ผู้เขียน หัวข้อ: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)  (อ่าน 5457 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-azhary

  • ผู้มีอิทธิพล (~_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 6202
  • เพศ: ชาย
  • อัลเลาะฮ์เท่านั้นที่มีอยู่จริง
  • Respect: +272
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sunnahstudents.com

ท่านอิมาม อิบนุ  อะฏออิลและฮ์  กล่าวฮิกัมความว่า

تَمَكُّنُ حَلاََوَةِ الْهَوَى مِنَ الْقَلْبِ هُوَ الْدَاءُ الْعُضَالُ

" ความหวานของอารมณ์ใฝ่ต่ำที่อยู่เหนือจิตใจนั้น คือโรคที่ยากแก่การบำบัด "

ท่านอิบนุอิบาด อธิบายว่า " หัวใจคือที่อยู่ของอิมาน มะริฟัต และการยาเกน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ ยาบำบัดโรคต่างๆ จากอารมณ์ใฝ่ต่ำ ดังนั้น เมื่อโรคมั่นคงอยู่ในหัวใจ ก็คงไม่มีสถานที่ใด ๆเหลืออยู่สำหรับยาบำบัด ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากแก่การเยียวยารักษา " ดู หนังสือ อธิบาย อัลฮิกัม เล่ม 2 หน้า 36

สิ่งที่ทำให้มนุษย์เลือกปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน

ปัจจัยแรก สติปัญญาที่ใช้ในการรับรู้

ปัจจัยที่สอง อารมณ์ความรู้สึกที่ดีและไม่ดี

ปัจจัยแรกจะอ่อนแอกว่าปัจจัยที่สอง

ผลของสติปัญญานั้น จะถูกจำกัดและจะพิจารณาสิ่งที่เป็นสัจจะธรรมและอธรรมหรือพิจารณาในเชิงวิชาการว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดโดยที่ไม่มากไปกว่านั้นแล้ว สำหรับผลของอารมณ์ความรู้สึก มันจะสำแดงให้เห็นถึงความปรารถนาต้องการและยอมสยบให้กับสิ่งที่มากระตุ้นหรือบันดาลความรู้สึกภายในจิตใจ

สิ่งที่มาผลักดันความรู้สึกนั้น บางครั้งเป็นแรงบันดาลให้เกิดความรักความชอบ เขาเรียกว่าแรงผลักดัน หรือจะเป็นแรงบันดาลที่ให้เกิดความกลัว ซึ่งเขาเรียกว่าความรู้สึกยับยั้ง หรือจะเป็นแรงบันดาลให้เกิดความชื่นชมและให้เกียตริ ซึ่งเขาเรียกว่าความรู้สึกในการสรรเสริญ

ดังนั้น แรงบันดาลใจทั้งสามนี้ คือสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ และมีบทบาททุกๆ ในทุกๆ สภาวะกาลเมื่ออันหนึ่งอันใดจากทั้งสามนั้นได้เกิดการคัดค้านหรือเป็นปฏิปักษ์กับสติปัญญา เช่น ท่านลองพิจารณาถึงความสับสนวุ่นวายภายในตลาด มีผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยมากมายที่เดินไปมา ดังนั้น ปัจจัยหลักที่เป็นตัวผลักดันและทำให้พวกเขามุ่งทำการจับจ่ายใช้สอย ก็คือแรงบันดาลใจทั้งสามนี้ ซึ่งบางครั้งแรงบันดาลใจดังกล่าวอาจจะสอดคล้องกับสติปัญญา แต่บางครั้งมันก็ขัดแย้งกับสติปัญญา เพราะฉะนั้น การตอบรับหรือตอบสนองตามสติปัญญานั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์นอกจากด้วยการสนับสนุนจากแรงบันดาลใจทั้งสองที่ได้กล่าวมาแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนั้น มนุษย์ในทุกยุคทุกสมัยจึงต้องการไปยังการสั่งสอน อบรมบ่มนิสัยและสังคมต่างๆ จะเจริญเติบโตได้ก็ด้วยปัจจัยต่าง ๆที่เกิดขึ้นจากการอบรมบ่มนิสัย เนื่องจากเป้าหมายของการอบรมบ่มนิสัยก็คือการทำให้แรงบันดาลใจคล้อยตามสติปัญญานั่นเอง

