เยาวชนกับความมุ่งมั่นในอิสลาม~*

[al-firdaus~*]

Tweet

salam

เยาวชนกับความมุ่งมั่นในอิสลาม

ความจริงแล้วอุดมการณ์และความมุ่งมั่นต่ออิสลามในตัวของเยาวชนเป็นผลมาจากการอบรมสั่งสอนของผู้ใหญ่
ถ้าพ่อ แม่ และผู้ปกครองคนอื่นๆให้ความรักต่อพวกเขา โดยสนใจเรื่องของศาสนาตั้งแต่เด็ก
พร้อมตักเตือนอยู่เสมอ แทนที่จะพะเน้าพะนอและทำให้พวกเขาเสียคน 
ความสำคัญของศาสนาก็จะเกิดขึ้นในใจของเด็ก เมื่อเติบใหญ่ศาสนาจะเหมือนนิสัยประจำตัว
แต่ทว่าผู้ใหญ่ทำแบบอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และทำเป็นมองไม่เห็นนิสัยที่ไม่ดีของเด็กๆ
โดยพยายามคิดว่า ยังเด็กอยู่คงไม่เป็นอะไร
พ่อแม่บางคนกลับมีความสุขในความบ้าบิ่นของเด็ก และทุกอย่างที่บกพร่องในเรื่องศาสนา
เมื่อเห็นแล้วก็ได้แต่ปลอบใจตนเองว่า เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็จะดีเอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วสิ่งไม่ดีที่เด็กๆรับ
จะซึมซับไปจนพวกเขาโต  มันคือสิ่งที่พวกเขาถูกหว่านเอาไว้ตั้งแต่เด็ก

พวกท่านจะหว่านเมล็ดถั่วเพื่องอกงามเป็นฝ้ายได้อย่างไรกันเล่า?

ถ้าท่านต้องการให้เด็กๆมีนิสัยที่ดี ให้ความสำคัญกับศาสนา และเป็นผู้เคร่งครัดในศาสนา
ดังนั้นท่านต้องบรรจุนิสัยการให้ความสำคัญต่อศาสนาในตัวพวกเขาตั้งแต่ยังเล็ก 
บรรดาซอฮาบะฮ์ดูแลลูกๆ ตั้งแต่เล็กๆพร้อมกับให้ความสำคัญในด้านศาสนาแก่พวกเขา

ในสมัยของท่านอุมัร (ร.ด.) เป็นคอลีฟะฮ์ ได้มีผู้จับกุมบุคคลหนึ่งมา เนื่องจากดื่มสุราในเดือนรอมฎอน
เมื่อเขาถูกนำตัวมาอยู่ต่อหน้าท่านอุมัร ท่านได้พูดกับบุคคลผู้นี้ว่า
ความวิบัติจงมีกับเจ้า แม้แต่เด็กๆของเราก็ถูกใช้ให้ถือศึลอดในเดือนนี้

[al-firdaus~*]

ความปราถนาที่จะร่วมญิฮาดของอุมัยรฺ

อุมัยรฺ เป็นทาสของอบู ละหุม อายุเขายังน้อยมาก
ในสมัยนั้นเกือบทุกคนจะไม่คำนึงถึงว่ามีอายุเท่าใด
แต่พวกเขามีความกระหายที่จะต่อสู้ในวิถีทางของอัลลอฮ์เกือบทั้งสิ้น
อุมัยรฺ ได้ขอร้องท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม เพื่ออนุญาตให้เขาได้เข้าร่วมรบในสงครามคอยบัรฺ
นายทาสของเขาก็พูดกับท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ขออนุญาตให้เขาด้วย
ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม จึงได้อนุญาตและได้มอบดาบให้เขาเล่มหนึ่ง
ซึ่งอุมัยรฺ แขวนไว้ที่คอ  ดาบเล่มนี้ใหญ่เกินตัวเขา จึงจำเป็นต้องลากไปเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งนี้
จนกระทั่งเขาจบลงด้วยชัยชนะเท่าที่เขายังเป็นเด็กและเป็นทาสอยู่ เขาจึงไม่มีสิทธิในส่วนแบ่งทรัพย์สงคราม
ถึงอย่างไรก็ตาม ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้อนุญาตให้เขารับส่วนแบ่งส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง

ข้อพึงสังวร :  ถึงแม้อุมัยรฺจะรู้แล้วว่า ตนจะไม่ได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์เชลย เขาก็ยังมีความกระหายที่จะออกไปสู้รบในสงคราม
ถึงขนาดให้ผู้อื่นช่วยพูดกับท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม  มันจะมีแรงผลักดันใดเล่า นอกเหนือไปจากการได้รับรางวัล
ในโลกหน้า ดังที่อัลลอฮ์ทรงสัญญาไว้แล้ว  และท่านรอซูลก็ได้ระบุในหะดิษอีกกระนั้นหรือ?

[nada-yoru]

salam

เยาวชนกับความมุ่งมั่นในอิสลาม

วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ


ท่่านั่งของเด็กในภาพทางขวามือทั้งสามคนนั้น
ข้าน้อยและเพื่อนๆโดนโต๊ะครูที่สอนศาสนาให้นั่งแบบนั้นตั้งแต่เด็กๆเรยค่ะ
แบบว่าแรกๆมันเมื่อยๆ(เหน็บกิน) แต่นานๆไปแล้วก็ชินไปเองค่ะ...
เป็นท่าที่ดูนอบน้อมพร้อมที่จะนั่งฟังดีค่ะในความรู้สึก(สาว่่า)

และก็แปลกใจตอนมาเรียนที่ญี่ปุ่น ท่านั่งกับพื้นปูเสื่อทาทามิก็คล้ายๆกันเลยค่ะ...
อาจารย์ที่สอนมารยาทการเข้าสังคมกับคนญี่ปุ่น
ยังบอกว่าท่านั่งแบบนี้นี่ฝึกยากสำหรับคนที่โตแล้ว บางคนบอกว่าลำบากไม่เอา
แต่พอเห็นข้าน้อยนั่งได้...อาจารย์ท่านก็เลยชมเสียยกใหญ่ ข้าน้อยเลยบอกว่า
ชมอาจารย์ที่สอนศาสนาข้าน้อยเถอะค่ะ...ท่านสอนมาว่าให้นั่งอย่างนี้...
อาจารย์ท่านเลยขมวดคิ้วสงสัย เลยถามเร่ืองศาสนาอิสลามเรยทีนี้...

 
 

ปล.จริงๆแล้วนั่งได้หลายท่าค่ะ(แบบว่าเป็นคนท่ามากค่ะ)...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

[al-firdaus~*]

ซัยด์ (ร.ด.)ได้รับสิทธิในการเลือกถือธงเพราะความรู้อัลกุรอานของเขา

ซัยด์ บิน ษาบิต (ร.ด.) มีอายุได้ 11 ปี ขณะอพยพและกำพร้าตั้งแต่หกขวบ เขาได้เสนอตัวร่วมรบในศึกบะดัร แต่ไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากนั้นก็ออกไปในศึกอุหุดอีก แต่ก็ถูกส่งกลับ อุลามะฮ์บางท่านได้ระบุว่า จากการที่ท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม
อนุญาตให้รอฟิอ์และสะมุเราะฮ์ (ดังเรื่องที่กล่าวต่อไป ) ตัวเขาจึงได้รับอนุญาต เช่นกัน นับตั้งแต่นั้นมา เขาได้ร่วมรบในการทำศึกทุกครั้ง
ในการทำศึกตะบูก อัมมาเราะฮ์ทำหน้าที่ถือธงของเผ่าบนู มาลิกอยู่ แต่ท่านรอซูล   ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ได้สั่งให้เขามอบธงให้กับซัยด์
อัมมาเราะฮ์คิดว่า เขาคงทำอะไรผิดกระมัง จึงทำให้ท่านรอซูล   ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม ไม่พอใจ เขาจึงพูดขึ้นว่า
โอ้ท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม เป็นเพราะเรื่องไม่ดีของฉันไปถึงหูท่านกระนั้นหรือ ซึ่งท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม
กล่าวตอบว่า ไม่มีหรอก แต่ซัยด์รู้อัลกุรอานมากกว่าเจ้านี่? กุรอานของเขาทำให้เขาได้รับเกียรตินี้

ข้อพึงสังวร :  นับเป็นเรื่องปกติวิสัยที่ท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮ์อะลัยฮิวะซัลลัม มักให้สิทธิพิเศษกับซอฮาบะฮ์ตามคุณธรรมในศาสนาของเขา
ถึงแม้ในโอกาสของการศึกสงครามก็ตาม แต่ภาวะเช่นนี้ ความรู้อัลกุรอานมิได้ถือเป็นเป้าหมายสำคัญ ถึงกระนั้นท่านก็ได้ให้สิทธิพิเศษแก่ซัยด์
สำหรับความรู้อัลกุรอานของซัยด์อันเป็นเกียรตินี้ เราจะเห็นได้ในโอกาสอื่นๆเช่นกัน เมื่อคนตายจำนวนหนึ่งจะต้องนำไปฝังรวมในหลุมๆหนึ่ง
เช่น ในอุหุด แต่ละคนจะฝังตามลำดับก่อนหลัง โดยผู้ที่มีความรู้มากกว่าจะได้รับการฝังเป็นลำดับแรกๆ

[al-firdaus~*]

อิบนุอับบาส (ร.ด.) จำอัลกุรอานได้ตั้งแต่วัยเด็ก

อับดุลลอฮ์ บิน อับบาส (ร.ด.)ได้กล่าวกับคนอื่นๆว่า จงถามฉันเกี่ยวกับตัฟซีรกุรอาน เพราะฉันจำอัลกุรอานได้ในขณะที่ฉันยังเป็นเด็ก
ในอีกรายงานหนึ่งระบุว่า เขาเคยกล่าวว่า ฉันเคยอ่านอัลกุรอานจนจบเมื่อฉันอายุได้เพียงสิบขวบ (*1)

อิบนุอับบาส (ร.ด.) เป็นมุฟัสซีรที่ยิ่งใหญ๋คนหนึ่ง เพราะเขาอ่านอัลกุรอานตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่จำตั้งแต่เด็กจะติดอยู่อย่างไม่รู้เลือน
ฉะนั้นจึงไม่มีซอฮาบะฮ์คนใดที่จะเล่าหะดิษเกี่ยวกับคววามหมายของอัลกุรอานได้ดีเท่ากับเขา
อับดุลลอฮ์ บิน มัสอูด(ร.ด.) เล่าว่าอับดุลลอฮ์ บิน อับบาส เป็นนักอรรถาธิบายอัลกุรอานที่ดีที่สุด
อบู อับดุรเราะฮ์มานได้ฟังมาจากซอฮาบะฮ์ท่านหนึ่งที่สอนอัลกุรอานให้กับเขาว่า
ซอฮาบะฮ์เรียนอัลกุรอานจากท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ทีละสิบอายะฮ์
พวกเขาจะไม่เรียนอีกสิบอายะฮ์ต่อไป จนกว่าพวกเขาจะได้จดจำ และรู้จุดมุ่งหมายในอายะฮฺนั้นๆ และปฎิบัติตามทั้งสิบนั้นเสียก่อน (*2)


อับดุลลอฮ์ บิน อับบาส (ร.ด.) มีอายุได้ 13 ขวบ ขณะที่ท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  เสียชีวิต
นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจและน่าอิจฉา ที่เขารู้อัลกุรอานและหะดิษอย่างมากมาย โดยที่เขายังมีอายุน้อยอยู่
มีซอฮาบะฮ์ชั้นนำหลายคนมักจะมาหาเขา เพื่อถามปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับความหมายของอัลกุรอาน
ถึงอย่างไรก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ท่านรอซูล ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขอดุอาอ์ให้กับเขา
ครั้งหนึ่งเมื่อท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ต้องการไปถ่ายทุกข์ หลังจากออกไปข้างนอก ท่านพบน้ำวางอยู่ พร้อมที่ท่านจะเอาไปใช้ได้
ท่านจึงถามขึ้นว่า ใครเอาน้ำมาวางไว้ที่นี้ มีใครบางคนบอกว่า คืออิบนุ อับบาส ท่านจึงมีความชื่นชมต่อการช่วยเหลือนี้
ท่านจึงได้วิงวอนให้กับอิบนุ อับบาสว่า โอ้ อัลลอฮ์ ได้โปรดประทานความรู้และความเข้าใจอัลกุรอานและหลักการปฎิบัติอิสลามให้กับเขาด้วยเถิด

ในอีกโอกาสหนึ่ง ขณะที่ท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กำลังละหมาดสุนัตอยู่ อิบนุ อับบาสได้เข้ามาร่วมละหมาดกับท่าน
โดยเข้ามายืนทางด้านหลังของท่าน ท่านได้จับมือเขา และดึงเขามายืนข้างๆ ซึ่งนับว่าเป็นกรณีที่ผู้ตามเพียงคนเดียวในละหมาดญะมาอะฮ์ ซึ่งเขาควร
ยืนทางด้านข้างของอิหม่าม แต่ในขณะที่ท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กำลังอยู่ในละหมาด เขาได้ถอยหลังลงมาอีกเล็กน้อย
เมื่อเสร็จละหมาดแล้ว ท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงถามเขาว่า ทำไมเจ้าถึงต้องถอยหลังไปจากที่เจ้ายืน
เขาตอบว่า ท่านเป็นรอซูลของอัลลอฮ์ ฉันจะไปยืนข้างๆท่านได้อย่างไรกันเล่า ?
ในโอกาสนี้ท่านรอซูล  ซ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงได้วิงวอนเพื่อให้เขาได้มีความรู้และความเข้าใจ (*3)



*1     
*2     
*3