salam
สูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺในตอนนี้ยังคงใช้เอกสารอ้างอิงเดิมตามที่กล่าวไว้แล้วในตอนที่ 1
อ้างอิง R1. The Noble Qur’an, English Translation of the meanings and commentary.
Dr.Muhammad Taqi-ud-Din al-Hilali and Dr.Muhammad Muhsin Khan.
King Fahd Complex for the Printing of the Holy Qur’an. Madinah, K.S.A.
อ้างอิง R2. อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย โดย มัรวาน สะมะอุน ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ มปป. จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ส.วงศ์เสงี่ยม กรุงเทพฯ
อ้างอิง R3.ตัฟฮีมุลกุรฺอาน ความหมายคัมภีร์ อัล-กุรอาน อรรถาธิบายโดย เมาลานา ซัยยิด อบุล อลา เมาดูดี แปลโดย บรรจง บินกาซัน
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2539 ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ
อ้างอิง R4. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย ศูนย์กษัตริย์ฟาฮัด เพื่อการพิมพ์อัลกุรอานแห่งนครมาดีนะฮ์
อ้างอิง R5. พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย โดย นายต่วน สุวรรณศาสน์ (ฮัจยีอิสมาแอล บินฮัจยียะห์ยา) จุฬาราชมนตรี มูลนิธิต่วน สุวรรณศาสน์
พิมพ์ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อพระราชทานสถาบันต่าง ๆ ในพระราชวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐
สำหรับ R5. นั้น คำแปลจะเป็นคำอธิบายหรือขยายความไปในตัว โดย
ตัวอักษรหนาจะเป็นคำแปลตามลุฆ็อต ส่วนตัวอักษรปกติเป็นการอธิบายหรือขยายความ
ในตอนที่ 2 นี้ จะนำเสนอสูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ โดยเสนอครั้งละ 1 อายะฮฺหรือมากกว่า ขึ้นกับความยาวของแต่ละอายะฮฺและการต่อเนื่องของใจความ
การสะกดการันต์จะพยายามให้เป็นไปตามเอกสารอ้างอิงทุกคำนอกจากสุดความสามารถ เช่น มีอักขระบางตัวที่เครื่องพิมพ์พิมพ์ไม่ได้ หรือความผิดพลาดส่วนบุคคล
เคยชินกับการสะกดในเอกสารอ้างอิงเล่มหนึ่ง พอคุ้นมือก็เปลี่ยนเล่มใหม่ จึงอาจเกิดความผิดพลาดได้ เช่น อัลลอฮฺ อัลเลาะห์ อัลเลาะฮ์ ฯลฯ
ขอมะอัฟจากพี่น้องผู้อ่านและจากท่านเจ้าของเอกสารอ้างอิงในความผิดพลาดนี้ จะพยายามตรวจทานแก้ไขให้ถูกต้อง
คำอธิบายประกอบสูเราะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ (R4) เป็นซูเราะฮฺมะดะนียะฮฺ ทั้งซูเราะฮฺ คือถูกประทานลงมาหลังฮิจญเราะฮฺศักราช ณ นครมะดีนะฮฺ ยกเว้นอายะฮฺที่ 281 ซึ่งถูกประทานลงมา ณ ตำบลมินา
ขณะประกอบพิธี ฮัจญะตุลวะดาอฺ ซูร่อตุลบะเกาะเราะฮฺนี้ นับเป็นซูเราะฮฺที่ยาวที่สุด มี 286 อายะฮฺ






คำแปล (R1)
1. Alif-Lam-Mim. [These letters are one of the miracles of the Qur'an and none but Allah (Alone) knows their meanings].
2. This is the Book (the Qur'an), whereof there is no doubt, a guidance to those who are Al-Muttaqun
[the pious believers of Islamic Monotheism who fear Allah much (abstain from all kinds of sins and evil deeds which He has forbidden)
and love Allah much (perform all kinds of good deeds which He has ordained)].
3. Who believe In the Ghaib and perform As-Salat (Iqamat-as-Salat), and spend out of what We have provided for them
[i.e. give Zakat , spend on themselves, their parents, their children, their wives, etc., and also give charity to the poor
and also In Allaqh's Cause - Jihad].
4. And who believe in that (the Qur'an and the Sunnah) which has been sent down (revealed) to you
(Muhammad Sal-Allaahu 'alayhe Wa Sallam) and in that which was sent down before you [the Taurat (Torah) and the Injeel (Gospel), etc.]
and they believe with certainty In the Hereafter. (Resurrection, Recompense of their good and bad deeds, Paradise and Hell).
