ผู้เขียน หัวข้อ: วิชาอิลมุลกะลามตามทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  (อ่าน 2185 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

วิชาอิลมุลกะลามตามทัศนะของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์

วิชาอิลมุลกะลาม  เป็นศาสตร์หนึ่งที่กลุ่มวะฮาบีย์มักจะเอามาพาดพิงในแง่ลบอยู่ตลอดเวลา  โดยไม่ทำความเข้าใจและแยกแยะว่าอิลมุลกะลามใดอยู่ในแนวทางของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์และอิลมุลกะลามใดอยู่ในแนวทางของพวกบิดอะฮ์  ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องอะกีดะฮ์  แล้ววะฮาบีย์ถูกถามประเด็นใดประเด็นหนึ่ง  แล้วพบทางตันให้ความกระจ่างไม่ได้  พวกเขาก็จะโยนความผิดให้วิชาอิลมุลกะลาม  เพื่อเป็นทางออกสุดท้ายในการถูกถามเกี่ยวกับเรื่องอะกีดะฮ์อิสลาม  ซึ่งถือว่าเป็นความอ่อนแอทางหลักอะกีดะฮ์ทัศนะของตน

ดังนั้นวิชาอิลมุลกะลาม  นับว่าเป็นวิชาที่น่าตำหนิหรือไม่?  หากเป็นวิชาที่ไม่ถูกตำหนิ  เราอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งที่รายงานการห้ามของอุลามาอฺจากการให้ความสนใจวิชาอิลมุลกะลามและมีอุลามาอฺบางส่วนละเลิกจากวิชาอิลมุลกะลาม? 

ตอบ : วิชาอิลมุลกะลาม  , วิชาอุศูลุดดีน , วิชาเตาฮีดและซีฟาต , ทั้งสามชื่อนี้มีความหมายเดียวกัน  ท่านซะดุดดีน  อัตตัฟตาซะนีย์  ได้สาธยายเกี่ยวกับสาเหตุการเรียกวิชานี้ว่าอิลมุลกะลามว่า  "หัวข้อที่เป็นบทวิเคราะห์นั้น  บรรดาอุลามาอฺจะกะลาม(พูด)เกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้  เพราะประเด็นปัญหาเรื่อง ซีฟัตอัลกะลาม(อัลเลาะฮ์ทรงพูด)นั้น  เป็นประเด็นวิเคราะห์และวิภาษมากที่สุดและโด่งดังที่สุด  จนกระทั่งบรรดาอุลามาอ์ที่กักกุมต้องถูกฆ่ามากมายเนื่องจากไม่กล่าวว่าอัลเลาะฮ์เป็นมัคโลค  และพวกเขาก็ยังกล่าวเหตุผลอื่น ๆ อีก  และวิชานี้ถูกเรียกว่าวิชาเตาฮีด(วิชายืนความเอกภาพ)เพราะบทวิเคราะห์เรื่องความเป็นเอกภาพของอัลเลาะฮ์ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์ที่โด่งดังที่สุด  และบ้างก็ว่าวิชาอุศูลุดดีน(รากฐานของศาสนนา)  เพราะศาสนาได้ดำรงอยู่บนมัน"  หนังสือชัรห์ อัลอะกออิด อันนะซะฟีย์  หน้า 10  ดังนั้นวิชาอิลมุลกะลามตามนัยยะดังกล่าว  จึงเป็นวิชาที่สำคัญ  มีเกียรติ  สามารถเยียวยาประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่บนแผ่นดินนี้  เช่น  ประเด็นของการเชื่อในพระเจ้า , ประเด็นความเชื่อในเรื่องการส่งศาสนทูต , ประเด็นในเรื่องการตอบแทนในโลกหน้า , เป็นต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 12, 2008, 10:46 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: วิชาอิลมุลกะลามในอิสลาม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 12, 2008, 05:06 PM »
0
คำนิยามอิลมุลกะลาม :