ท่านอิบนุอะฏออิลและฮฺได้ให้ข้อคิดแก่เราในฮิกมะฮฺที่สั้น ๆ นี้ว่า โรคที่ยากแก่การบำบัดนั้นก็คือการที่แรงบันดาลใจทั้งสามนั้น คล้อยตามอารมณ์ใฝ่ต่ำและฝังรากอยู่ในหัวใจอันเป็นสถานที่ซ้อนความรู้สึกโดยหันเหออกจากกรอบและกฏของสติปัญญา เนื่องจากตัวสนับสนุนที่ผลักดันให้มนุษย์มีการตอบรับกับสติปัญญานั้น คือแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดความปราถนา ความกลัวและความรู้สึกปิติยินดี ฉะนั้น เมื่ออารมณ์ใฝ่ต่ำได้ครอบงำและปลูกฝังแรงบันดาลใจเหล่านี้ให้มีอยู่ในหัวใจ แน่นอนว่าสติปัญญาก็คงต้องอันตธานจากไปในความว่างเปล่า เสียงแห่งการเรียกร้องเชิญชวนที่ป่าวประกาศออกไปก็คงไม่มีใครได้ยินและรับฟัง

ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่มาสนับสนุนคำกล่าวของท่านอิบนุอะฏออิลและฮฺก็คือ การที่ท่านได้พิจารณาถึงสภาพส่วนใหญ่ของบรรดาผู้ทำการฝ่าฝืน ทำชั่วและออกจากแนวทางของอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)นั้น พวกเขาก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราได้เรียกร้องเชิญชวนนั้นถูกต้อง เป็นความจริงและพวกเขาไม่ปฏิเสธกับสิ่งที่ท่านได้อธิบายให้กับพวกเขา แต่พวกเขาได้ตกอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่ครอบงำโดยอารมณ์ใฝ่ต่ำ พวกเขาจึงเสมือนกับผู้ที่ได้ครอบครองรถคันหนึ่งแต่ขับไม่เป็น

ดังนั้น จะด้วยวิธีใดหรือ ? ที่มุสลิมจะสามารถป้องกันตัวเองออกจากโรคร้ายนี้ได้ ? ตอบ วิธีการดังกล่าวก็คือ หนึ่ง ต้องมีความรู้ และสอง ปฏิบัติจากความรู้นั้น

สำหรับประการที่ 1 คือ มีความรู้ หมายถึง ท่านต้องรู้ว่าอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ได้จัดเตรียมไว้ให้กับมนุษย์จากข้อเท็จจริงหลัก ๆสองประการด้วยกัน ก็คือ สติปัญญาและหัวใจ สำหรับสติปัญญานั้น หน้าของมันก็คือการรับรู้ข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ และหน้าที่ของหัวใจนั้นคือเดินตามคำชี้นำของสติปัญญา ดังนั้นหัวใจที่รักในความดีที่สติปัญญารับรองนั้น ย่อมเป็นความดี และการที่หัวใจรังเกียจความชั่วที่สติปัญญารับรองว่าชั่วนั้น ก็ย่อมเป็นความชั่ว ฉะนั้นหากไม่ใช้สติปัญญาแล้ว แน่นอนเหลือเกินว่าจิตใจและอารมณ์ใฝ่ต่ำก็จะผสมผสานในทุก ๆจังหวะการเต้นของหัวใจและความรู้สึกภายในของมนุษย์ ไม่ว่าเบื้องบนหรือเบื้องล่างก็จะพบกับความชั่วร้ายที่แผ่ความเสียหายต่อทุก ๆสิ่ง ตามที่อัลเลาะฮฺได้ทรงยืนยันเอาไว้ในอัลกุรอาน ความว่า
 
( ولو إتبع الحق أهواءهم لفسدت السموات والأرض )

ความว่า " และหากสัจจะธรรมต้องคล้อยตามอารมณ์ใคร่ของพวกเขาแล้วไซร้ แน่นอนที่สุด ฟากฟ้าและแผ่นดิน รวมทั้งสองที่อยู่ในเหล่านั้นก็จะพินาจสิ้น " อัล-มุอฺมินูน 71

