salam
คุณรู้ไหมทำไมเข็มนาฬิกาถึงวนขวา?
และใครคือผู้คิดค้นระบบนี้ขึ้นมา?
เวลา
เวลา คำนี้คงไม่มีใครอยากจะใช้มันมากนัก
แต่มันก็ไม่ยอมหยุดทั้งๆ ที่เราอยากให้มันหยุด
และสิ่งที่เราใช้ดูเวลา ก็คงต้องเป็นเจ้าสิ่งนี้ คือ นาฬิกา
นาฬิกาเริ่มมีใช้กันเมื่อ 4,000 ปีมาแล้ว ที่เมืองบาบิโลน
ซึ่งเป็นเมืองโบราณอยู่ทางลุ่มน้ำยูเฟรติสตอนใต้
หรืออยู่ภายในเขตประเทศอีรักในปัจจุบัน
นาฬิกาที่ใช้กันในสมัยนั้น เรียกกันว่า
นาฬิกาแดด เวลาที่นาฬิกาแดดบอกได้นั้นจะเป็นเวลาโดยประมาณ
เพราะว่าตำแหน่งของเงาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
ชาวอียิปต์โบราณก็รู้จักทำนาฬิกาแดด
โดยนำไม้ท่อนสั้น และท่อนยาว มาวางตัดกันเป็นรูปตัวที
แล้วนำไปวางไว้กลางแดด เพื่อใช้ดูเวลา
ข้อเสียของนาฬิกาแดด คือ ถ้าไม่มีแสงแดด ก็จะไม่สามารถใช้ดูเวลาได้
นาฬิกาน้ำจึงถูกประดิษฐ์ขึ้น โดยชาวกรีกโบราณ
เพื่อขจัดปัญหาขณะที่ไม่มีแสงแดด การทำงานของนาฬิกาน้ำ
จะอาศัยภาชนะที่ใส่น้ำจนเต็ม แล้วเจาะรูที่ก้นปล่อยให้น้ำไหลออก
เมื่อน้ำไหลออกจากภาชนะจนหมดจะเรียกกันว่า 1 clepsydra
แต่นาฬิกาน้ำก็มีข้อเสีย คือ เมื่อถึงฤดูหนาว น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง
จึงทำให้ไม่สามารถดูเวลาได้อีก
ต่อมานาฬิกาทรายจึงถูกพัฒนาขึ้น โดยนำทรายมาบรรจุแทนน้ำ
ในภาชนะที่มีส่วนบนและส่วนล่างตามขนาดที่เหมาะสม
โดยมีคอคอดเป็นตัวเชื่อม เมื่อทรายจากส่วนบนไหลลงมาสู่ส่วนล่างจนหมด
จะเรียกว่า 1 clepsydra แต่นาฬิกาทรายต้องคอยกลับภาชนะ
จากด้านล่างขึ้นข้างบน เมื่อทรายไหลลงมาจนหมด
จึงทำให้อาจมีการคลาดเคลื่อนได้
จึงได้มีการคิดค้นที่จะทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น
นาฬิกาที่ทำงานโดยเครื่องกลจึงถูกพัฒนาขึ้น
นาฬิกาเครื่องแรกที่ใช้เข็มบอกเวลาเป็นชั่วโมง
ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1350 โดย
โจวันนิ เดอ ดอนดิ (Giovanni de Dondi)
เป็นนาฬิกาที่อาศัยหลักของดาราศาสตร์
นาฬิกาครื่องนี้มีความสูง 0.9 เมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่มาก จึงไม่เป็นที่นิยม
ต่อมาในปี ค.ศ. 1504 Peter henlein ช่างนาฬิกาชาวเยอรมนี
ได้ออกแบบนาฬิกาที่มีขนาดเล็ก และมีน้ำหนักเบาได้สำเร็จ
ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัม จึงถือกันว่านาฬิกาของ Henlein
เป็นนาฬิการเรือนแรกของโลก
ในปลายศตวรรษที่ 13 นาฬิกาตุ้มถ่วง ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยตระกูล Galileo
นาฬิกาตุ้มถ่วงจะอาศัยหลักของกฎ เพนดูลัม (Pendulum)
คือ ไม่ว่าลูกตุ้มจะแกว่งมากหรือน้อยเพียงใด
เวลาในการแกว่งครบรอบจะเท่ากันเสมอ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1657 นาฬิกาจักรกลที่ใช้ลาน หรือขดลวดสปริง
ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น โดยนักดาราศาสตร์ชาวดัตซ์
ชื่อ คริสเตียน ฮอยเกนส์ (Christian Huygens)
นาฬิกาของฮอยเกนส์ ประกอบไปด้วย ฟันเฟือง ล้อ ลวดสปริง
การทำงานจะควบคุมโดยใช้หลักของเพนดูลัม มีน้ำหนักเบา และเที่ยงตรงมาก
จึงทำให้เป็นนาฬิกาที่นิยมใช้กันมาก
เมื่อมีการเดินกระแสไฟฟ้าไปตามบ้านเรือน
นาฬิกาควอตซ์ จึงได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1929
โดย Warren Morrison กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ทำให้ผลึกควอตซ์สั่น
แปลงการสั่นให้เป็นการกระดิก เป็นช่วงๆ ช่วงละ 1 วินาที
นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า อุณหภมิที่แปรปรวนตลอดเวลา
ภายใต้การทำงานของผลึกควอตซ์ ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการสั่นผลึก
เปลี่ยนความถึ่ จังหวะการเดินของนาฬิกาควอตว์ก็จะเปลี่ยนด้วย
นาฬิกาควอตซ์จึงยังไม่เป็นนาฬิการที่เที่ยงตรงเท่าไร
ต่อมาในปี ค.ศ. 1948 นาฬิกาอะตอม หรือนาฬิกาปรมาณู
ถูกประดิษฐ์โดย Jonn Parry และ Louis Essen แห่ง National Physical Laboratory
ที่เมือง Teddington ประเทศอังกฤษ
ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาปรมาณูเรือนแรกของโลก
หลักการทำงานจะอาศัยการนับการสั่น (ความถี่)
ตามธรรมชาติของอะตอมซีเซียม (cesium)
ความผิดเพี้ยนจึงเกิดขึ้นได้เพียง 1 วินาที ในรอบ 1,000 ปี
นาฬิกาปรมาณูที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
ถือว่าเป็นนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงมากที่สุด และใช้เป็นเวลามาตราฐาน
ในการเทียบเวลา
ปัจจุบันโลกมีนาฬิกาปรมาณูที่ใช้ตรวจสอบเวลาซึ่งกันและกันทั้งหมด 7 เรือน เวลาเป็นของมีค่า ถ้าปล่อยให้เดินไปเรื่อยๆ มันก็จะหมดไป
และจะไม่หมุนกลับมาอีก ไม่เหมือนนาฬิกา
อย่างไง...ซะก็ต้องหมุนกลับมาที่เดิมของมัน...
สรุปค่ะ...
นาฬิกาในสมัยโบราณแตกต่างจากนาฬิกาปัจจุบัน
สมัยก่อนอาศัยธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์
หรือเงาจากแสงแดดในการบอกเวลา
นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือ นาฬิกาแดดของชาวอียิปต์
ประเทศอียิปต์อยู่ในซีกโลกเหนือ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก
และตกทางทิศตะวันตก เงาของแดดจึงหมุนวนไปทางขวา
ต่อมาเมื่อมนุษย์ประดิษฐ์นาฬิกาแบบใช้เครื่องกล
จึงออกแบบให้เข็มนาฬิกาเดินวนขวา
จนกลายเป็นมาตรฐานสากลของนาฬิกาทั่วโลก
และผู้คิดค้นระบบเข็มนาฬิกาวนขวา ก็คือ ชาวอียิปต์ค่ะ ปล.โลกเราหมุนรอบตัวเอง แบบทวนเข็มนาฬิกา
คือจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก หรือจากซ้ายไปขวามือค่ะ
ที่มา:
http://www.elearneasy.com/shows_news.php?news_id=1352http://74.125.153.132/search?q=cache:brf1aCIHiRAJ:pirun.ku.ac.th/~b5013307/page1.html+นาฬิกาแดดอียิปต์&cd=20&hl=th&ct=clnk&client=safari
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