ผู้เขียน หัวข้อ: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี  (อ่าน 10324 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 05:49 AM »
0
วัฮฮาบี คิดได้แค่นี้เองหรือ ถ้าอยากเจอผม มางานโรงเรียนมัจลิสสิ แล้วจะรอ ชวนกันมาเยอะๆนะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 06:01 AM »
0

   พวกมีทัศนะกินของสกปรกใด้ มันก็คิดได้แค่นี้แหละ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย คนที่เกิดตัวเองมามันยังด่าอยู่หน้ารามไม่เห็นกล้า fouet: fouet:

ออฟไลน์ wahaba

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 219
  • สร้างรูปร่างให้พระเจ้าคือความเชื่อของวะฮาบีและยิว
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 06:45 AM »
0
راجيس    ข้อความที่ว่า  อิลฮัม อยู่ในเวปใหนหรือครับ

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 07:24 AM »
0
   
อยู่เว็ปดลมูรีด กระดานเสวนา ส่วนข้อความ 404  มันลบออกแล้ว แต่ผมถ่ายรูปเก็บใว้ก่อนแล้ว
hihi:

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 10:31 AM »
0
whb จะกล้าไปงานมัจลิสหรอ

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 10:38 AM »
0
เมื่อไหร่จะเสนอความฉาบฉวย boulay:

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 10:39 AM »
0
อ้าวถึงบักอดัร

อ้างถึง
ผมเองเปิดโรงเรียนที่กระบี่ และแน่นอนมันสอนศาสนา คนแถบนั้นถือเป็น คณะเก่า เสียส่วนมาก แต่สิ่งที่พบคืออะไร
แม้พวกเขาจะเรียนปอเนาะกัน แม้พวกเขาจะท่องจำฮะดิสได้ แต่การกระทำของเขาช่างขัดกันกับความของเขาเสียเหลือเกิน
เช่น แอบโดนโรงเรียนไปเช่าห้องโรงแรมกันชายหญิง หรือ การแอบกินข้าวในช่วงถือศีลอด รวมทั้งดื่มเหล้า และเสพยา สารพัด
นี่คือ พี่น้องของเราสายซุนนะเก่า เราต้องยอมรับความจริงบ้าง

บังยังไม่ตอบเลยว่า เปิดโรงเรียนแบบไหน..ตาดีกา หรือเน้นศาสนา  หรือสามัญ  หรือทุกๆอย่าง ...การเปิดโรงเรียนทั้วไปนั้นแตกต่างจากปอเนาะ
เพราะปอเนาะนั้นมีบรกัตของวิชาการศาสนามากกว่า จะเทียมเท่ากับโรงเรียนที่มุงเน้นธรุกิจการตลาดนั้นไม่ได้...
บาบอของเพื่อนผม ทำงานเพื่อศาสนาทำด้วยความทุมเทและอิคลาสใจไม่มีธุรกิจแอบแฝง..สอนลูกศิษย์ในเรื่องคุณงามความดีตลอด
และจะเข้มงวดมากในหลักการของ มัสหับ ท่านห้ามที่จะปะปนหรือคละมัสหับเหมือนพวกกมมูดอ ทัศนะใหม่ เพราะมันทำให้สร้างความแตกแยก ในสังคม  ...

ประการแรก..เมื่อทัศนะที่ต่างกันได้เกิดขึ้นกับพวกเขา  แน่นอนการมีอคติกับผู้นำจะตามมา  ..ต่อไปจากการที่เคยร่วมมือในหมู่บ้านกลายเป็นการเหินห่าง และตำหนิ การแตกและแยกเข้าแถวละหมาดก็เริ่ม เป็นที่ว่าง..มากขึ้นๆจนกลายเป็นการแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่าในสังคมตรงนั้น

 smile:การบังกอดัรอ้างสถาบันแปอเนาะโดยการโยงกับมารยาทหรือนิสัยเด็กบางคนนั้นถือว่า ขาดความรอบคอบคับ
สถาบันใดก็แล้วแต่ จะสอนให้เด็กดีแต่..การกระทำของเด็กบางคนนั้นจำต้องแยกแยะ จะเหมารวมว่า แม้เด็กที่จบจากปอเนาะยังมีนิสัยอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้.

.แม้กระทั่งสถาบันธุรกิจที่แอบแฝงในเชิงศาสนาบางหน้า ก็ใช่ว่ามันจะดีไปกว่าปอเนาะ

แต่อย่างน้องปอเนาะนั้นคือสถานที่ไม่มีความเจือปนผลประโยชน์ใดๆไม่ เหมือนสถาบันบางโรงเรียนที่มุ่งเน้นธรุกิจจนลืมความอิคลาสใจในการทำงาน...

อ้างถึง
อย่างไรก็ดี ทางโรงเรียนเคยให้ คนที่จบมาจาก มะดีนะ ชารีอะ มา บุคคลสายวะฮะบี คนนี้ก็ค่อนข้างแข็งเกินไป
เขากล่าวว่า ( สอนตามแนวทางวะฮะบี ) ทำให้ นักเรียนของโรงเรียน นั้นลาออก หรือไม่เข้าเรียน ( เนื่องจากไปปรึกษาผู้ปกครอง ) เป็นหลายสิบคน

ทั้งนี้ เราจะโทษใคร ? โทษแค่แนวทาง สายวะฮะบีนั้น ทำให้แตกแยก หรือ ?
จะโทษที่ สายเก่า แบบเรานั้น สอนกันไม่เป็นโล้เป็นพาย มากกว่า ?