มนุษย์ที่อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงบัญชาใช้เกี่ยวกับเรื่องของศาสนานั้น ถูกประกอบขึ้น จากสองประการด้วยกัน คือสติปัญญาที่เป็นบ่อเกิดแห่งการรับรู้ และหัวใจซึ่งเป็นสถานที่ซ่อนความรู้สึกและแรงบันดาลใจเอาไว้ ดังนั้น อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ได้ทรงบัญชาใช้ในการวางบทบัญญัติกับมนุษย์ ที่มีต่อสติปัญญาและหัวใจของเขาพร้อมๆ กัน โดยที่พระองค์ทรงบัญชาใช้กับสติปัญญาให้มีการรับรู้และไตร่ตรอง และทรงบัญชาหัวใจให้มีความชอบและทำตามสติปัญญา

มีโองการต่างๆ มากมายที่อัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ทรงใช้ให้มนุษย์หวนกลับไปยังสติปัญญาของเขาเพื่อทำการพิจารณาและรับรู้ว่า จักรวาลทั้งหลายนี้ชี้ถึงการมีผู้สร้าง ชี้ถึงความเอกะและความปราณีของพระองค์ โดยให้มีการปลูกฝังความศรัทธาให้เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ในหัวใจ หลังจากที่ความรู้สึกนั้นได้เจริญงอกงามในสติปัญญาแล้วอย่างแท้จริง

ท่านไม่ลองพิจารณาคำตรัสของพระองค์ที่ว่า

( والذين أمنوا أشد حبا لله )

ความว่า " และบรรดาผู้ศรัทธานั้น มีความรักยิ่งต่ออัลเลาะฮฺ "

พระองค์ทรงตรัสอีกว่า

( ولكن الله حبّب إليكم الإيمان وزينه في قلوبكم وكره إليكم الكفر والفسوق والعصيان )

ความว่า " แต่ทว่า อัลเลาะฮฺทรงดลบันดาลในพวกเจ้ามีความรักในศรัทธา และทรงประดับมันไว้ในหัวใจของพวกเจ้าและพระองค์ทรงดลบันดาลให้พวกเจ้าเกียจชังความเนรคุณ ความพาล และความทรยศ " อัลหุญะรอต 7

พระองค์ทรงตรัสอีกว่า

قل إن كان أباؤكم وأبناءكم وإخوانكم وأزواجكم وعشيرتكم وأموال ن إقترفتموها وتجارة تخشون كسادها ومساكن ترضونها أحب إليكم من الله ورسوله وجهاد فى سبيله فتربصوا حتى يأتي الله بأمره والله لايهدى القوم الفاسقين

ความว่า " จงประกาศเถิด หากบรรพบุรุษของพวกเจ้า ลูกหลานของพวกเจ้า พี่น้องของพวกเจ้า คู่ครองของพวกเจ้า วงศ์วานของพวกเจ้า ทรัพย์สินของพวกเจ้าที่ได้ขวนขวายไว้ การค้าขายที่พวกเจ้ากลัวจะล่มจม และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมัน ทั้งหมดนั้น เป็นสิ่งที่พวกเจ้ารักมันยิ่งกว่าอัลเลาะฮฺ และศาสนทูตของพระองค์และยิ่งกว่าการสู้ศึกในทางของพระองค์ ดังนั้นพวกเจ้าก็จงรอไปก่อนเถิด จนกว่าอัลเลาะฮฺจะส่งการงาน(การลงโทษ)ของพระองค์มา(ประสบแก่พวกเจ้า) และอัลเลาะฮฺย่อมไม่ทรงชี้นำแก่กลุ่มชนที่บิดพริ้วแน่นอน " อัตเตาบะฮฺ 24

