ผู้เขียน หัวข้อ: การนำมือมาแตะที่อก หรือ มาลูบหน้า หลังจากการจับมือกัน  (อ่าน 2747 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ hadee

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 26
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด

 salam

อัสสะลามูอะลัยกุม (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน)

     คือว่า  ได้มีผู้หนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า มีมุสลิมจำนวนมาก ที่เวลาเจอกัน หรือ หลังจากละหมาดแล้ว ได้จับมือกัน แล้วจึงนำมือมาแตะ

ที่หน้าอก สำหรับผู้ชาย และ นำมือมาจูบ หรือ ลูบหน้า สำหรับผู้หญิง  เขาจึงได้บอกว่า การกระทำดังกล่าว (การนำมือมาแตะ

ที่หน้าอก นำมือมาจูบ หรือ ลูบหน้า) นั้นเป็น บิดอะฮฺ เพราะที่ท่านนาบีกระทำนั้นแค่การจับมือเท่านั้น โดยเขาอยากรู้ที่มา หรือ หลัก

ฐานในเรื่องดังกล่าว (การนำมือมาแตะที่หน้าอก นำมือมาจูบ หรือ ลูบหน้า) ว่าเป็นมาอย่างไร ?

ดังนั้น เขาจึงได้ถามผม แต่ผมไม่กล้าตอบไป เพราะยังไม่ทราบหลักฐานที่แน่ชัด

ดังนั้นผมจึงขอวอนผู้รู้ทุกท่านที่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนะครับ

ญะซากุมุลลอฮุค็อยร็อน ( ขอให้อัลลอฮฺทรงตอบแทนความดีแก่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด )

วัสลาม...


ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم

اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛

เรื่องการจับมือแล้วนำมือมาลูบหน้าหรือลูกที่หน้าอกนั้น  ด้วยการค้นคว้าอันน้อยนิดกระผมยังไม่เจอตัวบทหรือคำกล่าวของอุลามาอฺ  แต่เข้าใจว่าเป็นเรื่องของอาดัตประเพณีที่มุสลิมกระทำกัน  เพื่อให้เกียรติต่อกัน  บางครั้งการจับมือสลามนั้นผู้น้อยจะทำการจับมือพร้อมกับจูบมือผู้อาวุโสผู้มีคุณธรรม  หรืออาจจะเข้าใจไปได้ว่า เมื่อมุสลิมสองคนพบกันแล้วทำการจับมือ  อัลเลาะฮ์ก็จะอภัยโทษให้  และการจับมือสุนัตให้มีการอิสติฆฟารให้แก่กัน , หรืออัลฮัมดุลิลลาฮ์ , หรือกล่าวซ่อลาวาตนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม , ความสิริมงคล(บะรอกัต)ดังกล่าวด้วยเหตุการจับมือนั้น ก็เอามาลูบหน้าหรือหน้าอก ซึ่งเช่นเดียวกับการยกมือขอดุอา

ท่าน อับดุรร๊อซซฺาก ได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ อัลมุซันนัฟ ในบทที่ว่าด้วยเรื่อง การที่ชายคนหนึ่งได้ลูบหน้าของเขาเมื่อขอดุอา" ความว่า

عَبْدُ الرَّزَّاقِ عَنِ ابْنِ جُرَيْحٍ عَنْ يَحْيَي بْنِ سَعِيْدٍ أَنَّ ابْنَ عُمَرَ يَبْسُطُ يَدَيْهِ مَعَ القّاصِّ ، وَذَكَرُوْا أَنَّ مَنْ مَضَى كَانُوْا يَدْعُوْنَ ثُمَّ يَرُدُّوْنَ أَيْدِيْهِمْ عَلَى وُجُوْهِهِمْ لِيَرُدُّوْا الدُّعَاءَ وَالْبَرَكَةَ

