อ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ (ในละหมาด)
บรรดาอิมามมัฑฮับ มีมติเห็นพ้องกันว่า การอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ (ในละหมาด) นั้นเป็นวาญิบสำหรับอิมาม (ผู้นำละหมาด) และผู้ที่ละหมาดคนเดียว (มุนฟะริด) ในทั้งสองเราะกะอะฮ์ของการละหมาดศุบฺหิ์ และในเราะกะอะฮ์แรกและเราะกะอะฮ์ที่สองของการละหมาดอื่นๆ
พวกเขามีทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ในเราะกะอะฮ์อื่นๆ ซึ่งชาฟิอีย์และหันบาลีย์: วาญิบ (ต้องอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์) ในทุกๆ เราะกะอะฮ์ของการละหมาดฟัรฎู, ส่วนหะนะฟีย์: การอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ไม่ได้เป็นวาญิบ เว้นแต่ในสองเราะกะอะฮ์แรกของทุกๆ ละหมาดฟัรฎู ในขณะเดียวกัน จากมาลิกีย์นั้นมีสองทัศนะ, ทัศนะแรกนั้นเหมือนกับทัศนะของชาฟิอีย์และหันบาลีย์ และทัศนะที่สองคือ ถ้าหากว่าละทิ้งการอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ในเราะกะอะฮ์ใดเราะกะอะฮ์หนึ่งของการละหมาดที่นอกเหนือจากละหมาดศุบฺหิ์ ก็ให้ทำการสุญูดสะฮฺวีย์แทน แต่ถ้าหากว่า (ละทิ้ง) ในละหมาดศุบฺหิ์ ก็ให้ทำละหมาดซ้ำใหม่อีกครั้ง
บรรดาอิมามมัฑฮับมีทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการวาญิบต้องอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ของม๊ะมูม ซึ่งหะนะฟีย์นั้น: ไม่วาญิบ, ไม่ว่าอิมามจะอ่านเสียงดัง (ในละหมาดที่ให้อ่านดัง - ญะฮัร) หรือไม่ดัง (สิรฺริ์) ก็ตาม แต่ทว่า ไม่เป็นสุนัตให้อ่านมันหลังอิมามตามหลักทั่วไป (มุฏลัก), ส่วนมาลิกีย์และหันบาลีย์: ไม่วาญิบต้องอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์หลังอิมามตามหลักทั่วไป และมาลิกีย์: ม๊ะมูมนั้นมักรูฮฺถ้าหากว่าอ่านมัน (สูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์) เมื่ออิมามอ่านมันด้วยเสียงดัง ไม่ว่าเขาจะได้ยินเสียงอ่านของอิมามหรือไม่ก็ตาม
หันบาลีย์: สุนัตให้ม๊ะมูมอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์หลังอิมาม ถ้าหากว่าอิมามอ่านมันด้วยเสียงเบา, ส่วนชาฟิอีย์: ม๊ะมูมวาญิบต้องอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ ถ้าหากว่าอิมามอ่านเบา แต่ทว่า ในทัศนะที่มีน้ำหนักมากที่สุดจากชาฟิอีย์ก็คือ ม๊ะมูมวาญิบต้องอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ในการละหมาดญะฮัร (ละหมาดที่อ่านเสียงดัง)
ท่านอาศิมและท่านอัลหะสัน บิน ศอลิหฺ มีทัศนะว่า: การอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์นั้นสุนัต
บรรดาอิมามมัฑฮับมีทัศนะที่แตกต่างกันในการกำหนดสิ่งที่ต้องอ่าน, ซึ่งมาลิกีย์, ชาฟิอีย์ และหันบาลีย์ในรายงานที่เลื่องลือ (มัชฮูร) : สูเราะฮ์ที่ต้องอ่านก็คือสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์, ส่วนหันบาลีย์: เป็นอันใช้ได้ในการอ่านสูเราะฮ์อื่นจากสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ เพียงแต่ขอให้เป็นอัลกุรฺอานก็พอ