ดังนั้น ความรู้จึงเป็นประการแรกที่จะป้องกันตัวเราจากโรคร้ายนี้

สำหรับประการที่สองก็คือ การนำมาปฏิบัติ วิธีก็คือ หลังจากที่สติปัญญามีอิหม่านต่ออัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)แล้ว ท่านต้องเชื่อมเนี๊ยะมัตความสุขต่าง ๆที่ท่านได้รับมานั้นให้ผูกพันธ์อยู่กับอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ผู้ทรงประทานความโปรดปรานสิ่งเหล่านั้นให้กับท่าน (หมายความว่า ท่านต้องรำลึกอยู่เสมอว่าความสุขที่ท่านได้รับนั้น อัลเลาะฮฺคือผู้ทรงประทานให้ ) ดังนี้แหละ คือความหมายของการที่บ่าวได้รำลึกถึงพระผู้อภิบาลของเขา และเป็นปัจจัยอันสูงส่งที่จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดความรู้สึกรักอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)ภายในจิตใจ สิ่งดังกล่าวนั้นจึงเป็นแนวทางป้องกันโรคร้ายที่ท่านอิบนุอะฏออิลและฮฺได้กล่าวเอาไว้

วัลลอฮุอะลัม
أُحِبُّ الصَّالِحِيْنَ وَلَسْتُ مِنْهُمْ     لَعَلَّ اللهَ يَرْزُقُنِيْ صَلاَحاً

นูรุ้ลอิสลาม

  • บุคคลทั่วไป
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิ.ย. 25, 2007, 11:36 AM »
0
ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่มาสนับสนุนคำกล่าวของท่านอิบนุอะฏออิลและฮฺก็คือ การที่ท่านได้พิจารณาถึงสภาพส่วนใหญ่ของบรรดาผู้ทำการฝ่าฝืน ทำชั่วและออกจากแนวทางของอัลเลาะฮฺ(ซ.บ.)นั้น พวกเขาก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราได้เรียกร้องเชิญชวนนั้นถูกต้อง เป็นความจริงและพวกเขาไม่ปฏิเสธกับสิ่งที่ท่านได้อธิบายให้กับพวกเขา แต่พวกเขาได้ตกอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่ครอบงำโดยอารมณ์ใฝ่ต่ำ พวกเขาจึงเสมือนกับผู้ที่ได้ครอบครองรถคันหนึ่งแต่ขับไม่เป็น

ข้อความตรงนี้ถือว่าเห็นภาพในสังคมมุสลิมปัจจุบันเลยครับ   ก็เพราะว่าบางทีมุสลิมในองค์กรหนึ่งแตกแยกกัน  แตกคอกัน  ทั้งที่แต่ละฝ่ายก็มีความรู้กันด้วยทั้งนั้น  รู้ผิดรู้ชอบ  มีความรู้กันก็เยอะเพราะร่ำเรียนกันมาหลายขุม  แต่ทว่าขาดตะเซาวุฟ  กิเลศเลยครอบงำ  เลยแตก   :-X

ออฟไลน์ papaah

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 66
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.ย. 26, 2007, 11:02 AM »
0
السلام عليكم ทุกท่านครับ  ผมเห็นด้วยกับการสรุปตอบของคุณ "นูรุ้ลอิสลาม" ครับ  เด๋วนี้สังคมมุสลิมไทย (โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ) กำลังเป็นอยู่ ครับ رمضان كريم  ทุกท่านครับ ::)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ก.ย. 13, 2009, 04:16 PM »
0
 salam

ยาซากัลลอฮุคอยรอนค่ะ

เวลาที่ต้องนั่งรอเปิดบวชหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อาหารพร้อม เหลือแค่เวลาไม่กี่นาที ทั้งที่อดทนมาได้ตั้งวัน
ไม่รู้ทำไมแค่ไม่กี่นาทีถึงทำให้รู้สึกหิวขึ้นมาได้
ทุกๆย่างก้าวของเข็มนาฬิกาที่มองมันช้าเหลือเกินในความรู้สึก
จนรู้สึกทุรนทุรายขึ้นมา ความอยากเข้าครอบงำ
โดยเฉพาะช่วงปลายของเดือนรอมฎอนด้วยแล้ว
ทั้งกำลังก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ หมดแรงเร็วกว่าช่วงแรกของเดือน
ทำให้ความรู้สึกหิวมามีอำนาจในสภาพที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ
เหลือแค่ใจว่าจะสู้ไหวรึเปล่าเท่านั้น แม้ชัยตอนจะถูกล่ามโซ่เอาไว้แล้ว
แต่ความเคยชินในจิตใจมันออกมาสู้รบกันอย่างเมามันเหลือเกิน