" อัรร๊อซซฺาก ได้รายงาน จาก อิบนุ ญุรีจญฺ จาก ยะหฺยา บิน สะอีด ว่า แท้จริง ท่านอิบนุอุมัร ได้ทำการแผ่มือทั้งสองของท่านขึ้น พร้อมกับนักสุนทรพจน์ และพวกเขากล่าวว่า แท้จริง มันนานมาแล้วที่ พวกเขา(ซอฮาบะฮ์) ได้ทำการขอดุอาอ์ และพวกเขาเอามือไปลูบบนใบหน้าของพวกเขา เพื่อให้การวอนขอและความสิริมงคลกลับมา(สู่ใบหน้า)" หนังสือ อัลมุซันนัฟ ของท่าน อับดุรร๊อซซฺาก 2/164 ตีพิมพ์ที่ ดารุลกุตุบ อัลอิลมียะฮ์

อย่างไรก็ตามที่ชัดเจนก็คือ การจับมือแล้วลูบหน้าหรือลูบอกนั้น  เป็นเรื่องอาดัตมุบาห์ให้กระทำได้โดยไม่มีข้อห้ามแต่ประการใด  และหากเชื่อว่าเป็นเรื่องอิบาดะฮ์  ก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันครับ

ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า

‏‏مَا مِنْ مُسْلِمَيْنِ يَلْتَقِيَانِ فَيَتَصَافَحَانِ إِلَّا غُفِرَ لَهُمَا قَبْلَ أَنْ يَفْتَرِقَا

"ไม่มีจากมุสลิมสองคนที่ได้พบปะกัน  แล้วทั้งสองก็ทำการจับมือซึ่งกันและกัน  นอกจากทั้งสองจะถูกอภัยโทษให้  ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไป"  รายงานโดยติรมีซีย์ (2651) ฮะดิษหะซัน

ในสายรายงานหนึ่งของท่านอบูดาวูด  ระบุว่า

 إِذَا اِلْتَقَى الْمُسْلِمَانِ فَتَصَافَحَا وَحَمِدَا اللَّهَ وَاسْتَغْفَرَاهُ غُفِرَ لَهُمَا

"เมื่อมุสลิมสองคนได้พบปะกัน  แล้วทั้งสองได้จับมือ  กล่าวอัลฮัมดุลิลลาฮ์  และอิสติฆฟารต่ออัลเลาะฮ์  ทั้งสองก็จะถูกอภัยโทษให้"

ดังนั้น  เมื่อเมื่อมุสลิมได้พบปะกันและจับมือสลาม  ก็ให้กล่าวว่า

اَلْحَمْدُ لِلّهِ

"อัลฮัมดุลิลลาฮ์"

"มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์"

หรือทำการกล่าวอิสติฆฟาร  ว่า

يَغْفِرُ اللَّهُ لَنَا وَلَكُمْ

"ยัฆฟิรุลลอฮุ ละนา วะ ละกุ้ม"

ท่านอิบนุ อัซซุนนีย์  ได้รายงานจากท่านอะนัส ว่า

مَا أَخَذَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بِيَدِ رَجُلٍ فَفَارَقَهُ حَتَّى قَالَ اللَّهُمَّ آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي الْآخِرَةِ حَسَنَةً وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ

"ท่านร่อซูลุลลอฮ์  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ไม่ได้ทำการจับมือชาย คนหนึ่ง  แล้วทำการแยกย้ายกันไป  จนกว่านั้นจะกล่าวว่า  อัลลอฮุมม่า อาตินา ฟิดดุนยา หะซะนะฮ์ วะฟิลอาคิร่อติ หะซะนะฮ์ วะกินา อะซฺาบันนาร"

รายงานจากท่านอะนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  เช่นกันว่า  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า

مَا مِنْ عَبْدَيْنِ مُتَحَابَّيْنِ فِي اللَّهِ يَسْتَقْبِلُ أَحَدُهُمَا صَاحِبَهُ فَيُصَافِحُهُ فَيُصَلِّيَانِ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِلَّا لَمْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى تُغْفَرَ ذُنُوبُهُمَا مِمَّا تَقَدَّمَ مِنْهَا وَمَا تَأَخَّرَ

