เราะมะฎอน เดือนศักดิ์สิทธิ์ - สะอี๊ด นุรซี

[Beechern]

Tweet

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

บทความนี้ตั้งใจจะเผยแพร่วิทยปัญญาจากท่านสะอี๊ด นุรซี เกี่ยวกับรอมฎอน
ซึ่งแปลโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน
เป็นหนังสือเล่มเล็กๆแต่ทรงไว้ซึ่งคุณค่าและวิทยปัญญา
หากว่าจะเป็นประโยชน์กับตัวผมเอง และพี่น้องทุกๆคน  insha Allah


بسم الله الرحمن الرحيم

เราะมะฎอน เดือนศักดิ์สิทธิ์

บทความชิ้นนี้จะพูดถึงวัตถุประสงค์บางประการของพระเจ้าสำหรับการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นสัญลักษณ์หรือพิธีกรรมที่มีความชัดเจนและสวยงามที่สุดของอิสลาม
ในส่วนนี้จะประกอบไปด้วย 9 ประเด็นที่อธิบายถึงวัตถุประสงค์ 9 ประการ
ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่คัมภีร์อัลกุรอานได้ถูกประทานมาเป็นทางนำที่ชัดเจนสำหรับมนุษยชาติ (กุรอาน 2:158)

[Beechern]

ประเด็นแรก

การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนเป็นหนึ่งในหลักการที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิสลาม วัตถุประสงค์ของการถือศีลอดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นพระเจ้าของอัลเลาะฮ์และการขอบคุณสำหรับความโปรดปรานของพระองค์ บางอย่างเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตทางด้านส่วนตัวและสังคมของมนุษยชาติ การฝึกฝนและการจัดระเบียบวินัยให้ตนเอง

วัตถุประสงค์หนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นพระเจ้าของอัลเลาะฮ์ก็คือ พระองค์ได้แสดงความสมบูรณ์แห่งความเป็นพระเจ้า ความเป็นผู้ทรงกรุณาปรานีและผู้ทรงเมตตาของพระองค์เหนือโลกที่พระองค์ได้ทรงออกแบบไว้ เพื่อรองรับความโปรดปรานของพระองค์ซึ่งเกินกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการได้ กระนั้นก็ตาม มนุษย์ก็ยังไม่อาจมองเห็นความจริงในเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้เนื่องจากความไม่ใส่ใจและม่านที่ปิดบังตาอยู่ แต่ในช่วงเดือนเราะมะฎอน บรรดาผู้ศรัทธาจะปฏิบัติศาสนกิจเหมือนกับเฝ้าคอยรับคำสั่งให้ช่วยเหลือตัวเองไปสู่การสิ้นสุดของวัน เหมือนกับกองทัพที่รอคอยคำสั่งให้เคลื่อนไปข้างหน้า ดังนั้น พวกเขาจะสนองตอบความเมตตาอันยิ่งใหญ่ไพศาลนั้นด้วยการปฏิบัติศาสนกิจร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง ผมแปลกใจว่าคนที่ไม่ปฏิบัติศาสนกิจหรือมีส่วนในเกียรติของการได้รับความโปรดปรานนี้สมควรที่จะถูกเรียกว่ามนุษย์หรือไม่

[Beechern]

ประเด็นที่สอง

ดังที่ได้กล่าวไว้ในการพูดครั้งที่หนึ่งว่าวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งก็คือ เพื่อแสดงว่าอาหารที่บ่าวนำมาจากครัวของพระราชานั้นมีราคา ดังนั้น การให้ทิปแก่คนรับใช้โดยไม่ยอมรับพระราชาผู้ให้สิ่งที่เราได้รับ จึงเป็นเรื่องโง่อย่างเหลือเกิน ในทำนองเดียวกัน อัลเลาะฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ได้ทรงแผ่ความอุดมสมบูรณ์ของพระองค์ไปทั่วแผ่นดินและได้ประทานแก่พวกเขาโดยกำหนดราคาไว้ด้วย นั่นคือ การขอบคุณ

