ใช่ครับ ครั้งนั้น ผมจำได้ว่า มีบังอัลฯบังนูรู้ลอิสลามเข้าร่วมชี้แจงด้วยวาฮาบีนั้นโดนชีอะในเวปมุสลิมไทยอัดซะยับยู่ยี่ไปทั้งตัวสู้ไม่ได้สักเรื่อ งโดยเฉพาะเมื่อชีอะอ้างเรื่องอกีดะแบบยิว วาฮาบีบางคนเลยร้อนตัว
มาพึ่งเวปนี้ แต่เพื่อไม่ให้เสียเลี่ยมวาฮาบีบางคนก็เข้ามาในเชิงกวนโดยอำพรางขอความรู้เพราะลำพังข้อมูลในเวปมุสลิมไซเบอร์นั้น เคยโดนชีอะศอกกลับว่านำภาพโกหกมาหลอกชาวบ้านผมเองติดตามเรื่องนี้
ที่เวปมุสลิมไทยตลอด
ในขณะเดียวกันชีอะจะไม่กล้าที่จะโต้เลยกับอากีดะอะลิสซุนนะมัสหับทั้ง4 เพราะเขารู้ดีว่าอากีดะของเราไม่มีจุดอ่อนที่จะให้ชีอะเข้ามาเจาะและเป็นอากีดะที่พระองค์อัลลอฮ์(ซบ)ยืนยันไว้
ทั้งๆที่พวกเขามักจะปลื้มใจกับฮาดิสซอเหี้ยะและมักจะชี้นำให้ยึดฮาดิสซอเหียะโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปฟังผู้รู้ท่านใดอธิบายแต่ในขณะเดียวกันฮาดิสซอเหียะในเรื่องที่ท่านร้อซุลกล่าวยืนยันไว้มากมายและเป็นซุนนะขอ งท่านแต่วาฮาบีกลับเตะโด่งทำเป็นไม่เข้าใจที่จะยอมรับมันแต่ถ้าฮาดิสที่มันมีนัยยะทั้งที่อุลามะส่วนมากคีลาฟกันในเรื่องของความหมายวาฮาบีกลับยึดความเข้าใจของตนเองตามโตะครูของตัวเองอย่างน่าเกลียด เราจะพบว่าในเรื่องอากีดะหรือการยึดมั่นนั้นร้อซุลเองไม่เคยที่จะยืนยันเลยว่าอัลลอฮ์(ซบ)ทรงประทับนั่งบนบรรลังค์เหมือนพวกยิวพวกนัสรอพวกวาฮาบีแต่วาฮาบียังดื้อดันที่จะตามอุลามะในสายเดียวกันอย่างไม่พิจารณาเนื้อหาและผ่านความเข้าใจของผู้รู้
ท่านนบีกล่าวในหะดิสซอเหียะว่า แท้จริงบรรดาอุลามะนั้น คตือทายาทของฉัน และก็มีทั้งคำยืนยันในกีตาบของอัลลอฮ์ที่พระองค์ทรงยกย่องอุลามะทั้งในความหมายกว้างและชัดเจน
และในเรื่องการยืนยันรูปร่างหรือสถานที่ให้กับพระองค์นั้นก็ที่ซอเหียะ
มีหะดิษมากมาย ที่อยู่ในความหมายของการที่อัลเลาะฮ์ทรงบริสุทธิ์จากทิศและสถานที่ ซึ่งบรรดานักปราชน์ของอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ ได้ทำการอ้างหลักฐาน เพื่อยืนยันอากิดะฮ์ของอุมมะฮ์อิสลามดังนี้
1. ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
كان الله ولم يكن شيء غيره(กานัลลอ วาลัมยากุล ชัยอุน ฮัยเราะ)
" พระองค์ทรงมีมาแล้ว โดยที่ไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากพระองค์(เพียงองค์เดียว) " รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ ไว้ในซอเฮี๊ญะหฺของท่าน
หมายถึง อัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ทรงยังคงมีมาตั้งแต่เดิมแล้ว โดยที่ไม่มีสิ่งใดอยู่พร้อมกับพระองค์ ไม่มีน้ำ ไม่มีอากาศ ไม่มีผืนดิน ไม่มีท้องฟ้า ไม่มีกุรซีย์ ไม่มีอะรัช ไม่มีมนุษย์ ไม่มีญิน ไม่มีมะลาอิกะฮ์ ไม่มีเวลา และไม่มีสถานที่ ดังนั้น พระองค์ทรงยังคงมีมาแต่เดิมโดยไม่มีสถานที่ และมีมาก่อนที่จะมีสถานที่ แต่อัลเลาะฮ์ทรงสร้างสถานที่ ดังนั้น พระองค์จึงไม่ทรงต้องการมัน