แต่พอได้อ่านอะไรแบบนี้ในช่วงเวลาแบบนี้แล้วทำให้จิตใจสงบลงได้ค่ะ 

ขอบคุณที่ทำให้ช่วงที่จำเป็นต้องติดแหง็กอยู่กับที่
การอ่านทำให้เรามีสติ เมื่อสติมาปัญญาจึงเกิด

และหวังว่าจะมีฮิกัมเป็นภาษาไทยออกมาให้อ่านกันในโลกไซเบอร์เรื่อยๆนะคะ
อย่างน้อย โลกไซเบอร์ก็มีประโยชน์ตรงที่
ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลก คนที่อ่านภาษาไทยเข้าใจ
ก็จะได้อ่านมัน แต่การจะได้เข้ามาอ่่านหรือไม่นั้น
เกิดจากการดลใจของอัลเลาะฮฺตาอาลา หากพระองค์ทรงประสงค์


ขออัลเลาะฮฺทรงตอบแทนในการต่อสู้เพื่อศาสนา(ญิฮาด)นะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ...
เพราะการต่อสู้กับจิตของตนนั้น มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน
เพราะเรากำลังต่อสู้อยู่กับชัยตอน มารร้ายตัวจริงในโลกดุนยา
ที่พยายามหาหนทางครอบงำเรา มีการวางแผนเอาไว้อย่างแยบยล
แม้กระทั่งโดนล่ามเอาไว้ แต่มันก็ยังทิ้งร่องรอยเอาไว้ในใจเราได้

...ทนไม่ได้ แต่ถ้าทนได้คือความอดทน...

ซึ่ง...ความจำเป็นเป็นมารดาแห่งการค้นพบ...

วัลลอฮุอะลัม

วัสลามุอะลัยกุมวาเราะมาตุลลอวาบาเราะกาตุ

^_____________________________________^

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ก.ย. 14, 2009, 12:47 PM »
0
ขอบคุณครับ
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ต.ค. 16, 2009, 10:19 AM »
0

ปัจจัยที่สอง อารมณ์ความรู้สึกที่ดีและไม่ดี


อยากให้อธิบายเกี่ยวกับปัจจัยที่ 2 เพิ่มเติม อะครับ
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ as-satuly

  • พลังแห่งการศรัทธา
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 997
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 09, 2009, 07:46 PM »
0

          โรคร้ายของหัวใจนั้น ก็ยังมีโรคที่ก่อให้เกิดอีหม่านอ่อนได้เช่นกัน อันซึ่งมีหลายโรคและปรากฏอาการที่หลากหลาย ดั่งตัวอย่างเช่น
          หัวใจแข็งกระด้าง คือ รู้สึกถึงความแข็งกระด้างของหัวใจ จนกระทั้งคนผู้นั้นรู้สึกว่า หัวใจของเขาได้เปลี่ยนเป็นก้อนหินที่แข็งกระด้าง จนไม่มีสิ่งใดที่สามารถทุลุผ่านมันเข้าไป หรือมีสิ่งอื่นๆออกมาจากมันได้เช่นกัน  อัลลอฮฺ (สุบหานะฮุ วะตะอาลา) ตรัสว่า

.....(( ثُمَّ قَسَتْ قُلُوبُكُمْ مِنْ بَعْدِ ذَلِكَ فَهِيَ كَالْحِجَارَةِ أَوْ أَشَدُّ قَسْوَةً.....74 ))

          ความว่า  "แล้วหลังจากนั้น หัวใจของพวกเจ้าก็แข็งกระด้าง มันประดุจหินหรือแข็งกระด้างยิ่งกว่า..." (สูเราะฮ์ อัลบะก่อเราะฮ์ : อายะฮ์ที่ ๗๔)

          ผู้ที่มีหัวใจที่แข็งกระด่างนั้น ไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการตักเตือนให้รำลึกถึงความตาย หรือการมองดูคนตาย หรือร่างที่ไร้วิญญาณ บางทีแม้แต่การแบกศพไปสุสาน(กุบูรฺ)ด้วยตัวเขาเอง และได้โปรยดินลงสู่หลุมฝังศพก็ตาม การเดินระหว่างหลุมฝังศพของเขา เสมือนเป็นเพียงการเดินระหว่างก้อนหินเท่านั้น (ดู : เชค มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล-มุนัจญิด ; แปลโดย อับดุลมะญีด อับดุรรออูฟ. ๒๕๕๑. อีหม่านอ่อน อาการ สาเหตุ และวิธีบำบัด. พิมพ์ครั้งที่ ๔. สำนักพิมพ์เตาบะฮฺ, หน้า ๒๐.)

