ผู้เขียน หัวข้อ: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)  (อ่าน 26484 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด

 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ

ในตอนนี้ยังคงใช้เอกสารอ้างอิงเดิมตามที่กล่าวไว้แล้วในตอนที่ 1
อ้างอิง R1. The Noble Qur’an, English Translation of the meanings and commentary.
      Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.
      King Fahd Complex for the Printing of the Holy Qur’an. Madinah, K.S.A.
อ้างอิง R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ มปป. จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ส.วงศ์เสงี่ยม กรุงเทพฯ
อ้างอิง R3.ตัฟฮีมุลกุรฺอาน ความหมายคัมภีร์ อัล-กุรอาน อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน
      ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2539 ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ
อ้างอิง R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรอานแห่งนครมาดีนะฮ์
อ้างอิง R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์ (ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา) จุฬาราชมนตรี มูลนิธิต่วน สุวรรณศาสน์
      พิมพ์ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อพระราชทานสถาบันต่าง ๆ ในพระราชวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐
      สำหรับ R5. นั้น คำแปลจะเป็นคำอธิบายหรือขยายความไปในตัว โดยตัวอักษรหนาจะเป็นคำแปลตามลุฆ็อต ส่วนตัวอักษรปกติเป็นการอธิบายหรือขยายความ

      ในตอนที่ 2 นี้ จะนำเสนอสูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ โดยเสนอครั้งละ 1 อายะฮฺหรือมากกว่า ขึ้นกับความยาวของแต่ละอายะฮฺและการต่อเนื่องของใจความ
การสะกดการันต์จะพยายามให้เป็นไปตามเอกสารอ้างอิงทุกคำนอกจากสุดความสามารถ เช่น มีอักขระบางตัวที่เครื่องพิมพ์พิมพ์ไม่ได้ หรือความผิดพลาดส่วนบุคคล
เคยชินกับการสะกดในเอกสารอ้างอิงเล่มหนึ่ง พอคุ้นมือก็เปลี่ยนเล่มใหม่ จึงอาจเกิดความผิดพลาดได้ เช่น อัลลอฮฺ อัลเลาะห์ อัลเลาะฮ์ ฯลฯ
ขอมะอัฟจากพี่น้องผู้อ่านและจากท่านเจ้าของเอกสารอ้างอิงในความผิดพลาดนี้ จะพยายามตรวจทานแก้ไขให้ถูกต้อง

คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ (R4)
   เป็นซูเราะฮฺมะดะนียะฮฺ ทั้งซูเราะฮฺ คือถูกประทานลงมาหลังฮิจญเราะฮฺศักราช ณ นครมะดีนะฮฺ ยกเว้นอายะฮฺที่ 281 ซึ่งถูกประทานลงมา ณ ตำบลมินา
ขณะประกอบพิธี ฮัจญะตุลวะดาอฺ ซูร่อตุลบะเกาะเราะฮฺนี้ นับเป็นซูเราะฮฺที่ยาวที่สุด มี 286 อายะฮฺ



คำแปล (R1)
1. Alif-Lam-Mim. [These letters are one of the miracles of the Qur'an and none but Allah (Alone) knows their meanings].
2. This is the Book (the Qur'an), whereof there is no doubt, a guidance to those who are Al-Muttaqun
[the pious believers of Islamic Monotheism who fear Allah much (abstain from all kinds of sins and evil deeds which He has forbidden)
and love Allah much (perform all kinds of good deeds which He has ordained)].
3. Who believe In the Ghaib and perform As-Salat (Iqamat-as-Salat), and spend out of what We have provided for them
[i.e. give Zakat , spend on themselves, their parents, their children, their wives, etc., and also give charity to the poor
and also In Allaqh's Cause - Jihad].
4. And who believe in that (the Qur'an and the Sunnah) which has been sent down (revealed) to you
(Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) and in that which was sent down before you [the Taurat (Torah) and the Injeel (Gospel), etc.]
and they believe with certainty In the Hereafter. (Resurrection, Recompense of their good and bad deeds, Paradise and Hell).
5. They are on (true) guidance from their Lord, and they are the successful.


คำแปล (R2)
1.   อลิฟ ลาม มีม
2.   คำภีร์นี้ไม่มีข้อสงสัย ในนั้นมีสิ่งชี้นำแก่มวลผู้ยำเกรง
3.   ซึ่งเป็นผู้ศรัทธามั่นในสิ่งเร้นลับและดำรงการละหมาด และใช้จ่ายบางส่วนของสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา
4.   และบรรดาผู้ศรัทธามั่นในสิ่งที่ถูกประทานแก่เจ้า และสิ่งที่ถูกประทานก่อนหน้าเจ้า อีกทั้งพวกเขามีความเชื่อมั่นในโลกหน้า
5.   พวกเหล่านั้น(เป็นผู้ตั้งมั่นอยู่)บนสิ่งนำทางจากองค์อภิบาลของพวกเขา และพวกเหล่านั้นเป็นผู้สมหวังโดยแท้จริง


คำแปล (R3)
1.   อะลีฟ ลาม มีม
2.   นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮฺ) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำสำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า
3.   ผู้ที่ศรัทธาในสิ่งที่พ้นญาณวิสัยและพวกเขาดำรงการนมาซและใช้จ่าย(ในหนทางของเรา)จากสิ่งที่เราได้ประทานให้แก่พวกเขา
4.   ผู้ที่ศรัทธาในคัมภีร์ที่เราได้ส่งมาให้แก่เจ้าและในคัมภีร์ที่เราได้ส่งมาก่อนหน้าเจ้าและเชื่อมั่นในโลกหน้า
5.   คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่บนทางนำจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา และพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ


คำแปล(R4)
1.   อะลิฟ ลาม มีม
2.   คัมภีร์นี้ ไม่มีความสงสัยใด ๆ ในนั้น เป็นคำแนะนำสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น
3.   คือบรรดาผู้ศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขานั้น พวกเขาก็บริจาค
4.   และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนเจ้า และต่อวันปรโลกนั้นพวกเขาเชื่อมั่น
5.   ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่(ตั้ง)อยู่บนคำแนะนำ ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และชนเหล่านี้คือผู้ที่บรรลุผล


คำแปล (R5)
๑.   คำว่า อลีฟ ลาม มีม อัลเลาะห์เท่านั้นที่ทรงรู้ความหมายของคำนี้

(มุตตะกีน ผู้ที่ปฏิบัติตามใช้และตามห้ามจากคำสั่งสอนในพระคัมภีร์อัล-กุรอาน)
๒. อัล-กุรอานนั้นแน่แท้มาจากอัลเลาะห์ ซึ่งอัล-กุรอานนั้นให้ความสว่างแก่พวกมุตตะกีน คือ บรรดาผู้ที่ปฏิบัติ
ตามใช้และตามห้ามเหมือนกับที่มูฮำมัดได้ชี้ให้แก่พวกนั้น
๓. ซึ่งพวกมุตตะกีนเชื่อในสิ่งที่เร้นลับ เช่น การเกิดใหม่ในภพหน้า สวรรค์และนรก เป็นต้น เพราะพวกนั้นเชื่ออัล-กุรอานและมูฮำมัดและเขาเหล่านั้นดำรง ละหมาด (นมัสการแด่พระเจ้า ๕ เวลา) อย่างสมบูรณ์ตามกระบวนวิธี และด้วยความผ่องแผ้วทั้งภายนอกและภายใน และส่วนหนึ่งจากทรัพย์ที่เราได้ให้ไว้ พวกนั้นก็เสียสละกัน เพราะด้วยทรงบังคับบ้าง เช่น ให้สละเป็นทานแก่บุคคล ๘ จำพวก และให้เป็นเบี้ยเลี้ยงแก่ครอบครัว หรือโดยสมัครใจบ้าง เช่น สละให้เป็นสาธารณสมบัติ และสละเพื่อหวังกุศลแก่ชนทุกชั้น
๔. และพวกมุตตะกีนเชื่อว่าอัล-กุรอานซึ่งลงมายังมูฮำมัด และเชื่อว่าคัมภีร์ต่าง ๆ ที่ลงมายังบรรดาศาสนทูตก่อนจากมูฮำมัด ๑๐๓ เล่มว่าแน่แท้มาจากอัลเลาะห์ทั้งนั้น และเขาเหล่านั้นเชื่อแน่ว่าภพหน้า (อาคีเราะห์) ก็ดี อาการและสิ่งต่าง ๆ ในวันนั้นก็ดีย่อมมีจริง
๕. พวก (มุตตะกีน) นั้นแหละยึดมั่นตามกุรอานและมูฮำมัด และพวกนั้นแหละมีชัยชนะ ได้เข้าสวรรค์พ้นจากนรก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:06 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ม.ค. 10, 2010, 03:08 PM »
0
 salam

ก่อนที่จะศึกษาอัลกุรฺอานในสูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺต่อไป ขอทำความเข้าใจกับพี่น้องอีกสักเล็กน้อย คือ

