ปีนี้ก็เป็นปีที่ 7 แล้วที่ผม ต้องมารอมฎอน ตาราเวียะฮ์ มัสยิดนอกบ้าน
ทุกปีผมจะได้กลับไปรอมฎอนที่บ้าน ก่อนออกบวชประมาณ 3-4 วัน
ปีนี้ก็เช่นเคย
การที่ผมได้มารอมฎอนที่นี่นั้น ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเหงาแต่อย่างใด
ชาวบ้าน พี่น้องที่นี้ ทุกคนสนิทสนมและดีกับผมเหลือเกิน จนบางคนคิดว่าผมเป็นสัปบุรุษที่นี่เสียแล้ว
มัสยิดที่ผมอยู่ประจำคือ มัสยิดตออะติ้ลลาฮ์ พัทยาใต้
มัสยิดนี้เป็นมัสยิดเดียวที่เข้าอยู่ส่วนตัวเมืองมากที่สุด มีชาวบ้านสัปบุรุษไม่กี่หลังคาเรือน
แต่อัลฮัมดูลิลลาฮ์มากๆ ที่มัสยิดนี้แทบไม่ต้องจัดงาน หาเงินมาทำนุบำรุงมัสยิดเลย เพราะเงินบริจาคในแต่ละญุมอัตเยอะมาก
เนื่องจากว่ามีชาวต่างชาติ ทั้งปากี บังคลา อินเดีย อาหรับ ฯลฯ มาทำธุรกิจที่เมืองนี้เยอะ ส่วนมากเป็นร้านอาหาร เสื้อผ้า รุซกีดี จึงทำบุญกันแก่ง
อีกทั้งพี่น้องสัปบุรุษก็เป็นคนฐานะดีด้วย จึงไม่มีการขอบริจาคเงิน มาทำนุบำรุงมัสยิด
บรรยากาศรอมฎอนที่นี้ จึงเป็นรอมฎอนแบบนานาชาติ กว่า 70% ล้วนเป็นคนต่างชาติ ยุโรป แอฟริกา ก็มี
ทุกวันจะมีการเลี้ยง ละศิลอด บรรยากาศ ครึกครื่นมาก
จะละด้วย อินทผาลัม และของหวานก่อน หลังจากมัฆริบ ถึงจะเลี้ยงของหนัก
แกง และ ข้าวส่วนมาก็เป็น ข้าวหมก แกงมัสซาร่า มัสซาร่าของแต่ละประเทศจะต่างกันนิดหน่อย
ผมไม่รู้ว่า เรียกมัสซาร่าหมดรึเปล่า แต่ดูแล้วมันคล้ายๆกันน่ะ
ผมชอบแกงของพม่ามากสุดแระ สงสัยเพราะหน้าตาเหมือนโรฮินญา เฮฮๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็จะทำตาราเวียะฮ์ ที่นี่จะทำกัน 20 รอกกะอัต วิเตรอีก 3 โดยอิหม่ามฮาฟิซเสียงไพเราะ
ที่นี่แปลกอย่างนึงก็คือ จะทำตาราเวียะฮ์ 2 ช่วง ไม่ใช่ว่า แบ่งคณะเก่า ใหม่นะครับ
แต่พี่น้องต่างขาติ ที่เปิดร้านตัดชุดเสื้อผ้า เค้าจะปิด ประมาณ 4 ทุ่ม หลังเลิกงาน เขาจึงมาร่วมละหมาด ตาราเวียะฮ์ที่มัสยิด
ปีที่แล้ว บางคืน ละหมาดของพี่น้องรอบ 2 ยังมากกว่ารอบแรกซะอีก

หากพี่น้องท่านใด ที่แวะผ่านมา หรือตั้งใจจะมาที่พัทยา ก็ลองมาละศิลอดและตาราเวียะฮ์ ที่มัสยิดนี่กันนะครับ