5. They are on (true) guidance from their Lord, and they are the successful.คำแปล (R2)
1. อลิฟ ลาม มีม
2. คำภีร์นี้ไม่มีข้อสงสัย ในนั้นมีสิ่งชี้นำแก่มวลผู้ยำเกรง
3. ซึ่งเป็นผู้ศรัทธามั่นในสิ่งเร้นลับและดำรงการละหมาด และใช้จ่ายบางส่วนของสิ่งที่เราได้ประทานแก่พวกเขา
4. และบรรดาผู้ศรัทธามั่นในสิ่งที่ถูกประทานแก่เจ้า และสิ่งที่ถูกประทานก่อนหน้าเจ้า อีกทั้งพวกเขามีความเชื่อมั่นในโลกหน้า
5. พวกเหล่านั้น(เป็นผู้ตั้งมั่นอยู่)บนสิ่งนำทางจากองค์อภิบาลของพวกเขา และพวกเหล่านั้นเป็นผู้สมหวังโดยแท้จริง
คำแปล (R3)
1. อะลีฟ ลาม มีม
2. นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮฺ) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำสำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า
3. ผู้ที่ศรัทธาในสิ่งที่พ้นญาณวิสัยและพวกเขาดำรงการนมาซและใช้จ่าย(ในหนทางของเรา)จากสิ่งที่เราได้ประทานให้แก่พวกเขา
4. ผู้ที่ศรัทธาในคัมภีร์ที่เราได้ส่งมาให้แก่เจ้าและในคัมภีร์ที่เราได้ส่งมาก่อนหน้าเจ้าและเชื่อมั่นในโลกหน้า
5. คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่บนทางนำจากพระผู้อภิบาลของพวกเขา และพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จคำแปล(R4)
1. อะลิฟ ลาม มีม
2. คัมภีร์นี้ ไม่มีความสงสัยใด ๆ ในนั้น เป็นคำแนะนำสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงเท่านั้น
3. คือบรรดาผู้ศรัทธาต่อสิ่งเร้นลับ และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และส่วนหนึ่งจากสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขานั้น พวกเขาก็บริจาค
4. และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เจ้า และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนเจ้า และต่อวันปรโลกนั้นพวกเขาเชื่อมั่น
5. ชนเหล่านี้ คือ ผู้ที่(ตั้ง)อยู่บนคำแนะนำ ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา และชนเหล่านี้คือผู้ที่บรรลุผล
คำแปล (R5)
๑. คำว่า อลีฟ ลาม มีม อัลเลาะห์เท่านั้นที่ทรงรู้ความหมายของคำนี้(มุตตะกีน ผู้ที่ปฏิบัติตามใช้และตามห้ามจากคำสั่งสอนในพระคัมภีร์อัล-กุรอาน)๒. อัล-กุรอานนั้นแน่แท้มาจากอัลเลาะห์ ซึ่งอัล-กุรอานนั้นให้ความสว่างแก่พวกมุตตะกีน คือ บรรดาผู้ที่ปฏิบัติ
ตามใช้และตามห้ามเหมือนกับที่มูฮำมัดได้ชี้ให้แก่พวกนั้น
๓. ซึ่งพวกมุตตะกีนเชื่อในสิ่งที่เร้นลับ เช่น การเกิดใหม่ในภพหน้า สวรรค์และนรก เป็นต้น เพราะพวกนั้นเชื่ออัล-กุรอานและมูฮำมัดและเขาเหล่านั้นดำรง ละหมาด (นมัสการแด่พระเจ้า ๕ เวลา) อย่างสมบูรณ์ตามกระบวนวิธี และด้วยความผ่องแผ้วทั้งภายนอกและภายใน และส่วนหนึ่งจากทรัพย์ที่เราได้ให้ไว้ พวกนั้นก็เสียสละกัน เพราะด้วยทรงบังคับบ้าง เช่น ให้สละเป็นทานแก่บุคคล ๘ จำพวก และให้เป็นเบี้ยเลี้ยงแก่ครอบครัว หรือโดยสมัครใจบ้าง เช่น สละให้เป็นสาธารณสมบัติ และสละเพื่อหวังกุศลแก่ชนทุกชั้น
๔. และพวกมุตตะกีนเชื่อว่าอัล-กุรอานซึ่งลงมายังมูฮำมัด และเชื่อว่าคัมภีร์ต่าง ๆ ที่ลงมายังบรรดาศาสนทูตก่อนจากมูฮำมัด ๑๐๓ เล่มว่าแน่แท้มาจากอัลเลาะห์ทั้งนั้น และเขาเหล่านั้นเชื่อแน่ว่าภพหน้า (อาคีเราะห์) ก็ดี อาการและสิ่งต่าง ๆ ในวันนั้นก็ดีย่อมมีจริง
๕. พวก (มุตตะกีน) นั้นแหละยึดมั่นตามกุรอานและมูฮำมัด และพวกนั้นแหละมีชัยชนะ ได้เข้าสวรรค์พ้นจากนรก