ประการที่ 1 สูเราะฮฺนี้ประทานที่มะดีนะฮฺเกือบทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ดังนั้น ท่านเราะสูลและเศาะหาบะฮฺได้รับความรู้จากกุรอานสูเราะฮฺนี้เป็นระยะ ๆ

ตามจังหวะเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง จึงมีความเข้าใจในนัยยะของอัลกุรอานอายะฮฺนั้น ๆ  ดังนั้นเราคงต้องใช้เวลาบ้างในการศึกษา

ใครที่ต้องการรู้ความหมายทั้งสูเราะฮฺในครั้งเดียวสามารถหาซื้ออัลกุรอานฉบับแปลไทยฉบับใดฉบับหนึ่งมาอ่านได้ก่อนเลย  สำหรับในบอร์ดนี้จะนำเสนอทีละน้อย

ประการที่ 2 อายะฮฺที่ 1 ของสูเราะฮฺนี้ เป็นอักษรภาษาอาหรับ 3 ตัว คือ อะลิฟ ลาม มีม  เรียกว่า อัลมุก็อฏเฏาะอาต เป็นอักษรที่ไม่มีใครรู้ความหมาย

หรืออาจจะไม่มีความหมาย ในอัลกุรอานมีสูเราะฮฺที่ขึ้นต้นด้วยอักษรประเภทนี้ 28 สูเราะฮฺ บางสูเราะฮฺก็มีหิกมะฮฺที่น่าสนใจ เช่น สูเราะฮฺอัลเกาะลัม

ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนูน ในสูเราะฮฺนี้ ถ้านับตัวอักษรทั้งหมดสูเราะฮฺ จะมีอักษรนูนมากที่สุด

ประการที่ 3 ในระยะแรกนี้จะนำเสนอ 20 อายะฮฺก่อน อายะฮฺแรก คือ อัลมุก็อฏเฏาะอาต อะลีฟ ลาม มีม ส่วนอายะฮฺที่ 2-5

เป็นคำบรรยายเกี่ยวกับคุณสมบัติของ “บรรดาผู้ยำเกรง – มุตตะกีน” อายะฮฺที่ 6-7 เป็นคำบรรยายเกี่ยวกับ “บรรดาผู้ปฏิเสธ – กาฟิรีน”

และตั้งแต่อายะฮฺที่ 8 – 20 เป็นคำบรรยายเกี่ยวกับ “บรรดาที่หน้าไหว้หลังหลอก – มุนาฟิกีน”

ระหว่างการนำเสนอนี้ พี่น้องสามารถร่วมนำเสนอได้ตลอดเวลา ในส่วนที่ผมจะนำเสนอเป็นคำแปลนั้นจะใช้อักษรเป็นสีน้ำเงิน

ถ้าเป็นไปได้ระหว่างการหาคำแปลและทำความเข้าใจ ควรท่องจำไปด้วย วันละ 1-2 อายะฮฺ วิธีการท่องจำให้ศึกษาได้จาก

ที่ท่านนักปราชญ์น้อยได้นำเสนอไว้ที่  http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=5193.15

อินชาอัลลอฮฺ จะได้นำเสนอ อายะฮฺที่ 6-7 ว่าด้วย บรรดาผู้ปฏิเสธ - กาฟิรูน ต่อไป

วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ม.ค. 11, 2010, 05:49 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 6-7



คำแปล R1
.6. Verily, those who disbelieve, it is the same to them whether you (O Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) warn them or do not warn them, they will not believe.
7. Allah has set a seal on their hearts and on their hearings, (i.e. they are closed from accepting Allah's Guidance), and on their eyes there is a covering. Theirs will be a great torment
.

คำแปล R2

6.   แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธ (คัมภีร์แห่งอัลเลาะฮฺ) ย่อมเท่าเทียมกันสำหรับพวกเขา ไม่ว่าเจ้าจะตักเตือนพวกเขา หรือเจ้าจะไม่ตักเตือนก็ตาม พวกเขาก็ไม่ศรัทธา
7.   อัลเลาะฮฺได้ประทับไว้บนจิตใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขา (มิให้เข้าใจ และเชื่อฟังสัจธรรมของพระองค์) และบนดวงตาของพวกเขานั้นมีฝ้าฟาง
(มองสัจธรรมไม่เห็น) และพวกเขาย่อมได้รับการลงโทษมหันต์ (จากอัลเลาะฮฺ)


คำแปล R3

6.   แท้จริง สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธ (สิ่งเหล่านี้) นั้นย่อมเสมอกันกับพวกเขา ไม่ว่าเจ้าจะตักเตือนพวกเขาหรือไม่ก็ตาม พวกเขาจะไม่ศรัทธา
7.   อัลลอฮฺได้ทรงปิดผนึกหัวใจของพวกเขาและหูของพวกเขา และบนดวงตาของพวกเขานั้นก็มีสิ่งปกปิดอยู่ และสำหรับคนพวกนี้ก็คือการลงโทษอันมหันต์


 คำแปล R4

6.   แท้จริงบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธานั้นย่อมมีผลเท่ากันแก่พวกเขา เจ้าจะตักเตือนพวกเขาแล้วหรือยังมิได้ตักเตือนพวกเขาก็หาได้ศรัทธาไม่
7.   อัลลอฮฺได้ทรงประทับ ตราบนหัวใจของพวกเขา และบนหูของพวกเขาแล้ว และบนตาของพวกเขาก็มีสิ่งบดบังอยู่และเขาเหล่านั้น จะได้รับการลงโทษอันมหันต์


คำแปลและคำอธิบาย R5

(กุฟฟาร ผู้ที่ไม่ศรัทธาคำสั่งสอนในอัลกุรอาน)
๖. โอ้มูฮำมัด บรรดาผู้ไม่ยำเกรงนั้นคงไม่เชื่อเจ้าและอัล-กุรอาน ถึงเจ้าจะขู่พวกนั้นด้วยสัญญาลงโทษหรือไม่ก็ย่อมเท่ากัน
พวกนั้นคงไม่เชื่อเจ้าและอัล-กุรอานหรอก ฉะนั้นเจ้าจงอย่าไปมุ่งหวังความเชื่อจากพวกนั้นเลย จงสบายใจได้แล้วที่ไม่ต้องมัวกังวลทำการแสดงโทษแก่พวกนั้น
๗. เพราะอัลเลาะห์ไม่ทรงให้ความจริงเข้าไปสู่จิตใจและหูของพวกนั้นคล้ายกับว่า พระองค์ทรงตีตราไว้ ณ ที่ดังกล่าวนั้น
ทั้งไม่ทรงให้ความจริงมาประสบสายตาของพวกนั้น คล้ายกับว่าพระองค์ทรงให้มีสิ่งมาเคลือบคลุมสายตาพวกนั้นไว้

นั่นแปลว่าพวกนั้นคงไม่รับรองความจริง คือมูฮำมัดและอัล-กุรอาน และพวกนั้นย่อมได้รับการทรมานอย่างใหญ่หลวงจากอัลเลาะห์


วัสสลาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:08 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ม.ค. 13, 2010, 05:55 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 8 – 12
อธิบายลักษณะของ มุนาฟิกีน พวกปากอย่างใจอย่าง หรือ หน้าไหว้หลังหลอก




คำแปล R1.   
8. And of mankind, there are some (hypocrites) who say: "We believe in Allah and the Last Day" while in fact they believe not.
คำแปล R2.
8. และมีมนุษย์บางคนเป็นผู้ที่กล่าวว่า เรามีศรัทธามั่นในอัลเลาะฮฺ และในวันสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่พวกเขาหาใช่ผู้ศรัทธาไม่
คำแปล R3.
8. และในหมู่มนุษย์นั้นมีผู้กล่าวว่า “เราศรัทธาในอัลลอฮฺ และในวันสุดท้าย” แต่พวกเขาไม่ได้ศรัทธาเลย
คำแปล R4.
8. และจากหมู่ชนนั้น มีผู้กล่าวว่า เราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลกแล้ว ทั้ง ๆ ที่พวกเขาหาใช่เป็นผู้ศรัทธาไม่
คำแปล R5.
(มุนาฟิกีน พวกที่ปากว่าอย่างหนึ่งใจอย่างหนึ่ง)
๘. ส่วนหนึ่งจากพวกมุนาฟิกีน มีผู้พูดว่า เราศรัทธาต่ออัลเลาะห์และภพหน้า (อาคีเราะห์) ” แต่ที่จริงแล้ว พวกนั้นหาได้ศรัทธาไม่



คำแปล R1.
9. They (think to) deceive Allah and those who believe, while they only deceive themselves, and perceive (it) not!
คำแปล R2.
9. พวกเขาคิดลวงอัลเลาะฮฺ และบรรดาผู้ศรัทธาและพวกเขาหาได้ลวง (ผู้ใด) ไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น แต่พวกเขาก็หาได้สำนึกไม่
คำแปล R3.
9. พวกเขาพยายามที่จะหลอกลวงอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ศรัทธา. แต่พวกเขาไม่ได้หลอกลวงใครนอกจากพวกเขาเอง และพวกเขาหาได้ตระหนักไม่
คำแปล R4.
9. เขาเหล่านั้นต่างหลอก ลวงอัลลอฮฺ และบรรดาผู้ที่ศรัทธา และพวกเขาหาได้หลอกลวงใครไม่ นอกจากตัวของพวกเขาเองเท่านั้น แต่พวกเขาไม่รู้สึก
คำแปลและคำอธิบาย R5.
๙. พวกมุนาฟิกีนพูดดังนั้น เป็นการพูดลวงอัลเลาะห์และบรรดาผู้ศรัทธา เพื่อเอาตัวรอดปลอดภัย หรือเพื่อจะได้มีเกียรติมาสังคมกับพวกมุอ์มิน
แต่ความจริงพวกนั้นหาได้ลวงใครไม่นอกจากตัวเอง เพราะแท้จริง ภัยจากการหลอกลวงสะท้อนกลับไปสู่ตัวของพวกนั้น และพฤติการณ์อันชั่วร้าย
ของพวกนั้นไม่ตรงกับคำพูด และจะต้องถูกลงโทษทรมานในภพหน้า (อาคีเราะห์) แต่พวกนั้นไม่รู้สำนึกว่านั่นเป็นการหลอกตัวเอง




คำแปล R1.
10. In their hearts is a disease (of doubt and hypocrisy) and Allah has increased their disease.
A painful torment is theirs because they used to tell lies.

คำแปล R2.
10. ในจิตใจของพวกเขามีความป่วยไข้ แล้วอัลเลาะฮฺก็เพิ่มพูลความป่วยไข้แก่พวกเขายิ่งขึ้น และพวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษอันแสนทรมาน เพราะความมดเท็จของพวกเขาเอง
คำแปล R3.
10. ในหัวใจของพวกเขามีโรค ดังนั้นอัลลอฮฺจึงได้เพิ่มโรคนั้นให้มากขึ้น และการลงโทษอันเจ็บปวดจะมีไว้สำหรับพวกเขา สำหรับการที่พวกเขาโกหก
คำแปล R4.
10. ในหัวใจของพวกเขามีโรคอย่างหนึ่ง แล้วอัลลอฮฺได้ทรงเพิ่มโรคอีกอย่างหนึ่งให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะได้รับการนลงโทษอันเจ็บแสบเนื่องจากการที่พวกเขากล่าวเท็จ
คำแปลและคำอธิบาย R5.
๑๐. ความสงสัยต่ออัลเลาะห์และภพหน้า และการหลอกลวงตัวเอง มีอยู่ในใจของพวกนั้น (มุนาฟิกีน) และเมื่ออัลเลาะห์ได้ประทานคัมภีร์อัล-กุรอานลงมา
พระองค์ก็ทรงได้ให้ความสงสัยในใจของพวกนั้นยิ่งทวีหนักขึ้นและเมื่อพวกนั้นจะต้องประสบกับการลงโทษทรมานอย่างเจ็บแสบในภพหน้า (อาคีเราะห์)
ฐานที่พวกนั้นได้กล่าวเท็จ ในคำที่ว่า “พวกเราเชื่อ” หรือหาว่ามูฮำมัดโกหก

 


คำแปล R1.
11. And when it is said to them: "Make not mischief on the earth," they say: "We are only peace-makers."
คำแปล R2.
11. และเมื่อมีผู้กล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านทั้งหลายอย่าบ่อนทำลายบนแผ่นดิน พวกเขาก็กล่าว (โต้) ว่า พวกเราเป็นผู้สร้างสรรค์ต่างหาก
คำแปล R3.
11. เมื่อใดก็ตามที่ได้มีการบอกพวกเขาว่า “จงอย่าสร้างความเสียหายขึ้นในแผ่นดิน” พวกเขาจะตอบว่า “แท้จริงแล้วเราเป็นผู้ฟื้นฟูต่างหาก”
คำแปล R4.
11. และเมื่อได้ถูกกล่าว แก่พวกเขาว่า พวกท่านจงอย่าก่อความเสียหาแก่แผ่นดินซิ พวกเขาก็กล่าวว่า ที่จริงนั้น เราเป็นผู้ปรับปรุงให้ดีต่างหาก
คำแปลและคำอธิบาย R5.
๑๑. และเมื่อมูฮำมัดได้บอกแก่พวก (มูนาฟิกีน) นั้นว่า “พวกเจ้าอย่าก่อความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน” โดยการไม่เชื่อและเบือนออกเสียจากความศรัทธาต่ออัลเลาะห์
วีนสิ้นโลกและอัล-กุรอาน พวกนั้นก็ตอบว่า “ท่านพูดกับเราอย่างนั้นไม่ถูก แท้จริงกิจการของพวกเราล้วนเป็นความดี ไม่มีความเสียหายคละปนอยู่เลย



คำแปล R1.
12. Verily! They are the ones who make mischief, but they perceive not.
คำแปล R2.
12. พึงสังวรเถิด! อันที่จริงพวกเขาเป็นผู้บ่อนทำลายโดยแท้ แต่พวกเขาก็หาสำนึกไม่
คำแปล R3.
12. จงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริง พวกเขาเป็นผู้ก่อความเสียหาย แต่พวกเขาหาได้ตระหนักไม่
คำแปล R4.
12. พึงรู้เถิดว่าแท้จริงพวกเขานั่นแหละ เป็นผู้ที่ก่อความเสียหาย แต่ทว่าพวกเขาไม่รู้สึก
คำแปลและคำอธิบาย R5.
๑๒. อัลเลาะห์ทรงตอบลงมาว่า “จงฟัง แท้จริงพวก (มุนาฟิกีน) นั้นเป็นพวกก่อความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน แต่พวกนั้นหารู้สึกไม่
ว่าทุกสิ่งที่พวกตนได้กระทำนั้นเป็นความเสียหาย ไม่ใช่เป็นความดี และแท้จริงอัลเลาะห์ทรงบันดาลให้มูฮำมัดเห็นความเสียหายของพวกนั้น


อินชาอัลลอฮฺ จะได้นำเสนอต่อไป

พี่น้องอย่าลืม ท่องจำและศึกษาความหมายไปพร้อม ๆ กัน

วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:10 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ม.ค. 14, 2010, 01:00 AM »
0

 salam

ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ...

รอติดตามต่อไปค่ะ...  loveit:

วัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ม.ค. 14, 2010, 06:58 AM »
0
 salam

มีเสียงกระซิบหลังไมค์บอกว่า ขอให้เขียนคำอ่านด้วย อินชาอัลลอฮฺ จะพยายามครับ

แต่ต้องขอบอกว่า หลายตัวอักษรในภาษาอาหรับ ไม่สามารถเทียบเสียงเป็นภาษาไทยได้

แม้จะเทียบอักษรต่ออักษรได้ แต่แทนกันได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ ยกตัวอย่าง คำว่า  شيعة

เราเขียนคำอ่านว่า ชีอะฮฺ จนมุสลิมเราก็อ่านตามตัวอักษรไทยว่า ชี-อะ กันไม่น้อย

ไหนจะเรื่องหลักตัจญวีดอีก อิกลาบ กับ อิดฆอมนั้น อาจจะเขียนคำอ่านตาม หุกม ที่เกิดขึ้น เช่น من بعد ก็อ่านว่า มิมบะอฺดิ

แต่อิคฟาอุ์ จะเขียนคำอ่านอย่างไร ซ่อนเสียงนูนสุกูนอย่างไร มัด ฏอบิอี ไม่มีปัญหา มัดญาอิซ ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่มัดวาญิบจะใช้สัญญลักษณ์อะไร(ขอใช้ขีดเส้นใต้ก็แล้วกัน)

เช่น مِنْ مَاءٍ อ่านว่า มิมมาอิน มา ต้องออกเสียงยาว 7 หะเราะกะฮฺ

ไม่ใช่บอกกันไม่ได้ แต่คงจะใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจและอ่านถูกต้อง

วิธีที่ดีที่สุด ให้เรียนการอ่านกับครูหรือผู้ที่อ่านถูกต้อง ตัวเป็น ๆ หรือ ฟังจากไฟล์เสียง

เช่น http://www.alquran-thai.com/ เปิดเข้าไปแล้วคลิกที่สัญญลักษณ์รูปลำโพงในสูเราะฮฺ นั้น ๆ

หรือ http://www.listen2quran.com/ เลือกเปิดสูเราะฮฺที่ต้องการและเปิดกุรอานดูไปด้วย กด pause เป็นระยะ ๆ

ถ้าใครอยู่กรุงเทพฯ ศูนย์หนังสืออิสลาม พิมพ์กุรฺอาน พร้อมคำอ่านและคำแปล สูเราะฮฺสำคัญ ๆ เช่น ยาสีน ฯลฯ

และได้ทะยอยพิมพ์ออกมาเล่มละญุซอุ์ ตัวอาหรับ คำอ่าน คำแปล ออกมาหลายญุซอุ์แล้ว ไม่รู้จบหรือยัง

หาซื้อได้ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามฯ แต่ก็ยังต้องฟังเสียงการอ่านด้วยหูเราเองจริง ๆ

อินชาอัลลอฮฺ พรุ่งนี้จะพยายามนำเสนอให้จนถึงอายะฮฺที่ 20 (พร้อมคำอ่าน)

วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ม.ค. 14, 2010, 05:55 PM »
0
 salam

สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 13-16
อธิบายลักษณะของ มุนาฟิกีน พวกปากอย่างใจอย่าง หรือ หน้าไหว้หลังหลอก (ต่อ)




คำอ่าน
“วะอิซากีละละฮุม อามินู กะมาอามะนันนาสุ กอลูอะนุมินุกะมาอามะนัสสุฟะฮาอุ์ อะลาอินนะฮุมฮุมุสสุฟะฮาอุวะลากิลลายะอฺละมูน”

คำแปล R1.
13. And when it is said to them (hypocrites): "Believe as the people (followers of Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam ,
Al-Ansar and Al-Muhajirun) have believed," they say: "Shall we believe as the fools have believed?"
Verily, they are the fools, but they know not.


คำแปล R2.
13. และเมื่อมีผู้กล่าวแก่เขาอีกว่า ท่านทั้งหลายจงมีศรัทธา เช่นที่มวลมนุษย์ทั้งหลายศรัทธาเถิด พวกเขาก็กล่าว (โต้) ว่า จะให้พวกเราศรัทธาเหมือนกับ
ที่พวกโง่เขลาศรัทธากระนั้นหรือ พึงสังวร อันที่จริงพวกเขานั่นแหละเป็นพวกโง่เขลาอย่างแท้จริง แต่พวกเขาก็หาได้รู้ไม่


คำแปล R3.
13. และเมื่อได้มีการบอกกับพวกเขาว่า “จงศรัทธาอย่างจริงใจเหมือนกับที่ผู้คนทั้งหลายศรัทธา” พวกเขาจะกล่าวว่า “จะให้เราศรัทธาเหมือนกับ
ผู้ที่โฉดเขลาศรัทธากระนั้นหรือ” จงรู้ไว้เถิดว่า พวกเขาเองนั้นแหละที่โฉดเขลา แต่พวกเขาหารู้ไม่


คำแปล R4.
13. และเมื่อได้ถูกกล่าว แก่พวกเขาว่า พวกท่านจงศรัทธาเยี่ยงที่ประชาชนเขาศรัทธากันซิ พวกเขาก็กล่าวว่า จะให้เราศรัทธาเยี่ยง
ผู้โฉดเขลาเหล่านั้นศรัทธากัน กระนั่นหรือ? พึงรู้เถิดว่าพวกเขาเองนั่นแหละเป็นผู้ที่โฉดเขลาแต่พวกเขาหารู้ไม่


คำแปล R5.
๑๓. และเมื่อมูฮำมัดได้บอกแก่พวก (มุนาฟิกีน) นั้นว่า “พวกเจ้าจงศรัทธาอย่างที่สาวกเขาศรัทธากัน” คือ ศรัทธาต่ออัลเลาะห์, ภพหน้า,
และอัล-กุรอาน พวกนั้นก็ตอบว่า “จะให้พวกเราศรัทธาเหมือนพวกที่โง่เขลาศรัทธากระนั้นหรือ?” อัลเลาะห์ทรงตอบลงมาว่า
จงฟัง แท้จริงพวกนั้น (มุนาฟิกีน) เป็นพวกที่โง่แต่ไม่รู้ว่าโง่




คำอ่าน
วะอิซาละกุลละซีนะอามะนู กอลูอามันนา วะอิซาเคาะเลาอิลาชะยาฏีนิฮิม กอลูอินนามะอะกุม อินนะมานะหฺนุมุสตะฮฺซิอูน

คำแปล R1.
14. And when they meet those who believe, they say: "We believe," but when they are alone with their Shayatin (devils - polytheists, hypocrites, etc.), they say: "Truly, we are with you; Verily, we were but mocking."

คำแปล R2.
14. และเมื่อพวกเขาได้พบปะกับบรรดาผู้ผู้ศรัทธา พวกเขาก็กล่าวว่า “เราศรัทธา” แต่เมื่อพวกเขาปลีกตัวกลับเข้าหา
(หัวหน้าผู้เป็น) มารร้ายของพวกเขา พวกเขาก็กล่าวว่า อันที่จริงพวกเราอยู่ร่วม (อุดมการณ์เดียว) กับพวกท่าน ความเป็นจริง
(ที่พวกเราเข้าไปแสดงตนเป็นผู้ศรัทธานั้น) เราเพียงแต่เย้ยหยัน( พวกเขา) เท่านั้น


คำแปล R3.
14. และเมื่อพวกเขาได้พบบรรดาผู้ศรัทธา พวกเขากล่าวว่า “เราก็เป็นผู้ศรัทธา” แต่เมื่อพวกเขาอยู่ตามลำพังกับบรรดาหัวโจกของพวกเขา
พวกเขาก็จะกล่าวว่า “แท้จริง เราอยู่กับพวกท่าน เราเพียงแต่จะเยาะเย้ยคนพวกนี้เท่านั้น”


คำแปล R4.
14. และเมื่อพวกเขาพบ บรรดาผู้ศรัทธาพวกเขาก็กล่าวว่า เราศรัทธาแล้ว และเมื่อพวกเขาได้ร่วมอยู่กับบรรดาหัวโจกของพวกเขาแต่ลำพัง
พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริงเรายังอยู่กับพวกท่าน ที่จริงเราเป็นแต่เพียงผู้เย้ยหยันเท่านั้น


คำแปล R5.
๑๔. และเมื่อพวก (มุนาฟิกีน) นั้นได้พบปะกับบรรดาผู้ศรัทธา ก็กล่าวว่า “พวกเราก็ศรัทธาต่ออัลเลาะห์, ภพหน้า, และอัล-กุรอาน”
แต่เมื่อได้กลับมาพบกับบรรดาหัวหน้าของตนก็กล่าวว่า “แท้จริงเราและท่านอยู่ในศาสนาเดียวกัน” หัวหน้าได้ถามว่า ไฉนท่านจึงกล่าวรับต่อหน้ามุอ์มินว่า
“เราศรัทธา” เล่า พวกนั้นก็ตอบว่า “แท้จริงเราพูดดังนั้นเพื่อแสดงดูถูกพวกมุอ์มินต่างหาก” เพื่อความปลอดภัย,
เพื่อจะได้รู้ความเป็นไปและได้ผลประโยชน์จากพวกมุอ์มินบ้าง”




คำอ่าน

อัลลอฮุ ยัสตะฮฺซิอุบิฮิม วะยะมุดดุฮุม ฟีฏุฆยานิฮิม ยะอฺมะฮูน

คำแปล R1.
15. Allah mocks at them and gives them increase in their wrong-doings to wander blindly.

คำแปล R2.
15. อัลเลาะฮฺ (จะตอบสนองการ) เย้ยหยัน (ของ) พวกเขา และทรงดลพวกเขาให้ตกอยู่ในความละเมิดอันยาวนานในอาการอันงงงัน

คำแปล R3
.
15. (พวกเขาหาได้ตระหนักสักนิดไม่ว่า) อัลลอฮฺกำลังเยาะเย้ยพวกเขาอยู่ และทรงปล่อยให้พวกเขาดื้อดึงต่อไปในความระเหระหนอย่างมืดบอด

คำแปล R4.
15. อัลลอฮฺจะทรงเย้ยหยันพวกเขา และจะทรงยืดเวลาให้พวกเขาระเหเร่ร่อนอยู่ในการละเมิดของพวกเขาต่อไป

คำแปล R5.
๑๕. อัลเลาะห์จะทรงสนองการดูถูกของพวก (มุนาฟิกีน) นั้นในวันอาคิเราะห์ (ภพหน้า) ด้วยการให้สู่ขุมนรกชั้นต่ำสุด
และจะทรงให้พวกนั้นมีอายุยืนนานอยู่ในสภาพของความไม่ศรัทธาอย่างลังเลใจ ว่าจะอยู่ในศาสนาเดิมดีหรือจะยอมรับนับถือศาสนาอิสลามดี



 
คำอ่าน
อุลาอิกัลละซีนัชตะเราะวุฎเฎาะลาละตะบิลฮุดา ฟะมาเราะบิหัตติญาเราะตุฮุม วะมากานูมุฮฺตะดีน

คำแปล R1.

16. These are they who have purchased error for guidance, so their commerce was profitless. And they were not guided.

คำแปล R2.
16. พวกเหล่านั้นได้นำสิ่งชี้นำมาแลกเปลี่ยนกับความหลงผิด ดังนั้นการค้าของพวกเขาจึงไม่ได้กำไร และพวกเขาไม่ได้รับการชี้นำ (แต่ประการใด)

คำแปล R3.
16. เหล่านี้คือคนที่แลกเปลี่ยนความหลงผิดกับทางนำ แต่นี่เป็นการค้าที่ไม่ก่อกำไร และพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในหนทางที่ถูกต้อง

คำแปล R4.

16. ชนเหล่านี้คือผู้ที่ ซื้อทางหลงผิด ด้วยทางที่ถูก ดังนั้น การค้าของพวกเขาจึงไม่ได้กำไร และทั้งพวกเขาก็ไม่เคยเป็นผู้รับเอาทางที่ถูกต้อง

คำแปล R5.
๑๖. พวก (มุนาฟิกีน) เหล่านั้นแหละ เป็นพวกที่เอาความสว่าง (ความศรัทธา) ไปแลกกับความมืด (ความไม่ศรัทธา)
พวกนั้นจึงไม่มีกำไร ที่เอาความผิด แต่ต้องขาดทุนเพราะพวกเขาจะต้องกลับไปสู่นรกชั่วนิรันดร ทั้งไม่ได้รับความสว่างจากผลที่ทำการแลกเปลี่ยน


ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นำเสนอคำอ่าน ขอย้ำอีกครั้งว่า การถอดตัวอักษรภาษาอาหรับเป็นภาษาไทยนั้น ทำไม่ได้ 100 %
ต้องอาศัยการฟัง ขอให้ใช้คำอ่านนี้เป็นแนวทางเท่านั้น แต่ถ้าพี่น้องสังเกต จะพบว่าการถอดตัวอักษรของผมมีรูปแบบเฉพาะ
อินชาอัลลอฮฺ อ่านไปเรื่อย ๆ แล้วจะชิน ขอดุอาอุ์ต่อเอกองค์อัลลอฮ์ให้พี่น้องได้รับทางนำจากอัลกุรฺอานโดยทั่วกัน

วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:12 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ม.ค. 15, 2010, 12:54 AM »
0
 อัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วาบารอกาตุ

ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะแช

ขอบคุณสำหรับคำอ่านด้วยค่ะ (ไม่อายแล้วค่ะ ;D )

ว่าแต่ คำว่า กอลู หมายถึงอะไรคะ เจอหลายที่
เช่น กอลูอามันนา....กอลูอินนามะอะกุม...
ความหมายเหมือนกับ กอลา หรือเปล่าคะ
เพราะเท่าที่อ่่านคำแปล จะมีประโยคที่ว่า"กล่าวว่า"อยู่ด้วยน่ะค่ะ
เพราะเหมือนๆจะได้ยินมาว่า
คำว่า กอลา แปลว่า กล่าวว่า(เป็นคำกล่าวน่ะค่ะ) ;D

หากผิดพลาดช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

ปล.แล้วที่หนูเคยได้ยินมาว่า เวลาเราเจอคนหน้าไหว้หลังหลอก
ไม่ให้เราต่อว่าว่าเขาว่าเป็นพวกมุนาฟิกีน แต่ให้พูดหรือคิดว่่า
เขาทำตัวเหมือนพวกมุนาฟิกีน
ซึ่งเหมือนจะมีเหตุผลด้วยค่ะว่าเพราะอะไรจึงไม่ควรเรียกว่าอย่างนั้น
แต่หนูลืม ตกลงแล้ว มันจริงมั้ยคะ แล้วทำไมคะ   

อ่านอายะฮฺล่าสุดที่แชนำเสนอแล้วนึกขึ้นมาได้น่ะค่ะ

ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนแช

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 15, 2010, 01:06 AM โดย dho_dho »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ม.ค. 15, 2010, 05:15 AM »
0
 salam

กอละ  =  เขากล่าวว่า

กอลัต  =  เขาผู้หญิงกล่าวว่า

กอลา  =  เขาสองคนกล่าวว่า

กอลู   =  พวกเขากล่าวว่า

มุนาฟิกีน นั้นคือผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวในอัลกุรฺอานตั้งแต่อายะฮฺที่ 8-16 ในสูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ

อาจารย์อิสมาแอล วิสุทธิปราณี (เราะหิมะฮุลลอฮฺ) บรรยายไว้ในเทปหลายครั้งว่า พวกนี้เฉพาะพวกที่อยู่ในสมัยของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

คนหน้าไหว้หลังหลอกสมัยนี้ อาจารย์บอกให้พูดว่า พวกนี้เอานิสัยมุนาฟิกมาใช้ เคยฟังมาอย่างนี้เหมือนกัน

วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ม.ค. 15, 2010, 06:27 AM »
0
 salam

สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 17-20
อธิบายข้อเปรียบเทียบการกระทำต่าง ๆ ของพวกมุนาฟิกูน



 
คำอ่าน
มะษะลุฮุม กะมะษะลิลละซิสเตาเกาะดะนารอน ฟะลัมมาอะฎออัตเหาละฮูซะฮะบัลลอฮุบินูริฮิม วะตะเราะกะฮุม ฟีซุลุมาติลลายุบศิรูน

คำแปล R1.
17. Their likeness is as the likeness of one who kindled a fire; then, when it lighted all around him, Allah took away their light and left them in darkness. (So) they could not see.

คำแปล R2.
17. ข้อเปรียบเทียบของพวกเขานั้น อุปมาประหนึ่งผู้ที่จุดไฟขึ้น ต่อมาเมื่อไฟนั้นทำความสว่างแก่บริเวณโดยรอบของเขา
อัลเลาะฮฺ ก็ดับแสงสว่างของพวกเขาเสีย และทิ้งพวกเขาไว้ในความมืดพวกเขามองอะไรไม่เห็นเลย


คำแปล R3.
17. สภาพของพวกเขาอาจอุปมาได้ดังชายคนหนึ่งได้จุดไฟขึ้น และเมื่อมันส่องสว่างสิ่งที่อยู่รอบๆ เขา อัลลอฮฺก็ได้เอาแสงสว่างนั้น
ออกไปจากตาของพวกเขา และปล่อยพวกเขาไว้ในความมืดทึบที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด


คำแปล R4.
17. อุปมาพวกเขานั้น ดังผู้ที่จุดไฟขึ้น ครั้งเมื่อไฟได้ให้แสงสว่างแก่สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา อัลลอฮฺก็ทรงนำเอาแสงสว่างของพวกเขาไป
และปล่อยพวกเขาไว้ในบรรดาความมืด ซึ่งพวกเขาไม่สามารถจะมองเห็นได้


คำแปลและคำอธิบาย R5.
(ข้อแสดงเปรียบเทียบอาการของพวกมุนาฟิกีน)
๑๗. อาการของพวก (มุนาฟิกีน) นั้นประดุจอาการของชายคนหนึ่งซึ่งได้จุดไฟขึ้นในความมืด
 เมื่อไฟให้ความสว่าง สิ่งที่อยู่รอบตัวเขา เขาก็มองเห็น, ได้ความอบอุ่น และหมดกังวลต่อสิ่งที่น่าหวาดกลัว
อัลเลาะห์ก็ทรงดับแสงสว่างของพวกเขานั้นเสียและทิ้งให้อยู่ในความมืด
ดังนั้นพวกนั้นจึงมองไม่เห็นสิ่งอยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขาเลย ต่างก็มีความกลัวสิ่งที่น่าหวั่นกลัว
   อาการของพวกมุนาฟิกีนก็เหมือนกัน กล่าวคือ พวกนั้นมีความสงบสุขอยู่กับพวกมุอ์มินด้วยคำว่า “เราศรัทธา”
แต่เมื่อความตายมาประสบกับพวกนั้น ความกลัวและการลงโทษก็มาประสบกับพวกเขาทันที



 
คำอ่าน
ศุมมุมบุกมุน อุมยุน ฟะฮุมลายัรฺญิอูน

คำแปล R1.
18. They are deaf, dumb, and blind, so they return not (to the Right Path).

คำแปล R2.
18. พวกเขาหูหนวก, เป็นใบ้, อีกทั้งตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลับคืน (มาสู่แนวทางอันถูกต้อง นอกจากระหนอยู่ในทางอันหลงผิดตลอดไป)

คำแปล R3.
18. พวกเขาหูหนวก เป็นใบ้ ตาบอด ดังนั้น พวกเขาจะไม่กลับมา (ยังหนทางที่ถูกต้อง)

คำแปล R4.
18. เขาเหล่านั้นเป็นคนหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะกลับมาได้

คำแปล R5.
๑๘.พวก (ไม่ยำเกรง) นั้นมิได้สดับฟัง ความจริงอย่างเคารพ ไม่พูดถึงเรื่องดี (ทางศาสนาอิสลาม) และมองไม่เห็น
วิถีทางที่มูฮำมัดและอัล-กุรอานชี้ไว้ พวกนั้นคงไม่กลับออกจากทางผิดพลาดมาสู่วิถีทางที่มูฮำมัดและอัล-กุรอานชี้ไว้เป็นแน่
พวกนั้นจึงไม่รับรองความจริง




คำอ่าน
เอากะศ็อยยิบิมมินัสสะมาอิ ฟีฮิซุลุมาตตูวฺ วะเราะอฺดูวฺ วะบัรกุย ยัจญอะลูนะมาอะศอบิอะฮุม
ฟีอาซานิฮิมมินัศเศาะวาอิกิ หะซะรอลเมาติวัลลอฮุมุหีฏุมบิลกาฟิรีน


คำแปล R1.
19. Or like a rainstorm from the sky, wherein is darkness, thunder, and lightning.
They thrust their fingers in their ears to keep out the stunning thunderclap for fear of death.
But Allah ever encompasses the disbelievers (i.e. Allah will gather them all together).