          ด้วยสาเหตุที่ตัวของเขานั้นๆ มีจิตใจที่มีความแข็งกระด้าง กล่าวคือ จิตใจไม่รู้สึกรู้สาใดๆทั้งสิ้น จนเป็นเหตุให้การกระทำอะไรก็ตามของเขา ก็กลับกลายเป็นการกระทำที่แข็งกระด้างไปด้วยเช่นกัน เพราะกระทำไปแล้ว แต่ไม่มีความรู้สึกหรือจะคำนึงหรือจะตระหนักต่อสิ่งที่ได้กระทำไปนั้นเอง ไม่ว่า จะเป็นเรื่องความตายของเขาสักทีก็ตาม หากเขายังมีจิตใจที่แข็งกระด้างอยู่อีกล่ะก็ เขาก็ไม่สะทกสะท้านต่อความตายของเขา และภายหลังสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากที่ได้ตายไปแล้วสักทีก็ตาม นะอุซุบิลลาฮฺมินซะลิก  ดังนั้น นี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่งของอาการระดับต้นๆที่ทำให้อีหม่าน(การศรัทธา)ของเราเกิดความอ่อนแอขึ้นนั่นเอง วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอะลัยกุม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 09, 2009, 07:50 PM โดย as-satuly »

ออฟไลน์ as-satuly

  • พลังแห่งการศรัทธา
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 997
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +10
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พ.ย. 09, 2009, 09:06 PM »
0

บทความ "อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ(บทเรียนฮิกัม)" ในรูปแบบ Microsoft word สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี้


ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือโรคร้ายของหัวใจ?(บทเรียนฮิกัม)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ส.ค. 17, 2013, 01:59 PM »
0

พ่อเคยบอกว่า...คนดื้อดึงอย่างข้าน้อยมันต้องเรียนให้เยอะๆ
เผื่อจะได้มีสติปัญญาเอาไว้ดักทางอารมณ์...
ถ้าสติปัญญามันยังล่ามความดื้อดึงเอาไว้ไม่อยู่
ไม้เรียวนี่แหล่ะจะคอยจัดการ...

ซึ่งพอได้ไปเรียนจริงๆ จึงรู้ว่า มันมีดีกว่าการโดนพ่อตีเป็นไหนๆ
แล้วทำไมต้องดื้อที่จะไม่ไปเรียน...โดนพ่อตีนั้นมันทั้งเจ็บทั้งอายเลยนะ ^^

ซึ่งเมื่อได้ศึกษาสติปัญญามันบอกว่า...
ผู้ที่ดื้อดึงทั้งๆที่พระองค์ทรงส่งสัจธรรมมาให้ก็ไม่รับรู้เรื่องราว
ส่งบททดสอบอะไรมาให้ก็ไม่รู้สึกรู้สา...
เอาบทเรียนและบทลงโทษของผู้อื่นมาวางไว้ตรงหน้าก็ไม่นำพา...
บุคคลเช่นนั้นอัลลอฮฺจะจัดการอย่างไร...

แน่นอนว่า...มันน่ากลัวกว่าไม้เรียวของพ่อเป็นไหนๆ
^^

ตอนเด็กๆเราอาจจะกลัวไม่เรียวของพ่อกับแม่
แต่เมื่อโตขึ้น ไม้เรียวนั้นมันไม่ได้น่ากลัวแล้ว จะหักให้คามือยังได้เลย

แต่เราจะรู้ว่า สติปัญญาที่อัลลอฮฺให้มานั้นมันบอกเราอย่างชัดเจนเลยว่า
ถ้ายังดื้อดึงที่จะทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ต่อไปแล้วล่ะก็
เราได้เจอของจริงยิ่งกว่าไม้เรียวแน่ๆ...




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged