ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเหล้าเข้าปาก  (อ่าน 2666 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ suksara

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 56
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เมื่อเหล้าเข้าปาก
« เมื่อ: ส.ค. 18, 2010, 09:01 AM »
0


สุราจะออกฤทธิ์ทำลายร่างกายตั้งแต่อวัยวะแรกที่สัมผัสจนตลอดเส้นทางเดินของของสุราที่ผ่านเข้ามาในร่างกาย ตามลำดับ ดังนี้
1.   เริ่มที่ปากและลำคอ สุราจะไปออกฤทธิ์ต่อผิวอวัยวะภายในช่องปากทำให้เกิดการระคายเคือง ชิ้นเยื่อบุที่ละเอียดอ่อนในปากและหลอดกาหารมักมีอาการร้อนซู่เมื่อผ่านลงไป
2.   เมื่อสุราผ่านลงสู่กระเพาะ จะมีผลกับผนังชั้นนอกสุดที่เป็นชั้นที่จะปกป้องกระเพาะอาหาร จะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก เกิดอาการอักเสบของเยื่อบุชั้นในสุดของผนังหรือกระเพาะอาหารหรืออ่จทะลุลำไส้เล็กได้ นอกจากนั้น สุรายังเป็นอุปสรรคกับการดูดซึมอาหารบางชนิด เช่น วิตามิน  B1 , กรดโฟลิก, ไขมัน, วิตามิน B6, วิตามิน B12  และกรดอมิโนต่างๆ
3.   ร้อยละ 95 ของสุราที่เข้าสู่ร่างกาย จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด โดยผ่านเยื่อบุในกระเพาะอาหาร และลำไส้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงกระแสเลือดจะเข้าไปในเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายอย่างรวดเร็วแอลกอฮอล์ทำให้เซลล์ของเลือดเกาะเป็นก้อนเหนียว การไหลเวียนจึงช้าลง และปริมาณออกซิเจนลดต่ำลงด้วย ทำให้โลหิตจาง ดดยจะไปลดเม็ดเลือดแดงทำให้มฺดเลือดขาวทำลายแบคทีเรียช้าลงและทำให้การแข็งตัวของเกร็ดเลือดช้าลงด้วย
4.   แอลล์กอฮอล์จะทำให้เซลล์ของตับอ่อนระคายเคืองและบวมขึ้น ทำให้การไหลของน้ำย่อยไม่สามารถเข้าไปในลำไส้เล็กได้ ทำให้น้ำย่อยๆตัวตับอ่อนเอง ทำให้เกิดเลือดออกอย่างเฉียบพลัน และการอักเสบของตับอ่อน พบว่า 1 ใน 5 จะเสียชีวิตไปในครั้งแรกเมื่อมีปัยหาเกี่ยวกับตับอ่อน การสร้างอินซูลินขาดหายไป และทำให้เป็นเบาหวานในที่สุด
5.   แอลกอฮอลล์มีอิทธิพลต่อเซลล์ของตับทำให้เกิดการบวม ทำให้น้ำดีซึมผ่านไปทั่วตับ เป็นเหตูให้ตัวเหลือง รวมทั้งส่วนขอบตาและผิวหนังเป็นสีเหลืองด้วย ทุกครั้งที่ดื่มสุรานั้น เซลล์ของตับจะถูกทำลาย เป็นผลให้ตับแข็ง การเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับมีถึง 8 เท่า เมื่อเทียบกับคนไม่ดื่มสุรา
6.   แอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อของหัวใจบวม ทำให้เกิดเป็นพิษกับหัวใจ มีการสะสมของไขมันมากขึ้นและทำให้การเผาผลาญช้าลงไปด้วย
7.   แอลกอฮอลล์ทำให้เยื่อบุของกระเพาะปัสสาวะบวม ทำให้ไม่สามารถยืดได้ตามปกติ การระคายเคืองของไตทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
8.   แอลกอฮอลล์ทำให้ต่อมอัณฑะจะบวม ทำให้ความสามารถทางเพศลดลง
9.   แอลกอฮอลล์จะไปกดศูนย์กลางของสมอง ทำให้การประสานงานเสื่อมลงเรื่อยๆ สับสน ความจำเสื่อม เซื่องซึม ชา สลบหรือโคม่าและถึงตายได้ แอลกอฮอลล์จะไปฆ่าเซลล์สมอง ซึ่งเมื่อเซลล์ของสมองถูกทำลายแล้วไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ การดื่มเป็นประจำเมื่อถึงระยะหนึ่งจะทำให้ความจำ การตัดสินใจ และความสามารถในการเรียนรู้เสื่อมไป

ออฟไลน์ imoxygenuho

  • เพื่อนแรกพบ (^^)/
  • *
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อเหล้าเข้าปาก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธ.ค. 11, 2012, 04:25 PM »
0
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อเหล้าเข้าปาก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธ.ค. 16, 2012, 06:29 PM »
0
เพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ...

แอลกอฮอล์ เมื่อเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร
มันจะถูกดูดซึมผ่านผนังของกระเพาะ หรือลำไส้เล็ก
โดยไม่ถูกย่อย

ที่กระเพาะปริมาณการดูดซึมประมาณ 20%

และที่ลำไส้เล็กการดูดซึมจะประมาณ 70 %

ส่วนอีก 10%นั้น จะถูกขับออกทางลมหายใจและปัสสาวะ

ฉนั้นจะเห็นว่า แอลกอฮอล์นี้ เหมือนกับ VIP
คือได้ผ่านได้ไปเลย ถูกดูดซึมโดยไม่ได้มีการย่อย
หรือการเปลี่ยนแปลงในกระเพาะหรือหรือลำใส้
ในกระเพาะที่ว่างเปล่า

แอลกอฮอล์สามารถไปถึงสมองภายในหนึ่งนาที
หลังจากทีได้รับการดูดซึมจากผนังกระเพาะ

เมื่อแอลกอฮอล์ออกจากลำไส้ มันก็จะเข้าไปยังตับ
และทุกเซลในตับจะถูกชะโลมด้วยแอลกอฮอล์
ดังนั้นตับจึงรับภาระมากที่สุด



ผลเสียที่เกิดก็มากที่สุดในร่างกาย

 ปกติตับจะทำหน้าที่เป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย
เช่น สร้างสารพวก triglyceride ที่ได้จาก fatty acid
ซึ่งได้จากที่เรารับประทานอาหารต่างๆ เข้าไป
แล้วส่งต่อไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ

ตับยังสร้างอาหารสะสมจากน้ำตาล (Glycogen synthesis) เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นพลังงานเวลาที่ร่างกาย
มีความจำเป็นต้องการจะใช้

นอกเหนือจากนี้ แอลกอฮอล์ส่วนที่ตับสกัดฟอก (metabolize - สกัด ทำลาย แยก) ออกไม่ทัน
ก็จะถูกส่งออกผ่านเส้นเลือดต่อไปยังหัวใจ

จากนั้นก็จะถูกสูบฉีดไปทั่วร่างกาย รวมทั้งสมองด้วย 
โดยเฉลี่ยตับสามารถกำจัดเอาแอลกอฮอล์ออกได้
ประมาณ 8 - 18 กรัมของแอลกอฮอล์
ทีดื่มเข้าไปต่อชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ เพศ น้ำหนัก ของผู้ดื่มด้วย)

เมื่อแอลกอฮอล์ เข้ามามากเกินที่ตับจะฟอกได้
มันก็จะท้นเข้าระบบใหลเวียน ทำให้แอลกอฮอล์
ซึ่งละลายน้ำได้ดีสามารถไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
และจะไหลเวียนรอจนกว่าตับจะฟอกออกหมด

ดังนั้น จึงพอจะพูดได้ว่า

"ไม่ควรดื่มเกิน One drink ต่อ ชั่วโมง"





ร่างกายย่อยทำลาย (metabolize) แอลกอฮอล์อย่างไร ?



    การย่อยทำลายแอลกอฮอล์นั้นเกิดขึ้นที่ตับ
มันจะถูกสลาย โดย เอ็นไซม์ Alcohol Dehydrogenase เปลี่ยน (Oxidise) ให้เป็น Acetaldehyde
เอ็นไซม์ Acetaldehyde dehydrogenase oxidise (เปลี่ยน) Acetaldehyde ให้เป็น Acetyl CoA
ซึ่งทำให้เกิด Hydrogen (H) ขึ้น

จากนั้น Hydrogenก็จะถูก วิตามิน Niacin
ซึ่งทำตัวเป็น Coenzyme เข้ามาจับ Hydrogen ตัวนี้