มองให้รอบด้าน เราต้องปรับปรุงของเรา ก่อน
หากของเราแข็งแกร่ง มีความรู้ดี ละหมาดครบ 5 เวลาได้ ไม่ซินา ไม่กินเหล้า
เรื่องแบบนี้ ( การถูกชักจูงจากวะฮะบี) เรื่องที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง จากความไม่เข้าใจ ก็จะหมดไป

  Oops:เคยบอกบังแล้วว่า บางครั้งเราต้องมองหลายๆด้าน   บุคลากรที่จบมาจากสถาบันเหล่านี้นั้น  ก็ใช่ว่าจะมุ่งสอนตามแนววาฮาบียะไปซะทุกคน  
แต่ถ้าหากว่า เป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง..ผู้สอนต้องรุ้ ด้วยว่าสถาบันตรงนี้ เขาต้องการอะไร..การที่เอาแนวทางอื่นมาบอกกล่าวนั้นถือ
ว่ายังพอรับได้..แต่การที่จะมาสอนเรื่องอากดะและฟิกฮ์ซุนนะวาฮาบีแล้วบอก..การกระทำเช่นนั้นไม่ถูกต้องหรือฮาดิสดออีฟจำต้องให้ละทิ้งหรือชี้แนะว่า
การกระทำอย่างนั้นที่ผ่านมาในเจ้าของมัสหับนั้นทัศนะนี้ผิดพลาดโดยเอาแนวทางที่ตนตักลีดเข้ามาเผยแพร่นั้นถือว่า ไม่ถูกต้อง..เพราะมันคือต้นเหตุฟิตนะ.
.ก็ในเมื่อบังกอดัรว่า วาฮาบียะ(ทัศนะใหม่)เรียกร้องไปสู่ซุนนะ

 frownผมถามว่าแล้ว มัสหับเหล่านั้นเรียกร้อง ..ออกจากซุนนะหรือไรคับ..หรือว่า..ซุนนะทั้ง4เป็นของปลอมกระนั้นหรือ...

อ้างถึง
ทุกวันนี้ จะมีซักกี่คน ที่จะตอบปัญหา งานเมาลิดได้
เมาลิด มีหรือไม่ เราจะตอบว่า มี เป็นซุนนะ นบี
งานเมาลิด แบบประเทศไทยจัด บิดอะ หรือไม่ เราก็จะตอบว่า บิดอะฮะซานะ
แล้ว บิดอะดอลาละ ตกนรก หรือไม่ เราก็จะตอบว่า บิดอะดอลาละ เป็นโมฆะ

แนวทางของซุนนะ แบบของนบี ไม่ว่าใคร
เราอาจจะพูดคุยได้ในบางเรื่องเท่านั้น
ส่วนเรื่องลึกๆ ไว้คุยกันวงเล็ก ที่ไม่ใช่ที่สาธารณะจะดีกว่า

แล้วที่วาฮาบียะเรียกร้องทางสื่อต่างๆให้ละทิ้ง มัสหับต่างๆขเองสลัฟ ที่ดำเนินตามกีบุลลอฮ์และซุนนะบีเช่นกันละครับพวกเขากล่าวหานั้นหมายถึงใคร…บังกอดัรอย่าได้มองว่า พวกเขาถูกต้องทุกอย่างซิคับ....
ผมถามว่า...ก่อนไม่มีวาฮาบีในบ้านเมืองเรานั้นเราเคยขัดแย้งกันกันไหม....
เช่นเดียวกัน  บังกอดัรตอบได้ไหมว่า ในอดีต การขัดแย้งกันกับอุลามะมัสหับต่างในซาอุดี้จนเกิดการเข่นฆ่าและมุ่งร้ายต่อกันนั้น
จุดเริ่มต้น นั้น มันเกิดพร้อมกับบุคคลที่ชื่อมุฮำมัดบินอับดุลวาฮาบ..ที่กษัตริย์ซาอุดสนับสนุนอุดมการณ์นี้ใช่หรือไหม.....
และต้นตอนี้และแพร่ขยายไปกว้างกลุ่มมัสหับเก่า ไม่ว่า  อินเดีย ปากี อินโด  มาเล สิงคโปร ฟิลิปินและไทยแลนด์.....

ตราบใดที่เราไม่เปิดเผยหรือรุกฆาตกลับให้สาธรณะหรือสังคมรับรู้การกระทำของเขาบ้าง...ก็อย่าหวังว่า ..เขาจะหยุด...การกระทำที่ตัวเองตะอัศซสุบเลย

..และถ้ามีคนมีความคิดเช่นบังกอดัรด้วยแล้วก็อย่าหวังว่า ...ว่าสังคมมัสหับทั้ง4จะคงอยู่ได้..ตลอดรอดฝั่ง  เพราะขนาดบังกอดัรเองก็ยังมองแค่ผิวเผินภายนอก
แล้วนับประสาอะไรกับคนเอาวามที่พวกเขาแยะแยะไม่ออกอะไรเลย



อ้างถึง
...ส่วนเรื่อง ฟิก ฉาบฉวย ของวะฮะบี นั้น ผมเอง เรียนรู้มาพอสมควร
ซึ่งจะช่วยนำเสนอให้ได้ แต่ขออย่างเดียวว่า เราอย่าหาว่าเขาขโมย อะไรจากคนอื่นเลย
เขาไม่ได้ขโมยอะไร หรอก เพียงแต่เขานิยม เลือกใช้ทรรศนะ ตามที่ตัวเองนิยมชมชอบ
เรื่องเหล่านี้ ไม่เป็นปัญหา แต่อย่างใด
แต่ปัญหาอยู่เพียงแค่ว่า การเลือกตามที่ตัวเองนิยมชมชอบนั้น กลับเป็นแนวทางซุนนะนบี ไปได้ ( และเป็นทั้งหมดที่เลือก )