และพวกเขายังมีทัศนะที่แตกต่างกันอีกเกี่ยวกับ บัสมะละฮ์ (บิสมิลลาฮฺฯ) ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์หรือไม่? ซึ่งชาฟิอีย์และหันบาลีย์: บัสมาละฮ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งจากสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ที่วาญิบต้องอ่านพร้อมกับอัลฟาติหะฮ์, ส่วนหะนะฟีย์และมาลิกีย์: บัสมะละฮ์นั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ เพราะฉะนั้น มันจึงไม่วาญิบต้องอ่าน
ตามทัศนะของชาฟีอีย์: บัสมะละฮ์นั้นวาญิบต้องอ่านเสียงดัง, ส่วนหะนะฟีย์และหันบาลีย์: ให้อ่านเบา, แต่มาลิกีย์: สิ่งที่ถูกส่งเสริมนั้นก็คือ ไม่ต้องอ่าน เว้นแต่ให้เริ่มด้วยกับ อัลหัมดุลิลลาฮิร็อบบิลอาละมีน ทันที
ท่านอิบนุ อบีย์ลัยลา มีทัศนะว่า: สามารถเลือกได้, คือจะอ่านดังและ (หรือ) เบาก็ได้
ท่านอันนฅออีย์ มีทัศนะ: อ่านบัสมะละฮ์ด้วยเสียงดังนั้นเป็นบิดอะฮ์ (อุตริกรรม)
บรรดาอิมามมัฑฮับ มีทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผู้ที่ไม่สามารถอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์และสูเราะฮ์อื่นๆ ได้, ซึ่งหะนะฟีย์และมาลิกีย์: เขาจะต้องยืนให้นานเท่ากับการอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์, ส่วนชาฟิอีย์: เขาจะต้องอ่านคำตัสบี๊หฺคือ สุบหานัลลอฮฺ (มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺ) ให้นานเท่ากับการอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ ซึ่งถ้าหากว่าเขาอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ด้วยกับภาษาเปอร์เซีย (หรือภาษาอื่นๆ ที่เป็นคำแปล) นั้น ก็เป็นอันใช้ไม่ได้ แต่ทว่า, หะนะฟีย์ มีทัศนะว่า: ถ้าหากว่าต้องการ, เขาสามารถอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ด้วยกับภาษาอาหรับ หรือภาษาอื่นก็ได้
ท่านอบูยูสุฟ และท่านมุหัมมัด บิน อัลหะสัน (หะนะฟียะฮ์) มีทัศนะว่า: ถ้าหากว่าเขาสามารถอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์ในภาษาอาหรับได้ ดังนั้น เขาก็ไม่เป็นที่อนุญาตให้อ่านในภาษาอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถอ่านในภาษาอาหรับได้อย่างดี ดังนั้น เขาก็เป็นที่อนุญาตให้ใช้ภาษาอื่นได้
ถ้าหากบุคคลคนหนึ่งละหมาดโดยอ่านสูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์จากมุศหัฟ (เล่มอัลกุรฺอาน หมายถึง ละหมาดพลางอ่านเล่มกุรฺอานไปด้วย - ผู้แปล), ตามหะนะฟีย์: ละหมาดของเขานั้นใช้ไม่ได้, แต่ชาฟิอีย์: เป็นที่อนุญาต, ส่วนหันบาลีย์นั้นมีสองทัศนะ, ทัศนะแรกนั้นก็เหมือนกับทัศนะของมัฑฮับชาฟิอีย์, นั่นก็คือ เป็นที่อนุญาต, ทัศนะที่สอง, เป็นที่อนุญาตในการละหมาดสุนัต แต่ไม่อนุญาตในการละหมาดฟัรฎู และทัศนะทั้งสองนั้นก็เป็นทัศนะของมาลิกีย์ด้วยเช่นกัน
(แปลเป็นภาษาไทยจากหนังสือ Fiqh Empat Mazhab (ฟิกฮฺสี่มัฑฮับ), หน้า ๕๖ ๕๘ ฉบับภาษาอินโดนีเซีย ซึ่งแปลมาจากภาษาอาหรับจากหนังสือ เราะห์มะตุลอุมมะฮ์ ฟี อิฅติลาฟิลอะอิมมะฮ์ ของท่านชัยฺค์ อัลอัลลามะฮ์ มุหัมมัด บิน อับดุรเราะห์มาน อัดดิมัชกีย์, แปลเป็นภาษาอินโดนีเซียโดย Abdullah Zaki Alkaf)