พอดีเเวะไปกินสเต็กกันมา ร้านครูผมเองสอนอยู่ อศอ ร้าน "สเต็กตรูตา" อยู่ติดชายเเม่น้ำบรรยากาศดี
ห้องแอร์ก็สุดหรู เลือกเอานะ อู่ใกล้โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ไหนๆก็ไปละ เลยเก็บภาพมาฝาก พร้อม ข้อมูลจากเว็บไซซ์นิดหน่อย
หลายๆคนอาจเคยได้ยิน เเต่ไม่เคยเห้นว่าเป็นไง วันนี้เลยจัดให้ มีทั้งรูปที่ถ่ายเอง
เเละเอามาจากเว็บเป็นบางรูปนะครับ

มัสญิด ตะเกี่ยโยคินราชมิตจินจาสยาม

มะกอมเจ้าพระคุณตะเกี่ย


ประตูด้านใน

ในขันทองเหลืองจะมีน้ำอยู่ ไว้ดื่ม (ถ้าจำไม่ผิด น้ำอยู่ในนั้นนะ)


กุโบรด้านใน

ชื่อเเละประวัติเบื้องต้น

มะกอมของลูกศิษเจ้าพระคุณตะเกี่ย


จำไม่ได้อ่ะ อันนี้
ประวัติ (เรื่องเล่า)
มีตำนานกล่าวไว้พอจะยกขึ้นเป็นสังเขปบ้างดังนี้ เช่น ท่านสมภารให้ศิษย์นำหัวสุกรมาแขวนไม้บนกิ่งจันทร์แล้วให้ท่านเจ้าพระคุณเดินลอดไปแล้วถามว่าทำไมท่านเดินลอดหัวสุกรท่านเจ้าพระคุณก็ตอบว่าไม่เห็นหัวสุกรแต่เห็นหัวแพะ ซึ่งท่านสามารถดูและน่าจะยอมรับว่าเป็นหัวแพะจริงๆ ท่านสมภารจึงนำไข่มาจำนวนหนึ่งแล้วก่อขึ้นสูงเป็นรูปเจดีย์อย่างนั้น และได้ลองกันอีกหลายอย่าง เช่น ท่านเจ้าพระคุณพูดว่าที่ใดมีน้ำที่นั่นมีปลา ท่านสมภารให้ศิษย์นำมะพร้าวมาผ่าดูปรากฏว่าทั้งกุ้งและปลาอยู่ในผลไม้นั้น มีเรือบรรทุกอะไรท่านเจ้าพระคุณบอกให้ถาม เจ้าของเรือโกหกมาว่าบรรทุกเกลือท่านเจ้าพระคุณก็พูดว่า เป็นเกลือสิ ด้วยเดชานุภาพน้ำตาลกลายเป็นเกลือทั้งหมดเจ้าของเรือก็ตกใจยิ่งนัก จึงขอกับท่านเจ้าพระคุณเกลือกับเป็นน้ำตาลอีกครั้งหนึ่งมาจนกระทั่งจึงเล่นซ่อนหากับท่านสมภารหายไปเป็นก้อนกรวดท่านเจ้าพระคุณก็สามารถจับท่านสมภารได้ เมื่อท่านเจ้าพระคุณซ่อนบ้างท่านหายไปเป็นผงติดอยู่ที่ขนตาของท่านสมภารหาเท่าไรก็หาไม่พบ จนไม่ได้ฉันเพล เมื่อได้ลองวิชาหลายอย่างจนเป็นที่ยอมรับแล้วสมภารก็เป็นผู้ชนะและยอมเข้าเป็นอิสลามและมีชื่อเป็นที่รู้จักกันดีท่านเจ้าพระคุณและลูกศิษย์ของท่านมีเชื้อสายเป็นชาวมอญ(รามัญ)ได้มีชื่อเป็นที่รู้จักกัน ต่อมาท่านตะเกี่ย ท่านเจ้าพระคุณนั้นมีชื่อว่าชัยค์สมะอ์มัยมูม และสมญาเรียกกันว่าท่าน วชาฮุละฮ์ยาร
อ้างอิงข้อมูลจาก http://ilwc.aru.ac.th/Contents/FolktaleThai/FolktaleThai109.htm