และอัลเลาะฮ์ ก็ไม่ทรงมีคุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลง จากสถานะภาพหนึ่งไปสู่สถานะภาพหนึ่ง เนื่องการการเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาคุณลักษณะของมัคโลค ดังนั้น เราจะกล่าวเหมือนกับ พวก อัล-มุชับบิฮะฮ์ ไม่ได้ว่า "พระองค์ทรงมีมาแต่เดิม โดยที่ไม่มีสถานที่ หลังจากนั้น พระองค์ทรงสร้างสถานที่ แล้วพระองค์ก็ทรงอยู่ในสถานที่และทิศเบื้องบน (วัลอิยาซุบิลลาห์) " ดังนั้น เราขอกล่าวว่า "พระองค์ทรงทำให้เปลี่ยนแปลง แต่พระองค์ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง"
2. ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
أنت الظاهر فليس فوقك شيء ، وأنت الباطن فليس دونك شيء " ، وإذا لم يكن فوقه شيء ولا دونه شيء لم يكن في مكان
" โอ้พระเจ้าของข้าฯ พระองค์คือ องค์แรก ดังนั้น ไม่มีสิ่งที่ใดอยู่ก่อนพระองค์ และพระองค์คือองค์สุดท้าย ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดอยู่หลังจากพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นภายนอก ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นภายใน ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่อื่นจากพระองค์" รายงานโดย ท่านมุสลิม "
ท่าน หะฟิซฺ อัลบัยฮะกีย์ กล่าวว่า " ส่วนหนึ่งจากบรรดาสหายของเรา ได้อ้างหลักฐาน ในการปฏิเสธสถานที่จากอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) ด้วยคำกล่าวของท่านนบี(ซ.ล.) ที่ว่
أنت الظاهر فليس فوقك شيء ، وأنت الباطن فليس دونك شيء
"และพระองค์ทรงเป็นภายนอก ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นภายใน ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่อื่นจากพระองค์"
และเมื่อไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระองค์ และไม่มีสิ่งใดที่อื่นจากพระองค์ ก็แสดงว่าพระองค์ไม่มีสถานที่ " (ดู อัล-อัสมาอ์ วะ ซิฟาต หน้า 400)
ท่านอัล-บัยฮะกีย์กล่าวอีกว่า" สิ่งที่รายงานในส่วนท้ายของหะดิษนี้ ชี้ถึง การปฏิเสธสถานที่ จากอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) และแท้จริง บ่าวคนหนึ่งนั้น ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใหนก็ตาม เพราะฉะนั้น ทั้งในความใกล้หรือไกล จากอัลเลาะฮ์ ก็ย่อมเท่าเทียมกัน และแท้จริง พระองค์ ทรงเป็นภายนอก คือสามารถรู้จักพระองค์ได้ ด้วยบรรดาหลักฐานต่างๆ(เช่นโลกจักรวาล) และพระองค์ทรงเป็นภายใน จึงไม่สามารถรับรู้การมีของพระองค์ ด้วยกับการมีอยู่ในสถานที่ " (ดู อัล-อัสมาอ์ วะ ซิฟาต หน้า 400)
3. ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า
أقرب ما يكون العبدُ من ربّه وهو ساجد ، فأكثروا الدعاء
"บ่าวคนหนึ่ง จะใกล้ชิดไปยังอัลเลาะฮ์มากที่สุด โดยที่เขาทำการสุยูด ดังนั้น พวกท่านจงขอดุอาอ์ให้มากๆ" รายงานโดย อิมามมุสลิม
ท่าน อิมาม หาฟิซฺ อัสสะยูฏีย์ กล่าวว่า " ท่าน อัลบัดรฺ บิน อัสศอฮิบ ได้กล่าวไว้ใน หนังสือ อัตตัษฺกิเราะฮ์ของเขาว่า ในหะดิษนี้ ชี้ถึง การปฏิเสธทิศให้กับอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) " (ดู หนังสือ อธิบาย สุนัน อันนะซาอีย์ ของท่าน อัสสะยูฏีย์ เล่ม 1 หน้า 576