salam
หายไปนานกับเรื่องราวของสุขภาพ ตอนนี้คนนำเสนออย่างข้าน้อยก็สุขภาพย่ำแย่นิดหน่อยค่ะ
กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวปรับใจ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอะไรๆหลายๆอย่าง ร่างกายก็เลยตกใจ
โรคภัยก็เข้ามาทักทายได้ง่ายๆ วันนี้เลยเอาเรื่องอาการไอมาโพสให้พี่น้องได้อ่านกันค่ะ
อาการไอ รู้สาเหตุก็รักษาให้หายได้ โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล“โอย ไอแค้กๆ” ทีไรเหนื่อยจริงๆ คุณคงเคยบ่นกับตัวเองใช่ไหมว่ารู้สึกรำคาญมากทุกครั้งที่มีอาการไอใช่ไหมครับ
แต่ถ้าคุณได้ทราบว่าการไอเป็นกลไกการตอบสนองของร่างกายอย่างหนึ่งต่อสิ่งผิดปกติในทางเดินหายใจ
มีความสำคัญอย่างมากเพื่อไว้เป็นกลไกป้องกันและกำจัดเชื้อโรค เสมหะหรือสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ
อ่านบทความนี้จบคุณคงชอบใจที่มีอาการไอทุกๆครั้งแน่ๆครับ
ทำไมเราจึงมีอาการไอ กลไกการเกิดอาการไอเริ่มจากการที่มีสิ่งกระตุ้นตัวรับสัญญาณการไอหรือมีสารระคายเคือง
ในบริเวณทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง เริ่มตั้งแต่ช่องหูและเยื่อบุแก้วหู จมูก โพรงอากาศข้างจมูกหรือไซนัส
โพรงหลังจมูก คอหอย ลงไปยัง กล่องเสียง หลอดลม ปอด กระบังลม และเยื่อหุ้มปอดในที่สุด
นอกจากนี้ยังพบตัวรับสัญญาณการไอบริเวณเยื่อหุ้มหัวใจและกระเพาะอาหารอีกด้วย
โดยจะรับการกระตุ้นผ่านไปทางเส้นประสาทสมองคู่ที่ 10 เป็นหลักไปยังศูนย์ควบคุมการไอ (cough center)
ในสมองบริเวณเมดุลลาซึ่งจะมีการควบคุมลงมายังกล้ามเนื้อและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
เช่น กล้ามเนื้อกระบังลม กล้ามเนื้อซี่โครง กล้ามเนื้อท้อง กล่องเสียง
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลอดลม ทำให้เกิดการตีบแคบของหลอดลม ทำให้เกิดอาการไอ
อาการไอแบ่งได้กี่ชนิดถ้าแบ่งตามระยะเวลาของอาการไอ แบ่งได้
1.ไอฉับพลัน คือเริ่มมีอาการไอน้อยกว่า 3 สัปดาห์ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน
เช่น หวัด โพรงไซนัสอักเสบฉับพลัน คอหรือกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ
โรคถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบ การที่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในหลอดลม
หรืออยู่เฉยๆคุณเองหายใจสัมผัสกับสารระคายเคืองในอากาศในสิ่งแวดล้อม
เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ กลิ่นสเปรย์ แก๊ส มลพิษทางอากาศ
2. ไอเรื้อรัง มีอาการไอนานมากกว่า 3 ถึง 8 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบเรื้อรังแล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ โรคหืด โรคกรดไหลย้อน (GERD)
การใช้เสียงมากทำให้เกิดสายเสียงอักเสบเรื้อรัง เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียงหรือหลอดลม
โรคของสมองส่วนที่ควบคุมการไอ โรควัณโรคปอด รวมทั้งผลข้างเคียง
จากการรับประทานยารักษาความดันโลหิตสูงกลุ่ม angiotensin-converting enzyme inhibitor (ACE-I)
ไอนานๆจะมีผลเสียมากกว่าการที่ไอมากๆ อาจทำให้เสียบุคลิกภาพในการอยู่ร่วมในสังคม เนื่องจากทำให้เป็นที่รำคาญ
หรือเป็นที่รังเกียจของผู้อื่นและยังอาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ บางครั้งก็จะไปรบกวนการรับประทานอาหาร
รวมทั้งการนอนหลับ ในกรณีที่ผู้ป่วยอายุมากแล้วมีการไอมากๆรุนแรง อาจทำให้กระดูกอ่อนซี่โครงหักได้
รวมทั้งทำให้ถุงลมหรือเส้นเลือดฝอยในปอดแตก ออกสู่โพรงเยื่อหุ้มปอด
เกิดอาการหอบเหนื่อยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากในคนไข้ที่มีการผ่าตัดตาและหู
เช่น การผ่าตัดต้อกระจก การไอ อาจทำให้เลนส์แก้วตาเทียมที่ใส่ไปในลูกตาหลุดออกได้
หรือการผ่าตัดปะเยื่อแก้วหู การไอมากๆอาจทำให้เยื่อแก้วหูเทียมที่วางไว้เคลื่อนที่ออกมาได้
เมื่อมีอาการไอไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุให้ได้ เมื่อคุณไปพบแพทย์จะมีการซักประวัติ ตรวจร่างกายในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง
และอาจส่งตรวจเพิ่มเติมเช่น ส่งตรวจภาพถ่ายรังสีของโพรงไซนัสและปอด
การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินหายใจ การตรวจเสมหะ การตรวจสมรรถภาพการทำงานของปอด
รู้ต้นเหตุก็รักษาอาการไอให้หายได้การรักษาที่ดีที่สุดก็คือต้องหาสาเหตุของไอให้ได้และรักษาตามสาเหตุ
· ถ้าผู้ป่วยไอจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนหรือล่าง
เช่น หวัด หลอดลมอักเสบ และมีอาการไอไม่มากนัก การรักษาเบื้องต้นจะให้ยาบรรเทาอาการไอไปก่อน
· กรณีที่ไอมีเสมหะที่เหนียวข้นมาก จะถูกขับออกจากหลอดลมได้ยากโดยการไอ
การให้ยาละลายเสมหะจะช่วยให้เสมหะถูกขับออกได้ง่ายขึ้น บรรเทาอาการไอได้ดีกว่า
แต่หากผู้ป่วยได้รับยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาและรักษาตามสาเหตุ
· หากคนไข้มีอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ซึ่งทราบได้โดยดูจากเสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว
ถึงเวลาที่แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย
การปฏิบัติตนขณะมีอาการไอให้หายเร็วขึ้น· หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้ไอมากขึ้น เช่น สารเคมี ควันบุหรี่ ฝุ่น มลพิษทางอากาศ
สารก่ออาการระคายเคืองต่างๆ
· ระวังตัวเมื่อสัมผัสอากาศเย็นๆ โดยเฉพาะแอร์หรือพัดลมเป่า การดื่มหรืออาบน้ำเย็น
การรับประทานไอศกรีม หรืออาหารที่ระคายคอ เช่น อาหารที่ทอดด้วยน้ำมัน
เนื่องจากอากาศที่เย็นสามารถกระตุ้นหลอดลมทำให้หลอดลมหดตัวทำให้มีอาการไอมากขึ้นได้
· ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอขณะนอน เช่น นอนห่มผ้า ถ้าจะให้ดี ควรใส่ถุงเท้าเวลานอนด้วย
ในกรณีที่ไม่ชอบห่มผ้าหรือห่มแล้วชอบสะบัดหลุดโดยไม่รู้ตัว ควรใส่เสื้อหนาๆ หรือใส่เสื้อเข้านอน
· ปิดปากและจมูกเวลาไอ ด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู
· ล้างมือทุกครั้งถ้าใช้มือป้องปากเวลาไอ
· ควรดื่มน้ำอุ่นมากๆ ผู้ที่สูบบุหรี่ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการสูบบุหรี่
การป้องกันอาการไอ· ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกประเภท ทั้งผักและผลไม้
ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ
· หลีกเลี่ยงความเครียดและการสัมผัสอากาศที่เย็นมากๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
· อยู่ห่างจากผู้ที่ไม่สบาย เนื่องจากอาจรับเชื้อโรคจากบุคคลที่ติดเชื้อได้
แหล่งข้อมูลMelissa Conrad Stöppler,
www.medicinenet.com, Cold, Flu, Allergy Treatments
พญ. ประภาพร พรสุริยะศักดิ์ สมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย, อาการไอ
Cough,
www.medicinenet.comปล.ด้วยความปรารถนาดี ไม่อยากให้พี่น้องมีเสียงเหมือนเป็ดวาและต้องมานอนขัน(ไอ)ปลุกชาวบ้านตอนดึกๆดื่นๆ
หรือขันแข่งกับพ่อไก่โต้งตอนเช้าๆค่ะ

เพราะว่า....
ไอ เลิฟ ยู ค่ะ

วัสลามค่ะ