สาเหตุต่างๆแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือผู้นำความอุดมสมบูรณ์เหล่านั้นมาก็เหมือนกับบ่าวรับใช้ในตัวอย่างข้างต้น เราให้ทิปคนรับใช้ รู้สึกเป็นหนี้คนรับใช้และบางครั้งก็ขอบคุณพวกเขาทั้งๆที่พวกเขาเป็นแค่เพียงสาเหตุหรือหนทางที่ทำให้เราได้รับความอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่เราก็แสดงความเคารพถึงขั้นที่พวกเขาไม่ควรจะได้รับ ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ที่แท้จริงต่างหากที่ควรจะได้รับการขอบคุณอย่างไม่สิ้นสุดสำหรับความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้ การแสดงความขอบคุณดังกล่าวประกอบไปด้วยรูปแบบของการยอมรับว่าเราต้องการความอุดมสมบูรณ์ เราซาบซึ้งและเห็นคุณค่าของสิ่งที่ได้รับและถือว่ามันมาจากพระองค์โดยตรง

การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนเป็นกุญแจไปสู่ความจริง ความบริสุทธิ์ใจ ความเข้าใจและการแสดงความขอบคุณ หลายคนไม่สามารถเห็นคุณค่าความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้รับ เพราะพวกเขาไม่รู้จักหิว ตัวอย่างเช่นขนมปังแห้งชิ้นหนึ่งไม่มีค่าอะไรสำหรับคนที่อิ่มแล้วโดยเฉพาะถ้าหากเขาเป็นคนรวย ถึงแม้ประสาทแห่งการรับรสชาติของพวกเขาจะยืนยันว่ามันเป็นความโปรดปรานอันมีค่าของพระเจ้าในสายตาของผู้ศรัทธาในตอนละศีลอดก็ตาม ระหว่างเดือนเราะมะฎอน ทุกคนจะได้รับความรู้สึกขอบคุณในหัวใจโดยการเข้าใจถึงคุณค่าของความโปรดปรานจากพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง

ในขณะถือศีลอด บรรดาผู้ศรัทธาจะคิดว่า : "เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้เดิมทีแล้วมิได้เป็นของฉัน ฉันจึงไม่อาจถือว่ามันเป็นเพียงแค่อาหารหรือเครื่องดื่ม เนื่องจากพระผู้เป็นเจ้าของฉันคือพระเจ้าประทานแก่ฉัน ดังนั้น ฉันจะคอยให้พระองค์อณุญาติก่อน ฉันจึงจะกิน" โดยการยอมรับว่าอาหารและเครื่องดื่มเป็นของขวัญจากพระเจ้า ผู้ศรัทธาจึงขอบคุณพระองค์อย่างเงียบๆ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการถือศีลอดจึงเป็นกุญแจไปสู่การขอบคุณพระเจ้าซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของมนุษย์

[ItQan]

 salam

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ที่พี่น้องนำบทความนี้มาลง

จะติดตามจนครบทั้ง 9 ประเด็นค่ะ 

[Beechern]

ประเด็นที่สาม

การถือศีลอดเกี่ยวข้องกับชีวิตทางสังคมของมนุษยชาติ เพราะการที่พระเจ้าตัดสินใจไม่ประทานปัจจัยแก่ทุกคนเหมือนกันนั้นหมายความว่าคนรวยจะต้องช่วยคนจน หากไม่มีการถือศีลอด คนรวยหลายคนและคนที่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองก็จะนึกไม่ออกถึงความทรมานจากความหิวโหยและความยากจน และไม่รู้ว่าคนจนจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากน้อยเพียงใด การรู้สึกเอาใจใส่ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจึงเป็นรากฐานของการขอบคุณพระเจ้าที่แท้จริง

มีบางคนที่ยากจนกว่านั้นอีก ดังนั้น ทุกคนจะต้องช่วยคนเหล่านี้ ถ้าหากคนไม่รู้สึกถึงความหิวโหย มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำความดีหรือช่วยเหลือคนอื่น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำ พวกเขาก็ทำได้โดยไม่สมบูรณ์เพราะพวกเขาไม่รู้สึกถึงสภาพของความหิวโหยในระดับเดียวกัน

