ผู้เขียน หัวข้อ: ขอชี้แจงกับความเข้าใจผิดพลาดของอาจารย์ที่เกียวกับยะมะอะฮฺตับลีฆ  (อ่าน 3134 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด



ในลิ้งนี้ได้กล่าวว่า



http://www.mureed.com/article/Tableak/TL1/Tableak-html.htm





อนึ่ง โปรดอย่าลืมว่า มิใช่เมาลานาอิลยาสจะมีหลักยึดตามแนวทางศูฟีย์เท่านั้น บุคคลในครอบครัวของเขา อาทิเช่น บิดา หรือยายของเขาก็มีแนวความเชื่อ และหลักยึดตามแนวทางศูฟีย์ด้วยเช่นกัน  ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด กล่าวคือยายของเมาลานาอิลยาสที่ชื่อว่า อัมตัสสลาม ซึ่งถูกเรียกชื่อกันในครอบครัวว่า อัมมีบี ครั้งหนึ่งนางกล่าวแก่เมาลานาอินยาสว่า “อิลยาสฉันได้กลิ่นหอมของซอฮาบะฮฺที่เรือนกายของเจ้า บางครั้งก็วางมือลงบนหลังของท่านและพูดว่า อะไรกันนี่ ฉันเห็นเหมือนกับร่างซอฮาบะฮฺเคลื่อนไหวพร้อมกับเจ้า”  ซึ่งประโยคข้างต้นขัดแย้งกับแนวทางของกลุ่มสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมุสลิมในยุคหลังๆ เปรียบเทียบตนเอง หรือบุคคลอื่นเทียบเท่าบรรดาเศาะหาบะฮฺ อีกทั้งรู้ได้อย่างไรว่ากลิ่นกายของบรรดาเศาะหาบะฮฺมีกลิ่นกายอย่างไร?  จึงชี้ให้เห็นถึงความเลอะเทอะของแนวทางศูฟีย์ที่เกิดขึ้นจากบุคคลในครอบครัวของเขาเอง

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
อาจารย์หาว่า

ครอบครัวของเมาลานาอิลยาสเลอะเทอะ


เดี๋ยวพี่น้องก็คงจะรู้ครับ

ว่าใครเลอะเทอะ
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด



หรือแม้กระทั่ง นักวิชาการในยุคของเมาลานาอิลยาสก็เต็มไปด้วยแนวความเชื่อและหลักยึดแห่งลัทธิศูฟีย์แทบทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ภายหลังที่เมาลานาอิสมาอีล (ซึ่งเป็นบิดาของเมาลาอิลยาส) สิ้นชีวิต พวกผู้รู้ทางด้านจิตวิญญาณก็แสดงทัศนะว่า “เมาลานาอิสมาอีลกำลังพูดว่า ส่งฉันไปเร็วๆ ฉันอายเหลือเกินแล้ว ท่านร่อซู้ล (ซ.ล.) กำลังรอฉันอยู่”  อันที่จริงข้างต้นเป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อินชาอัลลอฮฺจะทยอยยกตัวอย่างในลำดับต่อๆ ไป




ในลิ้งนี้เดิมนะครับ

ที่อาจารย์เขาได้กล่าวไว้
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด


ในลิ้งนี้ได้กล่าวว่า



http://www.mureed.com/article/Tableak/TL1/Tableak-html.htm





อนึ่ง โปรดอย่าลืมว่า มิใช่เมาลานาอิลยาสจะมีหลักยึดตามแนวทางศูฟีย์เท่านั้น บุคคลในครอบครัวของเขา อาทิเช่น บิดา หรือยายของเขาก็มีแนวความเชื่อ และหลักยึดตามแนวทางศูฟีย์ด้วยเช่นกัน  ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด กล่าวคือยายของเมาลานาอิลยาสที่ชื่อว่า อัมตัสสลาม ซึ่งถูกเรียกชื่อกันในครอบครัวว่า อัมมีบี ครั้งหนึ่งนางกล่าวแก่เมาลานาอินยาสว่า “อิลยาสฉันได้กลิ่นหอมของซอฮาบะฮฺที่เรือนกายของเจ้า บางครั้งก็วางมือลงบนหลังของท่านและพูดว่า อะไรกันนี่ ฉันเห็นเหมือนกับร่างซอฮาบะฮฺเคลื่อนไหวพร้อมกับเจ้า”  ซึ่งประโยคข้างต้นขัดแย้งกับแนวทางของกลุ่มสุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมุสลิมในยุคหลังๆ เปรียบเทียบตนเอง หรือบุคคลอื่นเทียบเท่าบรรดาเศาะหาบะฮฺ อีกทั้งรู้ได้อย่างไรว่ากลิ่นกายของบรรดาเศาะหาบะฮฺมีกลิ่นกายอย่างไร?  จึงชี้ให้เห็นถึงความเลอะเทอะของแนวทางศูฟีย์ที่เกิดขึ้นจากบุคคลในครอบครัวของเขาเอง



               แล้ว อ.มุรีดเคยถามคุณยายของท่านเมาลานาอิลยาสปะหละ ว่ากลิ่นที่ว่านั้น คุณยายท่านหมายถึงกลิ่นที่ดมกันจริงๆ หรือเป็นการเปรียบเปรยเฉยๆ ในเรื่องๆ หนึ่ง อาจจะเป็นเรื่องความรู้ความสามารถในบางเรื่องที่ดูเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นในเรื่องกลิ่นจริงๆ แต่คุณยายทราบกลิ่นนั้นได้ ก็อาจจะเป็นเพราะในหนังสือนั้นบรรยาย หรือบอกลักษณะของกลิ่นของศ็หาบะฮ์ท่านนั้นว่าเป็นกลิ่นอะไร ดังนั้น เมื่อคุณยายได้กลิ่นที่เรือนร่างของเมาลานาอิลยาส แล้วมันตรงกับกลิ่นที่คุณยายรับรู้มาเกี่ยวกับลักษณะกลิ่นของศ็หาบะฮ์ท่านนั้น จึงเกิดอุทานเป็นประโยคอย่างเช่นข้างต้นก็เป็นได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเป็นการพูดที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจกันอยู่แล้ว แต่ก็ธรรมดาครับ คนเรามันจ้องจะจับผิด มันก็เป็นเรื่องฟังไม่ขึ้นสำหรับเขาอยู่วันยันค่ำครับ - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ wahaba

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 219
  • สร้างรูปร่างให้พระเจ้าคือความเชื่อของวะฮาบีและยิว
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam  ไปลองอ่านดูครับ ทั้ง 6 ตอน  เนื้อนิดหน่อย  ที่เหลือนัฟซูล้วนๆครับ  คนอย่างนี้ไม่น่าจะเรียกอาจารย์ cool2:  เสียดายที่เคยซื้อหลังเที่ยงคืนมาอ่าน  เพราะยังไม่รู้ว่าเขาเป็น wahaba สุดโต่ง cool2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 20, 2009, 06:58 PM โดย wahaba »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
เคยได้ยินมานานแล้ว ในเรื่องนี้

แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปอ่านซักที

(เข้าไปแล้วตกใจทุกที กับป๊อบอัพโฆษณา :laugh:)

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด



ที่ผมต้องการนำเสนอคือเรื่องของกะรอมาต

เพราะผมมองว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องของกะรอมาต

แต่การที่อาจารย์บอกว่าเลอะเทอะ

เหมือนอาจารย์ไม่เชื่อเรื่องกะรอมาตเลยครับ

อินชาอัลลอฮฺ ผมจะลงเรื่องกะรอมาต

แล้วเรามาดูว่า

เหตุการที่เกิดขึ้นนั้น ไปอยู่ในเรื่องกะรอมาตหรือไม่


นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
เว็บนี้ก็พูดเรื่องการอมัตไม่ค่อยได้ ถูกลบประจำ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัลหัมดุลิลลาฮฺครับ ผมได้ข่าวมาค่อนข้างถี่อยู่เป็นประจำว่า เริ่มที่เด็กไม่ค่อยชอบ อ.มุรีด เพราะด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นฟัตวาแปลกๆ ความคิดที่รุงแรง ไม่มีการประนีประนอม ทั้งๆ ที่สามารถทำได้ โวยวาย ไม่มีเหตุผล ฟังบรรยายทีไรมีแต่น้ำ เนื้อนิดเดียว พูดเรื่องเดิมๆ ในลักษณะกระแทรกแดกดันผู้อื่น ไม่ค่อยยอมรับตัวเองว่าผิดเมื่อตนผิดและมีการทักท้วงจากคนอื่น และอื่นๆ ครับ หลังๆ มานี้ รู้จักว่าจะได้ยินบ่อยและถี่ทีเดียวครับ ผมอ้างจากเขาอีกทีอะครับ รวมทั้งทีประสบเองด้วย - วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด


ประเด็นที่อัลฟะตอนีก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่บอกว่าเป็นไปได้ที่ยายของท่านจะพูดแบบเปรียบเปรย


อีกประเด็นหนึ่ง หากเรามองในเรื่องกะรอมาต ก็เป็นไปได้ครับ






ใน ตุฮฺฟะตุลมุรีดได้กล่าวว่า

วายิบจะต้องเชื่อกะรอมาตของบรรดาเอาลิยา(ผู้ที่พระองค์ทรงรัก)

คือจะต้องเชื่อว่า กะรอมาตนั้น อนุญาติที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาในขณะที่พวกเขามีชีวิตหรือ หลังจากความตาย

ดังที่ยุมฮูรอุลามาอฺ อุลามาส่วนใหญ่มีความเห็นเช่นนี้ และไม่มีอุลามาอฺในสี่มัสฮับที่บอกว่ากะรอมาตจะไม่เกิดขึ้นหลังความตาย

แต่การที่กะรอมาตจะเกิดขึ้นหลังความตายนั้น จะมียิ่งกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากชีวิตหลังความตายนั้น สะอาด จากสิ่งสกปรก

ด้วยเหตุนี้ มีผู้ที่กล่าวว่า (เป็นทัศนะที่ไม่แข็งแรง) ใครก็ตามที่กะรอมาตหลังความตายไม่เกิดขึ้น เหมือนที่เกิดในตอนมีชีวิตอยู่นั้น แสดงว่า กะรอมาตตอนมีชีวิตอยู่นั้นไม่จริง

(มีต่อใจร่มๆ )

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด

หลังฐานที่หนึ่งคือ ท่านหญิงมัรยัม  นางนั้น ไม่ได้เป็นนบี

เพราะนบีจะเกิดกับเฉพาะผู้ชายเท่านั้น  แต่แล้วนางกับได้รับผลไม้ฤดูร้อนในฤดูหนาว

และผลไม่ฤดูหนาวในฤดูร้อน ซึ่งในตอนนั้น ไม่มีใครที่เข้าไปหานางมัรยัม เว้นแต่ท่านนบีซะกะรียาเท่านั้น

และนบีซะกะรียาก็แปลกใจว่า

ผมไม้เหล่านี้มาจากไหนกัน  ซึ่งท่านก็ได้ถามนาง  นางก็บอกว่า มาจากอัลลอฮฺ



นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด


فَتَقَبَّلَهَا رَبُّهَا بِقَبُولٍ حَسَنٍ وَأَنبَتَهَا نَبَاتاً حَسَناً وَكَفَّلَهَا زَكَرِيَّا كُلَّمَا دَخَلَ عَلَيْهَا زَكَرِيَّا الْمِحْرَابَ وَجَدَ عِندَهَا رِزْقاً قَالَ يَا مَرْيَمُ أَنَّى لَكِ هَـذَا قَالَتْ هُوَ مِنْ عِندِ اللّهِ إنَّ اللّهَ يَرْزُقُ مَن يَشَاءُ بِغَيْرِ حِسَابٍ {37}





จากโองการนี้ พี่น้องไปเปิดตัฟซีรภาษาไทยกันเองละกันนะครับ ในซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะที่สามสิบเจ็ด

เกี่ยวกับเรื่องของท่านหญิงมัรยัมที่ได้รับผลไมพิเศษจากอัลลอฮฺ

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด


ในตัฟซีรอิบนุกะษีรกล่าวว่า

 ‏{‏كلما دخل عليها زكريا المحراب وجد عندها رزقاً‏}‏، قال مجاهد وعكرمة والسدي‏:‏ يعني وجد عندها فاكهة الصيف في الشتاء، وفاكهة الشتاء في الصيف، وعن مجاهد‏:‏ ‏{‏وجد عندها رزقاً‏}‏ أي علماً والأول أصح وفيه دلالة على كرامات الأولياء، وفي السنة لهذا نظائر كثيرة، فإذا رأى زكريا هذا عندها ‏{‏قال يا مريم أى لك هذا‏}‏ أي يقول من أين لك هذا‏؟‏ ‏{‏قالت هو من عند اللّه إن اللّه يرزق من يشاء بغير حساب‏}‏‏.‏


ในอายะกุรอ่านกล่าวว่า ทุกๆครั้งที่ซะกะรียาเขาไปหานางที่มิฮฺรอบ ก็พบว่านางได้รับริกี   

จากท่านมุยาฮิด และอักริมะฮฺและซะดีย์  กล่าวว่าหมายถึงท่านนบีซะกะรียาเจอผลไม้ณ ที่นาง เป็นผลไม้ฤดูร้อน ในฤดูหนาว

และผลไม้ฤดูหนาวในฤดูร้อน

จากท่านมุยาฮิด ให้ความหมายอะยะที่ว่า ‏ ‏{‏وجد عندها رزقاً‏}‏ أي علماً
และในส่วนแรกนั้น ทัศนะที่ถูกกว่าและบ่งบอกถึงหลักฐานของกะรอมาต เอาลิยาอฺ (กะรอมาตของผู้พระองค์ทรงรัก)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 21, 2009, 02:41 PM โดย bashir »
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด




และยังมีเรื่องของชาวถ้ำทั้งเจ็ดอีก

ที่บ่งบอกถึงกะรอมาต

ซึ่งพี่น้องก็คงทราบประวัติกันดีอยู่แล้ว

พวกเขาทั้งเจ็ดเป็นผู้มีเกียตรจากพวกโรม

ซึ่งพวกเขานั้นเป็นรุ่นหลังนบีอีซา ที่กลัวว่าจะอีหม่านเสียจากกษัตร

พวกเขาเลยออกจากเมือง แล้วไปอยู่ในถ่ำ แล้วพำนักโดยไม่มีอาหารและน้ำ เป็นเวลาสามร้อยเก้าปีในสภาพที่นอนหลับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิ.ย. 21, 2009, 02:50 PM โดย bashir »
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด


เรื่องที่สาม

เป็นเรื่องของ อาซิฟ

เป็นวะซีร ของท่านนบีซุลัยมาน

ซึ่งสามารถนำบัลลังของบิลกีส เพียงชั่วกระพิบตาเดียวให้กับท่านนบีสุลัยมาน

ด้วยกับการดุอาบิลอิสมิลอะอฺซอม(ดุอาต่ออัลลอฮฺ

นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

 

GoogleTagged