิดว่า การตักเตือนแบบนี้ ไม่ใช่การตักเตือนด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันอย่างเราๆ เลยครับ
วัสลาม...
หากกล่าวถึงฮาดิสเราต้องมีที่มาของตัวบทที่เข้มเเข็งจริงๆเราถึงจะมาอ้างได้
หากเป็นเเค่คำพูดของเรานั้นไม่ต้องพูดถึง
ที่ดิฉันกล่าวมานั้นเป็นฮาดิสค่ะ ไม่ใช่คำพูดพลอยๆของปถุชนอย่างเรา
ฮาดิสที่ชัดเจน เเละเป็นฮาดิสที่ซอเฮียะเท่านั้น หากฮาดิสดออิฟคงไม่ต้องพูดถึง
เอาล่ะ ในเมื่อตัวคุณมาเจาะจงว่าการที่ดิฉันยกฮาดิสที่ว่านั้นเป็นเป็นการที่ดิฉันอ้างไปถึงท่านนบี
ทั้งๆที่มันมีหลักฐาน คุณจะมาอ้างว่าฮาดิสดั่งกล่าวนั้นดิฉันเป็นผู้กล่าวเองกระนั้นหรอ
ดิฉันเองก็ไม่โกรธหรอกน่ะค่ะ เเค่เเอบอมยิ้มว่าทำไมถึงเวปนี้มีการเคลื่อนไหวทุกครั้งที่คลิก
เเฮะๆ รู้สึกชอบเเล้วละซิ เเต่การที่ดิฉันเข้ามานั้นไม่ได้เนียตจะมาตอบโต้หรือมาถกเถียงน่ะค่ะ
เเต่อยากให้เข้าใจถึงสิ่งที่คุ๊กำลังจมปลักอยู่นั้น กับสิ่งที่คุณคิดนั้น มันไม่ตรงกับเนียตที่ดิฉันตั้งเนียตไว้
คุณกล่าวหาดิฉันเเช่งคุณให้ตกนรก ดิฉันก็ไม่ญาฮีลถึงขนาดที่ว่าเอาอำนาจให้สั่งใครตกนรกได้หรอกค่ะ
เเต่นั้นเป็นฮาดิสของท่านนบี คุณลองไปค้นมาอีกทีล่ะกัน ว่าฮาดิสนี้ใครเป็นผู้รายงาน
เเละเป็นฮาดิสที่อยู่ในระดับไหน
ไปค้นมาน่ะค่ะ จะได้ไม่มาปรับปรัม ดิฉันว่าไปเเช่งคนที่ทำ บิดอะให้ตกนรก
เมาลิดเป็นบิดอะ......................................................
ญาซากุมุลลอฮุค็อยร็อนที่ตักเตือนน่ะค่ะ
วัสลาม
ไปนอนได้เเล้วดึกมากเเล้วน่ะค่ะ
เอาเเรงมาพิมพรุ่งต่อดีไหมเอ่ย