[Beechern]

ประเด็นที่สี่

การถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนมีวัตถุประสงค์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนและสร้างระเบียบวินัยให้ตนเอง เช่น ตัวตนทางด้านร่างกายปราถนาที่จะเป็นอิสระและถือว่าตัวมันเป็นอิสระไม่ถูกจำกัด โดยธรรมชาติแล้ว ตัวตนนี้อยากจะเป็นผู้มีอำนาจที่มองเห็นได้และเป็นอิสระ สามารถที่จะทำอะไรได้ตามใจตัวเองเสียด้วยซ้ำ มันไม่ชอบที่จะคิดวว่าตัวเองกำลังถูกฝึกฝนและถูกทดสอบโดยความอุดมสมบูรณ์อันสุดคณานับของพระเจ้า มันกลืนกินความอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้าเหมือนกับสัตว์ ในแบบเดียวกันกับขโมยหรือโจรโดยเฉพาะถ้าหากความมั่งคั่งและอำนาจของมันมีความประมาทติดมาด้วย

ระหว่างเดือนเราะมะฎอน ความเป็นตัวตนของทุกคนเข้าใจว่าตัวมันเป็นของผู้อื่น ไม่ใช่ตัวของมันเอง มันเข้าใจว่ามันเป็นบ่าว ไม่ใช่ตัวตนที่เป็นอิสระ ถ้าหากไม่ได้รับคำสั่งหรือไม่ได้รับอณุญาติ มันก็ไม่สามารถทำแม้แต่สิ่งที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่่สุด เช่น การกินและดื่ม ความไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจตัวเองนี้จะสลายความเป็นใหญ่ที่ตัวเองสร้างขึ้นมาและจำทำให้มันยอมรับว่าตัวเองเป็นบ่าวที่จะต้องทำหน้าที่ขอบคุณพระเจ้า

[Beechern]

ประเด็นที่ห้า

การถือศีลอดป้องกันตัวตนทางร่างกายจากการฝ่าฝืนและประดับประดามันด้วยศีลธรรมที่ดีงาม

ตัวตนทางด้านร่างกายของแต่ละคนลืมตัวเองโดยความประมาทไม่รอบคอบ มันไม่เห็นและไม่ต้องการที่จะเห็นว่าตัวเองหมดสภาพ ยากจนและบกพร่องตลอดไป มันไม่คิดว่ามันจะเผชิญความโชคร้ายและจะเสื่อมสลายได้อย่างไร มันไม่คิดว่ามันประกอบไปด้วยเนื้อหนังและกระดูกที่จะแตกสลายได้อย่างรวดเร็ว มันกระโจนเข้าใส่โลกด้วยความโลภโมโมสันและผูกพันราวกับว่ามันมีร่างกายเป็นเหล็กและจะมีชีวิตอยู่ตลอดกาล มันเกาะแน่นอยู่กับอะไรก็ตามที่เป็นกำไรและให้ความสุขสำราญ ในภาวะเช่นนี้ มันจึงลืมพระผู้ทรงสร้างมันและเป็นผู้ฝึกฝนมันด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี ด้วยความที่จมอยู่ในบึงแห่งความเลวทราม มันจึงไม่คิดถึงผลที่จะติดตามมาในชีวิตโลกนี้หรือในโลกหลังความตาย

แต่การถือศีลอดในเรือนเราะมะฎอนจะทำให้คนที่ไม่ใส่ใจและดื้อรั้นดันทุรังรู้สึกถึงความอ่อนแอและความยากจนภายในตัวตนของพวกเขา ความหิวจะกลายเป้นข้อพิจารณาสำคัญประการหนึ่งและเตือนพวกเขาให้รู้ว่าร่างกายของพวกเขาจริงๆแล้วเปราะบางเพียงใด พวกเขาจะมองเห็นถึงความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องได้รับความรัก ความสงสารและความเอาใจใส่ เลิกหยิ่งยโส ต้องการความช่วยเหลือในศาลของพระเจ้าในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และต้องลุกขึ้นมาเคาะประตูแห่งความเมตตาด้วยมือแห่งการขอบคุณพระเจ้าอย่างเงียบๆ ถ้าหากว่าความประมาทยังไม่ได้ทำลายพวกเขาเสียจนเสียหายหมดสิ้นเสียก่อน

[Beechern]

ประเด็นที่หก

พระผู้เป็นเจ้าเริ่มประทานกุรอานในเดือนเราะมะฎอนซึ่งมีความหมายหลายอย่าง เช่น ในเมื่อคัมภีร์อัลกุรอานถูกประทานลงมาในระหว่างเดือนเราะมะฎอนฉันใด ผู้ศรัทธาก็ควรพยายามที่จะเป็นเหมือนกับมลาอิกะฮ์ฉันนั้น โดยการละเว้นจากการกิน การดื่ม การหมกมุ่นอยู่กับสิ่งไร้สาระและความต้องการต่างๆ ระหว่างเดือนเราะมะฎอน พวกเขาควรอ่านหรือฟังคัมภีร์อัลกุรอานเหมือนกับว่ามันกำลังถูกประทานลงมาครั้งแรก หากเป็นไปได้ พวกเขาควรจะฟังคัมภีร์อัลกุรอานเหมือนกับว่าพวกเขากำลังได้ยินทานนบีมุฮัมมัดอ่านกุรอานอยู่หรือญิบรีลกำลังอ่านให้ท่านนบีมุฮัมมัดฟังหรือพระเจ้ากำลังประทานกุรอานแก่ท่านนบีมุฮัมมัดผ่านทางญิบรีล พวกเขาควรจะเคารพคัมภีร์กุรอานในการใช้ชีวิตประจำวันและแสดงวัตถุประสงค์ของพระเจ้าที่ประทานคัมภีร์กุรอานลงมาโดยการนำสาส์นของคัมภีร์กุรอานไปยังผู้อื่น

เดือนเราะมะฎอนเปลี่ยนสภาพโลกมุสลิมให้เป็นมัสญิดอันยิ่งใหญ่ที่ภายในนั้นมีมุสลิมจำนวนนับหลายล้านคนอ่านกุรอานให้แก่ผู้อาศัยอยู่บนโลกโดยการแสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า "เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่คัมภีร์กุรอานได้ถูกประทานมา" (กุรอาน 2:185) เดือนเราะมะฎอนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันเป็นเดือนของคัมภีร์กุรอาน ขณะที่บางคนในที่ชุมนุมใหญ่ในมัสญิดอันยิ่งใหญ่ของโลกมุสลิมฟังการอ่านคัมภีร์กุรอานด้วยความเคารพ คนอื่นๆอีกหลายคนก็อ่านคัมภีร์กุรอาน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่งที่เราจะทิ้งสภาพทางจิตวิญญาณแห่งสวรรค์โดยการเชื่อฟังตัวตนทางร่างกายด้วยการหันไปกินและดื่มใน "มัสญิด" อันศักดิ์สิทธิ์ เพราะมันเป็นการยั่วยุที่ชุมนุมทั้งหมดซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่สุดและเป็นการกระทำที่ต่อต้านมุสลิมผู้ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน

[Beechern]

ประเด็นที่ 7 ยาวหน่อย insha Allah คืนนี้จะมาต่อประเด็นที่ 7-9
แล้วคิดว่าจะเริ่มเรื่องใหม่ของท่านสะอี๊ดนุรซี ในหนังสือเล่มเดียวกันนี้ที่เกี่ยวข้องกับเดือนเราะมะฎอนครับ insha Allah

[ItQan]

 salam

ขออัลเลาะฮ์ตอบแทนความดีงามของท่าน beechern

รบกวนขอชื่อหนังสือและรายละเอียดด้วยนะคะ อยากมีหนังสือแปลไทยของสะอี๊ด นุรซีย์ค่ะ

ญะซากัลลอฮุค็อยร์

[Beechern]

salam

ขออัลเลาะฮ์ตอบแทนความดีงามของท่าน beechern

รบกวนขอชื่อหนังสือและรายละเอียดด้วยนะคะ อยากมีหนังสือแปลไทยของสะอี๊ด นุรซีย์ค่ะ

ญะซากัลลอฮุค็อยร์

วอลัยกุมุสลาม วะเราะฮ์มะตุลลอฮ์
วะอียาก้า แด่ท่านเช่นกันครับ
ขอที่อยู่เลยครับ insha Allah เดี๋ยวจะรีบจัดส่งไปให้ จะได้ถึงก่อนเดือนรอมฎอน ^^
เป็นหนังสือแจกฟรีครับผม เล่มเล็กๆ ด้านในมี 3 เรื่อง เราะมะฎอน(ที่กำลังนำเสนอ), การมัธยัธ, ซะกาต

[hiddenmin]

ส่งไปที่สถาบันอัลกุดวะฮเลย ^^

[Beechern]

ส่งไปที่สถาบันอัลกุดวะฮเลย ^^

insha Allah วันเสาร์นี้จะติดต่อไปเพื่อขอหนังสือเพิ่ม... วันอาทิตย์จะไปรวบรวมแล้วจัดส่งพัสดุไปครับ
เพราะวันอาทิืตย์นี้ผมมีนัดกับทางกลุ่มนี้พูดคุยเรื่องศาสนาอยู่แล้วครับ

ส่วนบทที่ยังค้างอยู่นี้ พอดีกำลังสะสางงานอยู่ insha Allah เสร็จแล้วจะมาต่อให้จบบทครับ

[Beechern]

ประเด็นที่เจ็ด

การถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนมีวัตถุประสงค์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการตอบแทนรางวัลทางด้านจิตใจแก่บุคคล เพราะทุกคนถูกส่งมายังโลกนี้เพื่อหว่านเมล็ดแห่งชีวิตหน้า ข้อความในย่อหน้าต่อไปนี้อธิบายถึงเหตุผลดังกล่าวไว้ดังนี้ :-

รางวัลตอบแทนสำหรับการทำความดีในเดือนเราะมะฎอนจะถูกทวีคูณเป็นพันเท่า ฮะดีษหนึ่งกล่าวว่าอักษรตัวหนึ่งของคัมภีร์กุรอานจะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นสิบเท่า การอ่านตัวหนึ่งหมายถึงสิบความดีและนำมาซึ่งผลไม้ 10 ลูกในสวนสวรรค์ แต่ในระหว่างเดือนเราะมะฎอน รางวัลตอบแทนนี้จะถูกทวีคุณด้วย 1,000 และมากไปกว่านั้นสำหรับอายะฮ์อย่างเช่น อายะฮ์กุรซีย์ (กุรอาน 2:255) รางวัลตอบแทนจะยิ่งใหญ่กว่านั้นอีกในคืนวันศุกร์ของเดือนเราะมะฎอน ยิ่งไปกว่านั้น อักษรแต่ละตัวจะถูกคูณด้วย 30,000 ถ้าหากว่ามันถูกอ่านในค่ำคืนที่เีรียกว่า "ลัยลาตุลก็อดร์" (คืนประทานคัมภีร์กุรอาน) ระหว่างเดือนเราะมะฎอน คัมภีร์กุรอานที่อักษรแต่ละตัวจะให้ผลไม้อันถาวรแห่งสวรรค์ 30,000 ลูกจะกลายเป็นเหมือนกับต้นไม้อันจำเริญขนาดใหญ่มหึมาที่ให้ผลไม้อันถาวรแห่งสวรรค์นับล้านๆลูก ลองคิดดูเอาก็แล้วกันว่าการค้านี้มีความสำคัญและให้กำไรมากมายเพียงใด และมันเป็นการขาดทุนมหาศาลแค่ใหนสำหรับผู้ที่ไม่รู้คุณค่าของตัวอักษรกุรอาน

ดังนั้น เดือนเราะมะฎอนจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำการค้าที่ได้รับผลกำไรสำหรับโลกหน้า มันเป็นเหมือนกับท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดที่จะเพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวไว้สำหรับชีวิตโลกหน้า การเพิ่มทวีคูณรางวัลสำหรับการทำความดีในเดือนเราะมะฎอนนั้นทำให้มันเหมือนกับเดือนเมษายนในฤดูใบไม้ผลิ มันเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทศกาลที่สว่างไสวสำหรับขบวนแห่ของผู้เคารพสักการะความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของพวกเขา

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนจึงเป็นข้อบังคับ ทำไมผู้ศรัทธาจึงไม่ได้รับอณุญาตให้ตอบสนองความต้องการเยี่ยงสัตว์ของตัวตนด้านร่างกายและหมกมุ่นอยู่กับสิ่งไร้สาระ เนื่องจากพวกเขาเป็นเหมือนมลาอิกะฮ์ขณะถือศีลอดหรือกำลังทำการค้าดังกล่าวอยู่ ผู้ศรัทธาแต่ละคนจึงเป็นกระจกที่สะท้อนความเพียงพอในตนเองของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาเคลื่อนเข้าไปสู่การเป็นวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่ปรากฎอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่มีตัวตนโดยการละทิ้งโลกเป็นระยะเวลาที่ได้ถูกกำหนดไว้ ความจริงแล้ว เดือนเราะมะฎอนมีแต่สิ่งที่ทำให้ผู้ศรัทธาได้รับชีวิตที่ถาวรหลังจากช่วงเวลาสั้นๆในโลกนี้โดยการถือศีลอด

เราะมะฎอนหนึ่งอาจทำให้ผู้ศรัทธาได้รับรางวัลตอบแทนเท่ากับ 80 ปี เพราะคัมภีร์กุรอานกล่าวว่า ในค่ำคืนแห่งลัยละตุลก็อดร์(คืนแ่ห่งอานุภาพ)นั้นเป็นค่ำคืนที่ดีกว่า 80 ปี (กุรอาน 97:3) กษัตริย์องค์หนึ่งอาจประกาศวันหยุดเพียงสองสามวันเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษในการขึ้นครองบัลลังก์และให้เกียรติเป็นพิเศษแก่พสกนิกรผู้ซื่่อสัตย์เนื่องในโอกาสดังกล่าว ทำนองเดียวกัน จอมราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของ 18,000 โลก ได้ประทานคัมภีร์กุรอานอันเป็นประกาศิตอันสูงส่งแก่ทุกโลกในเดือนเราะมะฎอน ดังนั้น เดือนเราะมะฎอนจึงเป็นเทศกาลพิเศษของพระเจ้าซึ่งในระหว่างนั้นพระองค์ได้ประทานความจำเริญลงมาและวิญญาณทั้งหลายได้มารวมกัน เมื่อกำหนดให้เดือนเราะมะฎอนเป็นเทศกาลที่ถูกกำหนดโดยพระเจ้า การถือศีลอดจึงได้ถูกบัญชาเพื่อที่ผู้คนจะได้ถอนตัวออกมาจากการหมกมุ่นอยู่กับเรื่องทางด้านร่างกายระดับหนึ่ง

การถือศีลอดทำให้ผู้คนสามารถละทิ้งบาปที่่ทำไปโดยความรู้สึกทางด้านร่างกายหรืออวัยวะต่างๆและใช้มันไปเพื่อการแสดงความเคารพภักดีพระเจ้า ตัวอย่างเช่น ผู้ถือศีลอดจะหยุดลิ้นตัวเองมิให้โกหก นินทาใส่ร้ายหรือสบถสาบาน และหันมาอ่านกุรอาน สรรเสริญพระเจ้า ขอการอภัยโทษและวิงวอนพระองค์ให้อำนวยพรแก่ท่านนบีมุฮัมมัด พวกเขาจะหักห้ามตัวเองมิให้มองและป้องกันหูมิให้ฟังสิ่งต้องห้าม แต่พวกเขาจะมองสิ่งที่ให้บทเรียนทางด้านจิตวิญญาณหรือคำเตือนทางศีลธรรมและฟังกุรอานและความจริง เมื่อกระเพาะที่เหมือนกับโรงงานถูกสั่งให้หยุดทำงาน ส่วนอื่นๆก็สามารถถูกทำให้ปฎิบัติตามได้โดยง่าย

