ผู้เขียน หัวข้อ: คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดอัรฺ-ริฎวาน(นานา)  (อ่าน 1702 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 
รำลึกถึงวันสิ้นโลก

   พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮฺด้วยการปฏิบัติความดีและละเว้นความชั่วอย่างจริงจัง
 และท่านทั้งหลายจงอย่าได้ตายจนกว่าท่านจะยอมจำนนต่ออัลอิสลามโดยสิ้นเชิง
    พี่น้องผู้ศรัทธาครับ เชื่อว่าพี่น้องคงจะมีความรู้เกี่ยวกับชีวิตหลังความตายอยู่บ้าง เมื่อมนุษย์
เสียชีวิตลง ไม่ว่าศพของเขาจะถูกฝังตามวิธีปฏิบัติของอิสลามหรือจะถูกจัดการด้วยวิธีอื่น วิญญาณของเขา
จะต้องอยู่รอในโลกอีกภพหนึ่ง ที่กั้นระหว่างโลกดุนยากับโลกอาคิเราะฮฺ เรียกว่า โลกแห่งม่านกำบัง
 (علم برزخ) ในโลกนี้วิญญาณอาจจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ก็ได้ ขึ้นกับความดีหรือความชั่วที่เคยทำ
ในโลกนี้ หลังจากนั้น อัลลอฮฺจะทรงให้บังเกิดวันแห่งการตัดสิน ซึ่งมีชื่อเรียกขานต่าง ๆ กันว่า วันสุดท้าย
(يوم الآخر) หรือวันแห่งการฟื้นคืนชีพ(يوم القيامة) หรือวันแห่งการตัดสิน(يوم الدين)หรือชั่วโมงที่
กำหนด(السّاعة)ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นวันไหน แต่มีสัญญาณบอกเหตุ ที่ท่านเราะสูลได้แจ้งให้ทราบไว้ เช่น
 ดอกเบี้ยและการละเมิดประเวณีจะแพร่หลาย การแข่งกันสร้างตึกสูง ๆ และหญิงจะมากกว่าชาย   เป็นต้น
    ในวันนี้จะได้ทบทวนกับพี่น้องเกี่ยวกับวันสิ้นโลก ดังนี้



 

   “พวกเขาจะถามเจ้าถึงกำหนดวันอวสานโลกว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อใด (มุหัมมัด) เจ้าอยู่ในฐานะใด
หรือในการที่จะกล่าวถึงวันนั้น  ความรู้อันเป็นข้อยุติของวันนั้นเป็นขององค์อภิบาลของเจ้า (แต่เพียงผู้
เดียว) แท้จริงเจ้ามีหน้าที่เพียงผู้ประกาศเตือนแก่ผู้ที่กลัวมันเท่านั้น(แต่ไม่มีหน้าที่แจ้งกำหนดของมัน)”

อันนาสิอาต 79 : 42-45
   และยังมีระบุในอีกหลายอายะฮฺว่า

 
   “และพวกเขากล่าวว่า เมื่อใดเล่าจะถึงกำหนดสัญญา (ที่ว่าจะมีวันกิยามะฮฺ) หากพวกท่านเป็นผู้มี
สัจจะ (มุหัมมัด) จงประกาศเถิดว่า อันที่จริงความรู้ (เกี่ยวกับวันกิยามะฮฺ) นั้นอยู่ที่อัลลอฮฺ และแท้จริงฉัน
เป็นเพียงผู้ตักเตือนอันชัดแจ้งเท่านั้น (หาได้รู้กำหนดนั้นไม่)”
      
อัลมุลกิ 67 : 25-26
   ดังนั้น หน้าที่ของมุสลิมจึงมิใช่จะมาค้นหาว่า วันแห่งการตัดสินนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่หน้าที่คือ
ศรัทธาว่าวันนั้นจะเกิดขึ้นจริง และปฏิบัติงานเพื่อเตรียมพร้อมที่จะพบกับวันดังกล่าว ในยุคปัจจุบันนี้
 เราคงต้องยอมรับว่า การขาดศรัทธาต่อวันแห่งการตัดสินนั้น ทำให้ความชั่วแพร่หลายไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็น
โลกมุสลิมหรือโลกกาฟิรฺ เพราะทุกคนไม่เชื่อว่า ทำดีแล้วจะได้ดี หรือทำชั่วแล้วจะได้ชั่ว ทุกคนจึงลืมที่จะ
รักษาความดีของตน เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว ตักตวงเอาผลประโยชน์ในโลกดุนยา ลืมผลที่จะตามมาใน
โลกอาคิเราะฮฺ  หวังแต่จะกอบโกยทางด้านวัตถุ เชื่อว่าจะทำให้มีความสุข ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงความสุข
จอมปลอม ดื่มเหล้า เคล้านารี หลงใหลในแสงสี งมงายอยู่กับการพนัน ยึดเอาความคิดของตัวเป็นใหญ่
 วิกฤตการต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง ประเทศใหญ่รุกรานประเทศเล็ก กอบโกยเอาทรัพยากรของ
ประเทศอื่นมาเป็นของตัวโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนแข็งแรงรังแก
คนที่อ่อนแอกว่า รบราฆ่าฟันกันโดยไม่พยายามหาขอยุติด้วยวิถีทางสันติ อย่าว่าแต่คนที่ศรัทธาต่างกัน คน
ที่ว่าศรัทธาต่อพระเจ้าเหมือนกัน เช่น มุสลิมสุนนะฮฺกับชีอะฮฺ  แคทธอลิกกับโปรแตสแตนท์ก็รบราฆ่าฟัน
กันเอง
   ถ้าเขาเหล่านั้นได้หวนมาคิดสักนิดว่า อีกไม่นานเท่าไรแล้ว วันแห่งการตัดสินจะมาถึง ควรที่จะ
หันมาทำความดี เตรียมตัวเพื่อที่จะได้พบกับการตัดสินความผิดความถูก เตรียมที่จะได้รับความสุขของ
โลกอาคิเราะฮฺ จะดีกว่า รบกันฆ่ากันในโลกนี้ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย ถ้าคิดได้โลกคงจะสงบกว่านี้
    บางทีเขาอาจจะคิดว่าโลกอาคิเราะฮฺนั้นจะเกิดเมื่อไรไม่รู้ หรือไม่เชื่อว่าจะมีวันอาคิเราะฮฺ หรือเชื่อ
ว่ามี แต่ประมาท คิดว่ารออีกสักหน่อยจึงจะทำความดี ก็แสดงว่าคิดผิด เพราะวันอาคิเราะฮฺนั้นอยู่ไม่ไกล
แล้ว สัญญาณย่อย ๆ ของวันนั้นทยอยปรากฏเป็นระยะ ๆ มาเรื่อย ๆ มีบันทึกในหะดีษว่า

كَيْفَ اَنْعَمَ وَصَاحِبُ الصُّوْرِقَدْاِلْتَقَمَ الصُّوْرَ يَنْتَظِرُ مَتَى يُؤْمَرُاَنْ يَنْفُخَ. قَالُوْا:وَمَاذَا نَقُوْلُ يَارَسُوْلُ اللهِ.
 قال: قُوْلُوْا حَسْبُنَااللهِ وَنِعْمَ الْوَكِيْلَ

   “ฉันจะมีความสุขได้อย่างไร เมื่อผู้มีหน้าที่เป่าศูรฺได้คาบศูรฺเอาไว้แล้ว บรรดาเศาะหาบะฮฺได้พา
กันถามว่า เราจะกล่าวอย่างไรดี ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ท่านตอบว่า พวกท่านจงกล่าวว่า อัลลอฮฺเป็นผู้ที่พอ
เพียงแก่พวกเราแล้วพระองค์เป็นผู้ทรงรับการมอบ หมายที่ดีเยี่ยม”
   
                               อะหฺมัด,ติรฺมิซียฺและอิบนุหิบบาน จากอะบูสะอีด อัลคุดรียฺ
    ความหมายก็คือ วันอาคิเราะฮฺนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว เพราะเมื่อถึงวันอาคิเราะฮฺ มะลาอิกะฮฺที่ได้รับ
มอบหมายจากอัลลอฮฺจะเป่าศูรฺเป็นสัญญาณ และขณะนี้ ศูรฺนั้นก็อยู่ในสภาพที่พร้อมจะถูกเป่าเมื่อใดก็ได้
ตามบัญชาของอัลลอฮฺ แสดงว่า วันอาคิเราะฮฺอยู่อีกไม่ไกล ทุกคนจึงควรจะหันหน้าเข้าหาหนทางอัน
เที่ยงตรงของพระองค์คืออัลอิสลาม และมอบหมายทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับพระองค์ เราจึงจะเห็นผู้ใหญ่ที่มี
ความรู้ทั้งหลาย กล่าวประโยคที่ว่า حَسْبُنَااللهُ وَنِعْمَ الْوَكِيْلَ  บ่อย ๆ
   การที่เรามอบหมายทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับอัลลอฮฺนั้นมิได้หมายความว่า เราจะไม่ทำอะไรเลย แต่
หมายความว่า เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างจนสุดความสามารถแล้วมอบหมายผลสำเร็จไว้กับพระองค์ และเรา
จะมุ่งสู่หนทางของพระองค์คืออัลอิสลาม เราจะไม่ทำผิดบัญญัติของพระองค์ เพราะถ้าเราทำผิดบัญญัติ
ของพระองค์ก็แสดงว่า เราลืมการรำลึกถึงพระองค์
   ในอัลกุรฺอาน อัลลอฮฺทรงกล่าวโดยรวมถึงการเกิดวันแห่งการตัดสินดังนี้

 


   “และต้องมีการเป่าศูรฺอย่างแน่นอน จากนั้น ผู้ที่อยู่ในฟากฟ้าและแผ่นดินก็จะตายสิ้น นอกจากผู้
ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ หลังจากนั้นก็จะมีการเป่าศูรฺอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดก็จะลุกขึ้นมามองดู (รอบ ๆ
 ตัว) และแผ่นดินจะได้ส่องแสงสว่างจากรัศมีแห่งองค์อภิบาลของมัน และสมุดบันทึกความประพฤติจะได้
ถูกวางลง พร้อมทั้งบรรดาศาสนทูตและบรรดาผู้เป็นสักขีพยานก็จะถูกนำมาและมีการตัดสินระหว่างพวก
เหล่านั้นโดยสัจจธรรมและไม่มีการโกง และทุกชีวิตย่อมได้รับการตอบสนองผลงานที่เขาได้กระทำอย่าง
ครบถ้วน และพระองค์ทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเขาประพฤติไว้”
         
อัซซุมัร 39 : 68-70
   นี่เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นโดยย่อ ๆ ในวันกิยามะฮฺที่อัลลอฮฺแจ้งให้เรารู้ คือ จะมีการเป่าศูรฺครั้งที่
หนึ่งและทุกสิ่งจะพินาศสิ้นนอกจากที่พระองค์ประสงค์ หลังจากนั้นจะมีการเป่าศูรฺครั้งที่สอง มนุษย์ทั้ง
มวลไม่ว่าจะตายไปนานแล้วหรือเพิ่งตายในการเป่าศูรฺครั้งแรกก็จะฟื้นคืนชีพ เอกสารบันทึกความดีความ
ชั่วจะถูกนำมาเป็นหลักฐานพร้อมด้วยบรรดาผู้ประกาศศาสนาและสักขีพยาน ไม่มีใครสามารถปฏิเสธสิ่ง
ที่ตนได้ปฏิบัติไป หลังจากนั้นการตอบแทนก็จะเกิดขึ้นตามการกระทำที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่มีการบิดเบือน
 ใครทำดีเท่าใดก็มีบันทึกไว้ ใครทำชั่วเท่าใดก็มีบันทึกไว้
   พี่น้องครับ ในฐานะมุสลิมที่เชื่อมั่นศรัทธาว่า อาคิเราะฮฺ โลกแห่งการตอบแทนผลกรรมความดี-
ความชั่วเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หน้าที่ของเราคือจะต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอว่า ความตายจะมาประสบ
กับเราเมื่อใดก็ได้ เราต้องสะสมความดีด้วยการทำตามบัญชาของอัลลอฮฺและลบล้างความชั่วด้วยการ
เตาบะฮฺตัว สำนึกผิด เสียใจในการทำความผิดของเราและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำอีก ถ้าทำเช่นนี้ได้ ถึงวัน
อวสานโลกจะมาถึงเมื่อใด เราก็คงมีความหวังในระดับหนึ่งว่า เราคงจะประสบความสำเร็จจากการตอบ
แทนขององค์อภิบาลผู้ทรงเมตตาของเรา อินชาอัลลอฮฺ



คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสญิดอัรฺ-ริฎวาน(นานา) โดย Bangmud เมื่อ 13 ธันวาคม 2552
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 13, 2009, 11:21 PM โดย Bangmud »

 

GoogleTagged