بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ اَلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ،،،أَمَّا بَعْدُ ؛
พระนามทั้ง 99 นั้นเป็นถ้อยคำที่ดีงามอนุญาตให้กล่าวแบบเป็นท่วงทำนองได้หรือเรียกว่านะชีดนั่นเอง ดังนั้นการขับร้องแบบนะชีดเป็นสิ่งที่อนุญาตได้ตามซุนนะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ท่านอะนัส กล่าวว่า
كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي بَعْضِ أَسْفَارِهِ وَغُلَامٌ أَسْوَدُ يُقَالُ لَهُ أَنْجَشَةُ يَحْدُو فَقَالَ لَهُ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَا أَنْجَشَةُ رُوَيْدَكَ سَوْقًا بِالْقَوَارِيرِ
"ท่านร่อซูลุ้ลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในบางการเดินทางของท่านนั้น มีเด็กหนุ่มผิวดำ ถูกเรียกชื่อว่า อันญะชะฮ์กำลังร้องขับกล่อม ดังนั้นท่านร่อซูลุ้ลเลาะฮ์จึงกล่าวแก่เขาว่า โอ้ อันญะชะฮ์ ท่านจงบังคับอูฐช้า ๆ อย่าทำให้จิตใจของพวกนาง(คือภริยาของนบี)ต้องตกใจกระทบกระเทือน" รายงานโดยมุสลิม (4287)
ฮะดิษนี้บ่งชัดเจนว่าอนุญาตให้ร้องนะชีดที่เป็นท่วงทำนองขับกล่อมได้ เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้การยอมรับและมิได้ตำหนิแต่ประการใด
ท่านอิมามอันนะวาวีย์อธิบายว่า
أَنَّ مَعْنَاهُ أَنَّ أَنْجَشَة كَانَ حَسَن الصَّوْت , وَكَانَ يَحْدُو بِهِنَّ , وَيُنْشِد شَيْئًا مِنْ الْقَرِيض وَالرَّجَز
"แท้จริงความหมายของฮะดิษ คือ อันญะชะฮ์นั้นเป็นคนที่เสียงดี เขาได้ขับร้องแก่พวกนาง และทำการร้องนะชีดจากจังหวะโคลงกลอน" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
รายหนึ่งจากท่านอะนัส ระบุว่า
كَانَ لِرَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ حَادٍ حَسَنُ الصَّوْتِ فَقَالَ لَهُ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ رُوَيْدًا يَا أَنْجَشَةُ لَا تَكْسِرْ الْقَوَارِيرَ يَعْنِي ضَعَفَةَ النِّسَاءِ
"ให้แก่ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีผู้ที่ร้องขับกล่อมซึ่งเขาเสียงดี ดังนั้นท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงกล่าวแก่เขาว่า ช้า ๆ หน่อย โอ้ อันญะชะห์ อย่าทำให้จิตใจของพวกนาง(คือภริยาของนบี)ต้องตกใจกระทบกระเทือน" รายงานโดยมุสลิม (4290)
อัมร์ บุตร ชะรีด ได้รายงานจากบิดาของเขาว่า
رَدِفْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَوْمًا فَقَالَ هَلْ مَعَكَ مِنْ شِعْرِ أُمَيَّةَ بْنِ أَبِي الصَّلْتِ شَيْءٌ قُلْتُ نَعَمْ قَالَ هِيهْ فَأَنْشَدْتُهُ بَيْتًا فَقَالَ هِيهْ ثُمَّ أَنْشَدْتُهُ بَيْتًا فَقَالَ هِيهْ حَتَّى أَنْشَدْتُهُ مِائَةَ بَيْتٍ
"วันหนึ่ง ฉันได้ติดตามท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวถามว่า ท่านมีบทกวีของอุมัยะห์ บิน อะบิลซ็อลต์บ้างหรือเปล่า? ฉันตอบว่า มีครับ ท่านนบีจึงกล่าวว่า โอ้หรือ! แล้วฉันก็ขับร้องนะชีดโคลงกวีของอุมัยะห์ บิน อะบีลซ็อลต์บทหนึ่ง ท่านนบีจึงกล่าวว่า โอ้ใช่แล้ว! หลังจากนั้นท่านจึงขับร้องโคลงกวีของเขาอีกบทหนึ่ง โอ้ใช่แล้ว! จนกระทั่งฉันได้ขับร้องให้ฟังถึงหนึ่งร้อยโคลงกวี" รายงานโดยมุสลิม ( 4185)
ท่านอิมามอันนะวาวีย์ อธิบายว่า
فَفِيهِ جَوَاز إِنْشَاد الشِّعْر الَّذِي لَا فُحْش فِيهِ , وَسَمَاعه , سَوَاء شِعْر الْجَاهِلِيَّة وَغَيْرهمْ
"ในฮะดิษนี้อนุญาตให้ขับร้องนะชีดบทกวีที่ไม่มีความ(หมายที่)น่าเกลียด อนุญาตให้ฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นบทกวียุคญะฮีลียะห์และอื่น ๆ ก็ตาม" ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม
ดังนั้นการกล่าวพระนามทั้ง 99 แบบเป็นท่วงทำนองเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้มีความจำทั้ง 99 พระนามได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าไม่เป็นไรครับ
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