ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2  (อ่าน 4972 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ส.ค. 31, 2009, 10:23 PM »
0
หะดีษที่ท่านนบีละหมาด 8 ร๊อกอะฮ์

ما كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يزيد في رمضان ولا غيره على إحدى عشرة ركعة يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي أربعا فلا تسأل عن حسنهن وطولهن ثم يصلي ثلاثا

ท่านหญิงอาอิชะฮ์รายงานว่า "ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

หะดีษนี้ศอเฮียฮ์นะครับ บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ อัตติรมิซีย์ อบูดาวูด อันนะซาอีย์ อิมามมาลิก ฯลฯ

ท่านอิมาม อัลลักนะวีย์ กล่าวอธิบายหะดีษไว้ในชัรหุลมุวัฏเฏาะในความหมายว่า "หมายถึง ในเวลาส่วนใหญ่ ซึ่งบางรายงานจากท่านหญิงนั้นกล่าวว่า 13" นักวิชาการส่วนใหญ่ตีความว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนมากของท่านรอซูล ไม่ใช่เป็นจำนวนตายตัว ซึ่งประเด็นนี้ท่านอิมาม อัลลักนาวีย์ ได้วิเคราะห์ไว้ในหนังสือของท่าน "ตัวห์ฟะตุลอัคยาร"

มีนักวิชาการบางท่านเห็นว่าหะดีษนี้เป็นมุฎเฏาะริบ(มีหลายสายรายงานค้านกันจนไม่สามารถให้น้ำหนักกับสายไหนได้เลย) เนื่องจากมีการรายงานในจำนวนร๊อกอะฮ์ที่ต่างกัน แต่ทรรศนะนี้ไม่ถูกต้องเนื่องจากริวายะฮ์ต่างๆเหล่านั้นรายงานมาโดยต่างกรรมต่างวาระจึงไม่เป็นมุฎเฏาะริบ หากกรรมเดียวกันวาระเดียวกัน จากนักรายงานคนเดียวกัน และไม่สามารถรวมกันได้จึงจะกลายเป็นมุฎเฏาะริบ


แต่ที่มัวอ์ตะมัดในมัซฮับอิมามอัชชาฟิอีย์ และอีก 2 มัซฮับ เว้นมาลิกีย์ นั้นถือว่าให้ละหมาดตะรอเวียห์ 20 ร๊อกอะฮ์ เพราะมีการกระทำในสมัยคอลีฟะฮ์อุมัร รอฏิยัลลอฮุอันฮุ ที่ให้ผู้คนละหมาดร่วมกันที่มัสญิดตามหลังท่านอุบัย อิบนุ กะอ์บ และท่านอลี ก็เคยสั่งใช้ให้ละหมาด 20 เช่นกัน(โดยไม่รวมวิตร์) ดังนั้นจึงมีรายงานมาว่าในสมัยท่านทั้งสองละหมาดตะรอเวียห์ 21/23 ร๊อกอะฮ์ เมื่อรวมกับวิตร์แล้ว ซึ่งรายงานต่างๆเหล่านี้อยู่ในมุวัฏฏออ์ อิมามมาลิก มุศอนนัฟ อิบนุอบีชัยบะฮ์ ฯลฯ

ส่วนมัซฮับมาลิกนั้นตะรอเวียห์ 36 ร๊อกอะฮ์ ไม่รวมวิตร์ เนื่องจากชาวมะดีนะฮ์ปฏิบัติเช่นนั้น ซึ่งเป็นมัซฮับของตาบิอีนหลายท่าน

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ส.ค. 31, 2009, 10:30 PM »
0
ฉนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งซอฮาบะและตาบีอีน ฯลฯจะไม่รู้เลยหรือว่า.ท่านนบีละหมาดเพียง11รอกาอัตตามที่อ.ปราโมทและบรรดาพลพรรคตักลีดตามแบบนั้น

เป็นไปได้อย่างไร ที่จวบจนปัจจุบันนี้ทั้งเมืองมักกะ และมาดนะและรอบเมืองต่างๆนั้นก็มีการปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานจนถึงณ.วันนี้.