หากเราจะกล่าวว่า ฟิกของ สายซุนนะแบบใหม่นี้ เป็นมาอย่างไร ก็ให้กล่าวในเรื่องทรรศนะที่เขาเลือกแล้วขัดกัน
แต่ไม่กล่าวว่า เขาขโมย หลักฐานของผู้อื่น แต่อย่างใดจะเป็นการดียิ่ง

หวังว่าพี่น้องคงเข้าใจในเจตนารมณ์ของผม


จริงๆแล้วจเรียกว่าขโมยหรือฉกฉวยหรือฉาบฉวย ก็ไม่แตกต่างกัน  เพราะ จุดมุ่งหมายคือ การที่..แอบเอาฟิกฮ์ของหลักการบางทัศนะที่ตนพอใจมาใช้บางส่วน

 โดยที่ไม่ได้ดำเนินตามเจ้าของทัศนะทั้งหมด...เขาเรียกว่า คละกันเพื่อให้มันเป็นรูปร่าง..

เช่น ..มัสหับฮานาฟี    

 เรื่องการทำกรุบาน วายิบ.จำเป็นที่มุสลิมทุกคนต้องกระทำ..จากการวินิจฉัยของท่านจากอัลกรุอ่านและอัชซุนนะ..
แต่..พวกเขาคณะใหม่มักใช้ฟิกฮ์แบบฉกฉวยว่า.....ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้เพราะมัสหับชาฟีอีบอกว่าเป็นแค่สุนัตมุอักกัต.....
ตรงนี้และอุลามะเขาบอกว่า การตัลฟีก..หรือฉกฉวยแบบฉาบฉวยเพราะคละทัศนะกัน..โดย...ส่วนมากบรรดาผู้ที่รู้ในกลุ่มนี้มักกระทำแบบนี้..

.ประเด็นมันอยู่ที่ว่าแล้วคนเอาวามละจะทำอย่างไร..ในเมื่อพวกเขาตักลีดโดยไม่รู้ที่มาของมันเหมือนโตะครูคณะใหม่บางท่าน
เรื่อง การเสียน้ำละหมาด...เริ่มแรกพวกเขาอาบน้ำและตัรตีบตามมัสหับชาฟีอี แต่พออารมณ์ต้องการกับภรรยาตนเองก็เลี่ยงมัสหับด้วยเหตุผลว่า

 ..ตามมัสหับฮานาฟี.....สามารถจะกระทำนั้นกระทำนี้ได้ไม่เสียน้ำลัหมาด นอกจากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้นที่เสียน้ำละหมาด แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า

 ฟิกฮ์ฉกฉวยหรือฟิกฮ์ฉาบฉวยได้อย่างไร..

เ รื่อง การอ่านอัลกรุอ่าน ในขณะที่มีฮาดัส ...เริ่มแรกพวกเขาอาบน้ำและตัรตีบตามมัสหับชาฟีอี..ซึ่งห้ามอ่านหรือจับอัลกรุอ่าน..แต่เมื่ออารมณ์
 ต้องการก็ยึดทัศนะของอีม่ามมาลิก.....แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าฟิกฮ์ฉกฉวยหรือฟิกฮ์ฉาบฉวยได้อย่างไรคับ..

 :laugh:ทำไมเราไม่กลับไปดูเงื่อนไขของนักปราชญ์ฟิกฮ์กันบ้างว่าเขาเข้าใจกันอย่างไรในเรื่องนี่...

การตามมัซฮับอื่นจากมัซฮับทั้งสี่

สิทธิส่วนบุคคลของมุสลิมในการตามมัซฮับหนึ่งมัสหับใดที่ไม่ใช่มัซฮับทั้งสี่นั้น  ต้องมีเงื่อนไขดังนี้ natural:

1. มัซฮับที่เขาต้องการตักลีดตาม  ต้องเป็นมัซฮับที่อนุญาตให้ตามได้   ดังนั้น  ถือว่าใช้ไม่ได้ในการตักลีดตามมัซฮับชีอะฮ์หรือมัซฮับอิบาฏีย์เป็นต้น

ถามมว่า...คนเอาวามในวาฮาบียะหรือกลุ่มคณะใหม่รู้สิ่งนี้หรือไม่

2. เขาจะต้องรู้มัซฮับของอิมามที่เขาจะตาม  เช่นต้องการจะตามมัซฮับของซอฮาบะฮ์  ตาบิอีน  หรือต้องการตามมัซฮับของอิมามอะห์ลิสซุนนะฮ์แห่งเมืองชาม  เช่น  ท่านอิมามอัลเอาซฺะอีย์  ท่านอิมามอัษเษารีย์  ท่านอิมามอบูษูร  ท่านอิมามซุฟยาน บิน อุยัยนะฮ์  และอิมามท่านอื่นๆ

ถามว่า...ปัจจุบันนี้คณะใหม่ที่เขาตัลฟีกมัสหับนั้น เขารู้ละเอียดทุกอย่างในมัสหับที่เขาคละแล้วยัง
หรือว่าเขามักง่ายโดยการฉกฉวยเลือกเอาที่มันพอใจกับนัฟซู


3. มัซฮับที่เขาต้องการตัดลีกตามนั้น  ต้องมีการกระบวนการถ่ายทอดจากสายรายงานของผู้มีคุณธรรมและความจำดี

ถามว่า..หลายๆอย่างที่เขาตัลฟีกหรือคละตามอุลามะที่เขาตักลีดตามนั้น  มีการกระบวนการถ่ายทอดจากสายรายงานของผู้มีคุณธรรมหรือไม่และอุลามะใดบ้างรับรอง

