อัสลามุอะลัยกุมฯ
ช่วง Long weekend อันแสนยาวนานของเมืองไทย ( 4 วัน) นี้
มีโอกาสได้มาสูดกลิ่นเมืองนนท์ บ้านเกิด
มาคราวนี้ก็ลงมือเป็นแม่ครัว ครบทุกมื้อ ก็ออกจะมีความสุขมั่ก ๆ ที่มีโอกาสได้จัดเมนูอาหารที่แม่อยากทาน (แต่ไม่มีเวลาทำ)
และเมนูอาหารที่เหมาะกับสุขภาพของพ่อ
แล้วก็เลยจะมานำเสนอ 1 เมนูที่ได้ทำไปแล้ว จะหมดเกลี้ยงในพริบตา (เหอ เหอ)

มันคือ
.......
แกงเลียง
เครื่องปรุง1. ฟักทองเนื้อดี หั่นชิ้นพอคำ จำนวน 10-12 ชิ้น
2. บวบเหลี่ยม (หักชิมดูเสียก่อนว่าไม่ขม) ประมาณ 1 ลูก ขนาดพอดี ปอกเปลือกออก แต่ไม่ควรปอกจนเกลี้ยงเกลาให้เหลือเปลือกไว้บ้าง เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ประมาณ 12-15 ชิ้น
3. ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 4 ฝัก
4. กระชาย 2 หัว ทุบเบา ๆ แล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว
5. ตำลึงยอดงาม ๆ สัก 10 ยอด เด็ดเอาแต่ใบอ่อน ๆ
6. แมงลัก 3-4 กิ่ง เด็ดเอาแต่ใบหรือยอดดอกอ่อน ๆ
7. กุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งชีแฮ้ 6-7 ตัว ปอกเปลือก เอาเส้นดำออก
8. น้ำซุป (จากการต้มซี่โครงโครงไก่) 4 ถ้วยตวง
9. น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
10. หากชอบเผ็ดเพิ่มพริกขี้หนูสดอีก 5-6 เม็ด บุบพอแตก
เครื่องปรุงพริกแกง1. พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาเมล็ดออก 2 เม็ด
2. กระชาย 4 หัว
3. หอมแดงหัวขนาดกลาง 5 หัว
4. พริกไทยขาว 12 เม็ด
5. กะปิเผาไฟพอสุก 2 ขีดครึ่ง
6. กุ้งแห้ง 2 ขีดครึ่ง
วิธีทำนำเครื่องปรุงพริกแกงเหล่านี้โขลกให้ละเอียด ถ้าชอบให้น้ำแกงข้นอีกนิดก็ใช้เนื้อปลา จะย่างหรือต้มให้สุกก่อนก็ได้ แล้วนำมาโขลกรวมกันกับพริกแกง นำน้ำซุปตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมให้ได้รสเค็มและเผ็ดนิด ๆ พอน้ำแกงเดือดอีกที ใส่ผักชนิดสุกยากลงก่อน เช่น ฟักทอง ข้าวโพด ตามด้วยกุ้ง รอจนแน่ใจว่าผักสุกดีแล้ว ใส่ใบตำลึง และใบแมงลักเป็นรายการสุดท้าย คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟในขณะร้อน ๆ อร่อยนักแล
ปล1. แกงเลียง ที่จริงมันก็เป็นศูนย์รวมผัก เพราะงั้น ผักที่นำมาแกง จะใช้ผักอื่นที่เห้นว่าน่าจะแกงได้ ก็ได้ค่ะ
ปล2. ส่วนแกงเคย ของพี่น้องชาวปักษ์ใต้บ้านเรานั้น ง่ายกว่าแกงเลียง เยอะมากส์ แต่แกงเลียงอร่อยกว่านะจ๊ะตัวเอง

วัสลาม