คำแปล R2.
19. หรืออุปมาประหนึ่งสายฝนที่หลั่งจากฟากฟ้าในนั้นมีแต่ความมืด มีฟ้าร้องและฟ้าแลบ พวกเขาเอานิ้วอุดในหูของพวกเขาไว้
เนื่องจากฟ้าผ่า เพราะความกลัวตาย และอัลเลาะฮฺทรงแวดล้อมพวกปฏิเสธ (เหล่านั้นไว้อย่างมิดชิด จนพวกเขาฝ่าออกไปไม่ได้)


คำแปล R3.
19. หรือ (สภาพของพวกเขายังอาจอุปมาได้) ดั่งฝนหนักที่กำลังตกมาจากฟากฟ้าที่ตามมาด้วยความมืดทึบ ฟ้าร้องและฟ้าแลบ
(เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงฟ้าลั่น) พวกเขาก็เอานิ้วมืออุดหูพวกเขาให้พ้นจากเสียงฟ้าผ่าเพราะหวาดกลัวความตาย (แต่พวกเขาลืมไปว่า)
อัลลอฮฺนั้นทรงล้อมพวกปฏิเสธไว้ทุกด้าน

 
คำแปล R4.
19. หรือดังฝนที่หลั่งลง มาจากฟากฟ้า โดยที่ในฝนนั้นมีทั้งบรรดาความมืด ฟ้าคำรน และฟ้าแลบ พวกเขาจึงเอานิ้วมือของพวกเขาอุดหูไว้
เนื่องจากฟ้าผ่า ทั้งนี้เพราะกลัวความตายและอัลลอฮฺนั้นทรงล้อมพวกปฏิเสธการศรัทธาเหล่านั้นไว้แล้ว


คำแปลและคำอธิบาย R5.[/b]
๑๙. หรืออาการของพวกมุนาฟิกีนเหมือนอาการของชายคนหนึ่งที่อยู่กลางสายฝนซึ่งตกลงมาจากเมฆ ในเมฆนั้นมีแต่ความมืดทึบ
มีเสียงฟ้าร้อง และสายฟ้าแลบ พวกนั้นเอาปลายนิ้วอุดหู เพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงฟ้าลั่นอันแรงกล้าเพราะความกลัวตาย

แต่ความรู้และพลังของอัลเลาะห์ล้อมรอบพวกมุนาฟิกีนอยู่ จนพวกนั้นไม่สามารถฝ่าออกไปได้เลย
อาการของพวกมุนาฟิกีน ก็เปรียบเสมือนพวกที่อยู่กลางฝน กล่าวคือเมื่ออัล-กุรอานลงมา ในนั้นกล่าวถึงผลเสียหาย
ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลเลาะห์, ภพหน้า, และอัลกุรอานเปรียบเสมือนความมืดของเมฆ
สัญญาการลงโทษเนื่องจากการไม่ศรัทธาเปรียบเสมือนฟ้าร้อง
หลักฐานยืนยันว่าจะต้องศรัทธาโดยมั่นเปรียบเสมือนฟ้าแลบ
ส่วนการที่พวกมุนาฟิกีนอุดหูมิให้ได้ยินอัล-กุรอาน เพราะกลัวจะต้องศรัทธาแล้วทิ้งศาสนาเดิม
เปรียบเสมือนพวกที่อยู่กลางสายฝนเอานิ้วปิดหูมิให้ได้ยินฟ้าร้องเพราะกลัวตาย




คำอ่าน
ยะกาดุลบัรกุยัคเฏาะฟุอับศอเราะฮุม กุลละมาอะฎออะละฮุมมะเชาฟีฮิ วะอิซาอัซละมะอะลัยฮิม กอมู
วะเลาชาอัลลอฮุละซะฮะบะบิสัมอิฮิม วะอับศอริฮิม อินนัลลอฮะอะลากุลลิชัยอินเกาะดีรฺ

คำแปล R1.
20. The lightning almost snatches away their sight, whenever it flashes for them, they walk therein,
and when darkness covers them, they stand still. And if Allah willed, He could have taken away
their hearing and their sight. Certainly, Allah has power over all things.

คำแปล R2.
20. ฟ้าแลบ เกือบจะโฉบเฉี่ยวสายตาของพวกเขา (จนบอด) ทุกครั้งที่มันทำความสว่างไสวแก่พวกเขา พวกเขาก็ได้เดินในแสงสว่างนั้น
และเมื่อบังเกิดความมืดแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน (เดินต่อไปไม่ได้) และมาดแม้นอัลเลาะฮฺทรงประสงค์ (ที่จะทำลายพวกเขา)
พระองค์ก็ย่อมขจัดประสาทหูและสายตาของพวกเขา (โดยง่ายดาย) เพราะแท้จริงอัลเลาะฮฺ ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง


คำแปล R3.
20. สายฟ้าแลบทำให้พวกเขาตกใจราวกับว่ามันจะเฉี่ยวเอาการมองเห็นไปจากพวกเขา เมื่อใดที่พวกเขาเห็นแสง พวกเขาก็เดินคืบหน้าไป
แต่เมื่อมันมืดทึบแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน และถ้าอัลลอฮฺทรงประสงค์ พระองค์ก็จะขจัดการได้ยิน ของพวกเขาและการเห็นของพวกเขา
แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง


คำแปล R4.
20. สายฟ้าแลบแทบจะเฉี่ยว สายตาของพวกเขาไป คราใดที่มันให้แสงสว่างแก่พวกเขา พวกเขาก็เดินไปในแสงสว่างนั้น
และเมื่อมันมืดลงแก่พวกเขา พวกเขาก็หยุดยืน และหากอัลลอฮฺ ทรงประสงค์แล้วแน่นอนก็ทรงนำเอาหูและตาของพวกเขาไปแล้ว
แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง


คำแปลและคำอธิบาย R5.
๒๐. ฟ้าแลบนั้นเกือบจะโฉบเอาสายตาของพวกนั้นที่อยู่ท่ามกลางสายฝน ทุก ๆ ครั้งที่ฟ้าแลบให้ความสว่างพวกนั้นก็เดินไปได้
และเมื่อมีความมืด พวกนั้นก็หยุดเดิน
เมื่อพวกมุนาฟิกีนได้ยินเรื่องที่สบอารมณ์ในอัล-กุรอาน เช่น ห้ามทำร้ายร่างกายกัน พวกนั้นก็เชื่ออัล-กุรอาน
การเชื่อนี้เปรียบเสมือนพวกที่เดินอยู่ท่ามกลางฟ้าแลบ แต่เมื่อพวกมุนาฟิกีนได้ยินเรื่องที่ไม่สบอารมณ์จากอัล-กุรอานเช่น จะต้องละหมาด ๕ เวลา
ถือศีลอดเดือนรอมดอน พวกนั้นก็ไม่เชื่อ การไม่เชื่อนี้เปรียบเสมือนพวกที่อยู่ท่ามกลางฝนขณะที่มีความมืด
และถ้าอัลเลาะห์ทรงประสงค์ที่จะให้หูของพวกนั้นหนวก ตอนได้ยินฟ้าลั่น และให้ตาบอด เมื่อเห็นฟ้าแลบ พระองค์ก็ย่อมทำได้
แต่พระองค์มิได้ประสงค์อย่างนั้น หูและตาของพวกนั้นจึงเป็นปกติ แท้จริงอัลเลาะห์ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง



ในที่สุด ก็จบตั้งแต่อายะฮฺที่ 1 - 20
อายะฮฺที่ 1 เป็น อักษร อัลมุก็อฏเฏาะอาต
อายะฮฺที่ 2-5 บรรยายถึง ลักษณะของผู้มีความยำเกรงหรือมุตตะกีน/มุตตะกูน
อายะฮฺที่ 6-7 บรรยายถึง ลักษณะของบรรดาผู้ปฏิเสธหรือ กาฟิรีน/กาฟิรูน
อายะฮฺที่ 8-16 บรรยายถึง ลักษณะของบรรดาผู้ปากอย่างใจอย่าง มุนาฟิกีน/มุนาฟิกูน
อายะฮฺ 17-20 เปรียบเทียบลักษณะต่าง ๆ ของ มุนาฟิกีน/มุนาฟิกูน

อินชาอัลลอฮฺ จะเว้นช่วงการนำเสนอประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อให้พี่น้องซึมซับกับความหมาย และท่องจำ ถ้ามีความสะดวก
วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:13 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 07:57 PM »
0
 salam

ก่อนที่จะนำเสนอตอนต่อไปของกระทู้นี้ ขออนุญาตพี่น้องบางท่านที่อ่านภาษาอาหรับไม่ชำนาญ หรือบางท่านที่เป็นมุสลิมใหม่

ยังไม่จัดเจนในการอ่านกุรฺอานว่า เพื่อให้การอ่านกระทู้มีอรรถรสยิ่งขึ้น ควรอ่านกุรฺอานประกอบไปด้วย ขณะนี้ ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ

ได้จัดพิมพ์หนังสือ “อัลกุรอาน คำอ่าน คำแปลภาษาไทย 30 ญุซ 30 เล่ม เล่มละ 50 บาทหรือชุดละ 1,500 บาท ตามตัวอย่างที่นำมาลงไว้ให้ดู



(ที่นำรูปมาลงไว้คือญุซที่ ๓๐ อัมมา)

ใครที่สนใจซื้อได้ที่ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ 87/2 อาคารมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง ซอย 2

สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทร. 02-318-8085, 02-925-5935, 089-005-3393

โฆษณาให้ฟรี ๆ เห็นว่ามีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์ด้วย

วัสสลาม

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 10:13 PM »
0
 salam

ในช่วงนี้จะได้นำเสนอคำแปลและคำอธิบายสั้น ๆ ของสูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺตั้งแต่อายะฮฺที่ ๒๑ ถึงอายะฮฺที่ ๓๙ จากหนังสืออ้างอิงทั้ง ๕
 

 
คำอ่าน
21. ยาอัยยุฮันนาสุอฺบุดูร็อบบะกุมุลละซีเคาะละเกาะกุม วัลละซีนะมินก็อบลิกุม ละอัลละกุมตัตตะกูน.

คำแปล R1.
21. O mankind! Worship your Lord (Allah), Who created you and those who were before you so that you may become Al-Muttaqun (the pious)

คำแปล R2.
21. โอ้มวลมนุษย์ทั้งหลาย ! เจ้าทั้งหลายจงนมัสการองค์อภิบาลของพวกเจ้า ซึ่งทรงบันดาลพวกเจ้า
และบรรดาผู้ที่มีมาก่อนหน้าพวกเจ้า ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้ยำเกรง


คำแปล R3.
21. มนุษย์เอ๋ย จงเคารพภักดีพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ผู้ทรงบังเกิดสูเจ้าและบรรดาก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะได้สำรวมตนจากความชั่ว

คำแปล R4.
21. มนุษย์เอ๋ย! จงเคารพอิบาดะฮฺพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้า และบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

คำแปล R5.
๒๑. โอ้ชาวมักกะฮฺ จงนับถือองค์พระผู้อภิบาลของพวกเจ้า ซึ่งทรงสร้างพวกเจ้าและพวกก่อนจากพวกเจ้าว่ามีเพียงองค์เดียว
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ถนอมตัวให้พ้นจากการถูกลงโทษทรมาน
ด้วยการกราบไหว้พระองค์

[/size]
 

คำอ่าน
22. อัลละซีญะอะละละกุมุลอัรเฎาะฟิรอเชาวัสสะมาอะบินาอา, วะอันซัลนามินัสสะมาอิมาอันฟะอัคร็อจญนาบิฮีมินัษษะมะรอติริซก็อลละกุม,
ฟะลาตัจญอะลูลิลลาฮิอันดาเดาวะอันตุมตะอฺละมูน


คำแปล R1.
22. Who has made the earth a resting place for you, and the sky as a canopy, and sent down water (rain)
from the sky and brought forth therewith fruits as a provision for you. Then do not set up rivals unto Allah
(in worship) while you know (that He alone has the right to be worshipped).


คำแปล R2.
22. พระองค์ทรงบันดาลแผ่นดินให้เป็นพื้นราบสำหรับพวกเจ้า (จักได้ใช้เป็นที่อยู่และประกอบอาชีพ) และ(บันดาล)ท้องฟ้าให้(ปกคลุมดูประหนึ่ง) เป็นหลังคา
พระองค์ทรงหลั่งน้ำฝนจากฟากฟ้า และพระองค์ได้บันดาลให้ผลิออกมาเพราะมันซึ่งผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพสำหรับพวกเจ้า
จงอย่าทำสิ่งเทียบเทียมแก่อัลเลาะฮฺโดยพวกเจ้าก็รู้ดี (ว่าอัลเลาะฮฺไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมพระองค์)


คำแปล R3.
22. ผู้ทรงทำแผ่นดินให้เป็นพื้นสำหรับสูเจ้าและชั้นฟ้าเป็นหลังคา และทรงส่งน้ำมาจากฟากฟ้าและทรงให้ผลไม้ต่าง ๆ
งอกเงยออกมาเพราะเหตุนั้น เพื่อเป็นเครื่องยังชีพสำหรับสูเจ้า ดังนั้นเมื่อสูเจ้ารู้ดีอยู่แล้ว ก็จงอย่าตั้งสิ่งใดเคียงคู่กับอัลลอฮฺ

คำแปล R4.
22. คือ ผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอนและฟ้าเป็นอาคารแก่พวกเจ้า และทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ทรงให้บรรดาผลไม้ออกมา
เนื่องด้วยน้ำนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใด ๆ ขึ้น สำหรับอัลลอฮฺ โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่


คำแปลและคำอธิบาย R5.
๒๒. อัลเลาะห์ผู้ทรงสร้างแผ่นดินให้เป็นสิ่งรองรับ เพื่อพวกเจ้าพักอาศัย เพราะมันมีสภาพไม่แข็งและไม่อ่อนนัก
และสร้างฟ้าให้ปกคลุม ทรงโปรดให้ฝนตกลงมาจากเมฆ แล้วพระองค์ก็ได้ผลิตพืชพันธุ์จากน้ำนั้นให้เป็นเครื่องยังชีพสำหรับพวกเจ้า
และสัตว์ของพวกเจ้า
ฉะนั้นด้วยเหตุต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว จึงห้ามมิให้พวกเจ้านำเอาสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกมากราบไหว้เท่าเทียมอัลเลาะห์
โดยที่พวกเจ้าทราบดีว่า ความจริงอัลเลาะห์เพียงองค์เดียวเท่านั้นเป็นผู้ทรงความสามารถในการสร้างและให้บังเกิด
ส่วนสรรพสิ่งทั้งหลายไม่มีความสามารถในการสร้าง



อีกสักครู่มาต่อครับ พอดีงานเข้า
วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:17 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 10:56 PM »
0
 salam

มาต่ออีก 2 อายะฮฺ

 

คำอ่าน
23. วะอินกุนตุมฟีร็อยบิมมิมมานัซซัลนาอะลาอับดินา ฟะอ์ตูบิสูเราะติมมิมมิษลิฮฺ, วัดอูชุฮะดาอะกุม อินกุนตุมศอดิกีน.

คำแปล R1.
23. And if You (Arab pagans, Jews, and Christians) are in doubt concerning that
which We have sent down (i.e. the Qur'an) to Our slave (Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam),
then produce a surah (chapter) of the like thereof and call your witnesses (supporters and helpers)
besides Allah, if you are truthful.


คำแปล R2.
23. และหากพวกเจ้าตกอยู่ในความสงสัยต่อสิ่งที่เราได้ประทานแก่บ่าวของเรา (ว่ามิใช่เป็นโองการของเรา) พวกเจ้าก็จงนำมา
สักหนึ่งซูเราะฮฺที่เหมือนกับมัน และพวกเจ้าจงเรียกบรรดาสักขีพยานของพวกเจ้า (ที่พวกเจ้ายึดเป็นพระเจ้าและบรรดาแนวร่วมของพวกเจ้า)
อันนอกเหนือจากอัลเลาะฮฺ (มาช่วยกันประพันธ์ขึ้น) ซิ หากพวกเจ้าเป็นผู้สัจจริง


คำแปล R3.
23. และถ้าหากสูเจ้ายังคลางแคลงสงสัยในสิ่งที่เราส่งมาแก่บ่าวของเรา ก็ขอให้สูเจ้าจงแต่งขึ้นมาจากซูเราะฮฺหนึ่ง
ที่เหมือนกับสิ่งนี้ สูเจ้าอาจจะเรียกใครอื่นนอกจากอัลลอฮฺมาช่วยเหลือสูเจ้าก็ได้ ถ้าหากสูเจ้าแน่จริง (ในความสงสัย ก็จงทำ)


คำแปล R4.
23. และหากปรากฏว่าพวกเจ้าอยู่ในความแคลงใจใด ๆ จากสิ่งที่เราได้ลงมาแก่บ่าวของเราแล้ว ก็จงนำมาสักซูเราะฮฺหนึ่งเยี่ยงสิ่งนั้น
และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวก เจ้าอื่นจากอัลลอฮฺหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง

คำแปลและคำอธิบาย R5.
๒๓. และถ้าพวกเจ้าสงสัยอัล-กุรอานที่มาจากอัลเลาะห์ และว่าไม่ใช่คำตรัสของพระองค์ พวกเจ้าก็จงแต่งขึ้นสักบทหนึ่ง
ให้เป็นภาษาอาหรับอันแท้จริง และมีความลี้ลับต่าง ๆ เหมือนอย่างอัล-กุรอานซิ และพวกเจ้าจงวอนขอต่อบรรดาเทพที่พวกเจ้ากราบไหว้
นอกจากอัลเลาะห์มาช่วยพวกเจ้าแต่งซูเราะห์(บท)นั้นเถิด ถ้าพวกเจ้าเชื่อจริงว่าอัล-กุรอานมาจากมูฮำมัด
และเป็นคำพูดของมูฮำมัด ก็ให้พวกเจ้าแต่งเอง เพราะพวกเจ้าเป็นชาวอาหรับ พูดฉะฉานเช่นเดียวกับมูฮำมัด


   

คำอ่าน
24. ฟะอิลลัมตัฟอะลู วะลันตัฟอะลู ฟัตตะกุนนาร็อลละตี วะกูดุฮันนาสุวัลหิญาเราะฮฺ, อุอิดดัตลิลกาฟิรีน.