4. เขาต้องรู้รายละเอียดประเด็นปัญหาหนึ่งๆ  หรือประเด็นปัญหาต่างๆ  ที่เขาทำการตักลีดตาม  และต้องทราบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนั้นๆ  ที่อยู่ในมัซฮับของอิมามที่เขาจะตาม

ถามว่า คณะใหม่ที่เขาตัลฟีกมัสหับนั้น เขารู้ละเอียดทุกอย่างในมัสหับที่เขาคละแล้วหรือยัง

5. หากเขาต้องการตักลีดตามอิมามมากกว่าหนึ่งคน  ก็ต้องมีเงื่อนไขว่า  เขาต้องไม่ทำการตัลฟีก(คละปนมัซฮับ) กับประเด็นหนึ่งๆ  ที่ไม่เคยมีมาก่อน  ตัวอย่างเช่น  เขาต้องการตักลีดตามอิมามมาลิก(ร.ฮ.) ในฮุกุ่มที่สุนัขไม่เป็นนะยิส  และเขาก็ต้องการตักลีดตามอิมามชาฟิอีย์(ร.ฮ.)ในฮุกุ่มที่ถือว่าใช้ได้ในการ เช็ดบางส่วนของศีรษะในการอาบน้ำละหมาด  ดังนั้น  ในการตักลีดตามในรูปแบบดังกล่าวนี้  เป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยความเห็นพร้องกันและบางทัศนะบอกว่ามันเป็นมติของปวง ปราชญ์  เนื่องจากว่า  หากเขาได้ทำการละหมาดตามสภาพดังกล่าวนี้  แน่นอนว่า  อิมามทั้งสองจะต้องตัดสินว่า  การละหมาดของเขานั้นเป็นโมฆะ  กล่าวคือ  อิมามมาลิกตัดสินว่าการละหมาดของเขาใช้ไม่ได้เพราะเขาเช็ดศีรษะเพียงเส้นผม สองหรือสามเส้นเท่านั้นโดยที่ไม่เช็ดให้ทั่วศรีษะ  ส่วนอิมามชาฟิอีย์จะตัดสินว่า  การละหมาดของเขานั้นใช้ไม่ได้เพราะเสื้อผ้าและร่างกายของเขาไปสัมผัสกับนะ ญิสสุนัข

ดังนั้น  เมื่อบรรดากฎเกณฑ์ต่างๆ  ทั้งห้าข้อมีอยู่ครบสมบูรณ์  แน่นอน อิบาดะฮ์ของคนมุก๊อลลิดและการทำธุรกิจค้าขายของเขานั้น  ย่อม   มีความถูกต้องและใช้ได้  

แต่หากว่ากฏเกณฑ์เหล่านั้นบกพร่องหรือมีบางส่วนบกพร่องลงไป  แน่นอนว่า  อิบาดะฮ์ของเขาย่อมใช้ไม่ได้และจำเป็นต้องชดใช้อย่างเร่งด่วน
ทุกๆ  ประเด็นเหล่านี้  บรรดานักปราชญ์ได้กล่าวบ่งบอกไว้ในบรรดาหนักสือมูลฐานนิติศาสตร์อิสลาม(อุซู ลุลฟิกห์)  และท่านอิบนุหะญัร  อัลฮัยติมีย์(ร.ฮ.) ได้รวบรวมสิ่งดังกล่าวไว้อย่างดีในหนังสืออัลฟะตาวา อัลฟิกฮียะฮ์ อัลก๊อบรอ  เล่ม 4 หน้า 326    


ผมอยากให้บังกอดดัรเอาหัวข้อดังกล่าวไปถามว่าฮาบียะหรือคณะใหม่ด้วยว่า  เข้าใจและยอมรับเงื่อนไขนี้อย่างไรหรือไม่...

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 11:08 AM »
0
โรงเรียนสอนพิเศษวิชาดาราศาสตร์
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ wahaba

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 219
  • สร้างรูปร่างให้พระเจ้าคือความเชื่อของวะฮาบีและยิว
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 06:02 PM »
0
เห็นด้วยกับท่าน อัล-อุม (เป็นครั้งที่สอง)  การยึดถือหลักการศาสนาตามนัฟซูของวะฮาบีนั้น ยิ่งกว่า คำว่าฉาบฉวยเสียอีก fouet:

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 02:49 AM »
0
อัลอุม คงจะ อ่านไม่เข้าใจ และพยายาม จะวิจารณ์ ทุกคห ที่ผมนำเสนอ
มาชาอัลลอฮฺ ไม่ไหวจะพิมพ์ เพราะผมไมได้มาเถียง แต่มาตักเตือน
จำไว้เถิดว่า ผมตักเตือนตามหน้าที่ก็แล้วกัน

ส่วนเรื่อง รร นั้น ผมไม่เห็นว่า มีคนถามอะไร
แต่ก็ขอตอบดังนี้ รร ที่เปิดเอง เป็นรร สายสามัญ แต่เด็กที่เข้ามานั้น มาจากปอเนาะ
อาจารย์ผู้รู้ที่ดูแล ชื่อ อาจารย์ซาฟีอี ( ครูอี ) ที่เป็น กรรมการตัวแทนของจังหวัดกระบี่
ปอเนาะของท่านมีลูกศิษย์มากมาย ครั้นจะกล่าวได้ว่า ปอเนาะสอนให้ลูกศิษย์ดี แต่ลูกศิษย์ไม่รักดี
แต่เรากลับมาดูอีกทีว่า บางครั้งลูกศิษย์นั้น ไม่รักดี เพราะสังคมแบบเก่าเป็นอย่างไร

สังคมแบบเก่า เอื้อที่จะทำให้เกิดการแบ่งแยกมากกว่าสร้างความเข้าใจ
แน่นอน มันเป็น อีโก้ ของทั้ง สายซุนนะใหม่ และเก่า มีด้วยกันทั้งนั้น
ทั้งนี้แล้ว บุคคลที่จะลดอีกโก้ และพยายามที่จะเข้าใจทั้งสองฝ่ายนั้นไม่มี
แล้วเมื่อไหร่ พี่น้องมุสลิมจะรวมตัวกันได้หรือ

การต่อสู้ ไม่จำเป็นต้องแรงตอบหาเขาแรงมา
วัสลาม...