โดยปกติ Niacin จะเป็นตัวช่วยในกิจกรรม
การสร้างอาหารอื่นที่มีประโยชน์



    นอกจากนี้ ร่างกายยังขับออกโดยทาง ลมหายใจ
ผิวหนัง และทางไต ในรูปที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
(คือ ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีสองขั้นอย่างข้างบน)
ในจำนวนไม่เกิน 10 % ของปริมาณทั้งหมดที่ดื่มเข้าไป

ฉะนั้นในตอนเช้าเราจึงสามารถบอกได้ว่า
เมื่อคืนใครไปฉลองมาหนักเกินไปหรือเปล่า
โดยสามารถได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจ
(เรียกกันว่า กลิ่นละมุดเน่า)



การวัดระดับ Alcohol ในร่างกาย

ปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือด BAC (Blood Alcohol Concentration หรือ BAL (Blood Alcohol Level)
วัดจำนวนแอลกอฮอล์ เป็น gram (gm)
ในเลือด 100 cc และพูดเป็น "เปอร์เซ็นต์"

เช่น 0.08 % ก็เท่ากับว่า เลือด 100 cc
มีจำนวนแอลกอฮอล์อยู่ 0.08 gm

ซึ่งก็เท่ากับ 0.08 x 1000 mg (1 gm = 1000 mg)
= 80 mg





สรุปก็คือ...เมื่อเหล้าเข้าปาก แอลกอฮอล์ที่ว่าก็จะติดตาม
มันไปด้วย...และพิษสงของแอลกอฮอล์ก็มีไม่น้อยเลย...


บางคน ตอนทีความทุกข์ก็กินเหล้า ตอนมีความสุข
ก็เลี้ยงฉลองด้วยเหล้า ตอนงานแต่งก็เหล้า
ตอนงานคนตายก็เหล้า...สรุปว่า โอกาสไหนๆก็เหล้า...
และที่น่าใจหายก็คือ ไม่ใช่แค่ต่างศาสนิกที่ดื่มเหล้า
มุสลิมเราก็ดื่มเหล้าเหมือนกัน งานแต่งงานบางที่
ช่วงเช้าให้โต๊ะอีหม่ามขึ้นว่าปราศัย พอตกค่ำ
ก็ตั้งวงกินเหล้ากัน...

เดี๋ยวนี้เหล้าถูกดื่มกันเกลื่อน...
การให้เหล้าเป็นของขวัญ ทำให้คนรับยิ้มหน้าบาน
โลกมันหมุนกลับตีหัวลังกาซะแล้ว...


ปล.ที่มาของเนื้อหาข้างต้นค่ะ

http://www.krumontree.com/science/alcohol_01.html

เฮอะๆ

วัสลามค่ะ




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อเหล้าเข้าปาก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธ.ค. 16, 2012, 08:43 PM »
0
ประโยชน์เยอะยังงี้นี่เอง คนถึงได้ดื่มกันทั่วเมืองทั่วบ้าน
แต่ก่อนผมก็ดื่ม ดืมแทบทุกวัน
ตอนนี้พอแล้ว แต่ไม่ได้เลิกกับมันเพราะได้รู้ถึงคุณค่า(โทษ)ของมันหรอกนะ
ที่เลิกก็เพราะ คิดว่าต้องเลิก ถึงเวลาสำหรับการยอมรับคำสั่งใช้ของผู้สร้าง สำนึก แล้วกลับตัวกลับใจ
เว่อป่าวว่ะเนี่ย
 hihi:

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อเหล้าเข้าปาก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธ.ค. 16, 2012, 09:29 PM »
0
^

หวังว่าตับ ไต ไส้ พุงของท่าน ยังนิ่มอยู่นะคะ...

อิอิอิ..


เคยมีน้องคนนึงแซวผู้หญิงให้เข้าหูมาว่า...

"แม้ปอดของพี่จะยกให้มะเร็งไปแล้ว แต่หัวใจพี่ยังว่าง..."

ได้ยินเสียงสาวตอบกลับไปว่า...

"งั้นก็ยกหัวใจให้มะเร็งมันไปด้วยเลยสิ...จะได้ไม่ว่าง..."


อิอิอิ...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: เมื่อเหล้าเข้าปาก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธ.ค. 17, 2012, 08:57 PM »
0
^

หวังว่าตับ ไต ไส้ พุงของท่าน ยังนิ่มอยู่นะคะ...

อิอิอิ..


ผมไม่ได้เลิกเพราะหมอสั่งซักกะหน่อย ขอบคุณนะครับที่เปงห่วง  hehe

 

GoogleTagged