[Beechern]

ประเด็นที่แปด

วัตถุประสงค์หนึ่งของการถือศีลอดก็คือเพื่อทำให้มนุษย์ได้งดเว้นทางด้านร่างกายและจิตใจ ถ้าหากตัวตนทางร่างกายยังคงทำ กินและดื่มตามที่มันต้องการ สุขภาพทางด้านร่างกายของมนุษย์ก็จะเป็นอันตราย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ชีวิตทางด้านจิตวิญญาณของพวกเขาจะเป็นอันตรายด้วยเพราะว่าพวกเขาไม่แยกแยะระหว่างสิ่งที่อนุมัติและสิ่งต้องห้าม ตัวตนทางร่างกายจะพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเืชื่อฟังหัวใจและวิญญาณ การไม่ยอมรับหลักการจะทำให้ตัวตนทางร่างกายเข้ามาควบคุมมนุษย์และขับเคลื่อนเขาหรือเธอไปตามที่มันต้องการ อย่างไรก็ตาม การถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนจะทำให้มันรู้จักการงดเว้นและการมีวินัยในตนเองจะทำให้มันเชื่อฟัง ท้องก็จะไม่เป็นอันตรายจากการกินมากไปก่อนที่อาหารมื้อก่อนหน้านี้จะถูกย่อยดีแล้ว และด้วยการเรียนรู้ที่จะละเว้นสิ่งที่อนุมัติ มันจะสามารถปฎิบัติตามประกาศิตของเหตุผลและละเว้นจากสิ่งต้องห้ามได้ ดังนั้น ตัวตนทางร่างกายจะพยายามไม่สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตทางจิตวิญญาณของมันเอง

นอกจากนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ยังได้รับความเดือดร้อนจากความหิวในระดับต่างกัน การจะอดทนต่อความหิวที่ยาวนานได้นั้น มนุษย์จะต้องฝึกฝนตนเองในเรื่องวินัยตนเองและการอดอาหาร การถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนให้การฝึกฝนนี้โดยการทำให้คนรู้สึกหิวเป็นเวลาประมาณ 15 ชั่วโมงหรือแม้แต่ 24 ชั่วโมงถ้าหากไม่ตื่นขึ้นมากินอาหารก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ดังนั้น การถือศีลอดจึงช่วยบำบัดรักษาความไม่อดทนและการขาดความอดกลั้นที่ทำให้เคราะห์กรรมของมนุษย์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

อวัยวะหลายส่วนของร่างกายรับใช้ท้อง ถ้าหาก "โรงงาน" ไม่หยุดงานประจำวันในบางเดือน มันก็จะทำให้อวัยวะเหล่านั้นวุ่นวายอยู่กับตัวเองจนลืมปฎิบัติศาสนกิจและหน้าที่อันสูงส่งของมัน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมนักบุญจึงมักชอบการอดอาหารเป็นแนวทางไปสู่จิตวิญญาณและความสมบูรณ์ของมนุษย์ การถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนเตือนให้เรารู้ว่าอวัยวะร่างกายของเราถูกสร้างมาเพื่ออะไรที่มากไปกว่าการรับใช้ท้อง ในเดือนเราะมะฎอน อวัยวะร่างกายหลายส่วนได้ประสบการณ์จากความสุขทางด้านวิญญาณและประสบการณ์แบบทูตสวรรค์ซึ่งตรงข้ามกับความสุขทางวัตถุ ดังนั้น ผู้ถือศีลอดจะได้รับความสุขทางด้านจิตวิญญาณและความสว่างทางสติปัญญาตามระดับของความสมบูรณ์ทางด้านจิตใจของพวกเขา การถือศีลอดขัดเกลาหัวใจ วิญญาณเหตุผลและความรู้สึกส่วนในสุดของบุคคลให้สะอาด ถึงแม้ท้องจะบ่น แต่ความรู้สึกเหล่านี้จะรื่นเริงยินดี