คำแปล R1.
24. But if you do it not, and you can never do it, then fear the Fire (hell)
whose fuel is men and stones, prepared for the disbelievers.

คำแปล R2.
24. ดังนั้นหากพวกเจ้าทำไม่ได้ และจะทำไม่ได้ (อีกตลอดไป) พวกเจ้าก็จงกลัวไฟนรกเถิด
ซึ่งเชื้อเพลิงของมันเป็นมนุษย์และหินซึ่งถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหลาย


คำแปล R3.
24. แต่หากสูเจ้าไม่ทำ และสูเจ้าก็ไม่มีทางที่จะทำได้ด้วย ดังนั้น จงระวังไฟที่ถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธที่จะมีมนุษย์และหินเป็นเชื้อเพลิง

คำแปล R4.

24. แต่ถ้าพวกเจ้ายังมิได้ทำ และจะไม่กระทำตลอดไปแล้ว ก็จงระวังไฟนรก ซึ่งเชื้อเพลิงของมันนั้นคือ มนุษย์ และหิน
โดยที่มันได้ถูกเตรียมไว้ สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา


คำแปลและคำอธิบาย R5.
๒๔. ถ้าแม้นว่าพวกเจ้าหมดความสามารถที่จะแต่ง อัลเลาะห์ตรัสว่า เมื่อพวกเจ้าทำไม่ได้ด้วยหมดความสามารถ
และจะกระทำต่อไปอีกก็ไม่ได้แล้ว พวกเจ้าจงเกรงกลัวไฟนรกเถิด โดยหันกลับมาศรัทธาต่ออัลเลาะห์และเชื่อว่าอัล-กุรอาน
ไม่ใช่คำพูดของมูฮำมัด แต่เป็นคำตรัสของอัลเลาะห์
ซึ่งไฟนรกนั้น เชื้อเพลิงของมัน คือ มนุษย์จำพวกกาฟิร (พวกไม่ศรัทธาคำสั่งสอนใน อัล-กุรอาน)
และหินที่ถูกบูชา ทั้งมีความร้อนกว่าไฟที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงอยู่ ณ โลกนี้
ไฟนรกนั้นถูกอัลเลาะห์เตรียมไว้สำหรับลงโทษบรรดาผู้ไม่ศรัทธา



ขอเวลาเตรียมตัว เดี๋ยวมาต่ออีก 1 อายะฮฺ
วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:17 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ Bangmud

  • ทีมงานบอร์ด
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 11:17 PM »
0
 salam

ยังไม่ดึกมาก ขอต่ออีกสักอายะฮฺ



คำอ่าน
25. วะบัชชิริลละซีนะอามะนูวะอะมิลุศศอลิหาติอันนะละฮุมญันนาตินตัจญรีมินตะหฺติฮัลอันฮารฺ,
กุลละมารุซิกูมินฮามินษะมะเราะติรฺริซกอนกอลูฮาซัลละซีรุกซิกนามินก็อบลฺ, วะอุตูบิฮีมุตะชาบิฮา,
วะละฮุมฟีฮาอัซวาญุมมุเฏาะฮฺฮะรอตูวะฮุมฟีฮาคอลิดูน.


คำแปล R1.
25. And give glad tidings to those who believe and do righteous good deeds that for them will be Gardens
under which rivers flow (Paradise). Every time they will be provided with a fruit therefrom, they will say:
"This is what we were provided with before," and they will be given things in resemblance
(i.e. in the same form but different in taste) and they shall have therein Azwajun Mutahharatun
(purified mates or wives) and they will abide therein forever.


คำแปล R2.
25. และ (โอ้ นบีมุฮำมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีเถิดว่า พวกเขาจักได้รับสวรรค์
ซึ่งมีธารน้ำไหลอยู่ข้างใต้ของมัน (เป็นสิ่งตอบแทน) ทุกครั้งที่พวกเขาได้รับโชคผลจากสวรรค์เป็นผลไม้ (ซึ่งพวกเขาใช้รับประทาน)
พวกเขาก็รำพึงว่า นี่เป็นสิ่งที่พวกเราได้รับโชคมาก่อน (เมื่อครั้งพวกเรายังใช้ชีวิตอยู่ในสากลโลก) และพวกเขาได้รับสิ่งนั้นอย่างละม้ายกัน
(เป็นประจำตลอดไป) และพวกเขามีคู่ครองอันบริสุทธิ์ในสวรรค์ และพวกเขาพำนักอยู่ในนั้นโดยนิรันดรกาล


คำแปล R3.
25. และ (มุฮัมมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบการดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขา คือสวนสวรรค์หลากหลาย
ที่เบื้องล่างมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน คราวใดที่พวกเขาได้รับผลไม้จากที่นั่นเป็นปัจจัยยังชีพ พวกเขาจะกล่าวว่า
“นี่เป็นสิ่งที่เราได้ถูกประทานมาก่อน” และพวกเขาจะถูกประทานให้เยี่ยงนั้น และจะมีคู่ครองที่บริสุทธิ์สำหรับพวกเขาในนั้น
และพวกเขาทั้งหลายจะพักอยู่ในนั้นตลอดไป


คำแปล R4.
25. และ(มุฮัมมัด) จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลายว่า แน่นอนพวกเขาจะได้รับบรรดาสวนสวรรค์
ซึ่งมีแม่น้ำหลายสาย ไหลอยู่ภายใต้สวนสวรรค์เหล่านั้น คราใดที่พวกเขาได้รับผลไม้จากสวนสวรรค์นั้นเป็นเครื่องยังชีพ พวกเขาก็กล่าวว่า
นี่คือสิ่งที่เราได้รับเป็นปัจจัยยังชีพมาก่อนแล้ว และสิ่งที่พวกเขาได้รับนั้น มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และในสวรรค์นั้น
พวกเขาจะได้รับคู่ครองที่บริสุทธิ์ และพวกเขาจะพำนักอยู่ในสวรรค์นั้นตลอดกาล


คำแปลและคำอธิบาย R5.
๒๕.  และโอ้มูฮำมัด เจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธา(มุอ์มิน)และบรรดาผู้ประพฤติชอบ ทั้งที่เป็นภาคบังคับและไม่บังคับ
ว่าแน่แท้พวกนั้นได้สวรรค์ที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ดอกและไม้ผลต่าง ๆ พร้อมทั้งปราสาทจำนวนมาก
เบื้องล่างนั้นมีแม่น้ำไหลผ่าน
ทุกครั้งที่พวกนั้นได้รับประทานผลไม้จากสวนนั้น ต่างก็พากันกล่าวว่า นี่แหละเป็นผลไม้ที่มีรสชาติ สีสรร และส่วนอื่น ๆ
คล้ายกับที่ถูกประทานแก่เราในกาลก่อน และในสวรรค์นั้นยังได้คู่ครองที่บริสุทธิ์และคงพำนักถาวรอยู่ในนั้น ไม่ออกและไม่ตาย


วัสสลาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 16, 2012, 09:18 PM โดย webmaster »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อัลกุรฺอาน คำแปลและคำอธิบาย (ตอนที่ 2)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ม.ค. 21, 2010, 12:41 AM »
0


วะอะลัยกุมมุสลาม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ

ญะซากัลลอฮุคอยรอนค่ะแช


จำได้ว่า เวลาอ่านบทความต่่างๆเกี่ยวกับศาสนา
อายะฮฺที่17-20 ในซูเราะฮฺอัล-บะกอเราะฮฺ นั้น
จะถูกยกมากล่าวถึงหลายต่อหลายครั้งที่ได้อ่่านเลยค่ะ...

ปล.ขอบคุณแชย้อนหลังเรื่องความหมายของคำว่า
กอละ กอลา กอลัต และกอลู รวมทั้งเรื่องหนังสือด้วยค่ะ ;D

หากสะดวก ค่อยมาต่อค่ะ อินชาอัลลอฮฺ...



วัสลามุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 21, 2010, 03:41 PM โดย dho_dho »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged