ผู้เขียน หัวข้อ: ใครบ้างที่เคยเป็นวาฮาบีแล้วกลับใจมาอยู่ในมัสหับทั้ง4  (อ่าน 17095 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด

 salam

อยากทราบครับว่าพี่น้องคนใดบ้างที่เมื่อก่อนที่เวปนี้ยังไม่มีและเคยอยู่ในแนวทางของซุนนะวาฮาบีแต่ปัจจุบันกลับใจมาอยู่แนวทางอะลิสซุนนะวัลญามามอะ(มัสหับทั้ง4)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 20, 2009, 12:52 PM โดย อัล-อุม »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
บางครั้งเค้าอาจไม่อยากเปิดเผยตัวก็ได้  Oops:
บางครั้งเค้าไม่ยอมรับกับคำว่า วะฮาบีย์ ก็ได้น๊ะ  Oops:
หรือบางที...เค้าอาจเปลี่ยนไปมาเช่นว่า เมื่อก่อนไม่เป็น หลังๆเริ่มเขวมาเป็น สุดท้ายเมื่อได้รับความรุ้จากเว็บแห่งนี้ทำให้ยึดอยู่ในมัซฮับทั้ง 4 อีกครั้ง
โอย....สับสันจัง
เอาเป็นว่า....บัง อัล-อุม อยากรู้ไปทำไมหรอ...มีแรงจูงใจอะไรอ่ะ  ::)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 20, 2009, 01:28 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 salam

เป็นคนนึงที่เมื่อก่อนไม่รู้เรื่องเหตุผลการมีมัซฮับเลยค่ะ
(ตอนมีกรณีพิพาทกันก็นั่งเกาะจอคอมฯติดตามทุกวัน
อ่านไปก็นึกถึงบรรพบุรุษไปค่ะ)

เมื่อก่อนทำตามพ่อ ทำตามโต๊ะอีหม่าม
ทำตามโต๊ะครูที่สอนหนังสือให้ค่ะ พ่อสอนอะไรเราก็ทำ
พ่อบอกให้ไปอ่านกุรอานที่บ้านโต๊ะครูเราก็ไปค่ะ
แม้ท่องไปโดยไม่รู้ความหมาย...เป็นนกแก้วนกขุนทองเราก็ท่องกันค่ะ...
เพราะโต๊ะครูบอกว่าใครท่องได้หมดเล่มเมื่อไหร่มีรางวัลให้
เด็กอย่างเราจะเหลือหรือคะ เอาของมาล่อซะขนาดนั้น...
เราก็ท่องกันทุกคืนเพื่อของรางวัลจากโต๊ะครู...

พอสงสัยว่าทำไมอัลกุรอานต้องเป็นภาษาอาหรับ ทำไมไม่เป็นภาษาไทย
พ่อก็บอกว่า "ตอนนี้ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น อยากรู้ก็เรียน ที่ไม่รู้เพราะยังไม่เรียน
เรียนไปเดี๋ยวอัลลอฮฺก็ให้รู้เอง..."จำมาแค่นั้นค่ะ รู้แค่ว่า หากสงสัยต้องเรียน
และต้องถาม หากใครตอบคำถามเราไม่ได้ ก็ใช่ว่าคำถามนั้นไม่มีคำตอบ
แต่เราต้องศึกษาหาคำตอบต่อไป พ่อบอกว่า อย่าอายครู อย่าอายความรู้
เรียนได้ไปจนตายค่ะ...แม้จะเรียนกับเด็กเราก็ต้องไม่อาย...
แม้จะต้องเรียนกับเด็กหรือมีเด็กเป็นครูเราก็ต้องไม่อาย...

และเพราะว่าคำพูดเหล่านั้นแหล่ะค่ะ ที่ผลักดันให้เรียนรู้มาจนถึงทุกวันนี้
และได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้...ได้รู้จักเวบโน้นเวบนี้มากมายในโลกอินเตอเนต
และได้รู้ว่าที่ทำๆมาทั้งหมด ที่ตามๆคนเฒ่าคนแก่ ตามโต๊ะครูโต๊ะอีหม่ามนั้น
มีที่มาจากตำราและแนวทางใดบ้าง และเราสามารถเลือกได้ค่ะ...

รู้สึกดีค่ะที่มีเวบดีๆมีความรู้มากมายให้ศึกษา
และมีผู้รู้หลายท่านมาคอยแนะนำสิ่งดีๆและคอยตักเตือนกัน
อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้รู้...
 
ก็ไม่รู้จะตอบคำถามเจ้าของกระทู้ยังไงดี
รู้แค่ว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่ดี อยู่ด้วยและมีความสุข
ใครๆก็อยากได้ว่ามั้ยคะท่าน...


 cool2:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 20, 2009, 02:35 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ที่ถามเพราะอยากจะทราบเป็นข้อมูลคร่าวๆว่า เวปนี้มีแรงจูงใจในการมีส่วนรวมให้พี่น้องของเรามีการเปลี่ยนแปลงนะคับกะย้ะ

ไม่มีอะไรมากกว่านี้  คือผมเองเมื่อก่อนเคยเขวครับ แต่เวปนี้ช่วยเหลือผมได้ทันเลยจะถามว่ามีใครบ้างที่รู้สึกเช่นผม  คุณnada-your ก็คล้ายๆกับผมเลยคับ

พี่น้องไม่ต้องอายนะครับ  ผมแค่ต้องการข้อมูลไว้ส่วนตัวแค่นั้นคับ   smile:

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
ผมไม่เคยไปไหน

ผมเกิดมา เรียน กับ ครูแถวบ้าน สายซุนนะเก่า ( คณะเก่า ) บางทีแถวบ้านก็ทำบิดอะเยอะ หรือแนวคิดบิดอะก็มีบ้าง
เช่น การทำเมาลิดต้องจุดธูปหอมด้วย ไม่งั้นไม่ซุนนะ การงานไม่ถูกตอบรับ เป็นต้น

แล้วก็ได้ไปเรียนเพิ่มกับ อ. หลายๆ ท่าน จนวันนึง ได้มีโอการรู้จักกับ อ. อิสมาแอล วิสุทธิปราณี ( ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนท่าน )
ให้ได้รู้จักกับ ความแตกต่างในทรรศนะ เช่นการ อ่านดุอาอิฟตะหลายๆ แบบ การอ่านดุอาระหว่างสุหยูด
อ. บอกว่า เราอย่าคิดว่า การอ่านแบบไหนนั้นจะได้ผลบุญมากกว่า เพราะการอ่านก็มีทั้งแบบยาว แบบสั้น อย่าไปคิดว่าสั้นได้บุญกว่า ยาวได้บุญกว่าเลย
อ. บอกผมอีกว่า หากเราอ่านแล้วทำให้เราสบายใจ เรามั่นใจของเรา นั้นแหละดีที่สุด ส่วนผลบุญนั้นยกให้พระองค์เป็นผู้ทรงจัดการ

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่เคยมีความคิด ว่า ทรรศนะใดๆ นั้นจะทำให้คนนึงตกนรก หรือขึ้นสวรรค์ได้
แต่การที่เขาจะไปที่ใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ จิตใจของเขาเอง เหนียตของเขาเอง ว่าเขาเลือกทำในทรรศนะต่างๆ เหล่านั้นเพราะเหตุผลใด
หากเขาเลือกทำเพราะเขารู้สึกดี มั่นใจ มันก็ต้องเป็นเรื่องดี หากเขาเลือกทำเพราะอยากจะอวดแสดงว่า เขานั้นรู้มากนี่แหละเป็นซุนนะนบีทำแน่นอน ทรรศระอื่นผิด แบบนี้ก็หมายถึงอวดดี หลงตัวเอง

ทุกวันนี้ จากอิทธิพลของอาจารย์ ตลอดเวลาที่ผมได้เรียนรู้และศึกษา เรื่องราวคิลาฟ ( ข้อแตกต่าง ) ในบรรดาทรรศนะอื่นๆ
มันทำให้เราไม่ต่อว่าพี่น้องที่ทำไม่เหมือนเรา มันทำให้เราสงบ มากกว่าจะมาหาว่า อะไรถูกที่สุดสำหรับเรา ณ อัลลอฮฺ
เพราะผมคิดว่า สิ่งที่ถูกที่สุด 100% นั้นไม่มีใครรู้นอกจากพระองค์ และ ร่อซู้ล เท่านั้น
ในเมื่อเรามีหลักฐานเท่านี้ เราก็เชื่อว่าดีแล้ว ก็ทำไป ดีกว่าไปนั่งหาเรื่องใส่ตัวว่ากล่าวทรรศนะอื่น เป็น บิดอะดอลาละตินฟินนาร ( นอูซุบิลลามินาซาลิก )

วัสลาม...

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 salam
ชอบกระทู้นี้จัง เพราะผมกำลังสงสัยตัวเองว่าผมตักลีดตามอีมามชาฟิอียฺ แต่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์
ตอนเด็ก เรียนหนังสือฟัรฺฎูอีนของสมาคมคุรุสัมพันธ์ เรียนกิตาบมลายูกับโต๊ะอีหม่าม เรียนภาษาอาหรับกับ อาจารย์มุรอด มุคตารี
(ชาฟิอียฺทั้งหมด) พอโตขึ้น การเรียนระดับมหาวิทยาลัยรัดตัว ไปเรียนกับครูไม่สะดวก ก็เลยเรียนกับหนังสือ (หาซื้อมาอ่านเอา)
ตอนไปหัจญ์เห็นอะไรแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น ยืนละหมาดโดยไม่กอดอก มีการเคลื่อนไหวในละหมาดมากกว่าที่เคยรู้ว่าทำให้เสียละหมาด
อย่าง  อุ้มเด็กจากข้างขวามาไว้ข้างซ้าย ทั้ง ๆ ที่ยังละหมาดอยู่, อ่านฟาติหะฮฺโดยไม่อ่านบิสมิลลาฮฺ, ตักบีรฺอินติกอลาตโดยไม่ยกมือ, 
ไม่อ่านกุนูตในละหมาดศุบหิ, ผู้หญิงผู้ชายกระทบกันโดยไม่เสียน้ำละหมาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเฏาะวาฟ
นั่งตะหี้ยะฮฺไม่ใช่แบบอิฟติรอสหรือตะวัรรุก แต่นั่งขัดสมาธิ พอดีมีผู้รู้หลายคนให้ปรึกษา เช่น อาจารย์หมัด อาดำ (คลองหนึ่ง) เดี๋ยวนี้เป็นอัรฺกอมไปแล้ว
และอาจารย์ ยะหฺยา ทองทา แห่งโรงเรียนธรรมิสลาม เมืองนนท์ จึงเอาตัวรอดมาได้
ปัจจุบัน จังหวัดที่ทำงาน ก็ได้รับรู้อะไรต่ออะไรมากขึ้น มัสยิดที่ผมใช้บริการนั้น เขาไม่ได้อะซานตามเวลา แต่อะซานโดยที่อิหม่ามกำหนดไว้เหมือนกันทุกวัน
เช่น ดุฮฺริ 12.30 น. อัศริ 16.15น.(เวลาอัศริ คำนวณโดยเงาของสิ่งหนึ่งเป็น สองเท่า ของความยาวของมัน)
อิกอมะฮฺ กล่าวประโยคละ 2 ครั้งเหมือนอะซาน ยกเว้นเพิ่มประโยคก็อดกอมะติศเศาะลาฮฺเข้าไปเท่านั้น
ละหมาดญะนาซะฮฺ มี 5 ตักบีรฺไม่มีการยกมือนอกจากตักบีรฺที่ 1 และให้สลามครั้งเดียว ฯลฯ
หนังสือหะดีษเศาะเอี๊ยะฮ์(อัตตาจญ์) ของอาจารย์อรุณ มีประโยชน์มหาศาล ผมเอามาอ่านหาดูว่ามีหะดีษใดอ้างอิงได้หรือไม่ ถ้ามี ผมก็ยอมรับได้
เพราะถ้าไม่ยอมรับ คงไม่ได้มีการละหมาดวันศุกร์ ละหมาดวันศุกร์ครั้งแรกมี 10 กว่าคนเท่านั้น ละหมาดวันศุกร์ครั้งแรก ผมเห็นมีคนละหมาดไม่ถึง 40
พอละหมาดเสร็จก็ละหมาดดุฮฺริอีก 4 เราะกะอะฮฺเดี๋ยวนี้ไปค้นคว้าหรือถามผู้รู้ ถ้ามีคำตอบว่า มัซฮับใดอนุญาตให้ทำได้ ผมก็ยอมรับ
บางปีละหมาดอีด เราะกะอะฮฺแรก ตักบีรก่อนอ่านฟาติหะฮฺ 5 ครั้ง ไม่ยกมือและไม่มีการอ่านตัสเบียะห์
เราะกะอะฮฺที่ 2 ตักบีรหลังอ่านสูเราะฮฺ(ก่อนรุกูอฺ) 3 ครั้ง ไม่ยกมือและไม่อ่านตัสเบียะหฺ เห็นแล้วก็งงๆ แต่ก็ทำตามไป เพราะอิหม่ามเขาละหมาดอย่างนั้น
บางครั้งเขาให้ผมนำละหมาด บอกว่าเสียงดังดี ผมยืนละหมาดก็มีคนเอาหมวกมาสวมให้ เพราะอิมามในแนวคิดของพี่น้องหะนะฟียะฮฺนั้น ต้องสวมหมวกและต้องมีเครา
ค่ำนิศฟุชะอฺบานที่ผ่านมา ผมก็อ่านยาซีนและขอดุอาอุ์ตามที่เรียนมา สำหรับพี่น้องหะนะฟียะฮฺ เขาเรียกว่า คืนอัลบะราต บางคนก็เรียกว่า คืนเปลี่ยนโชค
ต่างมาชุมนุมกันที่มัสยิด หลังละหมาดมัฆริบแล้วผู้ทำหน้าที่อิมามจะบะยาน(บรรยายศาสนธรรม) หลังจากนั้นต่างคนต่างอ่านกุรฺอาน ต่างคนต่างดุอาอุ์
ต่างคนต่างร้องไห้(เตาบะฮฺ)ละหมาดอิชาอุ์แล้วก็ยังอยู่ที่มัสยิด ละหมาดตะฮัจญุดกันบ้าง อ่านกุรฺอานบ้าง ดุอาอุ์บ้าง (มีบางคนที่นอนหลับไปเลยโดยไม่ได้ทำอะไร)
ตกลงผมไม่รู้ว่าตัวองตักลีดตามอิมามอะไร แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ตามอิมามชาฟิอียฺ กิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮฺนั้นเป็นสิ่งจำเป็น แต่ผมไม่ทิ้งอุละมาอุ์
ข้อสำคัญไม่กล้าหุก่มใครว่า ทำบิดอะฮฺที่หลงใหลเพราะเท่ากับไปหุก่มว่าเขาตกนรก นรกไม่ใช่ของผมเสียหน่อย จะได้คอยตัดสินให้ใครเข้าหรือออก
ขอบคุณที่หาที่ให้ระบาย
مع السلامة
แชมัด

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ read

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 130
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ไม่รู้ว่าผม วาฮาบีหรือเปล่า
 ผมเคยออกอีด ตามซาอุ และ เคยออกอีดตามเมืองจีน
 และเคย ชื่นชอบและอ่านหนังสือ และฟัง บรรยาย ของ อ.มูรีด ครับ
 แต่เดี่ยวนี้เฉยๆ ครับ ฟังได้ครับ อ่านได้ครับ แต่ไม่หูหนวกตาบอดเชื่อเหมือนแต่ก่อนครับ
 
 
 แต่เดี่ยวนี้ ผมออกอีดตาม มะตะละห์
 ผมยังชื่นชอบ อาจารย์ มุตตอฟา อยู่เป็นสุข
 อ.วิทยา วิเศษรัต , อ.อิสมาเอล วิสุทธิปรานี

ถ้าเป็นรุ่นใหม่ไฟแรง ก็ อาจารย์ ซิดดิก มูฮำหมัดซาอิด ครับ
เพราะ อาจารย์เขาพูดแต่หลักการอย่างเดียวครับ ไม่ค่อยจะฟิตนะห์ใคร
เหมือน อาจารย์บางคน

แต่ก็อยาก ให้พี่น้อง ไม่ว่าจะอยู่ในสายไหนก็ตาม อย่าปิดกั้นความคิด
อย่า่คิดว่า ของเราถูกของเขาผิด ให้เราศึกษาทั้ง ของเรา และของเขา ถึงที่มา
และที่ไป และจะทำให้เรารู้ และ เข้าใจซึ่งกันและกัน

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ก่อนอื่นการที่จะรู้ตัวเองว่าอยู่ในทัศนะดังกล่าวนี่หรือไม่ จำเป็นต้องรู้เบื้องต้นคร่าวๆวะก่อนครับ

1.ไม่ยอมและรับการสังกัดมัสหับและถือว่าไม่จำเป็นไม่ว่าคนกลุ่มใด

2.ไม่กระทำใดๆในสิ่งที่เจ้าของทัศนะทั้ง4บอกว่ากระทำได้

3.ยึดกีตาบุลลอฮ์แบบตัวตรงโดยไม่แบ่งแยกใดๆไม่ว่าอายะมุกามาตและอายะมุตาชบิฮาต

4.ยึดซุนนะแบบตรงๆโดยไม่ผ่านการอธิบายใดๆจากอุลามะที่ทรงความรู้

ที่สำคัญผู้ที่วาฮาบีของแท้นั้นจะไม่เชื่อและไม่ให้ให้การยอมรับในการวินิจฉัยของเหล่าปวงปราชญ์ของ

มัสหับทั้ง4


ปวงปราชญ์มัซฮับหะนะฟีย์
ท่านอิมามอบูยูซุฟ , ท่านอิมามมุหัมมัด บิน อัล-หะซัน , ท่านอับดุลเลาะฮ์ บิน อัลมุบาร๊อก , ท่านซุฟัร , ท่านญะฟัร อัฏเฏาะหาวีย์ , ท่านอัซซัรค่าชีย์ , อันนะซะฟีย์ , อะห์มัด บิน มุหัมมัด อัลบุคอรีย์ , ท่านอัซซัยละอีย์ , ท่านอัลกะมาล บิน อัลฮุมาม , ท่านอิบนุ อันนุญัยม์ , ท่านอิบนุอาบิดีน ,  และบรรดาปวงปราชญ์อีกหลายพันคนที่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติส่วนบุคคลในมัซฮับหะนะฟีย์  ที่มีชื่อว่า  ฏ่อบะก๊อต  อัลหะนะฟียะฮ์  ถ้าจะพิจารณาประเทศต่างๆ  ที่ปฏิบัติตามมัซฮับหะนะฟีย์โดยส่วนใหญ่แล้ว  คือ  อินเดีย  ปากีสถาน  บังคลาเทศ  สินธุ  อัฟกานิสถาน  กลุ่มประเทศอาหรับในแถบชาม  เช่นซีเรีย  อิรัก  และกลุ่มประเทศยุโรป  ก็คือตามมัซฮับหะนะฟีย์ทั้งสิ้น

ปวงปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์

ท่านอิมามอิบนุ อัลกอซิม , ท่านอัลอัชฮับ , ท่านซั๊วะหฺนูน , ท่านอะซัด บิน อัลฟุร๊อด ,  ท่านอัซบั๊ฆฺ , ท่านอิบนุ อับดุลบัรร์ , ท่านกอฏีย์ อัลอิยาฏ , ท่านอิบนุ อัลอะรอบีย์ อัลมาลิกีย์ , ท่านอบูบักร  อัฏฏุรฏูชีย์ , ท่านอิบนุ อัลหาญิบ , ท่านอิบนุ อัลมุนัยยิร , ท่านอิบนุ รุชด์ , อัลบากิลลานีย์ , ท่านอัลบาญี , ท่านอัลกุรฏุบีย์ , ท่านอัลกุรอฟีย์  , ท่านอัชชาฏิบีย์ , ท่านอิบนุ คอลดูน , และบรรดาปวงปราชญ์อีกหลายท่านที่ถูกรวมอยู่ในตำรับตำราที่เกี่ยวกับประวัติส่วนบุคคลของมัซฮับมาลิกีย์  ซึ่งเรียกว่า  “ฏ่อบะก๊อต มาลิกียะฮ์”  นักปราชญ์เหล่านี้อยู่ในมัซฮับของอิมามมาลิกทั้งสิ้น  และท่านสามารถกล่าวได้ว่า  นักปราชญ์แห่งเมืองต่างๆ  ในกลุ่มประเทศอาหรับตะวันตกในทวีปอาฟริกา  เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 แห่งฮิจเราะฮ์  จวบจนถึงทุกวันนี้  ได้ยึดถือตามมัซฮับมาลิกีย์ทั้งสิ้น

ปวงปราชญ์มัซฮับอิมามชาฟิอีย์

ท่านอิมามอัลมุซะนีย์ , ท่านอิมามอัลบุวัยฏีย์ , ท่านอิบนุ อัลมุนซิร , ท่านมุหัมมัด บิน ญะรีร อัฏฏ๊อบรีย์ , ท่านอิบนุ สุรัยจฺญ์ , ท่านอิบนุ คุซัยมะฮ์ , ท่านอัลก๊อฟฟาล , ท่านอัลบัยฮะกีย์ , ท่านอัลค๊อฏฏอบีย์ , ท่านอบู อิสหาก อัลอัสฟิรอยีนีย์ , ท่านอบู อิสหาก อัชชีรอซีย์ , ท่านอัลมาวัรดีย์ , ท่านอบูฏ๊อยยิบ อัศเศาะลูกีย์ , ท่านอบูบักร อัลอิสมาอีลีย์ , ท่านอิมาม อัลหะร่อมัยน์ , ท่านหุจญฺตุลอิสลาม อัลฆ่อซาลีย์ , ท่านอัลบะฆอวีย์ , ท่านอัรรอฟิอีย์ , ท่านอบู ชามะฮ์ , ท่านอิบนุ ริฟอะฮ์ , ท่านอิบนุ ศ่อลาห์ , ท่านอิมามอันนะวาวีย์ , ท่านอิซซุดีน บิน อับดุสลาม , ท่านอิบนุ ดะกีก อัลอีด , ท่านอัลหาฟิซฺ อัลมุซซีย์ , ท่านตายุดดีน อัศศุบกีย์ , ท่านอัซซะฮะบีย์ , ท่านอิรอกีย์ , ท่านอัซซัรกาชีย์ , ท่านอิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์ , ท่านอัสศะยูฏีย์ , ท่านชัยคุลอิสลาม ซะกะรียา อัลอันซอรีย์ , และบรรดานักปราชญ์อีกเป็นพันๆ  ที่ไม่สามารถเอ่ยนามพวกเขาได้ทั้งหมด  และบรรดานักปราชญ์มัซฮับชาฟิอีย์ได้ถูกระบุไว้ในหนังสือ “อัฏฏ่อบะก๊อต อัชชาฟิอียะฮ์” ก็มีถึง 1419 ท่าน

ปวงปราชญ์มัซฮับหัมบาลีย์
 ท่านอิมามอาญุรรีย์ , ท่านอบู อัลค๊อฏฏอบ อัลกัลป์วาซะนีย์ , ท่านอบูบักร อันนัจญาร , ท่านอบูยะอฺลา , ท่านอัลอัษรอม , ท่านอิบนุ อบีมูซา , ท่านอิบนุ อัซซ๊อยรอฟีย์ , ท่านอิบนุ ฮุบัยเราะฮ์ , ท่านอิบนุ อัลเญาซีย์ , ท่านอิบนุ ตัยมียะฮ์ , ท่านอิบนุ รอญับ , ท่านอิบนุ รุซัยน์ , ท่านอิบนุรอญับ , และบรรดานักปราชญ์ท่านอื่นๆ อีกมากมาย  และนักปราชญ์มัซฮับหัมบาลีย์ที่ได้ถูกกล่าวไว้ในหนังสือ “อัลมักซิด อัลอัรชัด” มีถึง 1315 ท่าน


ออฟไลน์ anti-bid'ah

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 839
  • ไม่รู้ อย่าเสือกชี้
  • Respect: +29
    • ดูรายละเอียด
 salam    ที่ผมเรียนมีอยู่คนหนึ่งที่บอกชัดเจนแล้วว่า เมาลิด และอุซอลลี ทำได้  เดิมทีเขาว่ามันทำไม่ได แต่หลังจากได้พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ เขาเลยบอกว่าทำได้  แต่เขายังสงสัยเกี่ยวกับ การตีความอีก ซึ่งเขาคิดว่าห้ามการตีความ แต่เมื่อได้พูดคุยกัน เขา  บอกว่า  ช่วยจดคำถาม ที่บัง(แอนตี้อุตริกรรม)ได้ถาม ไห้หน่อย  จได้ถามผู้รู้ที่ทำไมห้ามการตีความ  แต่ผมว่าเขาคนนี้เป็นคนที่เปิดใจมากนะคับเท่าที่ผมเคยพูดคุยมา  และหวังว่าเขาจะได้เข้าใจแนวทางอัชชาอิเราะมากกว่าที่มี อาจาร บางท่านโจมตี  ขอให้เวบนี้จงเจริญ
رَبَّنَا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَكَفِّرْ عَنَّا سَيِّئَاتِنَا وَتَوَفَّنَا مَعَ الْأَبْرَارِ

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
โดยส่วนตัวแล้ว อยู่ในแนวทางมัซฮับทั้ง 4 มาแต่กำเนิดค่ะ
และคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นสายเก่า คุณพ่อออกจากบ้านตั้งแต่เด็กเพื่อแสวงหาความรู้ทางศาสนาในปอเนาะต่างๆ
ทุกวันนี้ท่านก็ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ อยู่กับหนังสือศาสนาทุกวัน ท่านมักจะบอกเสมอว่า อย่าคิดว่าความรู้ทางศาสนานั้น
เรารู้หมดแล้ว จงแสวงหาความรู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะอัลลอฮฺทรงพึงพอใจยิ่ง

แต่แล้ว ก็มีสมาชิกในบ้านคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังอยู่ในแนวทางวาฮาบี  นั่นก็คือ พี่สาวแท้ๆ
เดิมทีเค้าก็อยู่ในแนวทางสายเก่า แต่นับตั้งแต่ที่เค้าเข้าไปศึกษาต่อที่ กทม. ก็ถูกอิทธิพลของ วะฮาบี
และแล้วตอนนี้เค้าก็มีชีวิตครอบครัวกับผู้ที่อยู่สายใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น  mycry
ทุกวันนี้ เวลาคุยเรื่องศาสนาประเด็นที่เป็นคิลาฟทางโทรศัพย์ ก็จะถกเถียงกันบ่อย หาจุดจบไม่ได้สักที เป็นเพราะเขาไม่ยอมเปิดรับเหตุผลของเรา
เวลาที่เราจะยกหลักฐาน (เป็นธรรมดาของฝ่ายสายใหม่ที่มักจะหัวแข็ง) แต่พอเค้ากลับมาที่บ้าน เค้าก็ไม่ได้ต่อต้านการกระทำของเรา หรือว่ากล่าวอะไร
เวลาที่มีการจัดงานเมาลิด เพียงแต่เขาไม่เข้าร่วมเท่านั้นเอง เวลาละหมาดซุบฮี เราอ่านกูนุต แต่เขาไม่อ่าน ต่างคนต่างทำ เขาทำของเขา เราก็ทำของเรา
ไม่ก้าวก่ายกัน (เพราะเบื่อที่จะถกเถียงกันแล้ว)

ส่วนคุณพ่อนั้นเค้าออกดะวะห์บ่อย (อาจเรียกว่าตับลีฆเลยก็ว่าได้) เค้าก็บอกแค่ว่า เค้าจะไม่ตอบโต้ (ประมาณว่าคุณแม่ขอร้องงงง อิอิอิอิ)
วัลลอฮุอะลัม  อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรู้ว่าแนวทางใดที่ถูกต้อง ขอให้เราทำตามแนวทางของเราให้ดีที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 21, 2009, 10:32 PM โดย al-azhary »

ออฟไลน์ al-ciddix

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 93
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
 salam

บังbashis บอกว่า  กะปิ  แปลวว่าเคยผมเองก็เคยเฉียดกระปิครับ  อิๆๆ

ชอบกระทู้นี้มาก เพราะบางทีตัวเองก็ไม่รู้ว่าอยู่แนวไหน  แต่พอศึกษาเวปที่อื่นกลับไม่เหมือนเวปนี้ก็แปลกใจนะ 

มีครั้งหนึ่งนะ เข้ามัสยิดผิดที่  ก็นั่งงง ว่าเอ.ทำไมคนใกล้เราหลายคนหลังละหมาดอัสริ

จึงเห็นเขาไม่ยกมือและไม่ลูบหน้ากัน


ก็เลยไม่สนใจนะ เราก็ยกของเรา  แต่พอจะออกมัสยิดนี่ซิ มีคนที่เราคุ้นๆคนหนึ่งบอกว่า อย่ากระทำอะไรเลยเถิดเกินนบีเลยลูกบ่าวเอ้อ..

 hihi:เพราะอ้าม้าลใดก็ตามท่านนบีไม่ทำก็ถือว่ามันโมฆะ  และเป็นบิดอะ   ผมก็ตอบแบบยิ้มๆว่า แล้วที่อิกอมะทางไมโครโฟนนี้ละครับ 

ท่านนบีเคยกระทำไมครับ เพราะมันนก็บิดอะเหมือนกัน ถ้าดูตามนิยาม คำว่าบิดอะ   แต่การยกมือขอดุอานั้นท่านนบีก้ทำถึงแม้ว่า จะไม่ทำทุกเวลา  ก็ตาม

นานเข้าๆรู้แล้วว่า เออ... ที่นั้นเขาเป็นกมมูดอนั้นเอง วันหลังไม่เข้าไปเลยอิๆๆ   hehe
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 21, 2009, 09:18 PM โดย al-ciddix »

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
คุณสะกิด คุณไม่เสียละหมาดหลอ ??
อุตส่าจะช่วยเขา ระวัง ละหมาดคุณ แล้วกัน....

