แต่มีอยู่ท่านนึงไม่จากเราไปอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะในช่วงที่เรามีความสุข
ในช่วงที่เรามีความทุกข์ ในช่วงที่เราป่วย ในช่วงที่เรานอนหลับ
ในช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่หรือในช่วงที่เราตายไปแล้ว
ในช่วงที่เราเป็นคนภักดีช่วยเหลือท่าน หรือในช่วงที่เราเป็นคนดันทุรังกับท่าน
มนุษย์น่ะถ้าเราไปดันทุรังกับเค้าเค้าก็เลิกคบกับเรา
แต่ท่านผู้นี้ในยามที่เรามีชีวิตอยู่ก็ช่วยเรา อยู่กับเราตลอด
ยามที่เราทุกข์ก็อยู่กับเรา ในยามที่เราทรยศก็อยู่กับเรา
รักเราตลอดกาลไม่เคยเบื่อหน่ายเราเลย
แต่เราเท่านั้นแหละที่จะดิ้นให้หลุดออกไปจากห้วงวงจรแห่งความรักของท่าน
นั่นก็คือ อัลลอฮ์(ซ.บ.)
เราทรยศพระองค์ พระองค์ก็ยังให้ริสกีเรา เราตออัตต่อพระองค์
พระองค์ท่านก็ให้ริสกีเรา ท่านทั้งหลายลองคิดดูนะครับ
อัลลอฮ์ให้เราขนาดนี้ เราเคยชื่นชมอัลลอฮ์ให้มันอิ่มเอิบกันแล้วหรือยัง
หรืออาจจะเป็นเพราะเราอาจจะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของอัลลอฮ์
เราอาจจะคิดอย่างนั้นก็เลยไม่ได้รู้สึกต่อการที่จะขอบคุณอัลลอฮ์เท่าใดนัก
ผมอยากจะให้มองว่าผู้ที่เราน่าจะขอบคุณน่าสรรเสริญที่สุดก็คือ
ผู้ที่แม้แต่ที่เราทรยศก็ไม่เคยเบื่อหน่ายไม่เคยเซ็งต่อเรา
ยังรักเรา ยังคุ้มครองดูแลเราอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะในยามใดก็ตาม
ท่านคืออัลลอฮ์(ซ.บ.) ท่านอยู่ใกล้กับเรา ใกล้ชิดเรา ดูแลูเรา
พิทักษ์เรารักษาเราหวังดีต่อเราโดยตลอดเลยทีเดียว
salam
ผ่่านมาอ่านด้วยความบังเอิญเป็นรอบที่สอง...
ต่างกับอ่านรอบแรกเลยค่ะ...
ชีวิตที่ต้องพบเจอแต่คนแปลกหน้า หากมิใช่เพราะความเมตตาแล้ว
ข้าน้อยคงไม่ได้เจอกับคนดีๆที่มาช่วยเหลือ คนที่เคยเป็นคนแปลกหน้า
และหากไม่ใช่เพราะความกรุณา ข้าน้อยคงไม่เข้าใจว่าการช่วยเหลือ
คนแปลกหน้ามันได้อะไรบ้าง...และอาจโดนคนแปลกหน้าทำร้าย
หากว่าเราโชคร้ายเจอคนไม่ดี...
พระองค์อยู่กับเราเสมอ...
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...
วัสลามค่ะ