อิลมุลกะลาม  หมายถึง : วิชาที่ว่าด้วยเรื่องการยืนยันบรรดาหลักฐานที่มีต่อความถูกต้องของหลักการศรัทธา ,  ซึ่งวิชากะลามด้วยความหมายนี้ถือว่าไม่ถูกตำหนิอย่างเด็ดขาด , ยิ่งกว่านั้นในกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ของท่านนบีก็เต็มไปด้วยนัยยะของวิชากะลามที่อยู่ในความหมายนี้  บรรดาอุลามาอ์วิชากะลามได้ให้ความนิยามวิชานี้ว่า  มันคือ : "วิชาทำให้มีศักยภาพในการยืนยันซึ่งหลักการศรัทธาของศาสนา  อีกทั้งได้รับหลักการมาจากบรรดาหลักฐานที่แน่นอน"  หนังสือตั๊วะห์ฟะตุลมุรีด ของท่านอิมามอัลบาญูรีย์  หน้า 36
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
Re: วิชาอิลมุลกะลามในอิสลาม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 12, 2008, 10:43 PM »
0
การกำเนิดวิชากะลาม :

เหตุการกำเนิดวิชาอิลมุลกะลามนั้น  เพื่อโต้ตอบพวกบิดอะฮ์ที่ชอบถกเถียงกับบรรดาปราชญ์มุสลิมีน  พวกเขาจะนำความคลุมเครือต่าง ๆ ที่บรรพชนยุคก่อนได้รายงานไว้มานำเสนอ  แล้วนำความคลุมเครือต่าง ๆ มาปะปนกับหลักการของพวกปรัชญา  ดังนั้นบรรดาปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์จึงจำเป็นต้องต่อต้อน  โต้แย้ง  และถกเถียงกับพวกเขา  จนกว่าพวกเขาไม่สามารถครอบงำคนสามัญชนทั่วไปที่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา  และจนกว่าพวกเขาไม่สามารถนำสิ่งที่ไม่มีหลักการของศาสนาเข้ามาอยู่ในศาสนา  ดังนั้นถ้าหากนักปราชญ์ได้ปล่อยพวกนอกลู่และสิ่งที่พวกเขากระทำ  แน่นอนว่ามันต้องเข้ามาครอบงำสติปัญญาของผู้ที่อ่อนแอและสามัญชนมุสลิมีนทั่วไป  และผู้ด้วยความรู้จากนักวิชาการมุสลิมที่เป็นสามัญชนทั่วไป  พวกนอกลู่ก็จะเปลี่ยนแปลงอะกีดะฮ์ที่ถูกต้องที่มีอยู่ ณ พวกเขา 

และก่อนหน้าที่บรรดาอุลามาอ์จะทำการโต้ตอบพวกเขานั้น  ไม่มีผู้ใดทำการต่อต้านพวกเขาเลย  เพราะจะไปได้อย่างไรในเรื่องเขาไม่เข้าใจหลักการของพวกเขาเนื่องจากไม่ได้ให้ความสนใจต่อทัศนะพวกเขาเหล่านั้นเพราะจะไม่สามารถตอบโต้ได้นอกจากต้องเข้าใจหลักการของพวกเขาเสียก่อน  ส่วนการนิ่งเงียบเช่นนี้จะนำไปสู่การแพร่หลักการของพวกนอกลู่เเหล่านั้นจนกระทั่งบรรดาผู้ที่ไม่รู้บางส่วนไปยึดตามแนวทางของพวกเขา  ดังนั้นจึงจำเป็นต่อบรรดาอุลามาอฺมุสลิมีนทำการต่อต้านด้วยกับโต้ตอบต่อพวกเขาและด้วยการเข้าไปศึกษาวิชากะลามนี้อย่างชำนิชำนาญ  เนื่องจากการทำให้พวกเขายอมรับด้วยบรรดาหลักฐานของพวกเขาเองนั้นย่อมทำให้หยุดยั้งและทำให้พวกเขายอมจำนนได้มากกว่า

ท่านอิมามอัลฆอซาลีย์กล่าวว่า  "วิชากะลามนั้น  เป้าหมายของมันก็คือ  ปกปักษ์รักษาไว้ซึ่งหลักอะกีดะฮ์ต่าง ๆ ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ที่ได้ทำการถ่ายทอดมาจากสะละฟุศศอลิห์  มิได้เป็นอื่นจากนั้นเลย" หนังสืออัลเอี๊ยะห์ยาอฺอุลูมิดดีน 1/52

ดังนั้นบรรดาอุลามาอฺมุสลิมีนได้ทำการตอบโต้พวกนอกลู่และทำลายข้อสงสัยของพวกเขา  โดยที่แนวทางของอุลามาอฺมุสลิมีนในการตอบโต้ก็คือเพื่อยันยันหลักอะกีดะฮ์ของอิสลามนั่นเอง  การอ้างหลักฐานตามแนวทางของพวกเขานั้นก็คือชนิดเดียวกันบรรดาหลักฐานของอัลกุรอานที่มาจากถ้อยคำที่มีอิทธิพลต่อจิตใจ  ทำให้พอใจ  และชื่นช่ำหัวใจที่มีหลักฐานอันชัดเจนมารับรอง

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ  อะซากิร  ได้รายงานถึงท่าน  อะบุลฮะซัน  อะลี  บิน  อะห์มัด  อัลมะดีนีย์  เขาได้กล่าวว่า  "ฉันได้ยินอิมามอัลญุวัยนีย์  กล่าวว่า  ฉันได้ฝันเห็นท่านนบีอิบรอฮีม อัลค่อลีล  อะลัยฮิสลาม  ฉันจึงก้มลงเพื่อจะจูบเท้าทั้งสองของท่าน  ดังนั้นท่านนบีอิบรอฮีม  จึงห้ามฉันทำอย่างนั้นเพื่อให้เกียรติต่อฉัน  แล้วฉันก็ขอให้หันหลังแล้วจูบที่ส่วนหลังของข้อเท้าทั้งสองของท่าน , ฉะนั้นฉันจึงอธิบายฝันว่ามันเป็นความสูงส่งและความสิริมงคลที่ยังคงอยู่ที่สองข้อเท้าส่วนหลังของฉัน , หลังจากนั้น  ฉันจึงกล่าวว่า  โอ้  ค่อลีลุลลอฮ์ (มิตรสหายรักของอัลเลาะฮ์ หมายถึงท่านนบีอิบรอฮีม) ท่านจะกล่าวว่าอย่างไรต่อวิชาอิลมุลกะลาม  ท่านนบีอิบรอฮีมตอบว่า  บรรดาสิ่งโมฆะและความคลุมเคลือสงสัยจะถูกตอบโต้ด้วยวิชาอิลมุลกะลาม"  หนังสือตับยีน  กัซบิลมุฟตะรีย์ 355-356

มีคนหนึ่งได้ถามท่านอบูหะนีฟะฮ์ว่า "เหตุใดพวกท่านถึงพูดกันเรื่องวิชากะลาม  ทั้งที่ซอฮาบะฮ์ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย  ท่านอบูหะนีฟะฮ์ตอบว่า  บรรดาซอฮาบะฮ์ก็ประหนึ่งมนุษย์ที่ไม่มีผู้ใดมาสู้รบกับพวกเขา  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการที่จะเผยอาวุธออกมาใช้  ส่วนพวกเราก็ประหนึ่งมนุษย์ที่มีผู้เข้ามาสู้รบ  ดังนั้นพวกเราจึงต้องการเผยอาวุธเพื่อมาใช้ต่อสู้กับพวกเขา" สรุปจากหนังสือ อิชารอตุลมะรอม หน้า 32 ของท่านอิมามอัลบะยาฎีย์
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 12, 2008, 11:41 PM โดย al-azhary »
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged