(เขียนจนไปถึงเรื่องซูฟี)
ผู้นิยมซูฟีในยุคแรกๆ มักสวมเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากหนังสัตว์ (จึงถูกเรียกว่าพวกซูฟี หรือพวกที่นิยมนุ่งห่มหนังสัตว์) ตามแบบอย่างที่พระคริสเตียนในซีเรียนิยมสวมใส่ รวมทั้งรับแนวความคิดเรื่องระบบวัดของศาสนาคริสต์ และได้รับแนวความคิดเรื่องนิพพานของศาสนาพุทธ (หลังจากอิสลามได้ขยายเข้าไปในอินเดีย) จึงได้มีการบำเพ็ญตบะทำตัวเป็นนักพรต นักบวชเลียนแบบพระของศาสนาคริสต์ในซีเรีย และเลียนแบบพระของศาสนาพุทธ และพราหมณ์ของศาสนาฮินดูในอินเดีย มาประยุกต์ใช้ในหมู่สาวกของลัทธิ
คนเขียนเนี่ย รู้เรื่องอะกีดะฮ์ของตนเองถี่ถ้วนแล้วหรือยัง แล้วมาทำรู้ดีกับแนวทางของซูฟีย์ อ่านหนังสืออาหรับยังไม่ค่อยถูกไวยากรณ์อาหรับเลย
ผมว่าพี่เขาเขียนๆ ไปงั้น ๆ แหละครับ เขียนเพื่อให้คนที่เชื่อเขา ได้หลงไปมีความเชื่อของพี่ผู้เขียน แนวคิดเรื่องนิพพาน ก็รู้แล้วว่า เขาไม่เข้าใจซูฟีย์
แต่ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ ซูฟีย์สายฏ่อรีเกาะฮ์อัลกอดีรีย์ และท่านอิบนุกะษีรซูฟีย์เฏาะรีเกาะฮ์สายอัชชาซุลลีย์ แสดงว่าอุลามาอฺเหล่านี้เลียนแบบพวกพุทธพวกพราหมณ์และเป็นนักพรตกันหมดล่ะครับเนี่ย
สรุปง่าย ๆ คือ พี่มุรีด เขาไม่เข้าใจตะเซาวุฟไม่เข้าใจซูฟีย์ของอิสลามนั่นเอง