เป็นไปได้อย่างไรที่อ.ปราโมทผู้ที่พลพรรคเชื่อมั่นและตักลีดตาม ..หายกล้าจะหมกเม็ดโดย..พยายามทำให้ฮาดิสที่มีสายรายงานที่บรรดาซอฮาบะเขาต่างมีมติว่าละหมาดตารอวิ20รอกาอัตเป็นฮาดิสดออีฟให้จงได้..ถ้าไม่มช่การตะอัศสุลอันสุดโต่ง.. yippy:

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ส.ค. 31, 2009, 10:34 PM »
0
 salam พี่น้องที่น่ารักทั้งหลายผมขอร้องจากใจจริงๆว่า ให้ช่วยตอยคำถามตรงเป้าด้วย  ถ้ามัวเถียงเรื่องจำนวนรอการอัต(UNIT)มีกระทู้เก่าแก่อยู่แล้ว เชิญนะครับ  ผมรอคำตอบเรื่องนี้จริงๆ

salam ผมคิดว่าหลายคนไม่เข้าใจคำถามไม่เคลียไม่เลิก ของผมหรือผมเขียนจนอ่านไม่เข้าใจกัน เอาอย่างนี้แล้วกัน
จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว พร้อมกับการอะิบายอย่างละเอียดจนเข้้าใจ  (ถ้าเยอะ แต่ไม่เข้าใจ ห้ามเด็ดขาด ขี้เกียจอ่าน)
1  นาย ก ต้องการละหมาดตะรอเวะ 8 รอกาอัตเป็นมะมูม  แต่อีหมำละหมาดตารอเวะ 20 รอกาอัต  เมื่อนาย ก  ละหมาดครบ 8 รอกาอัต เขาละหมาด วิตริ อีก สาม รอกาอัต เสร็จก็กลับบ้าน  เพราะยึดหลักฐานที่บอกว่า ละหมาดตารอเวะ 8  หรือ 20 ได้ทั้งนั้น

2 นาย ข  ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ไม่ต้องการละหมาด 20 ที่มุมหนึ่งของมัสยิด  ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20 จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน

3  นาย ค ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ที่บ้านซึ่งอยู่ติดมัสยิด ไม่ต้องการละหมาด 20    ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน

ช่วยตอบให้ตรงประเด็นหน่อยครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ส.ค. 31, 2009, 10:37 PM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

subson

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ส.ค. 31, 2009, 10:44 PM »
0
คำว่า “ตะรอวิหฺ” ซึ่งหมายถึงการละหมาดกิยามุลลัยลฺในเดือนรอมฎอน มาจากการพักระหว่างยืนละหมาด 4 ร็อกอัต ซึ่งเรียกว่า “ตัรวีฮะหฺ”

ท่านนบี   เคยละหมาดต่ำกว่า 11 ร็อกอัต มีรายงานของซอฮาบะฮฺและถ้อยคำที่ท่านนบี   แนะนำผู้อื่นให้ทำเช่นกัน หะดีษบันทึกโดยอิมามอบูดาวูดและอิมามอะหฺมัด ท่านหญิงอาอิชะฮฺ رضي الله عنها ถูกถามว่า “ท่านนบี   ละหมาดกลางคืนพร้อมด้วยวิตรฺกี่ร็อกอัต” ท่านหญิงตอบว่า “บางครั้งท่านนบี   ละหมาด 4 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) บางครั้งละหมาด 6 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) และบางครั้งละหมาด 10 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) ท่านนบี   ไม่เคยละหมาดน้อยกว่า 7 ร็อกอัตและไม่เคยละหมาดมากกว่า 13 ร็อกอัต”
   หะดีษบันทึกโดยอิมามเฏาะฮาวียฺ ท่านนบี   บอกว่า “วิตรฺเป็นสัจธรรม  ใครอยากละหมาดกิยามุลลัยลฺพร้อมวิตรฺ 5 ร็อกอัตก็ได้ หรือ 3 ร็อกอัตก็ได้ หรือ 1 ร็อกอัตก็ได้”
   อุละมาอฺสรุปว่า การละหมาดกิยามุลลัยลฺสูงสุด 13 หรือ 11 ร็อกอัต และต่ำสุด 1 ร็อกอัต 

การละหมาด 20 ร็อกอัตไม่ใช่บิดอะฮฺ เพราะมีรายงานชัดเจนว่าท่านอุมัรแต่งตั้งอิมามนำละหมาด 20 ร็อกอัต ไม่มีรายงานว่าท่านนบี   ทำ แต่ชัดเจนว่าซอฮาบะฮฺทำ และท่านนบี   อนุโลมตามหะดีษบันทึกโดยบุคอรียฺและมุสลิม ท่านนบี   กล่าวว่า “การละหมาดกลางคืนทีละสอง ๆ” ไม่ได้จำกัดจำนวน อัลกุรอานได้เปิดกว้างว่าการละหมาดกลางคืน ครึ่งคืนก็ได้ ตลอดคืนก็ได้ จึงมีโอกาสมากกว่า 11 ร็อกอัตได้ ซอฮาบะฮฺเข้าใจเจตนารมณ์ของท่านนบี   และปฏิบัติเช่นนั้น อุละมาอฺบอกว่าซอฮาบะฮฺเลือกปฏิบัติความประเสริฐของการละหมาดด้วยการเลือกระหว่างจำนวนกับความยาวของการละหมาด ถ้าจะละหมาดยาวก็ลดจำนวน แต่ถ้าละหมาดสั้นก็เพิ่มจำนวน ถ้าละหมาดที่มัสญิดไม่จบแล้วไปวิตรฺที่บ้านก็ไม่ได้ผลบุญที่ท่านนบี   บอกว่า “การละหมาดกับอิมามจนจบเหมือนละหมาดตลอดคืน”

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ส.ค. 31, 2009, 11:21 PM »
0
คุณ จขกท ผมไม่เข้าใจเลยครับว่า คุณถามอะไร งงเหลือเกิน

ข้อสอง กับ สาม มัน มึนๆ ยังไงๆ ชอบกล

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 04:26 AM »
0
 salam เลือกซิครับข้อใดถูกที่สุด เพราะเหตุใด
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 09:40 AM »
0
คุณสับสนกล่าวว่า คำว่า
อ้างถึง
คำว่า “ตะรอวิหฺ” ซึ่งหมายถึงการละหมาดกิยามุลลัยลฺในเดือนรอมฎอน มาจากการพักระหว่างยืนละหมาด 4 ร็อกอัต ซึ่งเรียกว่า “ตัรวีฮะหฺ”

โดยที่คุนสับสนก็อบคำอธิบายของอ.ปราโมท ที่แก้ต่างกล่มครูฟัรดูอีน [/color]
     ในหัวข้อที่ชื่อว่า   

 ชี้แจงข้อเขียนของกองทุนติญารียะห์ กลุ่มครูฟัรฺฎูอีน,
                              โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย     
                     


ตรงนี้ยิ่งทำให้ผมแปลกใจมากครับ  ผมไม่แน่ใจว่าคุณเข้าใจไปเองหรือไม่.....ระหว่างคำละหมาดกิยามุลลัยน์ในยามคำคืนนั้นมันไม่ได้หมายถึงละหมาดตารอวิ เท่านั้น  แต่กิยามุลลัยน์นั้นมันหมายถึงการละหมาดทั่วๆไปของท่านนบี เช่นละหมาด ตาฮายุด ละหมาด สนัติต่างๆละหมาด วิติรฯลฯ  ดังนั้นที่คุณเข้าใจว่า   กิยามมุลลัยน์นั้นคือตารอวิเท่านั้นนั้น ถือว่าไม่ถูกต้องคับ   

เพราะถ้าเป็นละหมาดตารอวิ แล้วทำไมในตัวบทฮาดิส ท่านอาอีชะถึงตอบว่าไม่ว่าทั้งในและนอกเดือนรอมาดอนท่านก็ละหมาด 11รอกาอัต..ถ้าหากคุณยึดตามหลักฐานนี้   
 จากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ความว่า

مَا كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلَا تَسَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ ثُمَّ يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلَا تَسَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ ثُمَّ يُصَلِّي ثَلَاثًا

"ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."
 นี่คือความเข้าใจผิดชของ คุณหรือข้อมูลที่คุณนำมาโต้แย้ง
...

อีกตัวอย่าง
อ้างถึง
ท่านนบี   เคยละหมาดต่ำกว่า 11 ร็อกอัต มีรายงานของซอฮาบะฮฺและถ้อยคำที่ท่านนบี   แนะนำผู้อื่นให้ทำเช่นกัน หะดีษบันทึกโดยอิมามอบูดาวูดและอิมามอะหฺมัด ท่านหญิงอาอิชะฮฺ رضي الله عنها ถูกถามว่า “ท่านนบี   ละหมาดกลางคืนพร้อมด้วยวิตรฺกี่ร็อกอัต” ท่านหญิงตอบว่า “บางครั้งท่านนบี   ละหมาด 4 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) บางครั้งละหมาด 6 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) และบางครั้งละหมาด 10 ร็อกอัต (ทีละสอง) และวิตรฺ 3 ร็อกอัต (2-1) ท่านนบี   ไม่เคยละหมาดน้อยกว่า 7 ร็อกอัตและไม่เคยละหมาดมากกว่า 13 ร็อกอัต”
ที่ผมมารค์เส้นนั้น ผมไม่ทราบว่าคุณสับสนเข้าใจผิดหรือปล่าว....คำที่ว่าท่านหญิงอาอีชะกล่าวว่า  ท่านนบี   ละหมาดกลางคืนพร้อมด้วยวิตรฺกี่ร็อกอัต

   หะดีษบันทึกโดยอิมามเฏาะฮาวียฺ ท่านนบี   บอกว่า “วิตรฺเป็นสัจธรรม  ใครอยากละหมาดกิยามุลลัยลฺพร้อมวิตรฺ 5 ร็อกอัตก็ได้ หรือ 3 ร็อกอัตก็ได้ หรือ 1 ร็อกอัตก็ได้”
   อุละมาอฺสรุปว่า การละหมาดกิยามุลลัยลฺสูงสุด 13 หรือ 11 ร็อกอัต และต่ำสุด 1 ร็อกอัต 


...ที่ถูกต้องแล้วคือ  ท่านนบี จะละหมาดยามค่ำคืน(กิยามุลลัยน์)นั้นคือละหมาดวิติรนั้นเอง  แต่ที่คุณสับสนนำมาอ้างนั้นเพื่อพยายามที่จะสื่อให้รู้ว่า ท่านนบีละหมาดตารอวิ11รอกาอัตแล้วละหมาดวิติรตาม.

.ซึ่งถ้าในกรณีนี้ มันก็จะค้านกับสิ่งที่ท่าน
หญิงอาชะ(รด)กล่าวว่า .....ท่านนบีนั้นละหมาด11 ทั้งในเดือนรอมาดอนและนอกเดือนรอมาดอน (หมายถึงท่านจะกระทำละหมาด11รอกาอัตนี้  ตลอดทั้งปี)

ฉนั้นเมื่ออุลามะด้านฟิกฮ์ได้วิเคราะออกมาแล้วว่า การละหมาด11 รอกาอัตนั้น มันไม่ใช่ละหมาดตารอวิเลย    แต่มันคือ ละหมาด สุนัติอื่นๆด้วยที่ท่านนบี(ซล)จะติดตามด้วยละหมาดวิติรก่อนนนอนหรือเป็นละหมาดตะฮายุด แล้วตามด้วยวิติรหรือเฉพาะละหมาดวิติรอย่างเดียวซึ่งก็เป็นไปได้...

ตามที่คุณสับสนอ้างมานั้นคงเข้าใจว่า ท่านนบีกำหนดจำนวนละหมาดวิติรเพียง 11รอกาอัต  ใช่ไหมครับ  แล้วท่านอุมัรมาสั่งใช้ใหม่คือเพิ่มขึ้นมา(กระทำบิดอะ)เอง..ใช่ป่าวคับ  หรือผมเข้าใจผิด..เอง   yippy:

หลักฐานที่น่าจะถูกต้องกว่า

ท่านบุคอรีได้รายงานไว้ในบทเรื่อง การละหมาดกิยามุลลัยล์(ตะฮัจยุด) ในเดือนรอมะดอนและอื่นจากรอมะดอน จากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ความว่า

مَا كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلَا تَسَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ ثُمَّ يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلَا تَسَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ ثُمَّ يُصَلِّي ثَلَاثًا

"ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร๊อกอะฮ์ ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 ซึ่งท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ...."

ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุ หะญัร นักปราชญ์ด้านฮาดิสได้ อธิบายว่า

 وفي الحديث دلالة على أن صلاته كانت متساوية في جميع السنة، وفيه كراهة النوم قبل الوتر

"ในหะดิษบ่งชี้ว่า  การละหมาดของท่านนบีนั้นเท่าเทียมกันตลอดทั้งปี(ไม่ว่ารอมาดอนหรือไม่ใช่รอมาดอน) และในหะดิษบ่งชี้ว่า มักโระฮ์ในการนอนก่อนละหมาดวิติร"   

กล่าวคือเมื่อละหมาดในยามค่ำคืนแล้วให้ทำการวิติรต่อจากนั้นเลย  ดังนั้น  หะดิษละหมาด 11 รอกาอัตนี้  คือละหมาดกิยามุลลัยล์ปกติทั่วไปที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ได้ทำเป็นประจำทั้งในเดือนรอมาดอนและอื่นจากรอมาดอน

  ฉะนั้น  หากว่ากิยามุลลัยล์คือละหมาดตะฮัจยุด  จึงเป็นไปได้หรือที่การละหมาดตะฮัจญุดในเดือนรอมาดอนเขาเรียกว่า ละหมาดตะรอวิห์ ??

ท่านบุคอรีได้กล่าวรายงานไว้ในบทที่ว่า "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดอย่างไร และเท่าไหร่ที่ท่านได้ละหมาดในยามค่ำคืน"  จากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา  ความว่า

سَبْعٌ وَتِسْعٌ وَإِحْدَى عَشْرَةَ سِوَى رَكْعَتِي الْفَجْرِ‏

" 7 รอกะอัต  และ 9 รอกะอัต  และ 11 รอกะอัต  นอกจากสองรอกะอัต(ก่อนละหมาด)ซุบฮิ"

ท่านอัลกอซิม บิน มุฮัมมัด (หลานท่านหญิงอาอิชะฮ์)  ได้ถามท่านหญิงอาอิชะฮ์  ท่านนางตอบว่า

كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يُصَلِّي مِنْ اللَّيْلِ ثَلَاثَ عَشْرَةَ رَكْعَةً، مِنْهَا الْوِتْرُ وَرَكْعَتَا الْفَجْرِ‏

"ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดยามค่ำคืน 13 รอกะอัต  ส่วนหนึ่งจากมันนั้นคือละหมาดวิติรและละหมาดสองรอะกัต(ก่อน)ละหมาดซุบฮิ)"


ท่านอัลฮาฟิซฺ  อิบนุหะญัร  ได้อธิบายว่า  ส่วนมากแล้วท่านนบี ละหมาด 11 รอกะอัต  แต่ที่เพิ่มมา 13 นั้น  เพราะว่านับละหมาดสุนัตอีชาอ์สองรอกะอัตเข้าไปด้วย  เพราะหะดิษมุสลิมได้รายงานจากสะอัด บิน ฮิชาม  จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ว่า "ท่านนบีได้เริ่มการละหมาดด้วยสองรอกะอัตแบบเร็ว ๆ (คือละหมาดสุนัตรอวาติบหลังอีชาอ์)"

ท่านอัลฮาฟิซฺ   อิบนุ  ฮะญัร  อธิบาย ต่อไปว่า

ويؤيده ما وقع عند أحمد وأبي داود، من رواية عبد الله بن أبي قيس، عن عائشة، بلفظ ‏"‏ كان يوتر بأربع وثلاث، وست وثلاث، وثمان وثلاث، وعشر وثلاث، ولم يكن يوتر بأكثر من ثلاث عشرة ولا أنقص من سبع ‏"‏ وهذا أصح ما وقفت عليه من ذلك، وبه يجمع بين ما اختلف عن عائشة من ذلك والله أعلم‏

"และมาสนับสนุนกับ(ความแตกต่างเรื่องรอกะอัตละหมาด)โดยหะดิษจากท่านอะห์มัดและอบูดาวูด  ได้รายงานจากอับดุลลอฮ์ บิน อบีกัยซ์  จากท่านหญิงอาอิชะฮ์  ด้วยถ้อยคำที่ว่า "ท่านนบีได้ทำละหมาดวิติร  4 รอกะอัตและอีก 3 (รวมเป็น 7)  ,  และแบบ 6 รอกะอัตและอีก 3 (รวมเป็น 9) , และแบบ 8 รอกะอัตและอีก 3 (รวมเป็น 11) , และแบบ 10 รอกะอัตและอีก 3 (รวมเป็น 13)  โดยไม่น้อยไปกว่า 7 รอกาอัต"    และนี้คือสิ่งที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่ฉันทราบมาจากสิ่งเรื่องดังกล่าว  และหะดิษดังกล่าวนั้น  สามารถรวมบรรดาหะดิษที่รายงานแตกต่างกันจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ในเรื่องละหมาดดังกล่าว 

วัลลอฮุอะลัม"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 01, 2009, 04:10 PM โดย อัล-อุม »

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 12:17 PM »
0
 salam ตกลงจะตอบคำถามกันหรือเปล่า  ถ้าไม่ตอบ ผมจะได้ถามที่เว็บอื่น ผมห้ามโดยเด็ดขาดที่จะมาโต้จำนวนตารอเวะในกระทู้นี้ครับ
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 12:36 PM »
0
แก้ไขเองก็ได้มั้งครับ... -*-

ขอดูคำตอบที่ให้เลือกนะ

1  นาย ก ต้องการละหมาดตะรอเวะ 8 รอกาอัตเป็นมะมูม  แต่อีหมำละหมาดตารอเวะ 20 รอกาอัต  เมื่อนาย ก  ละหมาดครบ 8 รอกาอัต เขาละหมาด วิตริ อีก สาม รอกาอัต เสร็จก็กลับบ้าน  เพราะยึดหลักฐานที่บอกว่า ละหมาดตารอเวะ 8  หรือ 20 ได้ทั้งนั้น
ละหมาดสามร๊อกอัตนั้น เป็นละหมาดวิเตร ตามอีหม่าม หรือละหมาดเองที่บ้าน หรือละหมาดที่มัสยิด ?  มันไม่เคลียร์

2 นาย ข  ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ไม่ต้องการละหมาด 20 ที่มุมหนึ่งของมัสยิด  ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20 จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน
เข้าใจว่า นาย ข ละหมาด 8 ร๊อกอัต ที่มุมของมัสยยิดขณะที่อีหม่าม และทุกคนละหมาด 20 ในมัสยิด พร้อมๆ กัน เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดแค่ 8 จะเสร็จก่อนอีหม่าม แล้วจะไม่ได้ถูกบันทึกความดี ? มันไม่เคลียร์นะ เพราะบอกว่า การทำดีของเขาถูกบันทึกเนื่องจากละหมาดเสร็จพร้อมอีหม่าม แต่หัวข้อบอกว่าละหมาดเอง มันเลยงง

3  นาย ค ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ที่บ้านซึ่งอยู่ติดมัสยิด ไม่ต้องการละหมาด 20    ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน
อันนี้เหมือนข้อข้างบน คือละหมาด 8 ร๊อกอัต แต่ทำที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะไม่เซาะ ก็เลยงงเหมือนเดิมว่า การทำดีของเขาจะถูกบันทึกเพราะตามอีหม่าม ก็เลยงงว่าทำไม เพราะนาย ค ไม่ตามอีหม่าม



สรุป มันงงมากๆ ที่ จขกท ยกมา เพราะ ตัวอย่างคือไม่ตามอีหม่าม แต่กลับยกอ้างว่า ตามอีหม่ามได้ผลบุญ มันเลยไม่รู้จะเลือกข้อไหน
วัสลาม...

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 01:12 PM »
0
 salam อัลลอฮุมมาซัลลีอาซัยยีดีนามุฮัมมัด
คุณเข้าใจถูกแล้วครับว่า

1  นาย ก ต้องการละหมาดตะรอเวะ 8 รอกาอัตเป็นมะมูม  แต่อีหมำละหมาดตารอเวะ 20 รอกาอัต  เมื่อนาย ก  ละหมาดครบ 8 รอกาอัต เขาละหมาด วิตริ อีก สาม รอกาอัต เสร็จก็กลับบ้าน  เพราะยึดหลักฐานที่บอกว่า ละหมาดตารอเวะ 8  หรือ 20 ได้ทั้งนั้น
ละหมาดสามร๊อกอัตนั้น เป็นละหมาดวิเตร ตามอีหม่ามที่มัสยิด

2 นาย ข  ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ไม่ต้องการละหมาด 20 ที่มุมหนึ่งของมัสยิด  ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20 จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน
เข้าใจว่า นาย ข ละหมาด 8 ร๊อกอัต ที่มุมของมัสยยิดขณะที่อีหม่าม และทุกคนละหมาด 20 ในมัสยิด พร้อมๆ กัน



3  นาย ค ละหมาดตารอเวะคนเดียว 8 รอกาอัต ที่บ้านซึ่งอยู่ติดมัสยิด ไม่ต้องการละหมาด 20    ขณะเดียวกันอีหมำและมะมูม ละหมาด 20 รอกาอัต ซึ่งไม่หากจากนาย ข มากนัก เพราะกลัวว่าถ้าละหมาดตามอีหมำต้องละหมาด 20จะเข้าข่ายฮาดิษที่ว่า ผู้ที่ละหมาดจนเส็จพร้อมอีหมำ การทำดีของเขาถูกบันทึกไว้แน่นอน
อันนี้เหมือนข้อข้างบน คือละหมาด 8 ร๊อกอัต แต่ทำที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ผลบุญ
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 01:27 PM »
0
คือที่บอกน่ะงง เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ?
มันจะถูกได้ไง ก็เพราะที่ให้เลือกมัน ผสมกันแบบงงๆ
มีอย่างที่ไหน บอกไม่ตามอีหม่าม แต่จะได้ผลบุญเพราะตามอีหม่าม...
เมื่อคุณไม่รู้ว่าคุณยกตัวอย่างมาแบบงงๆ ผมก็ขอไม่เลือกตอบดีกว่าครับ เพราะคุณยังไม่รู้ว่าตัวเองทำให้งงอย่างไรเลย...

ลองอ่านคห ของตัวเองใหม่ให้ดีๆ แล้วกัน...
วัสลาม...

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 01:31 PM »
0
ขอเชิญชวนพี่น้องมุสลิมีนและมุสลิมาตทุกคน
ร่วมกันแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
และพร้อมใจกันทำอิบาดะฮ์
เพื่อตักตวงผลบุญกันเถอะครับ
วัสสลามุอลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ก.ย. 01, 2009, 02:07 PM »
0
สรุปแล้ว ทีบังกอดตอบไปถูกใช่ป๊ะคับ mycool:

ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้มีอะไรตอบแทนบ้างผมว่าบังกอดคงจะคิดอยู่นานกว่าจะตอบได้ ผมเองยังงงเลยครับ
ทีหลังบังแอนตี้...ตั้งคำถามให้อ่านแล้วเข้าใจมากกว่านี้ซิ  หวังว่าคงมีใครอยากจิร้ายด้วยหลายคนนะ    hehe

ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ก.ย. 02, 2009, 04:14 PM »
0
 salam ควรร่วมละหมาดตะรอวิจนกระทั่งจบพร้อมกันอิหมำ เพื่อท่านจะถูกบันทึกว่าเป็นคนหนึ่งในผู้ที่ดำรงละหมาด
ท่านนบีกล่าว่า  บุคคลใดละหมาดพร้อมกับอิหมำของเขาจนเสร็จ การละหมาดยาคำ่่คืนจะถูกบันทึกให้เป็นของเขา  บันทึกโดย อลุลสุนัน (หนังสือบรรพชนมุสลิม(อัสสะละฟุศศอและห์) กับการใช้ชีวิตในเดือนรอมาฎอน บทที่ 2 กียามุรอมาฎอน หน้า 8 แปลโดย อบุอัมมารฺ  ฝ่ายวิชาการและการเผยแผร่  มูลนิธิเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาสังคม)


จากฮาดิษดังกล่าว มีอาจารย์คนหนึ่งบอกว่า  ถ้าเธอจะละหมาดตารอวิ 8 เป็นมะมูม ตามอิหมำที่ละหมาดตารอวิ 20 หรือกลับกัน คือ เธอ 20 แต่อิหมำ8  อย่างนี้นั้นเธออย่าละหมาดดีกว่า   
คำพูดของอาจารย์ที่อ้างฮาดิษด้าบน ทำให้ผู้ที่จะละหมาด ตารอวิ 8 ยอมไปยืนละหมาด อีกมุมหนึ่งของมัสยิด ขณะเดียวกันอิหมำตารอวิ20 อีกมุมหนึ่ง  บางคนถึงกับไม่ละหมาด เพราะคิดว่า  จะละหมาดทำไมละ มันก็แค่นั้นความดีเราไม่ถูกบันทึกหรอก ดั่งฮาดิษข้างบน

(มะมูมจะละหมาด 8แต่อิหมำละหมาด 20) มีทางออกหรือเปล่าครับ(ไม่ใช่อย่างที่บังดีนียะเสนอนะครับเพราะมะมูมรีบละหมาดให้เลร็จแล้วจะไปทำกิจอื่น)
ขอให้อาจารย์ตอบให้ชัดอีกครั้งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 02, 2009, 05:44 PM โดย anti-bid'ah »
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ไม่เคลีย ไม่เลิก 2
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ก.ย. 02, 2009, 04:55 PM »
0
อ้างถึง
ควรร่วมละหมาดตะรอวิจนกระทั่งจบพร้อมกันอิหมำม เพื่อท่านจะถูกบันทึกว่าเป็นคนหนึ่งในผู้ที่ดำรงละหมาด
ท่านนบีกล่าว่า บุคคลใดละหมาดพร้อมกับอิหมำของเขาจนเสร็จ การละหมาดยามคำ่คืนจะถูกบันทึกให้เป็นของเขา  (หนังสือบรรพชนมุสลิม(อัสสะละฟุศศอและห์) กับการใช้ชีวิตในเดือนรอมาฎอน บทที่ 2 กียามุรอมาฎอน หน้า 8 แปลโดย อบุอัมมารฺ  ฝ่ายวิชาการและการเผยแผร่  มูลนิธิเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาสังคม)

หนังสือเล่มนี้ผมก็มีคับแต่ อ่านยังไม่หมด เพราะเนื้อหาค่อนข้างจะเอนไปทาง แนวทางกมมูดอ(วาฮาบี)นะครับ..ที่ขีดเส้นอยากให้บังแอนตี้..บอกด้วยว่าใครเป็นผู้รายงานและบันทึกฮาดิสนี้ mycry

อ้างถึง
จากฮาดิษดังมีอาจารย์คนหนึ่งบอกว่า ถ้าเธอจะละหมาดตารอวิ 8 เป็นมะมูม ตามอิหมำที่ละหมาดตารอวิ 20 หรือกลับกัน คือ เธอ 20 แต่อิหมำ8  อย่างนี้นั้นเธออย่าละหมาดดีกว่า   
คำพูดของอาจารย์ที่อ้างฮาดิษด้าบน ทำให้ผู้ที่จะละหมาด ตารอวิ 8 ยอมไปยืนละหมาด อีกมุมหนึ่งของมัสยิด ขณะเดียวกันอิหมำตารอวิ20 อีกมุมหนึ่ง  บางคนถึงกับไม่ละหมาด เพราะคิดว่า  จะละหมาดทำไมละ มันก็แค่นั้นความดีเราไม่ถูกบันทึกหรอก
ดั่งฮาดิษข้างบน

คำพูดของอาจารย์ที่ว่า นั้น ผมว่าจะเรียกว่าเป็นฮาดิสไม่ได้คับ  เพราะเป็นแค่คำพูดธรรมดาเท่านั้น..

จริงๆแล้ว บางครั้งอ.ที่คุณอ้างถึงก็ไม่ใช่ว่าเขาจะพูดแล้วจะถูกไปเสียทุกอย่าง..
ฉนั้นมะมูมละหมาดตารอวิ แปด ผลบุญก็ถือว่าได้แล้วเพราะละหมาดตารอวิ ทำได่ทั้งแต่ 2 รอกาอัต  หลังจากนั้นรอจนกว่า..อีม่ามละหมาดครบยี่สิบช่วงนั้นบังแอนตี้ นั่งซิกรุ้ลลอฮ์หรือเตาบัตหรือซอลาวาตหรืออัลกรอ่านยังได้นี่คับ ไปเครียดอะไรนักหนา..พออีม่ามละหมาดครบ 20รอกาอัต  บังแอนตี้..ก็ละหมาดญามาอะวิติรซะเลย  ก็ถือว่าจบพร้อมกัน..

ถามนิดว่า ทำไมไม่ละหมาดให้ครบ20รอกกาอัตละแล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องหยุดแค่8 รอกาอัต..

ทั้งๆที่ซุนนะท่านนบี(ซล)ให้เราตามคอลีฟะอัรรอซีดีน(ทั้ง4ท่าน)แล้วยังมีซุนนะที่สั่งใช้ให้เราตามบุคคลทั้ง 2นี้ คืออบูบักร และอุมัร

ดังนั้นก็ในเมือท่านอุมัร(รด)ชี้นำและใช้ให้บรรดาซอฮาบะร่วมสมัยและยุคต่อมารวมทั้งพวกเราให้ละหมาด 20รอกาอัตเราก็ไม่น่าจะมีอคติต่อซออาบะท่านนบี

และนี้คือซุนนะที่ต้องตามคำสั่งใช้ตามซอฮาบะเช่นกัน happy2:




อ้างถึง
(มะมูมจะละหมาด 8แต่อิหมำละหมาด 20) มีทางออกหรือเปล่าครับ...

มีคับ ก็ทางประตูไงค้าบบังแอนตี้... boulay:

 

GoogleTagged