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 02:57 AM »
0
   
No. : 404
ข้อความ:  ใครรู้จักนายอิลฮามแห่งเว็ปสติวเด้นบ้าง ใอ คนนี้ปากจัดและปากเสียหยาบคายจริงๆ มันโพสว่า วัฮฮาบี ไม่เห็นมาเดินขบวนงานตากใบนี้สักตัว เชี่ยเอย และเวลาพาดพิงถึงอ มูรีด เรียก อ มูรีดยังกะไม่ใช่อาจารย์ อย่างกับมันอายุแก่กว่า  ทั้งที่ อ ก็เป็นผู้รู้  มีความอวุโสมากกว่ามัน  อยากเจอหน้ามันจริงๆ
ผู้ส่ง:    กาฟ : IP : 124.120.241.200
วันที่ส่ง: 26/10/2552 2:03:11
No. : 410
ข้อความ:    ผม ว่าเราอย่าใส่ใจเลยครับ เวบบอร์ดดังกล่าวไม่ค่อยมีคนเข้าเพราะเรารู้เเล้วว่าพวกเขาไม่บริสุทธฺใจต่อ การทำงานศาสนา พวกเรามาทำงานศาสนามากๆ ดีกว่าถ้าหากว่าการที่เป็นอาชายเราะฮฺเเล้วเป็นแบบที่เขาเป็นอยู่เเล้วล่ะก็ ผมขอปฎิเสธคนนึงล่ะ เราเรียกร้องเรื่องตากใบ อาจารย์ต่างๆก็พูดเรื่องการทวงคืนความยุติธรรของตากใบอยู่บ่อยๆ คนของอาชายเราะเองต่างหากที่เห็นดีเห็นงามในเรื่องกรือเซะ ไม่เชื่อถามจุฬาดูสิครับ
ผู้ส่ง:    ภูมิในในวาฮาบี(ซุนนะฮฺ) : IP : 61.91.204.92
วันที่ส่ง: 26/10/2552 12:27:24
No. : 406
ข้อความ:    ILHAM จบจาก ร.ร........วิทยา ยะลา แหล่งผลิตพวกชาตินิยมมลายู แอนตี้วะฮาบีย์(ซุนนะฮฺ) ตอนนี้เรียนอยู่ธรรมศาสตร์ เด็กเมื่อวานซืน ไร้มารยาท
ผู้ส่ง:    เกลียดพวกไม่มีสมอง : IP : 125.25.114.194
วันที่ส่ง: 26/10/2552 6:22:53



อยู่ๆก็มีคนเอาบุญมาให้น่อ

อิอิ

วันอาทิตย์นี้เรอะ 5555555 hihi:

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 12:11 PM »
0
อัสสลามุอลัยกุม

                     เท่าที่ผมติดตามการเคลื่อนไหวของสังคมมุสลิมในเมืองไทยและหลังๆ ก็เริ่มติดตามจากที่อื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะที่ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียระหว่างคณะเก่าและคณะใหม่มานั้น ผมเริ่มจะมองเห็นถึงเชื้อความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคณะข้างต้นบ้างแล้ว ตอนนี้ยังถือว่าลางๆ อยู่สำหรับผม เพราะเป็นการสังเกตด้วยตนเอง บวกกับได้ฟังและพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะจากทั้งสองคณะในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องฟิกฮฺในชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องละหมาด เป็นต้นและปัญหาคิลาฟิยะฮ์ที่กำลังถกเถียงกันอยู่นี้ ซึ่งเชื้อแห่งความขัดแย้งตามความเข้าใจของผมนั้น น่าจะเป็นเช่นนี้

                      (๑) ความเกินเลย ลักษณะข้อนี้นั้น มีให้เห็นจากทั้งสองฝ่ายเท่าๆ กัน แต่เป็นการแสดงออกที่เป็นไปคนละทิศละทาง กล่าวคือ ฝ่ายหนึ่งละหลวมเกินไป และอีกฝ่ายหนึ่งยึดติดเกินไป ในเรื่องการยึดถือมัฑฮับ ทำให้ดูเหมือนว่า ทั้งสองฝ่ายเมื่อมาอยู่ด้วยกันจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกันทุกเมื่อ และทั้งสองฝ่ายต่างก็มีจุดสังเกตอีกฝ่ายหนึ่งว่าคนนี้คนนั้นเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ และเมื่อทราบชัดเจน ก็มักจะตีตัวออกมาจากฝ่ายตรงข้ามเสีย และเมื่อมีการถามถึงเหตุผล ก็มักจะแสดงอาการด้วยกับเงียบ หรือไม่ก็ตอบโต้อย่างรุนแรง น้อยคนนักที่จะหันหน้ามาเสวนากันดีๆ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นกับสังคมมุสลิมเราในปัจจุบัน และมีให้เห็นในทุกวัย และระดับบุคคลด้วย ไม่เว้นแม้แต่ระดับผู้รู้ของแต่ละฝ่ายด้วย

                       (๒) การตัลฟี๊กเพื่อสนองความมักง่ายของตน หากเราได้ศึกษาในตอนท้ายของเนื้อหาวิชา “อุศูลุลฟิกฮฺ” แล้ว ก็จะมีการกล่าวถึงเรื่องการ “ตัลฟี๊ก” หรือการ “คละทางทัศนะในเรื่องเดียวกัน” ซึ่งแน่นอน การแสดงทัศนะว่าได้, ไม่ได้ หรือดูปัจจัยก่อนนั้น มีปรากฏให้เห็นแทบจะทุกประเด็นในทางฟิกฮฺ และเรื่องตัลฟี๊กนี้ก็อยู่ในข่ายข้างต้นนี้เช่นกัน ซึ่งแต่ละทัศนะนั้นต่างก็มีเหตุผลและหลักฐานมาสนับสนุนทัศนะของตนแทบทั้งสิ้น ซึ่งไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดในส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตการณ์ก็ปรากฏว่า ฝ่ายที่แสดงทัศนะว่าการตัลฟี๊กเป็นสิ่งที่กระทำได้แม้ในเรื่องอิบาดะฮ์ก็ตามนั้น จะเป็นทัศนะของฝ่ายคณะใหม่ (ผู้ไม่ยึดมัฑฮับใดเป็นการเฉพาะ) และฝ่ายที่บอกว่าไม่ได้นั้นจะเป็นของคณะเก่า (ผู้ยึดมัฑฮับเป็นการเฉพาะ) แท้จริงนั้น แม้ทั้งสองจะเห็นต่างกันคนละทิศละทาง แต่ฝ่ายที่ว่าได้ ก็มีเงื่อนไขชัดเจนว่า การตัลฟี๊กนั้น ผู้กระทำจะต้องรู้ถึงทัศนะที่ตนจะตัลฟี๊กด้วย และจะต้องไม่กระทำเพื่อสนองความมักง่ายของตน ในขณะฝ่ายที่ว่าไม่ได้ ก็ให้เหตุผลพอสรุปได้ว่า เพราะแต่ละทัศนะนั้นจะมีความแตกต่างกันที่บางครั้งนำมารวมกันไม่ได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้สิ่งที่ได้และไม่ได้รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน จึงสมควรเลือกกระทำตามทัศนะใดทัศนะหนึ่งเป็นการเฉพาะเสีย นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นการเลี่ยงจากการแสวงหาความมักง่ายจากการคละทางทัศนะในเรื่องเดียวด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การทำเป็นเล่นในเรื่องศาสนา ดังกล่าวนี้ ทำให้พี่น้องของเราบางท่านที่ไม่เข้าใจหลักการตัลฟี๊กอย่างดีพอ ก็ได้ฉวยโอกาสตรงนี้มาใช้เพื่อสนองความมักง่ายของตนเองอย่างไม่น่าให้อภัย แล้วยังตอบแบบหน้าด้านๆ ว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ ไม่ได้สั่งให้ยึดทัศนะใดเป็นการเฉพาะนี่! เพราะฉะนั้น ฉันจะยึดทัศนะใด มันก็ย่อมได้” ซึ่งลักษณะพฤติกรรมเช่นนี้นั้น ทำให้ภาพลักษณ์ของฝ่ายที่ว่าการตัลฟี๊กสามารถกระทำได้นั้น ได้รับความเสียหายอย่างมาก และนำมาซึ่งการถูกโจมตีจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ในลักษณะเหมารวม ดังนั้น ปัญหาก็คือว่า สิ่งที่เรากล่าวกันว่าผิดนั้น หมายถึงหลักการ หรือตัวบุคคลกันแน่? เพราะทุกฝ่ายต่างก็อ้างกิตาบุลลอฮฺและสุนนะฮ์ด้วยกันทั้งสิ้น

                         (๓) ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามตน ลักษณะเช่นนี้ มีให้เห็นจากทั้งสองฝ่ายเท่าๆ กันเช่นเดียวกัน และดูเหมือนเป็นความปรารถนาที่มีอยู่ในจิตใจของแทบทุกคน ต่างแค่เพียงความชัดเจนในการแสดงให้เห็นมากน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง เราอาจจะเปรียบความปรารถนาเสมือนกับแรงขว้างลูกเทนนิสไปยังฝาผนัง กล่าวคือ ยิ่งท่านขว้างไปแรงเท่าใด นั่นก็หมายถึงความปรารถนาของท่านก็มีมากเท่านั้น ท่านลองคิดดูสิว่า คนที่ไม่มีทักษะในการขว้าง เมื่อได้ขว้างไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับเขา แน่นอน บางคนก็อาจจะโดนลูกเทนนิสนั้นกระโดนกลับมาตนเองอย่างแรง จนอาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ คนที่ไม่มีทักษะนี้ ก็เปรียบเสมือคนที่ไม่มีทักษะในการด๊ะวะฮ์ และฝาผนังก็เหมือนบุคคลเป้าหมายที่เราต้องการจะด๊ะวะฮ์เขา ดังนั้น เมื่อท่านขว้างความปรารถนาของท่านไปแรงเท่าใด ผลที่จะส่งกลับมายังท่านก็จะแรงเท่านั้น และผลที่จะถูกส่งกลับมายังท่านจะอยู่ในรูปแบบใด และท่านจะสามารถรับมือกับมันได้ไหมนั้น สิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ “ทักษะ” ของแต่ละคนเป็นการเฉพาะ ผมเชื่อว่า สำหรับมุสลิมทุกคนนั้น ทักษะที่ดีที่สุดที่เขาควรนำมาปฏิบัติตามก็คือ ทักษะการด๊ะวะฮ์แบบท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ อินชาอัลลอฮฺ เขาจะพบกับความสุขในการงานด๊ะวะฮ์ครับ

                            หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับปัญญาชนมุสลิมทุกท่านนะครับ

วัสสลามุอลัยกุม
Al Fatoni
1 - 11 - 1430
1 - 11 - 2009
Di SKA, Pekanbaru, Riau, Indonesia
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 12:20 PM โดย Al Fatoni »
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ wahaba

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 219
  • สร้างรูปร่างให้พระเจ้าคือความเชื่อของวะฮาบีและยิว
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 01:13 PM »
0
 salam  fatoni  ตอนนี้อยู่อินโดนีเซีย หรือครับ

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 01:48 PM »
0
อ้างถึงบังกอดัรด
อ้างถึง
อัล-อุม คงจะ อ่านไม่เข้าใจ และพยายาม จะวิจารณ์ ทุกคห ที่ผมนำเสนอ
มาชาอัลลอฮฺ ไม่ไหวจะพิมพ์ เพราะผมไมได้มาเถียง แต่มาตักเตือน
จำไว้เถิดว่า ผมตักเตือนตามหน้าที่ก็แล้วกัน
ส่วนเรื่อง รร นั้น ผมไม่เห็นว่า มีคนถามอะไร
แต่ก็ขอตอบดังนี้ รร ที่เปิดเอง เป็นรร สายสามัญ แต่เด็กที่เข้ามานั้น มาจากปอเนาะ
อาจารย์ผู้รู้ที่ดูแล ชื่อ อาจารย์ซาฟีอี ( ครูอี ) ที่เป็น กรรมการตัวแทนของจังหวัดกระบี่
ปอเนาะของท่านมีลูกศิษย์มากมาย ครั้นจะกล่าวได้ว่า ปอเนาะสอนให้ลูกศิษย์ดี แต่ลูกศิษย์ไม่รักดี
แต่เรากลับมาดูอีกทีว่า บางครั้งลูกศิษย์นั้น ไม่รักดี เพราะสังคมแบบเก่าเป็นอย่างไร
สังคมแบบเก่า เอื้อที่จะทำให้เกิดการแบ่งแยกมากกว่าสร้างความเข้าใจ
แน่นอน มันเป็น อีโก้ ของทั้ง สายซุนนะใหม่ และเก่า มีด้วยกันทั้งนั้น
ทั้งนี้แล้ว บุคคลที่จะลดอีกโก้ และพยายามที่จะเข้าใจทั้งสองฝ่ายนั้นไม่มี
แล้วเมื่อไหร่ พี่น้องมุสลิมจะรวมตัวกันได้หรือ

มาชาอัลลอฮ์  บังกอดัร..เอง ก็เข้าใจผมพลาดเช่นกัน  ผมไม่ได้เจตนาตอบโต้..ในสิ่งที่บังพูดแบบคำต่อคำเลย
ผมจะเลือกชี้แจงในส่วนที่ความรู้สึกของผมกับบังที่มุมมองแตกต่างกันเท่านั้น.โดยไม่มีอคติใดๆ..แต่ขอจง..
อย่าได้เข้าใจว่าสิ่งบังนำเสนอทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งถูกต้อง..และทุกคนจะเห็นด้วย..เช่นเดียวกัน.การที่บังกอดัร
มองว่า วาฮาบีหรือกลุ่มคณะใหม่นั้นมีนิสัยดีน่าคบและเป็นมิตร..นั้นมันเป็นความรู้สึกเฉพาะบังเองเท่านั้น แต่บัง
จะเอาความรู้สึกของผมและคนอื่นๆมาวัดหรือเห็นด้วยกับบังนั้นถือว่าเป็นเรื่อง..เป็นไปไม่ได้...เพราะความรู้สึกที่
ผมได้รับนั้นมันแตกต่างทั้งสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศรวมทั้งปัจจัยภายในและถายนอกด้วย
สำหรับประเด็นที่ผมตั้งกระทู้นี้คือมา เรื่องฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี..บังก็หาว่า..ผมหมกหมุ่น..แต่วาฮาบี..และ
มองวาฮาบีเป็นสิ่งเลวร้าย...
แต่เอาเถิดครับ..ไหนๆบังกอดัร ก็ออกมาคัดค้านผมตั้งแต่แรกๆแล้วทั้งๆที่ผมยังไม่เริ่มกระทู้.ใดๆเลย..และผมก็
บอกทุกคนและที่นี้ว่า เพื่อเห็นแก่บังกอดัร ผมจะหยุดเสนอในสิ่งเหล่านั้นเพื่อให้บังกอดัรสบายใจและผมถือ
ว่า บังก็คือคนนหนึ่งที่อยู่ในมัสหับเดียวกับผม..และเพื่อให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้เข้าใจด้วยว่า..ผมไม่มีอคติ
ใดๆกับบังและกลุ่มดังกล่าว..แต่ทีผมตั้งประเด็นนี้ขึ้นมา แค่เพียงที่จะให้พี่น้องของเราได้รับรู้บ้างว่า..วาฮาบียะ
หรือกลุ่มคณะใหม่นั้น..เขาไม่เคยคิดว่า..กลุ่มมัสหับทั้งหลายนั้นเป็นชาวซุนนะเหมือนพวกเขาและไม่เคยให้
เกียรติกับมัสหับทั้ง 4 พวกเขาจะเลือกหยิบฉวยใช้เฉพาะ..สิ่งที่ตนพอใจ..โดยไม่สนใจว่า..เจ้าของสำนักฟิกฮ์
นั้น กว่ามีความยากลำบากแค่ไหน กว่าที่เขาจะอิตญฮาด และผ่านการมุตะญฮิด ออกมาหลักการต่างๆนั้น พวก
เขาใช้ความพยายามสักเท่าใด..แต่กลุ่มวาฮ่าบียะจากกลุ่มวาฮาบี..กลับฉกฉวยเลือกใช้เฉพาะประเด็นฟิกฮ์..สิ่ง
ที่ถูกต้องกับทัศนะของตนยืนอยู่  เท่านั้น สิ่งไหนที่ไม่ตรงกับทัศนะตนเอง ก็พยายามโจมตี และกล่าวหาและ
พยายามกระทำให้เป็นฮาดิสดออีฟ.. ซึ่งพี่น้องของเราได้นำเสนอประเด็นต่างในเชิงฟิกฮ์..มากมายในกระทู้
ต่างๆและผมจะไม่พูดเลยครับว่า. .ถ้าหากว่ากลุ่มวาฮาบี..เอาฟิกฮ์ ของอีม่าม ฮัมบาลีจริงๆตามบังกอดัรเข้าใจ
นั้น.. อิงชาอัลลอฮ์.ความวุ่นวาย
ในทุกวันนี้คงจะไม่มี และการฮูกมต่างๆของแต่ละทัศนะก็คงจะไม่เกิดฟิตนะจากพวกเขาจวบจนวันนี้หรอก..
แต่เป็นเพราะพวกเขาปฏิเสธมัสหับเพราะเจ้าของมัสหับนั้นคือต้นแบบของหลัการฮุกมต่างๆในด้านฟิกฮ์..

ออฟไลน์ อัล-อุม

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 92
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฟิกฮ์ฉาบฉวยของวาฮาบี
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 01:53 PM »
0
อ้างถึงบังกอดัร
อ้างถึง
แน่นอน มันเป็น อีโก้ ของทั้ง สายซุนนะใหม่ และเก่า มีด้วยกันทั้งนั้น..

ใช่ครับ แต่ใครละเป็นตัวสร้างegoแรงเสริม ขึ้นมาก่อน..ถ้าไม่ใช่กลุ่มวาฮาบียะที่ตะอัศสุบ..ซึ่งมีทั่วหลายประเทศ..ที่มีลักษณะเช่นนี้..
ตราบใดที่พวกเขาไม่ยึดฟิกฮ์ของมัสหับหนึ่งมัสหับใดก็อย่าคิดว่า ความสงบจะหมดไป..และพวกเราก็คงโดนฮุกมลงนรกอยู่อย่างนี้
จนกียามัต...
สุดท้ายนี้.ผมอยากให้บังกอดัรกระทู้เสวนาต่างๆในเวปแห่งนี้อีกครั้ง
.....

เสวนาเชิงวิชาการ
 
ชี้แจงแนวทางอะฮฺลิสสุนนะฮ์ฯ
ถกประเด็นคิลาฟียะฮ์จากแนวคิดต่าง ๆ    4095 กระทู้
 
สนทนาศาสนธรรม
เสวนาประเด็นเกี่ยวกับอิสลามทั่วไป    7173 กระทู้
 
อัลหะดีษ

นำเสนอเกี่ยวกับอัลหะดีษและหลักวิชาอัลหะดีษ    807 กระทู้


 
ถาม - ตอบปัญหาศาสนา
บอร์ดนี้ ตอบโดยนักศึกษาเท่านั้น    1986 กระทู้
 
ร่อมะฎอน
เสวนาเรื่องราวของเดือนร่อมะฎอนและปัญหาในการปฏิบัติตนในเดือนร่อมะฎอน    1161 กระทู้

 
นิติศาสตร์อิสลาม( ฟิกห์ )
สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักนิติศาสตร์อิสลามตามแนวทางของมัสฮับทั้งสี่

 
หลักการยึดมั่น ( อัล-อะกีดะห์ )
สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการยึดมั่นแนวทางของอะห์ลิสซุนนะห์วัลญะมาอะห์    887 กระทู้

 
มุมตะเซาวุฟอิสลาม
ชี้แจงหลักตะเซาวุฟอิสลามตามกีตาบุลลอ์และซุนนะห์    
   

บังกอดัร ดูการเสวนาเรื่องมัสหับในกระดานแห่งนี้ซิครับ ว่าเขาคิดแบบเดียวกับบังกอดัรไหม
บังกอดัร เคยเห็นไหมว่า...อุลามะที่ตามมัสหับทัง 4 เหล่านั้นมีการขัดแย้งถึงกันแบ่งพรรคแบ่งพวกกันแบบ
วาฮาบียะบ้างหรือไหม..
ในทางกลับกนเราพบว่า พี่น้องสายฮานฟีทางภาคเหนือ มาละหมาดญามาอะรวมกับพี่น้องมัสหับชาฟีอี
อย่างฉันพี่น้อง
แต่ทำไมล่ะกุล่มคณะใหม่ที่บังกอดัร บอกว่า พวกเขาเข้าใจมัสหับดีและยอมรับในมัสหับ ...จึงต้องแยกมัสยิด
และแยกที่ละหมาดทั้งๆที่เป็นกัมปงเดียวกัน..นี้ผมยังไมพูดอีกหลายๆประเด็นที่เขาไม่ทำตามผู้นำและ
ข้อปลีกย่อยอื่นๆอีกมากมาย

วัสลาม

 

GoogleTagged