น้องบ่าว บาซีร ฝาก สลาม คุณพ่อท่านด้วย ฮี่ฮี่
วัสลาม...

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
คุณสะกิด คุณไม่เสียละหมาดหลอ ??
อุตส่าจะช่วยเขา ระวัง ละหมาดคุณ แล้วกัน....



เอ๊ะ ข้าพเจ้าคิดว่าน้องเค้าคงหมายถึงการสะกิดให้ยกมือขอดุอาอฺหลังละหมาดน่ะค่ะ ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเสียละหมาด  smile:

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
 salam
เรื่องการยกมือดุอาอุ์นี่ ผมว่าท่านศาสนทูต ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ของเราทำไว้เป็นแบบอย่าง บางครั้งท่านก็ยกมือ บางครั้งก็ไม่ได้ยกมือ
เช่น หลังกินอาหารและดื่มน้ำ กล่าวดุอาอุ์ โดยไม่ยกมือ บางครั้งยกมือสูงกว่าปกติ เช่น ในละหมาดขอฝน
เพราะฉะนั้นใครจะยกมือหรือไม่ยกมือ ก็ปล่อยไปตามการเชื่อถือของเขา การกล่าวอามีนก็เช่นกัน
เคยได้ยินจาก เอซีดี ดุอาอุ์ของอิมามท่านหนึ่งในอียิปต์ มะมูมกล่าวอามีนเสียงดังพร้อม ๆ กัน (ไม่เห็นภาพ เลยไม่รู้ว่าเขายกมือหรือเปล่า)
บางครั้งไม่กล่าวอามีน แต่กล่าวว่า ยาอัลลอฮฺ พร้อม ๆ กัน ไม่รู้อีกเหมือนกันว่า เขาส่งซิกกันอย่างไรว่า ประโยคไหนที่จะกล่าวอามีน หรือประโยคไหนจะกล่าว ยาอัลลอฮฺ
เคยเห็นคอเฏบท่านหนึ่ง ปกติไม่เคยยกมือดุอาอุ์เลย ไม่ว่าหลังละหมาด ไปซิยาเราะฮฺคนตาย หรืออื่น ๆ แต่เมื่อช่วงอเมริการุกรานอิรัค
คอเฎบคนนี้ยกมือดุอาอุ์สูง ในขณะที่จะจบคุฏบะฮฺวันศุกร์ ผู้ที่ร่วมญุมุอะฮฺ ยกมือตามกันเกือบทุกคน(มัสญิดนั้นเขาไม่ยกมือกันอยู่แล้ว)
ส่วนมัสยิดที่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นหะนะฟียะฮฺ ดุอาอุ์ในคุฏบะฮฺไม่มีการยกมือ แต่ถ้าเวลาอื่นจะให้ความสำคัญ เช่น เชิญมาเลี้ยงอาหารเนื่องในสาเหตุอะไรก็ตาม
กินอาหารเสร็จ อิมามยกมือ กล่าวว่า อัลลอฮุมมะ อามีน คนอื่น ๆ ได้ยินจะยกมือตามกันทั้งหมด บางคนยังกินไม่อิ่มด้วยซ้ำ
กลุ่มที่ดุอาอุ์โดยไม่ยกมือเลย คงจะเป็นคนกลุ่มน้อย
ทำตามที่เราเรียนรู้ เปิดใจให้กว้างเมื่อเห็นคนอื่นทำไม่เหมือนเรา ศึกษาจากผู้รู้ว่า ทำไมเราหรือเขาจึงทำไม่เหมือนกัน
หรือว่าอนุญาตให้ทำได้หลายแบบ
ยังไงก็มุสลิมด้วยกัน อย่าด่าว่ากันเลย
ไก่ขันเสียงดัง ถึงมันจะเป็นเพียงสัตว์ ท่านนะบียฺศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังไม่ให้ด่า เพราะว่ามันปลุกให้ละหมาด
นี่คนด้วยกัน กล่าวกะลีมะฮฺชะฮาดะฮฺเหมือนกัน มาว่ากันเป็นหมูเป็นหมา จะเรียกว่าตามสุนนะฮฺได้อย่างไร
และความผิดฐานละเมิดศักดิ์ศรีเพือ่นมนุษย์นั้น เป็นหักกุลอาดัม หรือหักกุนนาส  ถ้าไม่มะอัฟกัน ก็ติดตัวยันอาคิเราะฮฺ
ฟังคนแก่บ้างเด๊อ
แชมัด

 

GoogleTagged