"ไม่มีจากบ่าวสองคนที่มีความรักใคร่ต่อกันในอัลเลาะฮ์  โดยคนหนึ่งจากทั้งสองได้ทำการต้อนรับมิตรสหายของเขา  แล้วทำการจับมือ  จากนั้นทั้งสองก็ทำการซอลาวาตต่อท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  นอกจากเสียว่าทั้งสองจะไม่แยกย้ายกันไป  จนกว่าบาปของทั้งสองถูกอภัยโทษให้จากสิ่งที่ล่วงผ่านมาแล้วและสิ่งที่จะมี ต่อไปภายหลัง"

ท่านอัลมุนซิรีย์  ได้รายงานไว้ในหนังสือ  อัตตัรฆีบ วัตตัรฮีบ  จากท่าน หุซัยฟะฮ์ บิน อัลยะมาน  จากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ความว่า

إِنَّ الْمُؤْمِنَ إِذَا لَقِيَ الْمُؤْمِنَ فَسَلَّمَ عَلَيْهِ وَأَخَذَ بِيَدِهِ فَصَافَحَهُ تَنَاثَرَتْ خَطَايَاهُمَا كَمَا يَتَنَاثَرُ وَرَقُ الشَّجَرِ

" แท้จริงผู้ศรัทธานั้น  เมื่อเขาได้พบปะกับผู้ศรัทธาด้วยกัน  แล้วทำการให้สลามแก่เขาและจับสัมผัสมือให้สลาม  บรรดาบาปของทั้งสองจะร่วงหล่น  ประดุจดังใบไม้ร่วง"  รายงานโดยอัฏฏ๊อบรอนีย์  บรรดานักรายงานไม่ได้ถูกตำหนิ

รายงานจากท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์  จากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ความว่า

إِنَّ الْمُسْلِمَ إِذَا لَقِيَ أَخَاهُ فَأَخَذَ بِيَدِهِ تَحَاتَّتْ عَنْهُمَا ذُنُوبُهُمَا كَمَا يَتَحَاتَّ الْوَرَقُ عَنْ الشَّجَرَةِ الْيَابِسَةِ فِي رِيحِ يَوْمٍ عَاصِفٍ وَإِلَّا غُفِرَ لَهُمَا وَلَوْ كَانَتْ ذُنُوبُهُمَا مِثْلَ زَبَدِ الْبَحْرِ

"แท้จริงมุสลิมคนหนึ่งที่พบปะพี่น้องของเขา  แล้วทำการจับมือ  บรรดาบาปของทั้งสองก็ร่วงหล่น  ประดุจดังใบไม้ร่วงจากต้นไม้แห้งในวันที่มีลมพายุพัด  และนอกจากว่าทั้งสองจะได้รับการอภัยโทษ  หากแม้นว่าบาปของทั้งสองประหนึ่งฟองน้ำในทะเล" รายงานโดย อัฏฏ๊อบรอนีย์  ด้วยสายรายงานที่หะซัน

ส่วนหลักการจับมือนั้น  ซุนนะฮ์ให้จับมือเดียว  หมายถึง  มือข้างขวาของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะในขณะที่พบปะกันหรือให้สัตยาบัน  ดังกล่าว  เป็นทัศนะของอุลามาอ์มัซฮับหะนะฟีย์  มัซฮับชาฟิอีย์ และมัซฮับฮัมบาลีย์

ท่านอิมามอันนะวาวีย์  กล่าวว่า  "การจับมือด้วยมือขวาเป็นสิ่งชอบให้กระทำ(มุสตะฮับ)และการจับด้วยมือขวาย่อมเป็นสิ่งที่ดีเลิศกว่า" ตั๊วะห์ฟะตุลอะห์วาซีย์อธิบายสุนันอัตติรมีซีย์ อธิบายฮะดีษบทที่ (2651)

وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

 

GoogleTagged